Connect with us

Hi, what are you looking for?

Mac Corner

[Docking Station] Landing Zone อุปกรณ์เสริม ที่จะทำให้การใช้ MacBook ของคุณเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

ถ้าคุณเป็นผู้ใช้ MacBook ที่ต้องการ Docking Station ดีๆ เอาไว้ใช้งานกับ MacBook(เท่าที่เห็นที่มีสั่งใน Amazon ตอนนี้จะมีโมเดล Air 13″ กับ Retina 15″ เท่านั้นครับ) คุณต้องไม่พลาด “Landing Zone”

ถ้าคุณเป็นผู้ใช้ MacBook ที่ต้องการ Docking Station ดีๆ เอาไว้ใช้งานกับ MacBook(เท่าที่เห็นที่มีสั่งใน Amazon ตอนนี้จะมีโมเดล Air 13″ กับ Retina 15″ เท่านั้นครับ) คุณต้องไม่พลาด “Landing Zone” อุปกรณ์เสริมรูปแบบ Docking Station จาก LandingZone

ที่จะเปลี่ยนแนวคิดและวิธีการใช้พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน MacBook(รุ่นที่รองรับ) จากเดิมอย่างที่คุณไม่เคยรู้สึกมาก่อนและแน่นอนว่ามันจะต้องคุ้มค่าคุ้มราคา(มากกว่า Docking station ของ Apple) เป็นอย่างที่สุดครับ

Advertisement

Landing Zone docking 600 01

“Landing Zone” นั้นจะเปลี่ยนแนวคิดของ Docking station ที่โดยปกติทั่วไปแล้วจะใช้สายเชื่อมต่อแล้วนำออกมาวางไว้ข้างๆ เครื่อง MacBook อีกทอดหนึ่งซึ่งในจุดนี้นั้นอาจจะทำให้ผู้ใช้ที่ไม่ค่อยมีพื้นที่บนโต๊ะทำงานต้องจัดโต๊ะเพื่อให้มีที่เพียงพอสำหรับวาง Docking station กันหน่อย แต่สำหรับ “Landing Zone” นั้นจะใช้วิธีการวางอยู่ทางด้านล่างเป็นฐานของเครื่อง MacBook โดยตรงทำให้คุณไม่จำเป็นจะต้องเสียพื้นที่ในการวางอุปกรณ์อื่นๆ ที่สำคัญ “Landing Zone” นั้นยังมาพร้อมกับตัวเลือกสีที่เข้ากันกับ MacBook ของคุณด้วยครับ

“Landing Zone” นั้นจะมีวางจำหน่ายด้วยกัน 4 รุ่นได้แก่ Dock และ Dock Express สำหรับผู้ใช้ MacBook Pro with Retina display กับ Dock 2.0 และ Dock 2.0 Lite สำหรับผู้ใช้ MacBook Air ซึ่งน่าเสียดายเป็นอย่างยิ่งที่ไม่มีรุ่นที่รองรับ 12″ MacBook 2015 แต่แค่นี้ก็ถือว่ารองรับ MacBook เกือบจะถึงหมดแล้ว โดยทาง TECHInsider ได้เลือกเอารุ่น Dock 2.0 มาลองใช้งานกับ 13″ MacBook Air ซึ่งจากการเชื่อมต่อผ่านพอร์ท Thunderbolt นั้นตัว Dock 2.0 จะขยายเพิ่มพอร์ทต่างๆ ต่อไปนี้ให้คุณครับ

  • USB 3.0 จำนวน 3 พอร์ท
  • Ethernet port
  • Kensington lock port

Landing Zone docking 600 02

การประกอบ “Landing Zone” เข้ากับ MacBook นั้นเรียกว่าง่ายมากครับ แค่คุณวางลงไปบนช่องแล้วทำการสไลด์เครื่องให้เข้าจุดแล้วก็ทำการล๊อคฐานของ “Landing Zone” เท่านั้นก็สามารถที่จะใช้งาน “Landing Zone” Docking station ได้แล้ว “Landing Zone” นั้นจะครอบ MacBook ไว้ทั้งหมดแต่ก็ไม่ต้องกังวลนะครับว่าคุณจะใช้งานพอร์ทอื่นๆ ที่อยู่บน MacBook ไม่ได้เนื่องจากว่า “Landing Zone” นั้นจะมีช่องว่างเหลือไว้สำหรับพอร์ทบนเครื่อง MacBook ทำให้คุณสามารถที่จะใช้พอร์ทนั้นๆ ได้ตามปกติ(แต่ก็ต้องซื้อ “Landing Zone” มาใช้งานให้ถูกรุ่นนะครับมันใช้ข้ามรุ่นกันไม่ได้ครับ)

อย่างที่บอกครับว่าจุดเด่นของ “Landing Zone” นั้นคือเวลาที่คุณใช้มันจะเปรียบเสมือนกับว่าคุณไม่ได้ใช้ ความหมายในที่นี้ก็คือมันไม่มีสายเชื่อมต่อออกมาภายนอกยาวๆ ให้เกะกะ และตัว “Landing Zone” นั้นก็ลงล๊อคกับ MacBook ทำให้การใช้งานของคุณสะดวกสบายๆ เวลาที่คุณจะเชื่อมต่ออุปกรณ์ผ่าน “Landing Zone” นั้นก็ทำง่ายๆ เสมือนกับว่าพอร์ทที่อยู่บน “Landing Zone” นั้นเป็นพอร์ทหนึ่งที่อยู่บน MacBook(ดูได้จากรูปประกอบทางด้านบนสุด) ซึ่งนั่นถือว่ามีประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้ใช้ MacBook ที่มีพื้นที่ในการวางเครื่องที่จำกัดครับ

Landing Zone docking 600 03

การใช้งาน “Landing Zone” นั้นถือว่าง่ายและแตกต่างไปจาก Docking Station อื่นๆ ของ MacBook อย่างเช่น OWC’s Thunderbolt dock หรือ Apple Dock เป็นต้นครับ ที่สำคัญราคาของ “Landing Zone” นั้นก็ไม่ได้แพงมากเท่าไรนักอย่าง Landing Zone Dock 2.0 ที่จำหน่ายผ่านทาง Amazon นั้นก็อยู่ที่ $159 หรือประมาณ 5,730 บาทเท่านั้น ข้อเสียอย่างใหญ่หลวงเลยก็คือเท่าๆ ที่ดูในเว็บขายของนั้นพบว่า “Landing Zone” นั้นมีของปลอมวางจำหน่ายอยู่ด้วย ดังนั้นแล้วชาว MacBook ท่านใดสนใจ “Landing Zone” นั้นอาจจะต้องหาดูดีๆ กันหน่อยนะครับ

หมายเหตุ – เท่าที่เดินหาในกรุงเทพนั้นไม่พบว่ามีร้านไหนนำเอา “Landing Zone” เข้ามาจำหน่ายครับ ดังนั้นแล้วหากอยากได้จริงๆ คงจะต้องออกแรงสั่งจาก Amazon แล้วใช้วิธีส่งไปที่ศูนย์รับส่งต่อซึ่งจุดนี้นั้นคุณจะต้องเสียค่าส่งต่อมาไทยอีกประมาณ $25 หรือประมาณ 900 บาทเพราะ Amazon นั้นไม่มีการส่งสินค้ามาไทยครับ

ที่มา : techinsider

Click to comment
Advertisement

บทความน่าสนใจ

Mac Corner

ถ้าใช้คอมพิวเตอร์เป็นประจำ ไม่ว่าจะ Windows หรือ MacBook ทุกคนย่อมกดคีย์ลัดสั่งการให้คอมของตัวเองทำงานได้รวดเร็วยิ่งขึ้นแน่นอน ถ้าใช้คอมมานานแล้ว คีย์ลัด Mac ก็ยังใช้วิธีกดปุ่มคำสั่ง 2-3 ปุ่มรวมกัน แค่เปลี่ยนชื่อกับภาพไอคอนปุ่มคำสั่ง (Modifier) บางปุ่มให้เป็นตามแบบฉบับของ Apple เอง คนที่ย้ายจาก Windows มาใช้ macOS ก็ใช้เวลาปรับตัวเรียนรู้คีย์ลัดสักระยะก็ใช้งานได้ถนัดอย่างแน่นอน ก่อนจะเริ่มใช้งานคีย์ลัด Mac...

How to

ในยุคนี้ใครๆ ก็ต้องมีโน๊ตบุ๊คเอาไว้ทำงานสักเครื่อง แต่จะซื้อมือหนึ่งแล้วต้องรอให้ถึงช่วงโปรโมชั่นก็ไม่ไหวหรือถึงจะลดราคาแล้วก็ยังจ่ายไม่ไหวก็มี โน๊ตบุ๊คมือสองจึงกลายเป็นทางเลือกของผู้ใช้หลายๆ คนที่ต้องการคอมสเปคดีราคาไม่แรงเอาไว้ทำงานสักเครื่อง ซึ่งช่องทางหาซื้อในปัจจุบันก็มีตั้งแต่วิธีคลาสสิคอย่างไปซื้อจากหน้าร้านคอมมือสองตามห้างไอที, ค้นหาทางเว็บไซต์เว็บบอร์ดไปจนตามหาซื้อในกลุ่ม Facebook และ Marketplace แล้วนัดเจอรับสินค้าก็ทำกันเป็นเรื่องปกติไปแล้ว ถ้าคิดว่าจะซื้อโน๊ตบุ๊คจากร้านมือสองหรือต่อจากคนอื่น นอกจากโฟกัสให้ได้ราคาที่ตั้งใจเอาไว้ก็ต้องดูสเปคให้พอดีกับงานของเราด้วย ซึ่งวิธีง่ายสุดก็ให้ดูก่อนว่าในเครื่องเป็น Windows 11 แล้วหรือยัง จะได้อัปเดตแพทช์รักษาความปลอดภัยได้เรื่อยๆ หรือถ้าสเปคน่าสนใจแต่ยังเป็น Windows 10 ก็เช็คจากตารางซีพียู AMD, Intel...

Buyer's Guide

ถ้าวิธีเลือกซื้อโน๊ตบุ๊คแบบง่ายสุด คือ เลือกสเปคให้แรง, น้ำหนักเบาแล้วราคาอยู่ในระดับพร้อมจ่ายที่สุดแล้ว ถ้าจะซื้อโน๊ตบุ๊ครุ่นไหนดีนักเรียนนักศึกษารวมไปถึงคนทำงานสายนั้นถึงจะใช้ประโยชน์ได้เต็มที่ ก็ต้องเข้าใจงานที่กลุ่มคนนั้นๆ ต้องทำเป็นประจำรวมไปถึงพฤติกรรมการทำงานด้วย ว่าวันหนึ่งต้องเจอกับอะไรบ้าง เช่น แพทย์ก็ต้องราวน์วอร์ดตรวจผู้ป่วยบ่อยๆ ก็ใช้โน๊ตบุ๊คน้ำหนักเบา ยิ่งถอดจอได้ มีสไตลัสก็ดี, นักบัญชีและนักศึกษาในคณะดังกล่าวต้องอยู่กับตัวเลข รบกับไฟล์ Microsoft Excel กับโปรแกรมบัญชีเป็นประจำ ก็ต้องมี Numpad ไว้กรอกตัวเลขถึงจะทำงานง่ายขึ้น ฯลฯ ดังนั้นจะเลือกโน๊ตบุ๊คใหม่ในปี 2024...

Buyer's Guide

สายชาร์จไอโฟนยุคนี้ มีเงินร้อยบาทนิดๆ ก็ซื้อมาต่อชาร์จได้แล้วนะ! เจ้าของไอโฟนย่อมมีสายชาร์จไอโฟนมากกว่าหนึ่งเส้นแน่นอน อย่างน้อยต้องมีติดโต๊ะที่บ้านและออฟฟิศอย่างละเส้นเป็นอย่างน้อยและอาจจะมีติดกระเป๋าคู๋กับพาวเวอร์แบงค์หรือต่อทิ้งเอาไว้กับรถยนต์เผื่อชาร์จเวลาขับรถไปไหนมาไหนจะได้ชาร์จมือถือไปดูแผนที่ไปได้ แถมยุคนี้สายชาร์จจากแบรนด์อื่นๆ ก็มีลูกเล่นร้อยแปด ไม่ว่าจะมีหัวชาร์จหลายแบบในตัว, มีหน้าจอบอกกำลังชาร์จติดมาตรงหัวชาร์จและมีกำลังชาร์จตั้งแต่หลักสิบวัตต์ไปจนร้อยวัตต์ ชาร์จได้ไม่ว่าจะ iPhone หรือ iPad ก็ได้ แม้ตอนนี้ทาง Apple จะเปลี่ยนพอร์ตไอโฟนจาก Lightning มาเป็น USB-C แล้ว แต่ผู้ใช้ที่ยังใช้ไอโฟนรุ่นเก่าที่ยังไม่พร้อมอัปเกรดมาเป็น iPhone 15...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก