ในบ้านเรานั้น ณ เวลานี้ผู้ให้บริการเครือข่ายอินเตอร์เน็ตแบบใช้สาย(ISP) เริ่มที่จะปรับความเร็วและราคาลงมาต่อสู้กันจนทำให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถที่จะเข้าถึงข้อมูลในระดับความเร็วสูงกันได้อย่างกว้างขวางแล้วครับ เทคโนโลยีการโอนถ่ายข้อมูลที่ได้รับการยอมรับกันในปัจจุบันว่าเร็วที่สุดในการใช้งานนั้นคงหนีไม่พ้นการโอนถ่ายข้อมูลด้วยสาย Fiber Obtic และดูเหมือนว่านักวิจัยในหลายๆ มหาวิทยาลัยยังคงที่จะทำการพัฒนาเทคโนโลยีการโอนถ่ายข้อมูลผ่านสาย Fiber Obtic นี้ให้มีความเร็วสูงขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งล่าสุดเมื่อไม่นานมานี้สถิติใหม่ของการโอนถ่ายข้อมูลผ่านสาย Fiber Obtic ก็ได้ตกเป็นของขณะวิจัยจาก University of Illinois ครับ
งานวิจัยดังกล่าวเป็นของนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา 2 รายได้แก่ Curtis Wang และ Michael Liu ภายใต้การกำกับดูแลของศาสตร์จาร์ย Milton Feng(จากรูปทางด้านบนที่แสดงระบบของพวกเขาโดยรายชื่อของนักวิจัยเรียงลำดับจากซ้ายไปขวา) ซึ่งได้พัฒนาเทคโนโลยีที่มีชื่อว่า oxide-VCSEL ขึ้นมาใช้ในการหนุนการโอนถ่ายข้อมูลผ่านระบบ fiber obtic อีกทีหนึ่งครับ สิ่งที่ทางศาสตร์จาร์ย Feng ทำนั้นเป็นการตอบคำถามสั้นๆ ครับว่าจะทำอย่างไรให้การโอนถ่ายข้อมูลในปัจจุบันนั้นเร็วมากขึ้นเพื่อให้รองรับกับขนาดของข้อมูลที่ใหญ่ขึ้น ซึ่งคำตอบของพวกเขาก็คือเทคโนโลยี VCSEL ซึ่งพวกเขาได้ทำการพัฒนามาตั้งแต่ในปี 2014 และสามารถที่จะทำสถิติความเร็วในการโอนถ่ายข้อมูลมาได้เรื่อยๆ ดังต่อไปนี้ครับ
- ในปี 2014 ระบบของพวกเขาสามารถที่จะโอนถ่ายข้อมูลได้ที่ความเร็ว 40 Gb/s หรือ 5 GB/s โดยงานวิจัยของพวกเขานั้นยังถือว่าเป็นงานวิจัยแรกในสหรัฐอเมริกาที่สามารถทำการโอนถ่ายข้อมูลที่ความเร็วสูงโดยไม่มีความผิดพลาดในการโอนถ่ายข้อมูลเกิดขึ้นเลยสักครั้งเดียวครับ
- ในปี 2016 เมื่อมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องระบบของพวกเขาสามารถที่จะโอนถ่ายข้อมูลได้ที่ความเร็ว 57 Gb/s หรือ 7.125 GB/s และยังคงความสามารถในการโอนถ่ายข้อมูลได้โดยที่ไม่เกิดข้อผิดพลาดเลยแม้แต่ครั้งเดียวในอุณหภูมิห้องปกติ
- ในปี 2016 เช่นเดียวกันเพื่อเป็นการพัฒนาระบบให้มีความเสถียรภาพมากขึ้นทางทีมวิจัยได้ทำการทดสอบระบบในการโอนถ่ายข้อมูลที่อุณหภูมิสูงกว่าระดับห้องและพบว่าระบบของพวกเขานั้นสามารถที่จะโอนถ่ายข้อมูลได้ที่ความเร็ว 50 Gb/s หรือ 6.25 GB/s ที่อุณหภูมิ 85 องศาเซลเซียสโดยที่ไม่เกิดข้อผิดพลาด
สิ่งที่ทางทีมวิจัยของศาสตร์จาร์ย Fang ได้ส่งมอบต่อความรู้ให้กับโลกเพื่อพัฒนาต่อไปก็คือเรื่องของการโอนถ่ายข้อมูลที่ความเร็วสูงภายใต้อุณหภูมิไม่ปกตินี่แหละครับ เป็นที่ทราบกันดีครับว่าในการประมวลผลของเครื่องคอมพิวเตอร์รวมไปถึงอุปกรณ์ที่ใช้ในการโอนถ่ายข้อมูลนั้นเมื่อใช้งานไปสักพักจะเกิดความร้อนขึ้นอย่างต่อเนื่องซึ่งนั่นจะทำให้ประสิทธิภาพความเร็วของการโอนถ่ายข้อมูลลดลงไปจากเดิม แถมยังสามารถทำให้เกิดข้อผิดพลาดขึ้นในการโอนถ่ายข้อมูลได้ด้วย
ด้วยสาเหตุดังกล่าวเราจึงได้เห็นกันอยู่บ่อยครั้งว่าใน Data Center มักจะมีการกำหนดอุณหภูมิให้ต่ำเอาไว้ก่อน แต่จากงานวิจัยของทีมศาสตร์จารย์ Fang นี้ได้พิสูจน์แล้วครับว่าเราสามารถที่จะทำการโอนถ่ายข้อมูลที่ความเร็วสูงในขณะที่อุณหภูมิมากได้ ผลลัพธ์ของมันก็คือหากมีการนำเทคโนโลยีของทีมวิจัยนี้ไปพัฒนาเพื่อใช้งานกันต่อไปเราก็ไม่จำเป็นที่จะต้องติดตั้งเครื่องปรับอากาศเพื่อทำให้อุณหภูมิของ Data Center ต่ำอยู่ตลอดเวลาอีกต่อไปครับ ที่สำคัญแล้วทางศาสตร์จารย์ Fang ยังบอกอีกด้วยครับว่าเทคโนโลยีดังกล่าวนี้ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้งานเฉพาะใน Data Center เท่านั้นแต่มันยังสามารถปรับไปใช้ในด้านอื่นอย่าง airborne และ lightweight communications ได้อีกด้วยเนื่องจากว่าสาย fiber obtic นั้นมีน้ำหนักเบากว่าสายทองแดงเยอะครับ
ที่มา : news.illinois.edu