Connect with us

Hi, what are you looking for?

PR-News

เอชพี เผยผลวิจัยวิกฤตสภาพอากาศส่งผลต่อการตัดสินใจของผู้ปกครองในการเลือกซื้อสินค้า-บริการ อาชีพ และขนาดครอบครัว

เอชพีเผยผลวิจัยระดับโลกฉบับใหม่ที่แสดงให้เห็นถึงการตัดสินใจของพ่อแม่ผู้ปกครองจำนวนมากที่มีผลมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ตั้งแต่การตัดสินใจในชีวิตประจำวันตลอดจนการวางแผนครอบครัวระยะยาว

ไฮไลต์ข่าว

  • งานวิจัยล่าสุดจาก เอชพี และ Morning Consult เผยว่า พ่อแม่ผู้ปกครองส่วนใหญ่มีความกังวลเป็นอย่างมากเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยส่วนใหญ่ระบุว่า วิกฤตที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อมุมมองในการมีบุตรเพิ่ม
  • จากงานวิจัยพบว่า พ่อแม่ผู้ปกครองส่วนใหญ่จับตามองการจัดการปัญหาด้านภูมิอากาศจากบริษัทต่าง ๆ
  • ข้อมูลเชิงลึกล่าสุดที่ เอชพี เผยแพร่ในรายงานประจำปีด้านความยั่งยืนฉบับที่ 22 มีรายละเอียดความคืบหน้าของแผนงานเทียบกับเป้าหมายด้านความยั่งยืนของบริษัทฯ
รูปภาพ คุณวรานิษฐ์ อธิจรัสโรจน์ กรรมการผู้จัดการ เอชพี ประเทศไทย
คุณวรานิษฐ์ อธิจรัสโรจน์ กรรมการผู้จัดการ เอชพี ประเทศไทย

เอชพีเผยผลวิจัยระดับโลกฉบับใหม่ที่แสดงให้เห็นถึงการตัดสินใจของพ่อแม่ผู้ปกครองจำนวนมากที่มีผลมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ตั้งแต่การตัดสินใจในชีวิตประจำวันตลอดจนการวางแผนครอบครัวระยะยาว

Advertisement

จากผลการวิจัยพบว่ามากถึง 91% ของพ่อแม่ผู้ปกครองกังวลเกี่ยวกับวิกฤตสภาพอากาศ ซึ่งนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงรูปแบบการใช้ชีวิตและพฤติกรรมการจับจ่ายซื้อของ โดยมากกว่าครึ่ง (53%) ส่งผลต่อมุมมองของพวกเขาในการมีลูกเพิ่ม และยังพบว่าผู้ปกครองจำนวนมากชอบบริษัทที่จัดการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงด้านสภาพภูมิอากาศและคาดหวังให้ภาคธุรกิจเป็นผู้นำในประเด็นนี้ ผู้ปกครองเกือบสองในสาม (64%) เลือกผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากแหล่งที่ยั่งยืน และกว่า 60% กล่าวว่าแนวปฏิบัติของบริษัทที่ยั่งยืนมีส่วนสำคัญต่อพฤติกรรมการเลือกซื้อของพวกเขา

ความเต็มใจที่จะแสวงหาผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืน และการตัดสินใจแบบนี้เกิดขึ้น ถึงแม้ว่าผู้ทำแบบสอบถามส่วนใหญ่ (84%) ยอมรับว่าค่าครองชีพสูงขึ้น และมากกว่าครึ่ง (57%) เชื่อว่าการมีส่วนร่วมในแนวทางปฏิบัติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมนั้นต้องใช้เวลาเป็นอย่างมาก

ในขณะที่ผู้ปกครองมีแนวทางการจัดการในแบบของตัวเอง ผู้คนส่วนใหญ่เชื่อว่าผู้เล่นหลักในโลกธุรกิจควรมีส่วนร่วมในการจัดการด้วยเช่นกัน จากการสำรวจทั่วโลกพบว่าผู้ปกครองส่วนใหญ่ (51%) เชื่อว่าบริษัทต่าง ๆ มีความรับผิดชอบ “อย่างมาก” ในการรับผิดชอบต่อการจัดการด้านสภาพอากาศ เมื่อเทียบกับลูกค้าของบริษัทเหล่านั้น (36%)

การวิจัยในครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อ เอชพี เผยแพร่รายงานประจำปีด้านความยั่งยืน ฉบับที่ 22 โดยระบุรายละเอียดที่ครอบคลุมและชัดเจนเกี่ยวกับความคืบหน้าของบริษัทต่อการบรรลุเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม

  • ในปีพ.ศ. 2562 เอชพี มีส่วนในการลดการปล่อยคาร์บอนลงได้ถึง 18% ซึ่งทำให้บริษัทเข้าใกล้เป้าหมายในการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2583 ได้มากยิ่งขึ้น
  • ช่วยลดการใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวลงถึง 55% เมื่อเทียบกับปีพ.ศ. 2561
  • ต่อต้านการตัดไม้ทำลายป่าไปแล้วกว่า 41% ของกระดาษทั้งหมดที่ใช้ในผลิตภัณฑ์และบริการของ เอชพี จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 100%
  • เร่งสร้างความเท่าเทียมทางดิจิทัลให้กับผู้คนมากกว่า 21 ล้านคนจากเป้าหมายที่ 150 ล้านคนภายในปีพ.ศ. 2573

โดยในประเทศไทย เอชพี มุ่งมั่นที่จะส่งเสริมความหลากหลายทางเพศและความเท่าเทียมทางดิจิทัล ทั้งภายใน และภายนอกองค์กร  ซึ่งในปีนี้ อาสาสมัครของ เอชพี ประเทศไทย ได้เข้าร่วมโครงการ ‘make’ HappY Community ส่งเสริมให้พนักงานที่มีจิตอาสาไปร่วมทำกิจกรรมกับองค์กรสาธารณกุศล 7 องค์กร อาทิ สภากาชาดไทยและมูลนิธิเพื่อคนตาบอด เพื่อช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส  นอกจากนั้น เอชพียังได้ร่วมมือกับองค์กรสาธารณกุศลหลากหลายเพื่อมอบอุปกรณ์ไอทีสำหรับการเรียนรู้และให้ความรู้แก่นักเรียนภายในโครงการเพื่อส่งเสริมความเท่าเทียมทางดิจิทัล

ด้วยจำนวนพนักงานกว่า 50% ที่เป็นผู้หญิง เอชพี ได้ลงทุนในการพัฒนาความเป็นผู้นำและแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในความเท่าเทียมระหว่างเพศผ่านโครงการต่างๆ อาทิ โครงการ Women in Leadership Lab (WILL) และ โครงการ Women Impact Network (WIN) Thailand

“ที่ เอชพี เรามุ่งมั่นที่จะสร้างความแตกต่างในชุมชนของเรา เรามีความก้าวหน้าอย่างมากด้วยผลลัพธ์ที่จับต้องได้ในเส้นทางสู่ความยั่งยืน และเชื่อว่าการแก้ปัญหาด้านสภาพอากาศและปัญหาในชุมชนนั้นควรเป็นความพยายามร่วมกันจากทุกภาคส่วน ทางเราจะยังคงร่วมมือกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในด้านต่าง ๆ ในการริเริ่มสร้างความยั่งยืนซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งผู้คน ธุรกิจ และสิ่งแวดล้อมในประเทศไทย” วรานิษฐ์ อธิจรัสโรจน์ กรรมการผู้จัดการ เอชพี ประเทศไทย กล่าว

เอชพี มุ่งมั่นที่จะเป็นบริษัทเทคโนโลยีที่ยั่งยืนและสร้างความเท่าเทียมมากที่สุด โดยในปีพ.ศ. 2564 เอชพี ตั้งเป้าหมายสร้างผลลัพธ์ที่ยั่งยืนในเชิงรุก 3 ด้านโดยบริษัทเชื่อว่าสามารถสร้างความแตกต่างได้มากที่สุด ประกอบไปด้วย การจัดการด้านสภาพอากาศ สิทธิมนุษยชน และความเท่าเทียมทางดิจิทัล ในรายงานประจำปีพ.ศ. 2565 ระบุรายละเอียดความคืบหน้าของประเด็นสำคัญทั้งสามด้าน ได้แก่ ห่วงโซ่ค่าคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ การตอบแทนป่าไม้มากกว่าที่ได้รับ การสร้างเศรษฐกิจระบบหมุนเวียนมากขึ้น สร้างวัฒนธรรมแห่งความเท่าเทียม และเสริมสร้างความเสมอภาคทางดิจิทัลทั่วโลกเพื่อช่วยให้ชุมชนที่ถูกกีดกันเติบโตขึ้นในเศรษฐกิจดิจิทัล

Click to comment

บทความน่าสนใจ

Buyer's Guide

ประสบการณ์ทำงานอย่างหนึ่งซึ่งโน๊ตบุ๊คจอสัมผัสทำได้ดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป อย่างแรกคือผู้ใช้เอานิ้วแตะเลือกโปรแกรมและไฟล์ต่างๆ บนหน้าจอระบบปฏิบัติการได้ทันทีโดยไม่ต้องใช้เมาส์หรือทัชแพดแต่เป็นมือของเราแตะเลือกสิ่งที่ต้องการบนหน้าจอคอมไปได้เลย เวลารีบหรือไม่อยากเอาเมาส์ออกมาใช้งานให้เสียเวลา และพอเป็นหน้าจอสัมผัสแล้วก็มักมีปากกาสไตลัสติดมาให้ด้วยเผื่อจังหวะไหนจำเป็นต้องเขียนจดอะไรบางอย่างก็ทำได้ทันที ช่วยให้ชีวิตการทำงานสะดวกขึ้นหลายเท่า อย่างไรก็ตามโน๊ตบุ๊คจอสัมผัสเป็นโน๊ตบุ๊คกลุ่มคาบเกี่ยวกับโน๊ตบุ๊คพับจอได้ซึ่งได้แนะนำไปก่อนหน้านี้แล้ว ดังนั้นบางรุ่นก็จะพับหน้าจอกลับเป็นแท็บเล็ตได้แต่ในครั้งนี้ก็จะมีรุ่นแบบฝาพับธรรมดาแบบ Clamshell เข้ามาเผื่อเป็นทางเลือกให้คนไม่ต้องการพับจอแต่อยากได้จอสัมผัสจะได้มีตัวเลือกมากขึ้น Advertisement เรื่องน่ารู้ก่อนซื้อโน๊ตบุ๊คจอสัมผัส 6 โน๊ตบุ๊คจอสัมผัสน่าใช้ แตะใช้งานง่ายไม่ง้อเมาส์ ทำงานสะดวกสุดๆ 1. Microsoft Surface Laptop 7 (38,490 บาท) CPU...

Buyer's Guide

ข้อดีของการเตรียมเงินไว้ซื้อโน๊ตบุ๊คบางเบางบ 50000 บาท ระบบปฏิบัติการ Windows ไว้ใช้ทำงานแทนที่จะเป็น MacBook นั้น นอกจากเรื่องวัสดุประกอบตัวเครื่องที่ดีขึ้นคนละระดับกันแล้ว ผู้ผลิตแต่ละแบรนด์ก็มักจะติดฟีเจอร์แปลกใหม่มาเป็นจุดขายให้โน๊ตบุ๊คบางเบางบ 50000 บาท น่าใช้ยิ่งขึ้นทั้งให้แป้นทัชแพดพิเศษกดแล้วเปลี่ยนเป็น Numpad ได้, ปรับแต่งชิ้นส่วนภายในให้น้ำหนักเบาลงเป็นพิเศษจนแทบไม่ต่างจากแท็บเล็ต, อัปเกรดลำโพงให้เสียงดีขึ้นและได้รับการปรับจูนเพิ่มเติมให้ให้เนื้อเสียงดีและดังกว่าเดิม ฯลฯ ทำให้โน๊ตบุ๊คบางเบาจากแต่ละแบรนด์ก็มีจุดเด่นในแบบฉบับของตัวเองจนไม่ควรมองข้ามเลย คาดหวังอะไรจากโน๊ตบุ๊คบางเบางบ 50000 บาท ได้บ้าง? 8...

รีวิว hp

ในบอดี้เรียบหรูดูดีของ HP OMEN Max 16 สอดไส้ฟีเจอร์และความแรงมาครบเครื่อง จะทำงานหรือเล่นเกมก็รุ่ง! จุดยืนของเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คระดับเรือธงจากผู้ผลิตแต่ละแบรนด์ รวมถึง HP OMEN Max 16 ราคา 125,000 บาทนี้ มีเพื่อโชว์เทคโนโลยีการผลิต, ออกแบบและแนวคิดว่าแต่ละแบรนด์ตีความคำว่าเกมมิ่งออกมาเป็นอย่างไร? ซึ่ง HP ตอบสิ่งนี้ผ่านดีไซน์อันเรียบง่ายและเน้นให้ตัวเครื่องแข็งแรง ต่างจาก HP OMEN...

Buyer's Guide

งบประมาณถัดจากโน๊ตบุ๊คเล่นเกม 50000 บาท ในใจใครหลายคนย่อมคิดถึงโน๊ตบุ๊คเล่นเกม 70000 บาท ว่าสเปกของมันจะต้องแรงทรงพลัง ได้ซีพียูกับการ์ดจอแยกรุ่นสูงกว่าเดิมจะได้เล่นเกมโปรดปรับกราฟิคสูงสุดได้ แต่ในความเป็นจริงทางผู้ผลิตกลับวางตำแหน่งทางการตลาดให้มันเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คระดับพรีเมี่ยมแทน ไม่ว่าจะใช้วัสดุประกอบตัวเครื่องแบบใหม่ให้ดูสวยงามขึ้น, ใส่เอฟเฟคแสงสีให้ดูสวยงามยิ่งขึ้นแล้วอัปเกรดซีพียูให้เป็นรุ่นสูงสุดอย่าง Intel Core i9, Core Ultra 9, AMD Ryzen 7 หรือ Ryzen 9 แทน...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก