Connect with us

Hi, what are you looking for?

Other News

[Tech] “Piql” บริษัทบริการเก็บข้อมูลไว้ทวีปอเมริกาเหนือ ให้รอดพ้นจากสงครามหรือวันสิ้นโลก นับ 1,000 ปี

บริษัทรับจัดเก็บข้อมูลนั้นมีอยู่หลายบริษัทด้วยกันครับ ทว่าคงไม่มีบริษัทไหนที่บ้าระห่ำมากไปกว่า “Piql” ที่ตั้ง Arctic World Archive สถานที่ทำทำการจัดเก็บข้อมูลที่ดัดแปลงมาจากเหมืองในทวีปอเมริกาเหนือบนพื้นที่หนาวเย็นที่ทางบริษัท

บริษัทรับจัดเก็บข้อมูลนั้นมีอยู่หลายบริษัทด้วยกันครับ ทว่าคงไม่มีบริษัทไหนที่บ้าระห่ำมากไปกว่า “Piql” ที่ตั้ง Arctic World Archive สถานที่ทำทำการจัดเก็บข้อมูลที่ดัดแปลงมาจากเหมืองในทวีปอเมริกาเหนือบนพื้นที่หนาวเย็นที่ทางบริษัทบอกว่าจะปลอดภัยต่อภัยทุกๆ อย่างทั้งจากธรรมชาติและเหตุการณ์วุ่นวายจากภัยที่มาจากฝีมือมนุษย์(เช่นสงคราม) ทุกรูปแบบครับ

Piql World data Archive 600 01

Advertisement

Arctic World Archive นั้นถูกเปิดใช้งานตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมาโดยผู้ใช้บริการรายแรกเป็นรัฐบาลของบราซิล, เม็กซิโกและนอร์เวย์ โดยข้อมูลส่วนใหญ่ที่เก็บนั้นจะเป็นข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ของประเทศดังกล่าวครับ ตัวข้อมูลจะถูกนำมาบันทึกไว้ในรูปของเทปฟิมล์ซึ่งทางบริษัทบอกว่ามีอายุการใช้งานยาวที่สุดรวมไปถึงยังพังยากที่สุดหากไม่มีอะไรเข้าไปยุ่งกับมันครับ

Piql World data Archive 600 02

เทปฟิมล์บันทึกข้อมูลที่ถูกพัฒนาขึ้นมาด้วยเทคโนโลยีของบริษัทโดยเฉพาะ

สำหรับข้อมูลที่ทางบริษัทเปิดให้จัดเก็บได้นั้นจะประกอบไปด้วย documents, PDFs, JPGs และ TIFFs ซึ่งจะถูกแปลงข้อมูลเป็น QR code อีกรอบก่อนที่จะทำการบันทึกลงเทปฟิมล์เพื่อความปลอดภัยของข้อมูลอีกขั้น นอกไปจากนั้นแล้วทางบริษัทยังได้แปลง QR Code เป็นรูปแบบของสีเฉดเทาเพื่อที่จะสามารถใช้ในเพิ่มเนื้อที่ในการเก็บข้อมูล โดยขั้นตอนวิธีของบริษัทแล้วนั้นก็จะสามารถแปลงข้อมูลไปมาระหว่างรูปแบบดิจิทัลที่เป็นต้นฉบับกับอนาล็อกได้ครับ

หมายเหตุ – การนำข้อมูลกลับมาเป็นรูปแบบปกตินั้นจะใช้เวลาประมาณ 20 – 30 นาที แถมทางบริษัทยังมีการบริการให้ผู้ใช้ได้เข้าถึงข้อมูลแบบรีโมทโดยไม่ต้องเข้ามาที่สถานที่จัดเก็บได้อีกด้วยครับ

Piql World data Archive 600 03

Piql ยืนยันว่าข้อมูลในรูปแบบของที่ทางบริษัทใช้นั้นสามารถที่จะถูกเก็บอยู่อย่างปลอดภัยได้มากกว่า 500 ปี ซึ่งบางทีอาจจะเก็บได้ยาวนานถึง 1,000 ปี ตัวเทปนั้นถูกเก็บอยู่ในที่ที่มีคุณหภูมิต่ำกว่า – 5 องศา และอยู่ในที่ลึก ซึ่งนั่นเหมาะสมมากกับการที่จะเก็บข้อมูลในรูปแบบเทปฟิล์ม

ทั้งนี้ด้วยความที่ที่ตั้งของบริษัทได้เซ็นสนธิสัญญาระหว่างประเทศไว้ตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 1 ทำให้ทางบริษัทนั้นไม่สามารถที่จะกระทำการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับทหารได้ ดังนั้นแล้วข้อมูลที่จัดเก็บนั้นจะต้องไม่เกี่ยวข้องการทางด้านการทหารโดยเด็ดขาด ซึ่งทำให้ข้อมูลที่จะถูกจัดเก็บนั้นน่าจะเป็นข้อมูลสำคัญๆ ของประวัติศาสตร์โลกมากกว่าครับ

หมายเหตุ – น่าเสียดายที่ในต้นฉบับนั้นไม่ได้บอกเอาไว้ครับว่าค่าบริการเก็บข้อมูลนั้นอยู่ที่เท่าใด

ที่มา : theverge

Click to comment
Advertisement

บทความน่าสนใจ

CONTENT

ในช่วงสามปีหลังมานี้ การพัฒนาและการนำเทคโนโลยีระบบ AI มาใช้มีอัตราการเติบโตขึ้นมาก ทำให้เราได้เห็นทั้งแบรนด์โน้ตบุ๊กและมือถือต่างโฆษณาถึงการนำ AI มาช่วยเสริมการทำงานของเครื่องในหลาย ๆ ด้าน ในบทความนี้จะมาดูกันครับว่าตอนนี้ AI ในโน้ตบุ๊ก มือถือ รวมถึงใน CPU มีไว้ใช้ทำอะไรกันบ้าง Advertisement AI ย่อมาจาก Artificial Intelligence ในคำไทยจะหมายถึงระบบปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งเป็นระบบที่ถูกออกแบบขึ้นมาให้มีการทำงานคล้ายกับสมองมนุษย์ ส่งผลให้ตัวระบบสามารถคิดคำนวณแบบซับซ้อนจากข้อมูลที่รับเข้าไป...

CONTENT

แม้ในตอนนี้ อุปกรณ์เก็บข้อมูลของคอมพิวเตอร์สำหรับการใช้งานทั่วไปจะเปลี่ยนเป็น SSD เกือบจะทั้งหมดแล้วก็ตาม แต่ฮาร์ดดิสก์ (HDD) แบบจานหมุนก็ยังคงเป็นอุปกรณ์ที่ยังมีการพัฒนาอยู่อย่างต่อเนื่อง เพราะยังเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการใช้เก็บข้อมูลปริมาณมาก ด้วยราคาต่อความจุที่ต่ำกว่า SSD ซึ่งจะพบได้มากในกลุ่มของเครื่อง server หรือการใช้งานในระดับ data center ที่ต้องมีการเก็บข้อมูลไว้เป็นจำนวนมาก ซึ่งในปัจจุบันก็มีการเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่อย่าง HAMR ที่คาดกันว่าน่าจะถูกนำมาใส่ไว้ใน HDD จานหมุนที่จะออกสู่ท้องตลาดในปีนี้ด้วย Advertisement แล้วเทคโนโลยีนี้คืออะไร จะมีผลอะไรกับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนที่เราใช้กันอยู่บ้าง...

IT NEWS

Geoffrey Hinton หนึ่งในสามของ “เจ้าพ่อแห่ง AI” ที่ได้รับรางวัล Turing Award ประจำปี 2018 จากผลงานที่เกี่ยวข้องกับ AI เผยเหตุผลของการลาออกออกจาก Google ว่ามาจากความขัดแย้งทางผลประโยชน์และความขัดแย้งด้านทัศนติเกี่ยวกับ AI เมื่อตอนที่ Hinton ให้สัมภาษณ์กับ The New York Times เขาได้รับคำถามที่มีการกล่าวอ้างว่าสาเหตุที่เขาลาออกจาก...

Other News

ระบบจดจำใบหน้าคาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่องในฐานะอุตสาหกรรมภายในทศวรรษหน้า ซึ่งคาดว่าตลาดจะมีมูลค่าถึง 3.2พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 98ล้านบาท)

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก