Connect with us

Hi, what are you looking for?

รีวิว MSI

รีวิว MSI Prestige 15 A11SC สเปคต่อราคาคุ้มค่า งานหนักเบาเอาอยู่และหนักแค่ 1.69 กก. ค่าตัว 45,900 บาท

MSI Prestige 15 A11SC โน๊ตบุ๊คเพื่อคนทำงาน สเปคต่อราคาคุ้มค่าน่าซื้อไว้ใช้!

msi prestige 15 A11SC 038th Cover

 

Advertisement

MSI Prestige 15 A11SC ถือเป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานรุ่นฝาแฝดของ MSI Prestige 14 Evo ที่ผู้เขียนได้รีวิวไปก่อนหน้านี้ จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานดีไซน์เรียบหรูและยังคงอิงเอกลักษณ์การดีไซน์ตัวเครื่องคล้ายกันหลายอย่างไม่ว่าจะเดินเส้นสะท้อนแสงสีน้ำเงินที่กรอบเครื่อง, กางหน้าจอให้แบนราบไปกับพื้นโต๊ะให้เพื่อนร่วมงานสามารถดูเนื้อหาบนหน้าจอได้สะดวก นอกจากนี้งานประกอบแข็งแรงไว้ใจได้สมชื่อ MSI ที่ผลิตโน๊ตบุ๊คและอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ชั้นนำของโลกอย่างไม่ต้องสงสัย และกลุ่มเป้าหมายของโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้จะเน้นไปทางคนทำงานไม่ว่าจะคนทำงานอาร์ตเวิร์ค, ช่างภาพหรืองานตัดต่อวิดีโอโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้ก็ทำได้สบายๆ

ในแง่ของสเปคนอกจากซีพียู Intel Core i7-1185G7 กับการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1650 Max-Q ที่ติดตั้งมาให้ในเครื่องแล้ว หน้าจอของ MSI Prestige 15 A11SC ก็มีรุ่นความละเอียดจอสูงสุด 4K ซึ่ง MSI เคลมขอบเขตสีหน้าจอเที่ยงตรง 100% sRGB, Delta-E <2 ได้รับการรับรอง calman Verified แล้วและยังออกแบบให้ตัวเครื่องพกพาได้สะดวก ถ้าใครต้องนำโน๊ตบุ๊คติดตัวไปทำงานติดต่อลูกค้าบ่อยๆ ก็พกได้ไม่ลำบากอย่างแน่นอน

MSI Prestige 15 A11SC DSC00315

NBS Verdict

MSI Prestige 15 A11SC DSC00302

MSI Prestige 15 A11SC ถือว่าเป็นโน๊ตบุ๊คเพื่อคนทำงานเต็มตัว ไม่ว่าจะใช้ติดต่อธุรกิจหรือเอาไว้ทำงานอาร์ตต่างๆ ก็สามารถทำงานได้เป็นอย่างดีด้วยหน้าจอขอบเขตสีกว้างและเทียบสีได้เที่ยงตรงเหมาะกับงานประเภทนี้อย่างแน่นอน รวมทั้งสเปคที่ดีรองรับการทำงานประเภทดังกล่าวได้เป็นอย่างดี เปิดเครื่องลงโปรแกรมแล้วทำงานได้เลย จึงไม่ต้องกังวลเรื่องประสิทธิภาพการทำงานเลยก็ได้

หรือถ้าใครรันงานหนักต้องการอัพเกรดเครื่องเพิ่มเติมอีกนิด MSI ก็ออกแบบให้ถอดฝาด้านใต้เครื่องได้ง่ายด้วยน็อตหัวแฉกปกติและมีอินเตอร์เฟส SSD แบบ M.2 NVMe ว่างอีก 1 ช่องสำหรับใส่ SSD ตัวเสริมสำหรับเซฟงานได้และช่องแรมเป็น SO-DIMM 2 ช่อง รองรับความจุสูงสุดที่ 64GB สามารถถอดเปลี่ยนได้สะดวก นอกจากนี้ยังติดตั้งพอร์ตที่ผู้ใช้มักใช้งานเป็นประจำมาครบถ้วนทั้ง HDMI, MicroSD Card Reader, USB-A 3.2 Gen 2 และ Thunderbolt 3 อีก 2 ช่อง เท่ากับโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้สามารถต่อหน้าจอแยกได้สูงสุด 3 จอทีเดียว

ด้านความปลอดภัยและเป็นส่วนตัวก็ไม่แพ้กันเพราะ MSI ติดกล้อง IR สำหรับสแกนใบหน้าและเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือเพื่อปลดล็อคเครื่องด้วย ช่วยรักษาความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ได้มากและรองรับการอัพเกรดระบบปฏิบัติการเป็น Windows 11 ได้ครบถ้วน ถือว่าครบเครื่องเหมาะจะใช้เป็นโน๊ตบุ๊คทำงานได้อย่างแน่นอน

แม้จะมีจุดเด่นหลายข้อก็ตาม แต่จุดสังเกตของ MSI Prestige 15 A11SC เครื่องนี้ยังใช้ระบบระบายความร้อน Cooler Boost 3 ซึ่งระบายความร้อนได้ระดับหนึ่งในสถานการณ์ปกติ แต่ถ้ารันการทำงานเต็มที่ตัวเครื่องจะร้อนพอควร ซึ่งถ้าใครรันงานหนักเป็นประจำแนะนำให้ต่อเมาส์คีย์บอร์ดแยกและวางเครื่องบนแท่นวางโน๊ตบุ๊คจะดีกว่า อีกอย่างคือพาเนลหน้าจอ Full HD เมื่อวัดโซนความสว่างด้วย Spyder5Elite แล้วค่อนข้างมืด อาจจะเทียบสีได้ไม่เที่ยงตรงเท่ารุ่นหน้าจอ 4K ที่คาดว่าใช้พาเนลคุณภาพสูงกว่า แนะนำให้ต่อหน้าจอแยกที่ออกแบบมาเพื่องานอาร์ตเวิร์คโดยเฉพาะจะทำงานได้ดีกว่า

ข้อดีของ MSI Prestige 15 A11SC
  1. ได้สแกนลายนิ้วมือและสแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อคเครื่องครบทั้งสองอย่าง ช่วยให้ปลดล็อคเครื่องได้สะดวก
  2. งานประกอบตัวเครื่องแข็งแรงแน่นหนา ดีไซน์เรียบร้อยดูหรูหราเหมาะกับคนทำงาน
  3. ตัวเครื่องกางได้ราบ 180 องศาแชร์หน้าจอให้เพื่อนร่วมงานหรือลูกค้าดูจอได้สะดวก
  4. มีพอร์ต Thunderbolt 4 ถึง 2 ช่อง ใช้ชาร์จแบตเตอรี่หรือต่อหน้าจอแยกได้ตามสะดวก
  5. สเปคต่อราคาจัดว่าคุ้มค่า จ่ายเพียง 45,900 บาท แต่ได้ i7-1185G7, RAM 16GB, SSD 1TB มาใช้งานไม่ต้องอัพเกรดนัก
  6. กรณีต้องการอัพเกรดเครื่อง มีช่อง M.2 NVMe ในเครื่องว่าง 1 ช่อง รองรับ RAM DDR4 SO-DIMM ได้ 2 ช่อง สูงสุด 64GB
  7. ตัวเครื่องขนาด 15.6 นิ้ว แต่น้ำหนักเพียง 1.69 กิโลกรัมเท่านั้น จัดว่าพกพาได้สะดวก
  8. ระบบเสียง Nahimic คุณภาพเสียง Hi-Res ได้เสียงที่ดีและดังชัดเจน
  9. มีโปรแกรม MSI True Color สำหรับปรับโปรไฟล์การแสดงสีสันบนหน้าจอได้สะดวก
ข้อสังเกตของ MSI Prestige 15 A11SC
  1. โซนความสว่างบนหน้าจอค่อนข้างมืด ถ้าทำงานจริงจังแนะนำให้ต่อหน้าจอแยกเพื่องานอาร์ตโดยเฉพาะจะดีกว่า
  2. เวลาทำงานหนัก เช่น รันโปรแกรมตัดต่อวิดีโอหรือเรนเดอร์โมเดล 3D แล้วเครื่องค่อนข้างร้อน แนะนำให้ต่อเมาส์คีย์บอร์ดแยก

รีวิว MSI Prestige 15 A11SC

Specification

kv nb

MSI Prestige 15 A11SC-038TH เครื่องที่ได้รับมารีวิว ต้องถือว่าเป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานที่สเปคต่อราคาจัดว่าคุ้มค่าเหมาะกับการทำงานต่างๆ ได้เป็นอย่างดีและมีระบบสแกนลายนิ้วมือกับใบหน้าติดตั้งมาครบถ้วน ซึ่งสเปคจะเป็นดังนี้

สเปคของ MSI Prestige 15 A11SC-038TH
  • CPU : Intel Core i7-1185G7 แบบ 4 คอร์ 8 เธรด ความเร็ว 3.0-4.8 GHz
  • GPU : NVIDIA GeForce GTX 1650 Max-Q แรม 4GB GDDR6
  • SSD : M.2 NVMe ความจุ 1TB
  • RAM : 16GB DDR4 บัส 3200 MHz 
  • Display : 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS
  • Ports : USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 x 2 รองรับ Thunderbolt, HDMI x 1, MicroSD Card Reader x 1, Audio Combo x 1
  • Wireless : Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2
  • Webcam : 720p HD Camera พร้อมกล้อง IR
  • OS : Windows 10 Home, Microsoft 365
  • Weight : 1.69 กิโลกรัม
  • Price : 45,900 บาท

Hardware & Design

MSI Prestige 15 A11SC

ดีไซน์ตัวเครื่องของ MSI Prestige 15 A11SC เรียกว่าถอดแบบจากรุ่น Prestige 14 Evo ขยายขนาดหน้าจอขึ้นมาเป็น 15.6 นิ้ว ซึ่งดีไซน์ตัวเครื่องหน้าตรงจะเห็นว่าถอดแบบกันมาตรงๆ ทั้งขอบหน้าจอบางและบอดี้โลหะขัดมันสีบรอนซ์เงินเข้มและขอบข้างฝาหลังเครื่องสะท้อนแสงสีน้ำเงินเพื่อสื่อความเป็น Intel Evo และเว้นขอบตัวเครื่องด้านล่างถัดลงมาจากทัชแพดให้ใช้นิ้วดึงเปิดหน้าจอได้สะดวก และทาง MSI ก็บาลานซ์ตัวเครื่องได้ดี เมื่อกางหน้าจอแล้วตัวเครื่องไม่ยกตามหน้าจอขึ้นมาเลย

MSI Prestige 15 A11SC DSC00317

ส่วนช่องระบายความร้อน Cooler Boost 3 จะมีช่องระบายความร้อนเล็กกับใหญ่อย่างละช่อง โดยซ่อนเอาไว้ที่ขอบตัวเครื่องด้านบน เวลากางหน้าจอทำงานแล้วฝาหลังตัวเครื่องจะปิดช่องระบายความร้อนได้พอดี ทำให้ดีไซน์ดูเรียบร้อยไม่เหมือนเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คที่มักเล่นดีไซน์ช่องระบายความร้อนเป็นดีไซน์แบบต่างๆ

MSI Prestige 15 A11SC DSC00230

ส่วนขาบานพับตัวเครื่องดีไซน์ให้กางหน้าจอได้ราบ 180 องศา สามารถกางหน้าจอให้เพื่อนร่วมงานหรือลูกค้าสามารถมองหน้าจอร่วมกับเจ้าของเครื่องได้เลย และ MSI ก็มีปุ่ม Function Hotkey หมุนหน้าจอกลับ 180 องศาด้วย ซึ่งถ้าสังเกตจะเห็นว่าขาบานพับถูกออกแบบให้ติดเป็นชิ้นเดียวกับตัวหน้าจอและขอบล่างของหน้าจอจะเลยออกมาด้านหลังของตัวเครื่องด้วย จึงกางหน้าจอได้ราบสนิทเช่นนี้ ส่วนมุมบนซ้ายของทัชแพดจะมีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือติดตั้งไว้ รองรับการทำงานร่วมกับ Windows Hello ด้วย

ฝาหลังเครื่องจะเป็นบอดี้อลูมิเนียมสีบรอนซ์เงิน ไม่มีลวดลายอะไรเป็นพิเศษนอกจากโลโก้ MSI แบบตัวอักษรยิงเลเซอร์เอาไว้ครึ่งบนของตัวเครื่อง ได้ดีไซน์สวยงามเรียบหรูและ MSI มักใช้ดีไซน์นี้กับโน๊ตบุ๊ครุ่นที่ออกแบบมาเพื่อคนทำงาน

 

ส่วนด้านใต้ตัวเครื่องจะมีช่องสำหรับดึงอากาศเข้าอยู่สองแถวด้านบนของตัวเครื่องแต่เจาะเว้นระยะเอาไว้ ไม่ได้เจาะตลอดแนวเหมือนโน๊ตบุ๊คบางรุ่นซึ่งถ้าเปิดฝาเครื่องออกมาจะเป็นช่องตามแนวพัดลมโบลวเวอร์กับฮีตไปป์เป็นหลัก ซึ่งผู้เขียนคิดว่าถ้าต้องการให้โน๊ตบุ๊คเครื่องนี้ระบายความร้อนได้ดีควรวางบนแท่นวางโน๊ตบุ๊คเสมอเพื่อให้ช่องระบายอากาศมีระยะช่องว่างดึงอากาศเย็นเข้าเครื่อง ส่วนหัวน็อตที่ MSI ใช้เป็นน็อตหัวแฉกหรือ Philip Head จำนวน 7 ดอก สามารถใช้ไขควงหัวเล็กประจำบ้านขันออกได้เลย

Screen & Speaker

MSI Prestige 15 A11SC DSC00291

หน้าจอของ MSI Prestige 15 A11SC ขนาด 15.6 นิ้ว มีความละเอียด Full HD พาเนล IPS ดีไซน์ให้ขอบหน้าจอ 3 ด้าน ได้แก่ส่วนบนและขอบตัวเครื่องซ้ายขวาบางเป็นพิเศษ ให้พื้นที่การมองเห็นบนหน้าจอกว้างขึ้นและติดกล้อง IR ไว้ที่ขอบด้านบนของหน้าจอเพื่อใช้สแกนใบหน้าปลดล็อคเครื่อง ดังนั้นผู้ใช้ก็สามารถเลือกการปลดล็อคเครื่องได้ตามความสะดวก

gamut 1

จากการทดสอบขอบเขตสีด้วย Spyder5Elite กับหน้าจอของ MSI Prestige 15 A11SC เครื่องนี้ ได้ขอบเขตสีระดับ 88% sRGB, 66% AdobeRGB, 66% DCI-P3 และเทียบความเที่ยงตรงสีบนหน้าจอได้ 1.97 ซึ่งน้อยกว่า 2 ดังนั้นต้องถือว่าสีสันบนหน้าจอเที่ยงตรงใช้ได้ หากใครต้องพกโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้ไปนำเสนองานอาร์ตก็สามารถอ้างอิงสีสันบนหน้าจอนี้ได้เลย

ความสว่างของหน้าจอนี้ เมื่อเปิดเต็มที่ 100% จะสว่าง 215.5 nits ต้องถือว่าสว่างพอใช้งานในอาคารสำนักงานได้สบายๆ อย่างแน่นอน แต่อาจจะสู้แสงแดดกลางแจ้งเวลาพกเครื่องไปทำงานตามร้านกาแฟหรือนั่งในมุมที่โดนแสงแดดสะท้อนหน้าจอ ซึ่งอาจจะทำให้หน้าจอมืดลงเพราะสู้แสงไม่ไหว และหากแบ่งพื้นที่บนหน้าจอเป็น 9 ช่องแล้ววัดความสว่างแยกเป็นโซนไปจะเห็นว่าพื้นที่ที่แสงสว่างลดลงจะอยู่ริมซ้ายช่องกลางและล่าง และขอบบนสุดของหน้าจอกรอบกลางกับขวามือที่ความสว่างลดลงเกิน 10% ขึ้นไป ส่วนพื้นที่นอกจากนั้นจะมีความสว่างลดลงที่หลักหน่วยเท่านั้น ซึ่งถ้าจะแต่งภาพใช้งานจริงควรเว้นพื้นที่โซนดังกล่าวจะได้ไม่เทียบสีแล้วเพี้ยนนัก

สรุปคะแนนแล้วจะเห็นว่าหน้าจอของ MSI Prestige 15 A11SC เครื่องนี้จะได้คะแนนรวม 4 เต็ม 5 คะแนน ซึ่งถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่กำลังดี และเด่นเรื่อง Contrast เป็นพิเศษซึ่งได้คะแนนเต็ม 5 ถัดลงมาเป็น Gamut กับ Color Uniformity ที่ทำได้ 4.5 จาก 5 คะแนน ต้องถือว่าหน้าจอของโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้ใช้ทำงานอาร์ตเวิร์คได้ระดับหนึ่ง แต่ผู้เขียนยังกังขาในส่วนของพื้นที่ที่ความสว่างลดลงเป็นหลัก ซึ่งถ้าผู้ใช้คนไหนทำภาพติดบิลบอร์ด, ประกาศโฆษณาหรือช่างภาพมืออาชีพแนะนำให้ซื้อหน้าจอเพื่องานศิลปะโดยเฉพาะอย่างเช่น MSI Creator Series มาต่อแยกแล้วใช้โน๊ตบุ๊คเครื่องนี้เป็นหน้าจอเสริมหรือหน่วยประมวลผลแทน

สำหรับลำโพง 2 ตัวที่ติดตั้งมาให้และจูนเสียงด้วย Nahimic เมื่อเปิดเสียงดัง 100% จะได้เสียงดังดีทีเดียว ระดับที่ฟังในห้องนอนขนาด 28 ตร.ม. ได้สบายๆ ถ้าใครใช้งานในคอนโดมิเนียมหรือหอพักส่วนตัวแนะนำให้เปิดลำโพงราว 70% ก็เพียงพอแล้ว และเสียงไม่ดังรบกวนผู้อื่นด้วย ส่วนเนื้อเสียงที่ได้ต้องถือว่า MSI ทำการบ้านมาดีพอควรเพราะเนื้อเสียงค่อนข้างสมดุลย์ ได้ยินเสียงเครื่องดนตรีชัดเจนและสเตจกว้างระดับหนึ่งและไม่กลบเสียงนักร้องนำ เบสของลำโพงขณะฟัง EDM หรือเพลงร็อคก็พอมีแรงปะทะอยู่ระดับหนึ่ง สามารถดูหนังหรือคอนเสิร์ตโดยใช้ลำโพงของตัวเครื่องได้เลยไม่มีปัญหา แต่ถ้าใครชอบเพลง EDM เป็นพิเศษและเน้นลูกเบสปะทะหนักๆ แนะนำให้ต่อลำโพงแยกตัวที่ชอบจะเต็มอิ่มยิ่งขึ้น

Keyboard & Touchpad

MSI Prestige 15 A11SC DSC00269

คีย์บอร์ดของ MSI Prestige 15 A11SC ตัวนี้จะเรียกว่าถอดแบบจาก MSI Prestige 14 Evo มาก็ไม่ผิด เนื่องจากเป็นคีย์บอร์ดแบบ Tenkeyless ตัดชุด Numpad ทิ้งไป ไม่ได้ใส่มาให้จนล้นหรือติดกรอบตัวเครื่องเหมือนโน๊ตบุ๊ค 15.6 นิ้วรุ่นอื่นๆ ซึ่งถ้าเป็นผู้ใช้ทั่วไปก็ไม่น่ามีปัญหาเรื่องการพิมพ์นัก ยกเว้นนักบัญชีที่ควรซื้อแป้น Numpad มาต่อให้พิมพ์ตัวเลขได้สะดวกยิ่งขึ้นแทน มีไฟ LED Backlit สีขาวปรับความสว่างได้ติดตั้งมาให้และไฟลอดตัวอักษรทั้งตัวอังกฤษและไทยครบถ้วน ถ้าใครทำงานในที่แสงน้อยแล้วพิมพ์สัมผัสไม่สะดวกก็สามารถก้มมาดูตัวอักษรที่แป้นได้ง่ายๆ

MSI Prestige 15 A11SC DSC00270

ส่วนริมขวาของแป้นคีย์บอร์ดจะติดตั้งปุ่ม Function หลักๆ มาให้ ได้แก่ Delete, Insert, Page Up ที่รวมกับปุ่ม Home และ Page Down ที่รวมกับปุ่ม End ซึ่งเป็นปุ่มที่ใช้งานเป็นหลักอยู่แล้ว และปุ่ม Power จะถูกรวมเอาไว้ในชุดแป้นคีย์บอร์ด ไม่แยกออกไปเป็นเอกเทศเหมือนบางแบรนด์ ทำให้ดูเรียบร้อยและมีไฟ LED สว่างเสมอเมื่อเปิดเครื่องอยู่

จุดสังเกตที่น่าสนใจคือ แม้ผู้เขียนจะเคยกล่าวถึงประเด็นปุ่ม Power ที่รวมในแป้นคีย์บอร์ดอาจจะทำให้ผู้ใช้บางคนที่คุ้นเคยกับปุ่ม Delete มุมขวาบนสุดของตัวแป้นเผลอกดผิดได้ แต่จากที่ใช้พิมพ์งานจริงกลับไม่เป็นอย่างนั้น คาดว่าเพราะ MSI สลับเอาปุ่ม Delete มาวางข้างๆ ปุ่ม Backspace เลย ซึ่งถ้าใครจำเลย์เอ้าท์ของปุ่มคร่าวๆ ได้ก็จะกดผิดได้ยากขึ้น

ดีไซน์จุดอื่นๆ ของคีย์บอร์ดเครื่องนี้ คือทาง MSI ทำปุ่ม Ctrl ซ้ายมือให้ยาวเท่ากับ Shift ทำให้ปุ่ม Fn ถูกย้ายมาติดข้าง Ctrl ขวามือแทน ด้านปุ่มลูกศรจะเป็นปุ่มขนาดเดียวกับปุ่มหลักของชุดแป้น QWERTY แต่ไม่เยื้องลงไปด้านล่างจึงกินพื้นที่แป้นร่วมกับปุ่มอื่นๆ ทำให้ปุ่ม Shift ขวาถูกย่อไซซ์ลงเล็กน้อย แต่จากที่พิมพ์งานจริงถือว่าไม่มีปัญหานัก นอกจากนี้ทางบริษัทก็ไม่ทิ้งลายความเป็นบริษัทผู้ผลิตเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คโดยทำมาร์คกิ้งให้ปุ่ม W เหมือนกับปุ่ม F และ J เผื่อผู้ใช้วางนิ้วได้ถูกต้องด้วย ว่าจะวางแบบเกมเมอร์หรือจะวางแบบคนทำงานก็ได้ แต่จากสเปคก็ต้องถือว่า MSI Prestige 15 A11SC เครื่องนี้ก็ยังพอเล่นเกมคลายเครียดในเวลาว่างได้อยู่

สัมผัสตอนพิมพ์ด้วยแป้นคีย์บอร์ดต้องถือว่าระยะกดกระชับและปุ่มแข็งกำลังดี สปริงไม่อ่อนยวบเกินไป ทำให้คนที่ชอบพิมพ์งานด้วยแป้นคีย์บอร์ดโน๊ตบุ๊คพิมพ์งานได้อรรถรสพอสมควร

ด้าน Function Hotkey ที่รวมกับ F1-F12 ถ้ากดตรงๆ จะเป็น Function Hotkey แต่สามารถสลับเป็นแบบปกติได้โดยกด Fn+Esc เพื่อเปิดฟังก์ชั่น Fn Lock ได้ แล้วไฟ LED สีขาวจะติดขึ้นมาเหมือนกับปุ่ม Power ส่วนปุ่มที่มีไฟ LED สีขาวติดมาเป็นพิเศษจะมี F1 เพื่อกดปิดลำโพง, F5 ปิดไมค์กับ Caps Lock ด้วย ส่วน Function Hotkey ที่ MSI Mapping มาให้แต่ละปุ่มได้แก่

  • F1-F3 – ปิด, ลดหรือเพิ่มเสียงลำโพง
  • F4 – ปิดการทำงานทัชแพด
  • F5 – ปิดไมค์
  • F6 – คำสั่งปิดเปิด Webcam
  • F7 – ปุ่มเรียก MSI Center Pro
  • F8 – ปุ่มปรับความสว่างของไฟ LED Backlit ทำงานแบบ Toggle กดแล้วจะปรับลดความสว่างไปเรื่อยๆ จนดับ
  • F9-F10 – ลดหรือเพิ่มความสว่างหน้าจอ
  • F11 – ปุ่ม Project ตั้งค่าระหว่างหน้าจอหลักและหน้าจอเสริมว่าจะทำงานอย่างไร
  • F12 – ปุ่ม Flip & Share หมุนหน้าจอกลับ 180 องศา

นอกจากนี้ปุ่ม Print Screen ยังรวมกับคำสั่ง Sniping Tool สำหรับบันทึกภาพหน้าจอที่ต้องการใช้งาน ซึ่งการ Mapping ปุ่มที่คำสั่งคล้ายกันแต่ทำงานต่างกันเอาไว้แบบนี้ต้องถือว่าทาง MSI ทำได้ดีและผู้เขียนชื่นชอบเป็นพิเศษ

ทัชแพดส่วนขอบล่างตัวเครื่องจะเป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า กว้างยื่นออกไปทางฝั่งขวามือเป็นพิเศษและติดเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือเอาไว้มุมซ้ายบนของแป้นทัชแพด ล้อมกรอบด้วยโลหะสะท้อนสีน้ำเงินและซ่อนปุ่มคลิกซ้ายขวาด้วย ในแง่การทำงานก็รองรับคำสั่ง Gesture Control ของ Windows ครบถ้วน แต่เวลาวางมือเพื่อพิมพ์งานแม้มือซ้ายจะพาดเล็กน้อยแต่สันมือขวาจะวางเต็มแป้นทัชแพดอย่างแน่นอน ซึ่งถ้า MSI ไม่มี Function Hotkey ไว้ปิดการทำงานทัชแพดก็อาจจะทำงานไปแล้วเกิดความรำคาญได้ ในส่วนนี้ต้องถือว่าทาง MSI คำนึงถึงผู้ใช้ได้เป็นอย่างดี

Connector / Thin & Weight

พอร์ตด้านข้าง MSI Prestige 15 A11SC จะติดตั้งแยกเอาไว้สองฝั่งซ้ายขวา และเป็นพอร์ตรุ่นใหม่ โดยมีพอร์ตดังนี้

  • ฝ้่งซ้ายจากซ้ายมือ – USB-C 3.2 x 2 รองรับ Thunderbolt 4 ชาร์จแบตเตอรี่คืนให้โน๊ตบุ๊คและต่อหน้าจอแยกแบบ DisplayPort 1.4a ได้ทั้งสองช่อง, HDMI x 1 รองรับความละเอียด 4K 60Hz, Audio Combo x 1
  • ฝั่งขวาจากซ้ายมือ – MicroSD Card Reader x 1, USB-A 3.2 Gen 2 x 2 

ต้องถือว่า MSI Prestige 15 A11SC เครื่องนี้ได้พอร์ตสมัยใหม่มาครบถ้วนทั้ง Thunderbolt 4 หรือ USB-A 3.2 ซึ่งสามารถต่ออุปกรณ์อย่างเมาส์คีย์บอร์ดหรือโอนไฟล์เข้าออกเครื่องได้อย่างรวดเร็ว จัดเป็นจุดเด่นที่มีคู่แข่งทำแบบนี้ไม่กี่รุ่นเท่านั้น หรือถ้าใกล้เคียงก็อาจจะไม่ใส่ MicroSD Card Reader มาให้ หรือมี USB-A 3.2 เพียงช่องเดียวเท่านั้น อาจถือว่าพอร์ตของตัวเครื่องเป็นจุดแข็งอีกจุดของโน๊ตบุ๊ครุ่นนี้ได้เลย

MSI Prestige 15 A11SC DSC00227

ด้านน้ำหนักตัวเครื่องและอุปกรณ์เสริม เมื่อชั่งด้วยตาชั่งดิจิตอลแล้วเฉพาะเครื่องหนัก 1.77 กิโลกรัม เฉพาะอแดปเตอร์ 391 กรัม รวมน้ำหนักสุทธิ 2.16 กิโลกรัม และเมื่อพิจารณารวมกับมิติตัวเครื่องที่ กว้าง 356.8 x ลึก 233.7 x หนา 18.9 มิลลิเมตร ต้องถือว่าเป็นโน๊ตบุ๊คขนาด 15.6 นิ้วที่น้ำหนักเบา พกพาง่ายกว่ารุ่นอื่นที่มิติตัวเครื่องใกล้เคียงกันแต่แนะนำให้ใส่กระเป๋าเป้เป็นหลักมากกว่า น้ำหนัก 2.16 กิโลกรัมจะได้ไม่กดทับไหล่ข้างเดียวมากเกินไป หรือจะเปลี่ยนเอาปลั๊กเฉพาะตัวเครื่องทิ้งไว้ที่ออฟฟิศหรือบ้านแล้วพกปลั๊ก GaN กับสาย USB-C แทน ก็พอใช้กระเป๋าสะพายข้างแบบ Messenger Bag ในวันหยุดหรือตอนไปติดต่องานกับลูกค้าได้สะดวกและมีสไตล์ยิ่งขึ้น

Inside & Upgrade

MSI Prestige 15 A11SC DSC00245

ภายในตัวเครื่อง เมื่อเปิดฝาออกมาแล้วจะเห็นว่าชุดเมนบอร์ดตรงกลางเครื่องจะรวมอินเตอร์เฟสของ SSD แบบ M.2 NVMe กับแรมแบบ SO-DIMM เอาไว้ตรงกลางทั้งหมดและปิดด้วยพลาสติกสีดำป้องกันไฟฟ้าสถิตย์ด้วย ส่วนการ์ด Intel Wi-Fi 6E จะติดไว้ริมซ้ายสุดข้างพัดลมโบลวเวอร์ตัวใหญ่

ด้าน RAM เป็นแบบ SO-DIMM รองรับความจุสูงสุด 64GB และเอาพอร์ตชนกันไม่ Stack เป็นชั้น ทำให้ทางบริษัทสามารถรีดบอดี้ตัวเครื่องได้บางลง ส่วนอินเตอร์เฟส PCIe สำหรับ SSD แบบ M.2 NVMe ทั้งสองช่องแยกเป็น 2 เวอร์ชั่น คือ PCIe 4.0 x4 ของไดรฟ์หลักที่ MSI ใส่ SSD แบบ OEM มาให้จากโรงงาน ส่วนช่องที่ปล่อยว่างไว้ที่ริมซ้ายใต้ Wi-Fi Card จะเป็นอินเตอร์เฟส PCIe 3.0 x4 แทน ไม่ได้เป็น 4.0 ทั้ง 2 ช่อง

ดังนั้นถ้าใครจะซื้อ SSD แบบ M.2 NVMe มาใส่เป็นไดรฟ์เสริมก็ไม่ต้องซื้อตัวแพงมาใส่ก็ได้ แค่ WD Green SN350, Samsung 980 หรือ Transcend 220S เอาไว้ลงโปรแกรมเสริมหรือเอาไว้เซฟงานเพิ่มก็เพียงพอแล้ว

Performance & Software

cpu 1

ซีพียูที่ติดตั้งมาใน MSI Prestige 15 A11SC เป็น Intel Core i7-1185G7 แบบ 4 คอร์ 8 เธรด ความเร็ว 3.0-4.8 GHz เป็นสถาปัตยกรรม Tiger Lake ขนาด 10 นาโนเมตร รองรับชุดคำสั่งพื้นฐานที่ต้องใช้งานครบถ้วน สามารถทำงานออฟฟิศหรืองานตัดต่อแต่งภาพก็ใช้ได้ 

แรมที่ติดตั้งมาใน MSI Prestige 15 A11SC ให้เป็นของ Samsung มีความจุ 16GB DDR4 บัส 3200 MHz (8*2) แบบ SO-DIMM รองรับความจุสูงสุด 64GB ถ้าใช้งานออฟฟิศและแต่งภาพทั่วไป ถือว่ามีความจุเพียงพอแล้ว แต่ถ้าใครใช้งานหนักหน่อยอย่างตัดต่อวิดีโอหรือมีงาน 3D CG เข้ามาร่วมด้วยอาจจะอัพเกรดเป็น 32-64GB ก็จะทำงานสะดวกขึ้นมาก

การ์ดจอของ MSI Prestige 15 A11SC จะมีทั้งออนบอร์ดและตัวแยกสำหรับสลับกันทำงาน โดย Intel Iris Xe Graphics ในซีพียูจะรับหน้าที่ตอนใช้งานทั่วไปอย่างการดูหนังฟังเพลงหรือทำงานออฟฟิศ ถ้าสลับมาตัดต่อวิดีโอหรือแต่งภาพที่ต้องใช้การ์ดจอแยกจะมี NVIDIA GeForce GTX 1650 Max-Q แรม 4GB GDDR6 รองรับอยู่ รองรับชุดคำสั่ง OpenCL, OpenGL 4.6, DirectCompute, DirectML, Vulkan, PhysX เหมือนกัน แต่ GTX 1650 Max-Q จะรองรับ CUDA ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเฉพาะของทางบริษัทด้วยและรองรับ DirectX 12 ทั้งคู่

devicemgr

ส่วนพาร์ทในตัวเครื่องเมื่อดูใน Device Manager จะเห็นว่า MSI Prestige 15 A11SC ได้ฟีเจอร์ดีๆ มาเพียบ ไม่ว่าจะเซนเซอร์สแกนใบหน้าและนิ้วมือที่ทำงานกับ Windows Hello เลือกใช้ได้ตามสะดวกส่วนบุคคล และ Wi-Fi Card เป็น Intel Killer Wi-Fi 6E AX1675 x/w ประสิทธิภาพสูงรองรับ Wi-Fi 6E และ Bluetooth 5.2 พร้อมชิป TPM 2.0 พร้อมอัพเกรดเป็น Windows 11 ได้ทันที ดังนั้นใครที่ต้องการใช้ระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นใหม่ก็สั่งอัพเดทได้ทันที

ssd 1

ด้าน SSD แบบ M.2 NVMe แบบ OEM ความจุ 1TB จากโรงงานของ MSI เป็น Micron 3400 ผลิตแบบ 176-layer NAND อินเตอร์เฟสเป็น PCIe 4.0, NVMe 1.4 ซึ่งสเปคที่ทางผู้ผลิตเคลมไว้มึค่า Sequential Read 6,600 MB/s และ Sequential Write 5,000 MB/s ความทนทาน 600TBW มีฟีเจอร์เข้ารหัสข้อมูล AES-256 ในตัว เมื่อวัดด้วย CrystalDiskMark แล้วความเร็ว Sequential Read/Write อยู่ที่ 5,883.83 และ 4,987.95 MB/s จัดว่าใกล้เคียงกับที่ผู้ผลิตเคลมไว้

ส่วนตัวผู้เขียนคิดว่าความเร็วระดับนี้ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยน M.2 NVMe SSD ก็ได้ แค่หา M.2 NVMe SSD ที่เป็น PCIe 3.0 มาใส่เพิ่มอีกไดรฟ์หนึ่งเผื่อเซฟข้อมูลหรือลงโปรแกรมเพิ่มเติมก็พอตามที่แนะนำไปในหัวข้อก่อนหน้านี้จะดีกว่า

ถัดมาเมื่อทดสอบการเรนเดอร์ภาพและ 3D CG ด้วย CINEBENCH R15 นับว่า MSI Prestige 15 A11SC เครื่องนี้สามารถทำงานได้ดีระดับหนึ่งด้วยคะแนน OpenGL 122.13 fps ส่วน CPU ทำได้ 865 cb ซึ่งประสิทธิภาพจัดว่าแรงใช้งานได้ระดับหนึ่งเลย ซึ่งเจ้าของเครื่องอาจจะเอาตัวอย่าง 3D CG โมเดลที่ทำเสร็จแล้วมาลอง Preview นำเสนองานกับลูกค้าด้วยโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้ก็ได้

กลับกันถ้าทดสอบแบบเจาะจงกำลังการเรนเดอร์ภาพของซีพียูด้วย CINEBENCH R20 จะเห็นว่า Intel Core i7-1185G7 ก็ทำได้ 2113 pts จัดว่าเป็นคะแนนในระดับที่สูงพอใช้เรนเดอร์งานตัดต่อวิดีโอหรือแต่งภาพได้ด้วยในบางโอกาส

3dmark 1

ส่วนของการทดสอบ 3DMark Time Spy ว่าพีซีเครื่องนั้นๆ สามารถเล่นเกมได้ดีระดับไหน ซึ่งผลคะแนนที่ได้อยู่ที่ 2,849 คะแนน แยกเป็น CPU 2,544 คะแนน และ Graphics score 2,911 คะแนน จัดว่าใช้เล่นเกมที่ความละเอียด Full HD ในเวลาว่างได้ด้วย แม้จะดูไม่สูงเท่าไหร่แต่จากที่ผู้เขียนทดสอบเล่นเกมด้วย MSI Prestige 15 A11SC แล้ว ถือว่าโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้ก็สามารถเล่นเกมได้ดีระดับหนึ่ง

pcmark10 1

ด้าน PCMark 10 ที่จำลองการทำงานแบบต่างๆ ได้คะแนนเฉลี่ย 4,094 คะแนน กล่าวคือโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้รองรับการทำงานออฟฟิศทั่วไปได้อย่างแน่นอนและเด่นในหมวดการเรียกโปรแกรมต่างๆ ขึ้นมาใช้งาน, ประชุมออนไลน์หรือเปิดเบราเซอร์ท่องเว็บไซต์ที่ทำได้ 7,267 คะแนน ถัดมาเป็นการใช้งาน Microsoft Word, Excel ทำงานเอกสารก็ทำได้ดีไม่แพ้กันกับคะแนนเฉลี่ย 6,033 คะแนน ส่วนงานตัดต่อแต่งภาพและวิดีโอที่จบ 4,247 คะแนน นับว่าใช้ทำงานได้ แค่ไม่โดดเด่นเท่าโน๊ตบุ๊คที่ผู้ผลิตออกแบบมาเมื่องานสายนี้โดยเฉพาะแค่นั้น

หากจัดกลุ่มคร่าวๆ แล้ว จะเห็นเลยว่า MSI Prestige 15 A11SC จะเหมาะกับผู้ใช้หลากหลาย ไม่ว่าคนทำงานออฟฟิศ, ฝ่ายศิลป์หรือ Account Executive ที่ทำงานอาร์ตเวิร์คหรือตัดต่อวิดีโอและ Preview โมเดล 3D CG ให้ลูกค้าดูงานได้สะดวกระดับหนึ่งด้วย

msi prestige 15 A11SC

ในเมื่อมีการ์ดจอแยก เชื่อว่าหลายคนก็อยากติดตั้งเกมที่ชอบเอาไว้เล่นอย่างแน่นอน โดยผลการทดสอบเล่นเกมเมื่อปรับกราฟฟิคระดับสูงสุดทุกเกม จะเห็นว่า MSI Prestige 15 A11SC แม้สเปคจะเป็น Intel Core i7-1185G7 จับคู่ NVIDIA GeForce GTX 1650 Max-Q มีแรม 16GB ก็ตาม แต่ก็สามารถเล่นเกมฟอร์มใหญ่ในปัจจุบันได้เป็นอย่างดีทีเดียว สังเกตว่ายกเว้น SCUM เกมที่นำมาทดสอบจะได้เฟรมเรทเกิน 60fps ทุกเกมทีเดียว

ด้านสัมผสัตอนเล่นเกม สำหรับ DotA 2 และ PUBG แม้จะปรับกราฟฟิคระดับสูงสุดก็ไม่มีปัญหา เรนเดอร์ภาพตอนเล่นได้ไหลลื่นต่อเนื่องและไม่เกิดอาการเฟรมเรทร่วงเวลาเจอฉากที่รายละเอียดเยอะๆ ยิ่งเป็น Resident Evil Village ผู้เขียนปรับกราฟฟิคระดับสูง (0.5 GB) และทดลองในฉากต่อสู้กับบอส Lady Dimitrescu ก็ถือว่าการ์ดจอ GeForce GTX 1650 Max-Q ยังเรนเดอร์ฉากได้เร็วไหลลื่น ไม่ออกอาการเฟรมเรทตกเวลามอนสเตอร์ทำลายฉากส่วนที่เป็นปราสาทหรือปูนเลย ดังนั้นถ้าใครทำงานแล้วอยากเล่นเกมแก้เครียดบ้าง ก็ลงเกมแล้วเล่นบนโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้ได้เช่นกัน

1

ส่วนของโปรแกรมที่ติดตั้งไว้ในเครื่องจะมี 2 โปรแกรมด้วยกัน คือ MSI Center Pro สำหรับตั้งค่า, เซ็ตโปรไฟล์ตัวเครื่องและเช็คสภาพตัวเครื่องว่าสามารถทำงานได้ดีเหมือนเดิมหรือไม่ ทำให้ผู้ใช้สามารถเช็คสถานะตัวเครื่องได้โดยละเอียดและติดต่อช่างเพื่อส่งเครื่องซ่อมหรือเคลมได้สะดวกอีกด้วย

1 1

อีกโปรแกรมเป็น MSI True Color สำหรับปรับโปรไฟล์สีสันบนหน้าจอและรองรับการ Calibrate สีด้วยอุปกรณ์ชั้นนำอย่าง X-Rite i1DisplayPro, SpectraCal C3, C6 ได้ด้วย หรือผู้ใช้คนไหนต้องการใช้โปรไฟล์พื้นฐานที่ทาง MSI เซ็ตมาจากดรงงานก็กดเปลี่ยนในแท็บด้านบนก็ได้หรือจะเพิ่มลดการแสดงผลสีไหนสีหนึ่งเป็นพิเศษก็ได้เช่นกัน จัดว่าละเอียดมาก นอกจากนี้ยังใช้แบ่งพื้นที่บนหน้าจอก็ได้

Battery & Heat & Noise

MSI Prestige 15 A11SC DSC00250

แบตเตอรี่ของ MSI Prestige 15 A11SC ต้องถือว่ามีขนาดใหญ่และจุถึง 80.25Wh หรือ 5,380mAh เมื่อวัดแบบ Typical ช่วยให้ใช้งานต่อเนื่องได้นานหลายชั่วโมงโดยไม่ต้องต่อปลั๊กไฟ แต่ถ้าสั่งเรนเดอร์งานหนักๆ ก็แนะนำให้ต่อปลั๊กเพื่อให้เครื่องทำงานได้เต็มที่และถนอมแบตเตอรี่เอาไว้จะดีกว่า

battmon 1

ส่วนผลการทดสอบด้วยโปรแกรม BatteryMon ตามมาตรฐานของทางเว็บไซต์ โดยลดความสว่างหน้าจอลงต่ำสุด ปิดไฟ LED Backlit คีย์บอร์ด ลดเสียงลำโพงเหลือ 10% รวมทั้งเปลี่ยนโปรไฟล์การทำงานใน MSI Center Pro ให้เน้นประหยัดพลังงานแล้วใช้ Microsoft Edge ดู YouTube นาน 30 นาที ได้ผลว่า MSI Prestige 15 A11SC ใช้งานต่อเนื่องได้ 9 ชั่วโมง 49 นาที ในฐานะโน๊ตบุ๊คขนาด 15.6 นิ้วจัดว่าใช้งานได้นานทีเดียว จะพกเครื่องเข้าประชุมใหญ่หรือเข้าคลาสเรียนหลายชั่วโมงก็ไม่มีปัญหา

อย่างไรก็ตามจุดน่าสังเกตเล็กๆ เวลาที่ผู้เขียนทดสอบกับโปรแกรม BatteryMon คือถ้าตั้งค่าตามปกติเหมือนโน๊ตบุ๊คเครื่องอื่น จะใช้งานได้ราว 3-4 ชั่วโมง แต่พอกดเปลี่ยนโปรไฟล์ใน MSI Center Pro ด้วย จะทำให้ระยะเวลาใช้งานยาวนานขึ้น ดังนั้นใครที่อุดหนุนโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้ไปแนะนำให้ใช้โปรแกรมนี้เปลี่ยนโปรไฟล์ตัวเครื่องจะดีกว่า

MSI Prestige 15 A11SC DSC00246

ด้านระบบ Cooler Boost 3 จะเป็นชุดพัดลมโบลวเวอร์ 2 ตัว แยกเป็นใหญ่กับเล็กพร้อมฮีตไปป์ 3 เส้น พาดที่ซีพียูและการ์ดจอนำพาความร้อนไประบายออกที่ฮีตซิ้งค์หน้าพัดลม ซึ่งเสียงเวลาใช้ทำงานออฟฟิศถือว่าเบาไม่ส่งเสียงรบกวนนัก แต่จะได้ยินเสียงพัดลมชัดเจนเวลาทำงานหนักอย่างเรนเดอร์วิดีโอหรือแต่งภาพแล้วตัวเครื่องต้อง Process งานหนักๆ จะได้ยินเสียงพัดลมทำงานแหลมแทรกขึ้นมาบ้างแค่พอได้ยินเท่านั้น

hwmonitor 1

อย่างไรก็ตามระบบระบายความร้อน Cooler Boost 3 ที่ทางบริษัทติดตั้งมาให้ MSI Prestige 15 A11SC แม้จะระบายความร้อนในสถานการณ์ใช้งานแบบปกติได้เป็นอย่างดี แต่ในสถานการณ์ที่ต้องประมวลผลหนักอย่างการเล่นเกมหรือทดลองเรนเดอร์ 3D CG ตัวเครื่องจะออกอุ่นไปทางร้อนอยู่บ้าง โดยอุณหภูมิที่ CPUID HWMonitor วัดได้จะอยู่ที่ 51-100 องศาและเฉลี่ยที่ 72-85 องศาเซลเซียส ดังนั้นผู้เขียนขอแนะนำว่าถ้าต้องการช่วยให้ระบบระบายความร้อนตอนทำงานหนักเช่นการเรนเดอร์โมเดล 3D ได้ดีขึ้นควรหาที่วางโน๊ตบุ๊คให้ช่องอากาศเข้าเครื่องไม่ติดกับพื้นโต๊ะเกินไปจะได้ระบายความร้อนได้ดีและอาจจะหาพัดลมมาเป่าอากาศเย็นเข้าเครื่องหรือเปิดแอร์ช่วยด้วยจะยิ่งช่วยได้มาก

User Experience

MSI Prestige 15 A11SC DSC00304

ในแง่การใช้งานทั่วไป ผู้เขียนถือว่า MSI Prestige 15 A11SC ทำหน้าที่ในฐานะโน๊ตบุ๊คสายทำงานได้เป็นอย่างดีแล้ว ในแง่สเปคตัวเครื่องถือว่าไม่มีปัญหาทั้งเรื่องการทำงานออฟฟิศหรือตัดต่อแต่งภาพและวิดีโออย่างแน่นอน รวมทั้ง Preview โมเดล 3D ได้สบายๆ อย่างแน่นอน ด้วยกำลังประมวลผลของ Intel Core i7-1185G7 กับการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1650 Max-Q พร้อมแรมในเครื่อง 16GB และโหลดข้อมูลกับโปรแกรมจาก M.2 NVMe SSD ขึ้นมาได้อย่างรวดเร็วด้วย ทำให้โน๊ตบุ๊คเครื่องนี้จัดการงานหนักได้สบายๆ ใช้เป็นเครื่องหลักตอนทำงานออฟฟิศได้อย่างแน่นอน

ส่วนระยะเวลาใช้งานร่วม 10 ชม. ของ MSI เครื่องนี้นับว่าทำได้ดีไม่มีปัญหา ในฐานะโน๊ตบุ๊ค 15.6 นิ้วก็จัดว่าใช้งานต่อเนื่องได้นานไม่มีปัญหาแล้ว และผู้เขียนเองก็ได้ลองหยิบไปใช้งานตามสถานการณ์ต่างๆ ทั้งหยิบไปเขียนงานหรือดูหนังก็ถือว่าการจัดการพลังงานของตัวเครื่องไม่มีปัญหา แค่เปิด MSI Center Pro แล้วเลือกโปรไฟล์ประหยัดพลังงานก็เพียงพอแล้ว และเครื่องจะจัดการพลังงานให้เอง และถ้าไม่มั่นใจว่างานหรือประชุมวันนั้นจะยาวจนแบตเตอรี่ไม่พอใช้หรือเปล่าก็อาจจะเตรียมปลั๊ก GaN พร้อมสาย USB-C ไปชาร์จแบตเตอรี่ก็ได้เพราะมีพอร์ต Thunderbolt 4 x 2 ช่อง ติดตั้งมาให้ใช้งานด้วย

MSI Prestige 15 A11SC DSC00311

นอกจากนี้ฟีเจอร์ที่ผู้เขียนชอบมากอย่างการปลดล็อคเครื่องด้วยการสแกนลายนิ้วมือหรือใบหน้าก็มีให้ใช้ครบหมด เลือกได้ตามความสะดวกว่าต้องการปลดล็อคแบบไหน ไม่ต้องเสียเวลาพิมพ์รหัสผ่านก็ได้ จุดนี้ทำให้เจ้าของเครื่องไม่ต้องนั่งพิมพ์รหัสผ่านให้เสียเวลาและถูกแอบดูรหัสผ่านเลย แค่นาบนิ้วหรือนั่งหน้าเครื่องสแกนหน้าเล็กน้อยก็พร้อมใช้งานได้ทันที ได้ทั้งเรื่องประหยัดเวลาและสะดวกอีกด้วย

ด้านความร้อนของตัวเครื่องที่วัดด้วย CPUID HWMonitor เป็นความร้อนสูงสุดที่ตัวเครื่องทำได้เท่านั้น แต่เวลาใช้งานจริงอย่างการทำงานเอกสารหรือแต่งภาพบ้างก็ไม่ได้เกิดปัญหานี้มากวนใจอะไรนัก ดังนั้นถ้าใช้ทำงานทั่วไปก็ไม่ต้องกังวลเรื่องนี้ก็ได้ กลับกันเวลาพักผ่อนต้องการเล่นเกมแนะนำให้วางบนแท่นวางโน๊ตบุ๊คแล้วต่อคีย์บอร์ดกับเมาส์แยกดีกว่า เนื่องจากตัวเครื่องเวลาระบบ Cooler Boost 3 ทำงานเต็มที่แล้วจะอุณหภูมิสูงพอควร ดังนั้นควรช่วยตัวเครื่องให้ระบายความร้อนได้ดีด้วย จะใช้งานได้ดีแน่นอน

Conclusion & Award

MSI Prestige 15 A11SC DSC00313

โดยรวมแล้วนับว่า MSI Prestige 15 A11SC เป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานคุณภาพดีที่น่าซื้อมาใช้งานรุ่นหนึ่ง ทั้งในแง่ประสิทธิภาพต่อราคาและการอัพเกรดเรียกว่าน่าสนใจพอควรกับค่าตัว 45,900 บาท ก็ได้ Intel Core i7-1185G7 จับคู่ NVIDIA GeForce GTX 1650 Max-Q ใส่ M.2 NVMe SSD ความจุ 1TB พร้อม Windows 10 Home และแรม 16GB มาให้ เรียกว่าแรงพร้อมใช้งาน จะอัพเกรดเพิ่มแรมหรือ SSD ให้ทำงานได้ดีขึ้นในภายหลังก็ได้ไม่มีปัญหา และรองรับเยอะจึงใช้งานต่อเนื่องได้อีกหลายปีแน่นอน

นอกจากนี้ระบบนิรภัยอย่างการสแกนลายนิ้วมือหรือใบหน้าที่ติดตั้งมาให้ก็ช่วยให้ผู้ใช้ปลดล็อคเครื่องใช้งานได้สะดวกมาก จะพกเครื่องไปทำงานที่ไหนก็ไม่ต้องกังวลว่าจะถูกขโมยดูรหัสผ่านแล้วชิงเครื่องไปได้ และน้ำหนักเพียง 1.69 กิโลกรัมในฐานะโน๊ตบุ๊คขนาด 15.6 นิ้ว ถือว่าเบาพกพาสะดวก ใครต้องไปติดต่องานบ่อยๆ ก็พกเครื่องใส่กระเป๋าไปทำงานได้ไม่หนักไหล่อย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตามจุดที่ต้องใส่ใจบ้างคือเรื่องอุณหภูมิตัวเครื่องเวลาเรนเดอร์หรือทำงานหนักๆ ก็ยังเป็นจุดที่ต้องระวังอยู่บ้าง ดังนั้นถ้าใครใช้โน๊ตบุ๊คเครื่องนี้ทำงานหนักแนะนำให้หาแท่นวางโน๊ตบุ๊คที่ระบายอากาศดีๆ มีช่องระบายอากาศกว้างๆ มาวางเครื่องแล้วต่อเมาส์คีย์บอร์ดแยกสักหน่อยก็ไม่ต้องห่วงเรื่องนี้เลย

award

award new performance

best performance

MSI Prestige 15 A11SC เครื่องนี้คู่ควรกับรางวัล Best Performance เนื่องจากประสิทธิภาพต่อราคาจัดว่าคุ้มค่า เพียงแค่ 32,990 บาท ได้ซีพียูระดับ Intel Core i7-1185G7 กับการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce GTX 1650 Max-Q พร้อมอัพเกรดเครื่องต่อได้ จะเล่นเกมหรือทำงาน 3D ก็ไม่มีปัญหา

award new mobility

best mobility

ปกติโน๊ตบุ๊คขนาด 15.6 นิ้วในท้องตลาดจะหนักราว 2 กิโลกรัมขึ้นไป แต่ MSI Prestige 15 A11SC กลับเบาเพียง 1.7 กิโลกรัม ทำให้พกเครื่องติดตัวไปทำงานและติดต่อลูกค้าได้สะดวก ไม่ต้องกังวลว่าซื้อมาแล้วจะหนักเกินไป จะพกเครื่องไปทำงานหรือติดต่อลูกค้าที่ไหนก็ไม่ลำบากแน่นอน

Click to comment
Advertisement

บทความน่าสนใจ

รีวิว MSI

MSI Prestige 13 AI+ EVO A2VMG ในบอดี้สุดบาง น้ำหนักสุดเบา มี Intel Core Ultra 200V ให้ทำงานใหญ่เล็กได้อย่างยอดเยี่ยม! การลงทุนเปลี่ยนอุปกรณ์ทำงานให้มีคุณภาพสูงขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าอย่างไรก็คุ้มค่า ยิ่งเป็นยุคของ AI แล้ว จะซื้อโน๊ตบุ๊คใหม่อย่าง MSI Prestige 13 AI+...

PR-News

เตรียมตัวให้พร้อมไปกับอุปกรณ์เล่นเกมแบบพกพาที่ไม่มีใครเทียบได้ กับ MSI Claw 8 AI+ และ Claw 7 AI+ รุ่นใหม่ที่ได้รับการอัปเกรด โดยขับเคลื่อนด้วยโปรเซสเซอร์ Intel® Core™ Ultra 7 Series 2 รุ่นใหม่ล่าสุด ตัวเครื่องมีขนาดกะทัดรัด อีกทั้งยังผสมผสานประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมเข้ากับความคุ้มค่าขั้นสุดได้อย่างลงตัว เพลิดเพลินไปกับภาพที่สวยงามบนหน้าจอที่มีสีสันสดใสมากขึ้น มีให้เลือกสองขนาด: 7...

รีวิว MSI

MSI Prestige A16 AI+ A3HMG ในบอดี้เรียบหรูมีพลังของ AMD Ryzen AI ซ่อนอยู่ แรงทรงพลังลุยได้ทุกงาน! ถ้าได้ใช้ของดีมีคุณภาพสักครั้ง ก็จะไม่อยากลดระดับลงไปใช้ของรองลงไปง่ายๆ เพราะได้รับรู้แล้วว่าสิ่งที่ดีเป็นอย่างไร อย่าง MSI Prestige A16 AI+ A3HMG ก็เป็นหนึ่งในตัวอย่างที่ดีของคำพูดนี้และทางบริษัทก็ยังใส่ใจคุณภาพงานประกอบและรูปลักษณ์ภายนอกให้สวยงามไม่แพ้รุ่นก่อน ทั้งบอดี้อลูมิเนียมสีเงินและโลโก้อลูมิเนียมแสนเรียบง่ายแต่ดึงดูดสายตา แม้ไม่หวือหวาแต่ก็ดูได้ไม่เบื่อ ลงรายละเอียดในแต่ละส่วนเอาไว้ได้พอเหมาะพอดีและสอดลูกเล่นเก่าผสมใหม่มาได้พอเหมาะพอดี...

รีวิว MSI

MSI Modern 15 H AI C1MG โน๊ตบุ๊คจอใหญ่ รู้ใจคนทำงาน กาง 180 องศา Intel Core Ultra ราคาเบา เพื่อคนทำงานมีไลฟ์สไตล์ MSI Modern 15 H AI C1MG โน๊ตบุ๊คทำงานจอใหญ่ ที่มาพร้อมกับขุมพลัง...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก