Connect with us

Hi, what are you looking for?

CONTENT

วิธีเลือกอะแดปเตอร์โน้ตบุ๊กปี 2023 และ GaN กับ PD คืออะไร

โน้ตบุ๊กหลายรุ่นในปัจจุบัน มักมาพร้อมพอร์ต USB-C ที่สามารถชาร์จไฟให้กับแบตเตอรี่ของเครื่องได้ ซึ่งนอกจากจะเพิ่มความสะดวกในการใช้งานแล้ว ยังเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้ใช้ในการเลือกซื้ออะแดปเตอร์โน้ตบุ๊กมาใช้งานด้วยตนเองด้วยเช่นกัน ซึ่งในตอนนี้ เทคโนโลยีด้านฝั่งอะแดปเตอร์เองก็มีการพัฒนาขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในแง่ของความเร็ว ความยืดหยุ่นในการชาร์จ ไปจนถึงการทำให้ขนาดเล็กลง ถ่ายเทความร้อนได้ดีขึ้น เป็นต้น

เลือกอะแดปเตอร์โน้ตบุ๊ก 2023

Advertisement

 

ในบทความนี้เราจะมาดูกันครับว่าถ้าจะซื้ออะแดปเตอร์โน้ตบุ๊กเอง มาใช้กับเครื่องที่รองรับการชาร์จผ่านพอร์ต USB-C ได้ ควรจะพิจารณาในเรื่องใดบ้าง รวมถึงเทคโนโลยี GaN และ PD หรือ USB-PD ที่ผู้ผลิตมักเขียนไว้ในหน้าสเปคและการโฆษณานี่มันคืออะไร ควรต้องมีหรือเปล่า

GaN คืออะไร?

GaN ย่อมาจาก Gallium Nitride (แกลเลียม ไนไตรด์) เป็นชื่อของสารกึ่งตัวนำ ซึ่งกำลังได้รับความนิยมสูงขึ้นเรื่อย ๆ ในการนำมาใช้เป็นส่วนประกอบในการผลิตชิป IC โดยมีข้อดีที่เหนือกว่าวัสดุเดิมที่ผลิตโดยใช้ซิลิคอนเป็นส่วนประกอบหลักในหลาย ๆ ด้าน อาทิ

  • มีประสิทธิภาพ และอัตราการแปลงพลังงานไฟฟ้าที่ดีกว่า เนื่องจากตัววัสดุมีความต้านทานต่อแรงดันไฟฟ้าที่ต่ำกว่าซิลิคอน โดยจากในการทดสอบเชิงวิชาการ พบว่าอะแดปเตอร์ GaN สามารถแปลงไฟจาก 48V เหลือ 12V ได้โดยมีประสิทธิภาพขณะพีคสูงสุดถึง 96.3% และขณะฟูลโหลดสูงถึง 93.8%
  • มีความร้อนในขณะทำงานที่ต่ำกว่า
  • จากทั้งสองข้อข้างต้น ทำให้สามารถออกแบบผลิตภัณฑ์ที่มีขนาดเล็กลง ส่วนหนึ่งคือไม่จำเป็นต้องมีชุดระบายความร้อนขนาดใหญ่ ต้นทุนโดยรวมถูกลงด้วย

gallium nitride

ด้วยคุณสมบัติที่เด่น ๆ ในด้านของการแปลงพลังงานไฟฟ้า ประสิทธิภาพที่สูง การสูญเสียพลังงาน และการปล่อยความร้อนที่ต่ำ จึงทำให้ GaN ถูกนำไปประยุกต์ใช้กับหลายอุปกรณ์ในกลุ่มต่าง ๆ ได้แก่

  • งาน Data center – ใช้ใน UPS และ power supply ที่ติดตั้งกับตู้แร็ค
  • ระบบอิเล็กทรอนิกส์ในยานพาหนะ – ระบบชาร์จไฟแบบออนบอร์ด, ตัวแปลงไฟ DC/DC, ระบบ LIDAR รวมถึงระบบชาร์จไร้สายด้วย
  • อุปกรณ์สำหรับผู้บริโภคทั่วไป – อะแดปเตอร์แปลงและชาร์จจากไฟ AC, power supply รวมถึงแอมป์คลาส D สำหรับระบบเครื่องเสียงที่ต้องใช้ไฟปริมาณมาก และยังช่วยลด jitter ในระบบเครื่องเสียงได้ด้วย
  • งานที่เกี่ยวกับพลังงาน – ระบบจัดเก็บพลังงาน และระบบแปลงไฟจากพลังงานแสงอาทิตย์
  • งานภาคอุตสาหกรรม – ตัวขับเคลื่อนมอเตอร์, อินเวอร์เตอร์, ปั๊ม, หุ่นยนต์และโดรน

Screenshot 2566 06 28 at 10.55.21 AM

สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ใกล้ตัวที่สุดที่นำ GaN มาใช้งานก็คือพวกอะแดปเตอร์โน้ตบุ๊ก อะแดปเตอร์ชาร์จมือถือที่เริ่มมีราคาจับต้องได้ง่ายขึ้นในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา โดยในยุคแรกเริ่มก็จะรองรับการจ่ายไฟหลักสิบวัตต์เท่านั้น ซึ่งเพียงพอสำหรับการชาร์จสมาร์ตโฟน แท็บเล็ต และแก็ดเจ็ตต่าง ๆ ได้ดี แต่มาในช่วงหลังนี้ เราได้พบกับอะแดปเตอร์ GaN ที่สามารถจ่ายไฟได้หลักร้อยวัตต์ ทำให้สามารถใช้เป็นอะแดปเตอร์โน้ตบุ๊กได้สบาย แถมยังสามารถใช้กับเกมมิ่งโน้ตบุ๊กที่กินไฟมากบางรุ่นได้เลยด้วยซ้ำ จึงทำให้ GaN เป็นเทคโนโลยีที่จะมองข้ามไม่ได้เลย สำหรับการเลือกซื้ออะแดปเตอร์ชาร์จไฟในปัจจุบัน

โดยในช่วงที่ผ่านมาอะแดปเตอร์ชาร์จไฟที่ใช้ GaN ก็ได้รับการพัฒนาขึ้นมาอยู่เรื่อย ๆ จนล่าสุดมาอยู่ที่เวอร์ชัน GaN5 Pro ที่หลัก ๆ แล้วจะเป็นการปรับปรุงบอร์ดชาร์จ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการชาร์จให้สูงขึ้น มีความร้อนจากการสูญเสียในการแปลงพลังงานน้อยลง และใช้พื้นที่ในการจัดวางอุปกรณ์ที่น้อยกว่าเดิม

USB PD Cover

USB-PD หรือ PD คืออะไร?

แต่ก่อน เวลาเราจะเลือกซื้อมือถือหรืออะแดปเตอร์ชาร์จไฟ ชื่อเทคโนโลยีการชาร์จเร็วมักจะเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญสำหรับการพิจารณา เพราะมือถือแต่ละแบรนด์ ชิปแต่ละผู้ผลิต มักจะรองรับมาตรฐานการชาร์จเร็วของตนเองเป็นหลัก เช่น มือถือที่ใช้ชิปจาก Qualcomm ก็มักจะรองรับการชาร์จเร็วมาตรฐาน QuickCharge ของ Qualcomm เองเป็นหลัก ส่วนมือถือชิป MediaTek ก็จะมี Pump Express

สำหรับฝั่งผู้ผลิตมือถือเอง บางแบรนด์ก็จะมีเทคโนโลยีของตนเอง เช่น VOOC ของ OPPO และเทคโนโลยี FCP ของ Huawei เป็นต้น ทำให้เวลาจะเลือกซื้ออะแดปเตอร์ชาร์จเองจะค่อนข้างยากนิดนึง เพราะนอกจากจะต้องพิจารณาเรื่องเทคโนโลยีที่รองรับดี ๆ แล้ว บางทียังต้องระวังอะแดปเตอร์เลียนแบบอีก เลยทำให้เกิดการซื้อผิด ซื้อมาแล้วชาร์จเร็วไม่ได้ ซื้อมาแล้วไม่ขึ้น Super Fast เป็นต้น

Screenshot 2566 06 28 at 11.35.28 AM

จึงทำให้ทาง USB-IF ที่เป็นองค์กรจัดการมาตรฐานทางเทคนิคเกี่ยวกับพอร์ต USB ได้พัฒนามาตรฐานการจ่ายไฟ การชาร์จเร็วผ่านพอร์ต USB-C ขึ้นมา เพื่อใช้เป็นมาตรฐานกลางให้ผู้ผลิตสามารถนำไปใช้ได้ โดยใช้ชื่อว่า USB Power Delivery หรือเรียกย่อ ๆ ว่า USB PD หรือถ้าย่อลงไปอีกก็เหลือแค่ PD และในปัจจุบัน อุปกรณ์ USB-C ที่รองรับการชาร์จเร็ว และอุปกรณ์เสริม เช่น สายชาร์จ อะแดปเตอร์ พาวเวอร์แบงค์จำนวนมากในท้องตลาด ก็รองรับ USB PD กันแทบทั้งหมดแล้ว ทำให้ผู้ใช้งานทั่วไปสามารถเลือกซื้ออุปกรณ์ได้ง่ายขึ้นกว่าที่เคย และทางผู้ผลิตก็ประหยัดต้นทุนลงด้วยเช่นกัน

วิธีการทำงานของ USB PD

โดยหลักเลย USB PD คือโปรโตคอล ซึ่งเปรียบเสมือนภาษากลางในการสื่อสารกันระหว่างสองอุปกรณ์ ที่จะเปิดให้คุยกันเองว่าแต่ละฝั่งมีความสามารถในการจ่ายและรับไฟได้อย่างไรบ้าง ทั้งส่วนของกระแส (I หน่วยเป็นแอมป์) แรงดัน (V หน่วยเป็นโวลต์) และกำลังไฟฟ้า (P หน่วยเป็นวัตต์) เพื่อหาจุดลงตัวที่ทั้งสองฝั่งมีร่วมกัน และจัดการเรื่องการจ่ายไฟให้เหมาะสมที่สุดในแต่ละสถานการณ์

ตัวอย่างเช่น ถ้าอุปกรณ์ A รองรับการชาร์จเร็วได้สูงสุด 15V 3A และคุยกับอะแดปเตอร์ที่รองรับ 15V 3A เท่ากัน แรกเริ่มสุดก่อนที่จะคุยกันจบ ตัวอะแดปเตอร์จะเลือกจ่ายไฟในระดับที่ปลอดภัยก่อน นั่นคือที่ 5V 0.5A หรือ 5V 0.9A พอคุยกันเสร็จ ก็จะจ่ายไฟเข้าไปตามระดับที่กำหนด แต่พอเมื่อชาร์จแบตได้ซัก 80% แล้ว ตัวอุปกรณ์ A อาจจะมีฟังก์ชันปรับลดอัตราการชาร์จไฟลง เพื่อถนอมแบต ก็จะคุยกับอะแดปเตอร์อีกที ว่ารอบนี้ขอแค่ 5V 1A พอ อะแดปเตอร์ก็จะปรับลดไฟลงตามที่อุปกรณ์สั่งมา

โดยเมื่อปี 2018 ทาง USB IF ได้ประกาศมาตรฐาน USB PD revision 3.0 ออกมา ซึ่งมีการเพิ่มฟีเจอร์ Programmable Power Supply (PPS) เข้ามาในช่วงการจ่ายไฟระดับมาตรฐานด้วย เพื่อช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับการจ่ายไฟ ทำให้ระบบสามารถปรับแต่งการจ่ายกำลังไฟได้ละเอียดถึงระดับ 0.02V ในขณะที่กำลังชาร์จไฟอยู่

Screenshot 2566 06 28 at 2.27.10 PM

เมื่อช่วงปี 2021 ที่ผ่านมา ทาง USB-IF ได้ประกาศอัปเดตมาตรฐานล่าสุดของ USB PD เป็น Revision 3.1 พร้อมกับมาตรฐาน USB-C Release 2.1 ซึ่งจุดที่น่าสนใจก็เช่น

  • เพิ่มโหมด Extended Power Range (EPR) รองรับกำลังไฟสูงสุดถึง 240W รวมถึงรองรับแรงดันไฟฟ้าที่ระดับ 28V (140W), 36V (180W) และ 48V (240W) ที่กระแสไฟ 5A
  • เพิ่มโหมด Adjustable voltage supply (AVS) เข้ามาใน EPR ด้วย ให้อุปกรณ์สามารถขอเพิ่มแรงดันไฟในระดับ 0.1V ได้ คล้ายกับ PPS แต่จะทำงานในช่วง EPR ที่การจ่ายไฟระดับ 15V, 28V, 36V และ 48V เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจ่ายไฟให้สูง และควบคุมอุณหภูมิให้ได้เหมาะสมที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

เพิ่มเติมอีกนิด สำหรับการใช้งาน USB PD มาตรฐานล่าสุดที่จ่ายไฟได้ 240W นี้ นอกจากอุปกรณ์ทั้งสองฝั่งที่ต้องรองรับแล้ว สายก็จะต้องเป็นแบบที่ผ่านการรับรองว่ารองรับ EPR ด้วยเช่นกัน โดยอาจจะมีระบุว่า EPR Mode Capable หรือระบุไว้เลยว่ารองรับ USB Power Delivery Specifications 3.1 เนื่องจากจะต้องมีการออกแบบสายที่พิเศษยิ่งขึ้น เพื่อป้องกันการช็อตระหว่างขั้นตอนการพูดคุยของสองอุปกรณ์ และการช็อตที่อาจเกิดขึ้นตอนถอดสายออกจากอุปกรณ์ด้วย

Screenshot 2566 06 28 at 1.59.43 PM

สำหรับอะแดปเตอร์ชาร์จ USB PD ที่มีขายทั่วไปในปัจจุบัน ก็จะมีให้เลือกอย่างหลากหลาย ตามระดับกำลังไฟสูงสุดที่รองรับ เช่น 20W 33W 65W 100W 120W เป็นต้น รวมถึงตามพอร์ตชาร์จที่ให้มาด้วย ซึ่งทุกรุ่นจะต้องมี USB-C มาอย่างน้อย 1 ช่อง และก็จะเป็นช่องที่รองรับการจ่ายไฟได้สูงสุดด้วยเช่นกัน สนนราคาเริ่มต้นก็ไม่แพงมากด้วย ทำให้ USB PD กลายเป็นมาตรฐานที่ตอบโจทย์การใช้งานมือถือ โน้ตบุ๊กในยุคปัจจุบันมาก ๆ เพราะทำให้สามารถลงทุนซื้ออะแดปเตอร์ชิ้นเดียว เพื่อนำมาใช้ชาร์จได้กับแทบทุกอุปกรณ์ที่มีเลย เหมาะสำหรับคนที่ต้องเดินทางบ่อย ๆ แทนที่จะต้องพกหัวชาร์จมือถือ อะแดปเตอร์โน้ตบุ๊ก สายชาร์จแยกกันให้วุ่นวาย ก็เปลี่ยนมาซื้ออะแดปเตอร์ USB PD ที่จ่ายไฟได้เพียงพอเพียงชิ้นเดียวจบเลย

 

USB PD + GaN = อะแดปเตอร์ที่ลงตัว

ในเมื่อ USB PD เป็นมาตรฐานกลางที่ควบคุมเรื่องการจ่ายไฟได้อย่างยืดหยุ่น และจ่ายไฟได้กำลังที่สูงมาก และ GaN ก็เป็นเทคโนโลยีเชิงวัสดุที่ให้ประสิทธิภาพในการแปลงไฟ การถ่ายเทความร้อนที่ดี และใช้พื้นที่ในการวางอุปกรณ์น้อยกว่า ทำให้เมื่อจับทั้งสองมารวมกัน เราจึงได้อะแดปเตอร์ชาร์จไฟที่มีขนาดเล็ก แต่จ่ายไฟได้กำลังสูง และมีความร้อนระหว่างการทำงานที่น้อยด้วย ซึ่งลงตัวมากกับไลฟ์สไตล์ผู้ใช้งานยุคใหม่ ที่มักมีอุปกรณ์มากกว่าหนึ่งชิ้น และอาจต้องพกอะแดปเตอร์ไปไหนมาไหน รวมถึงคนที่ทำงานแบบไฮบริดและ WFA

belkin wch013dqwh usbc pd gan wall charger 65w product page v01 r01 1680x800 carousel1

อย่างในภาพด้านบน เป็นอะแดปเตอร์โน้ตบุ๊ก/มือถือที่จ่ายไฟได้สูงสุด 65W รองรับ USB PD 3.0 และ GaN ในตัว จะสังเกตได้ว่ามันมีขนาดเล็กมาก เมื่อเทียบกับอะแดปเตอร์โน้ตบุ๊กทั่วไปที่เราคุ้นเคย จึงทำให้อะแดปเตอร์แนวนี้กำลังเป็นที่นิยมสำหรับคนที่ใช้โน้ตบุ๊กรุ่นไม่เก่ามากนัก ที่ตัวเครื่องรองรับการชาร์จผ่านพอร์ต USB-C

การเลือกอะแดปเตอร์โน้ตบุ๊กแบบ USB-C ที่มี USB PD และ GaN

สำหรับการเลือกซื้ออะแดปเตอร์กลุ่มนี้ในปี 2023 มีจุดที่ต้องพิจารณาหลัก ๆ อยู่สองสามข้อ ดังนี้

1) มาตรฐานที่รองรับ และกำลังไฟ

แน่นอนว่าจะต้องเลือกอะแดปเตอร์ USB-C ที่ระบุว่ารองรับ USB PD ไว้ก่อนเป็นอันดับแรก ถัดมาก็ดูเรื่องของกำลังไฟว่าสามารถจ่ายได้สูงสุดเท่าไหร่ ส่วนเทคโนโลยี GaN อันนี้จะมีปัจจัยเรื่องราคาเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เพราะถ้าเทียบอะแดปเตอร์ที่จ่ายไฟได้สูงสุดเท่ากัน ตัวที่มี GaN ด้วย มักจะมีราคาสูงกว่า หรือจะมีกรณีที่ราคาใกล้เคียงกัน แต่ตัวที่มี GaN ก็อาจจะให้พอร์ตชาร์จมาน้อยกว่า เป็นต้น

ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ใช้งานด้วย ว่าต้องการอะแดปเตอร์น้ำหนักเบาขนาดไหน ต้องพกพาบ่อยหรือเปล่า ถ้าคุณอยู่ในกลุ่มนี้ ก็แนะนำว่าลงทุนซื้อรุ่นที่มี GaN ด้วยเลยจะดีกว่า เพราะน้ำหนัก และขนาดมันต่างกันพอสมควรทีเดียว เมื่อเทียบในกลุ่มอะแดปเตอร์ที่จ่ายไฟได้เท่า ๆ กัน

สำหรับการเลือกอะแดปเตอร์โน้ตบุ๊ก ก็ต้องดูก่อนว่าอะแดปเตอร์เดิมที่แถมมากับเครื่อง สามารถจ่ายไฟได้สูงสุดเท่าไหร่ (ดูจาก W ของหัวข้อ Output เป็นหลัก ส่วน V กับ A ใช้ดูเสริมก็ได้) จากนั้นก็เลือกซื้อตามเลยครับ โดยจะซื้อให้ W เท่ากัน หรือมากกว่าก็ได้ยิ่งดี

Strix Scar G18 DSC01050

ตัวอย่างในภาพข้างบน ตรงหัวข้อ OUTPUT ของอะแดปเตอร์โน้ตบุ๊กเครื่องนี้ระบุไว้ว่าสามารถจ่ายไฟได้สูงสุด 20V 16.5A คิดเป็น 330W ดังนั้นถ้าจะหาอะแดปเตอร์ USB PD+GaN มาใช้ ก็ควรจะเลือกรุ่นที่จ่ายไฟได้สูงสุดตั้งแต่ 330W ขึ้นไป (ซึ่งตอนนี้ยังไม่มี แต่ขอยกภาพนี้มาเป็นตัวอย่าง เพราะเห็นข้อมูลการจ่ายไฟของอะแดปเตอร์ได้แบบชัดเจนที่สุด)

แต่ก็จะมีอะแดปเตอร์บางส่วนที่ระบุไว้ไม่ครบถ้วนเท่าไหร่ บอกแค่ค่า V กับ A ในกรณีนี้สามารถนำสองค่านี้มาคูณกันได้เลย ซึ่งจะได้ออกมาเป็นค่า W ทันทีครับ ตัวอย่างก็เช่น 20V x 16.5A = 330W พอดีเช่นกัน ตามสูตรการหาค่ากำลังไฟฟ้า P = VI (กำลังไฟฟ้า = แรงดันไฟฟ้า x กระแสไฟฟ้า)

Review Apple MacBook Pro 14 M1 Pro SpecPhone 05

หรือถ้าตัวอะแดปเตอร์โน้ตบุ๊กไม่ได้บอกแบบละเอียดมากนัก เชื่อว่าอย่างน้อยก็ต้องมีบอกกำลังไฟไว้ว่าจ่ายได้สูงสุดกี่วัตต์ เช่นในภาพนี้ก็บอกไว้ว่า 96W แบบนี้ก็ง่ายเลย สามารถหาซื้ออะแดปเตอร์ 100W มาใช้ได้ทันที ราคาเริ่มต้นก็จะอยู่ที่ประมาณ 1,000 บาทนิด ๆ ส่วนถ้าเป็น 65W แบบ GaN ก็จะอยู่ที่ครึ่งพันเป็นต้นไป

DSC02897

แต่ที่สำคัญสุดเลยคือต้องดูว่าโน้ตบุ๊กที่ใช้งาน สามารถชาร์จแบตผ่านพอร์ต USB-C ของเครื่องได้หรือไม่ ซึ่งวิธีการดูแบบง่ายที่สุดก็เช่น

  • ถ้าอะแดปเตอร์ที่แถมมากับเครื่องเป็นแบบชาร์จกับพอร์ต USB-C อยู่แล้ว แสดงว่าใช้ได้แน่นอน โดยมากแล้วมักจะเป็นในกลุ่มโน้ตบุ๊กเน้นดีไซน์บางเบา กินไฟระดับกลาง ๆ
  • ถ้ามีสัญลักษณ์รูปแท่งแบตเตอรี่อยู่ใกล้ ๆ พอร์ต USB-C แสดงว่าพอร์ตนั้นรองรับ USB PD
  • ถ้ามีสัญลักษณ์รูปสายฟ้าอยู่ใกล้ ๆ พอร์ต USB-C แสดงว่าพอร์ตนั้นรองรับ Thunderbolt และ USB PD ด้วย
  • เช็คจากคู่มือ หรือบนหน้าเว็บไซต์ของผู้ผลิต โดยถ้าจะให้ดี คือควรหาให้ตรงตามรหัสรุ่นย่อยแบบเป๊ะ ๆ จะดีที่สุด
  • สุดท้าย คือทดลองเอาอะแดปเตอร์ชาร์จและสาย USB-C มาเสียบกับพอร์ตที่เครื่องเลย ถ้าไฟเข้าก็คือรองรับ แต่ไม่ค่อยแนะนำวิธีนี้เท่าไหร่ครับ และตามปกติมันจะต้องมีข้อมูลระบุซักข้อใดข้อหนึ่ง จากในสามข้อแรกอยู่แล้ว

 

2) กำลังไฟที่จ่ายได้ต่อพอร์ต

ข้อนี้จะเป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาเมื่อเลือกซื้ออะแดปเตอร์แบบที่มีพอร์ตชาร์จในตัวหลายช่อง เพราะโดยส่วนใหญ่แล้ว เลขกำลังไฟสูงสุดที่ระบุ จะเป็นกำลังไฟสูงสุดของอะแดปเตอร์ตัวนั้น ถ้ามี 2 พอร์ตและใช้งานพร้อมกัน ก็จะแชร์กำลังไฟไป

Screenshot 2566 06 28 at 3.03.34 PM

ตัวอย่างเช่น อะแดปเตอร์ 65W ด้านบนมี 2 พอร์ต ถ้าเสียบสายชาร์จแค่ช่องเดียว ก็จะสามารถจ่ายไฟผ่านช่องนั้นได้ 65W เต็ม ๆ แต่ถ้าเสียบพร้อมกันสองช่องเลย ระบบก็จะแบ่งไฟไปที่ช่องบน 45W ช่องล่าง 20W ซึ่งก็รวมกันเป็น 65W ตามเดิม ตามความสามารถสูงสุดของอะแดปเตอร์ชิ้นนั้น ๆ

ทำให้เวลาจะเลือกซื้อ โดยเฉพาะการเลือกอะแดปเตอร์โน้ตบุ๊กแบบที่มีหลายพอร์ตในตัว เราจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมด้วยว่าแต่ละช่องจะมีการแชร์กำลังไฟไปเท่าไหร่ ถ้าต้องการชาร์จโน้ตบุ๊ก เราสามารถเสียบชาร์จอุปกรณ์อื่นไปพร้อมกันได้หรือเปล่าและเสียบได้กี่ช่อง ซึ่งถ้าเราจำเป็นต้องเสียบสายเพื่อชาร์จพร้อมกันมากกว่า 1 ช่องจริง ๆ การเลือกซื้ออะแดปเตอร์ที่กำลังไฟเท่าของเดิมคงจะไม่พอ ต้องขยับไปหาอะแดปเตอร์ USB PD/GaN ที่จ่ายไฟได้สูงกว่าเดิม เช่น ถ้าอะแดปเตอร์เดิมของโน้ตบุ๊กเป็นแบบ 65W ทีนี้พอจะซื้ออันใหม่ แล้วจำเป็นต้องเสียบชาร์จแท็บเล็ตและมือถือพร้อมกันด้วย อาจจะต้องไปเลือกรุ่นที่จ่ายไฟได้ถึงระดับ 100W ขึ้นไปแทน เพื่อให้สามารถจ่ายไฟให้กับทุกอุปกรณ์พร้อมกันได้เพียงพอ

Screenshot 2566 06 28 at 3.12.12 PM Screenshot 2566 06 28 at 3.12.26 PM Screenshot 2566 06 28 at 3.12.34 PM

ซึ่งในตอนนี้ทางผู้ผลิตและผู้ขายก็มักมีการให้ข้อมูลเพิ่มเติมที่ดีขึ้นมาก บางรายมีภาพประกอบให้ดูเลย ว่าถ้าเสียบช่องเดียวจ่ายไฟได้เท่าไหร่ เสียบสองช่อง แต่ละช่องได้เท่าไหร่บ้าง หรือถ้าเสียบทุกช่องพร้อมกันหมด จะแบ่งไฟออกมาเป็นรูปแบบไหน ซึ่งช่วยให้สามารถเลือกและตัดสินใจได้ง่ายขึ้นมากทีเดียว ดังนั้นสิ่งที่ควรรู้เลยคือ อุปกรณ์ของเรากินไฟขณะชาร์จสูงสุดเท่าไหร่บ้าง ซึ่งปกติก็สามารถดูได้จากอะแดปเตอร์ที่แถมมากับแต่ละเครื่อง หรือทางเว็บไซต์ของผู้ผลิต

 

3) ฟีเจอร์ด้านความปลอดภัย

ในการเลือกซื้ออะแดปเตอร์โน้ตบุ๊ก รวมถึงอะแดปเตอร์ USB-PD/GaN ปัจจัยด้านความปลอดภัยก็เป็นสิ่งที่ควรคำนึงถึงเช่นกัน เพราะการจ่ายไฟที่วัตต์ แรงดัน กระแสสูง ๆ ย่อมมีความเสี่ยงอันตรายที่สูงเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน ซึ่งมาตรฐานด้านความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้ที่ได้รับการพูดถึงบ่อย ๆ ก็เช่น

  • ฟังก์ชันป้องกันการจ่ายแรงดันไฟสูงเกิน (overvoltage)
  • ฟังก์ชันป้องกันการจ่ายกระแสไฟฟ้าสูงเกิน (overcurrent)
  • ฟังก์ชันป้องกันการลัดวงจร (short-circuit)
  • ฟังก์ชันป้องกันอุณหภูมิสูงเกินไป
  • การออกแบบและเลือกวัสดุที่ป้องกันการลามของไฟ

Screenshot 2566 06 28 at 3.26.45 PM

ซึ่งถ้าเป็นอะแดปเตอร์ของแท้จากผู้ผลิตที่มีมาตรฐาน ส่วนใหญ่ก็จะมีการระบุฟังก์ชันด้านความปลอดภัยมาให้อยู่แล้ว

การมาถึงของฟังก์ชัน USB PD และเทคโนโลยี GaN ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถหาซื้ออะแดปเตอร์โน้ตบุ๊กสำรอง หรือใช้ร่วมกับอะแดปเตอร์ที่แถมมากับเครื่องได้ง่ายขึ้นมาก ต่างจากเมื่อก่อนที่มักจะต้องเลือกให้ตรงยี่ห้อ ตรงรุ่นแบบ 100% ถึงจะใช้ได้ หรือไม่ก็ซื้อแบบที่แถมหัวต่อมาสารพัดรูปแบบ ที่สุดท้ายเราก็ใช้แค่แบบเดียวที่ตรงกับเครื่องเท่านั้นเอง ประกอบกับตอนนี้ อะแดปเตอร์ USB PD/GaN เองก็มีราคาที่จับต้องง่ายมากขึ้น แนะนำว่าลองดูก็ดีครับ สำหรับคนที่กำลังมองหาอะแดปเตอร์โน้ตบุ๊กใหม่ในปี 2023 อย่างน้อย ๆ ก็คือควรเป็นแบบ USB PD เป็นหลักไว้ก่อน ส่วน GaN ก็ขึ้นอยู่กับงบที่มี และความจำเป็นในการพกพาได้เลย

Click to comment
Advertisement

บทความน่าสนใจ

Accessories review

VOLTME Revo 140 กับ VOLTME RUGG CTC 100W คอมโบสายและอะแดปเตอร์สุดเจ๋ง ชาร์จได้หมดทั้งโน๊ตบุ๊ค, แท็บเล็ตและมือถือ!! ถ้าเปิดกระเป๋ามานอกจากโน๊ตบุ๊คแล้ว หลายคนก็มีแท็บเล็ตกับสมาร์ทโฟนติดกระเป๋ากันแน่ๆ ดังนั้นอะแดปเตอร์อย่าง VOLTME Revo 140 กับสายชาร์จ VOLTME RUGG CTC 100W เลยเป็นไอเท็มคู่สำคัญควรมีติดกระเป๋าเอาไว้ให้อุ่นใจ ยิ่งใครใช้โน๊ตบุ๊คประสิทธิภาพสูงหรือ MacBook...

Buyer's Guide

ในอดีตโน๊ตบุ๊คราคา 20000 บาท อาจจะได้สเปคแค่พอใช้งานได้ แต่พอซีพียู AMD, Intel มีประสิทธิภาพสูงขึ้นเรื่อยๆ โน๊ตบุ๊ค 2024 ราคาไม่เกิน 20000 บาท ก็ใช้ทำงานทั่วไปได้สบายๆ ไม่ว่าจะงานเอกสารหรือแต่งภาพทำคลิปสั้นก็ได้ไม่พอ หลายเจ้ายังติดตั้ง Microsoft Office Home & Student 2021 มาให้ครบ พร้อมทำงานทันทีไม่ต้องซื้อบริการ...

Buyer's Guide

เปิดกระเป๋ามาเมื่อไหร่ เป็นใครก็ต้องมี Power Bank ติดเอาไว้สักไว้ชาร์จไฟให้อุปกรณ์ต่างๆ ตั้งแต่มือถือ, หูฟัง ไปจนโน๊ตบุ๊คและ Gaming handheld ที่มีพอร์ต USB-C Full Function, Thunderbolt ก็ชาร์จไฟเข้าเครื่องให้ใช้งานได้ทั้งวัน จะนั่งทำงานหรือประชุมนานแค่ไหนก็ไม่ต้องกลัว แถมราคาค่างวดก็ถูกลงไปกว่าในอดีตมาก กำเงินมาพันบาทต้นก็ซื้อแบรนด์คุณภาพดีราคาประหยัดมาใช้ได้แถมตอนนี้แบรนด์ชั้นนำหลายๆ เจ้าก็เพิ่มลูกเล่น อัปเกรดกำลังชาร์จให้มากขึ้น, มีพอร์ตเยอะร้อยแปดหรือเป็นอะแดปเตอร์ไว้ชาร์จมือถือไปพร้อมกันก็ยังได้ ลองมาส่องในงาน Commart...

Buyer's Guide

ซื้อพาวเวอร์แบงค์ยี่ห้อไหนดี 2024 นี้มีคำตอบพร้อมรุ่นน่าใช้ให้เลือกเพียบ! ยุคที่อุปกรณ์ไอทีมีความสำคัญกับชีวิตของเราจนแทบเป็นอวัยวะอีกชิ้นไปแล้ว นอกจากอแดปเตอร์ก็มีคนถามหาว่าจะซื้อพาวเวอร์แบงค์ยี่ห้อไหนดี 2024 นี้ถึงจะแรงพอใช้ชาร์จแบตเตอรี่ให้อุปกรณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะหูฟังไร้สาย, สมาร์ทโฟนไปจนโน๊ตบุ๊คได้ในเครื่องเดียวบ้าง? สำหรับคำถามแรกนี้ก็ต้องทำความเข้าใจกับเทคโนโลยี GaN (Gallium Nitride) สารกึ่งตัวนำสำหรับผลิต IC (Integrated Circuit) เป็นวัสดุซิลิคอนซึ่งมีความสามารถในการแปลงไฟฟ้าได้ดีและค่าความต้านทานกับอุณหภูมิระหว่างทำงานต่ำ จึงกลายเป็นวัสดุยอดนิยมสำหรับพาวเวอร์แบงค์และอแดปเตอร์ชาร์จตัวเล็กกำลังสูงทั้งหลายในยุคนี้นั่นเอง หากใครสนใจก็สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมในบทความนี้ได้ ประเด็นถัดมาจากเรื่องเทคโนโลยี GaN แล้ว ถ้าคิดว่าจะซื้อพาวเวอร์แบงค์ยี่ห้อไหนดี...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก