Rainbow Six: Siege ได้ฤกษ์งามยามดีวางจำหน่ายไปเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมาโดยในภาคนี้ทาง Ubisoft ได้คุยไว้ว่าจะเป็นเกมแอ็คชั่นที่เน้นวางแผนกลยุทธ์มากกว่าการเดินหน้ายิงแหลกกันอย่างเดียวและมันก็สมกับที่ว่าเมื่อได้ทดลองเล่นไปแล้วสักพักก็พบว่า Rainbow Six: Siege เป็นเกมแอ็คชั่น FPS ที่มีดีมากกว่าการเดินหน้ายิงอย่างเดียวเสียอีก
ใน Rainbow Six: Siege ก็จะมีโหลดการเล่นหลักคือ Multiplayer ซึ่งก็จะขอรีวิวในส่วนนี้อย่างเดียวเพราะเหมือนเป็นหัวใจหลักของเกมนี้ด้วย เมื่อเริ่มเกมผู้เล่นก็จะถูกแบ่งเป็น 2 ทีมทีมละ 5 คนโดยจะมีทีมหนึ่งต้องทำหน้าที่บุกเข้าไปและอีกทีมจะเป็นทีมตั้งรับ มีภารกิจที่แตกต่างกันไปตามแต่ละด่านเช่นกู้ระเบิด , ช่วยตัวประกัน เป็นต้น มีหน่วยรบพิเศษจากทั่วโลกให้เลือกได้แก่ SAS , GIGN , GSG 9 , SWAT และ SPETSNAZ นอกจากนี้อุปกรณ์ของทั้งสองฝั่งก็จะแตกต่างกันด้วยโดยที่ทีมบุกจะมีเครื่องมือเน้นการสอดแนมอย่าง โดรนหรือรถบังคับที่มีกล้องติดตาม , โล่กันกระสุน ส่วนทีมที่ตั้งรับก็จะมีอุปกรณ์ที่เน้นป้องกันอย่างเช่น แบริเออร์เหล็ก , ลวดหนาม และ กับดัก อีกทั้งสมาชิกในหน่วยก็จะมีความสามารถพิเศษแตกต่างกันไปอีกก็ช่วยเพิ่มความสนุกขึ้นมาไม่ซ้ำซากจำเจ
เมื่อได้เล่นไปสักพักหนึ่งก็เริ่มเห็นสิ่งที่แตกต่างจากเกมคู่แข่งอย่าง Call of Duty หรือ CS:GO ตรงที่บรรยากาศความสมจริงที่สร้างความตึงเครียดได้ดีมากรู้สึกได้เลยว่าสถานที่ที่เราอยู่ไม่มีความปลอดภัยทั้งที่เป็นฝ่ายตั้งรับพร้อมกับดักแน่นหนาและมันจะกดดันมากถ้าหากเราเป็นผู้เล่นคนสุดท้ายของทีมและกำลังโดนไล่ล่าจากอีกฝ่ายอย่างในคลิปวีดีโอด้านล่างนี้ครับ
อีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้รู้สึกกดดันก็คือสิ่งก่อสร้างอย่างกำแพงบ้านสามารถทำลายได้ฉะนั้นเราจึงไม่สามารถรู้เลยว่าอีกฝ่ายจะบุกมาทางไหนไม่แน่ว่าอาจจะใช้ระเบิดถล่มกำแพงข้าง ๆ เราพร้อมกับเปิดฉากยิงก็เป็นได้
Rainbow Six: Siege ก็ยังมอบความรู้สึกแปลกใหม่อีกอย่างคือเส้นทางการเข้าปะทะซึ่งมีหลายเส้นทางมากบวกกับการเข้าปะทะแต่ละครั้งที่จะเน้น 1-1 หรือการปะทะกันตัวต่อตัวโดยไม่มีมือที่สามมายุ่งเกี่ยวและด้วยเส้นทางการบุกตีที่มีเยอะก็ทำให้ทั้งสองฝ่ายต้องวางแผนกันให้ดี ๆ ว่าควรจะเข้าตี/ตั้งรับที่จุดไหนบ้างหรือจะให้พูดอีกอย่างก็คือมันให้ความรู้สึกเหมือนเรากำลังวางแผนยุทธการก่อนปฏิบัติการของหน่วยรบพิเศษจริง ๆ แถมยังต้องใช้ความไว้วางใจในตัวเพื่อนร่วมทีมอีกด้วย
จุดเด่นอีกอย่างของเกมนี้ก็น่าจะเป็นบรรดาอุปกรณ์เสริมทั้งหลายที่ผู้เล่นสามารถนำไปพลิกแพลงได้หลายสถานการณ์ซึ่งในคลิปด้านล่างที่ตอนนี้เป็นฝ่ายตั้งรับก็จะเป็นการใช้กำแพงแบริเออร์ให้เป็นประโยชน์ด้วยการยิงให้เกิดช่องโหว่เพื่อให้เห็นทางข้างหน้าและเป็นบังเกอร์ขนาดย่อม ๆ หรือจะทำลายประตูของเดิมเพื่อติดตั้งกำแพงเหล็กก็ยังได้
ส่วนทางด้านทีมบุกก็ไม่น้อยหน้าเช่นกันครับเพราะฝั่งที่บุกก็มีอุปกรณ์จำพวกโดรนที่สามารถล้วงข้อมูลจุดการตั้งรับของฝ่ายป้องกันได้อีกทั้งยังมีอาวุธที่ไม่น่าอภิรมณ์อย่างโล่กันกระสุนที่สร้างความรำคาญให้กับทีมป้องกันอย่างมากครับ
อย่างไรก็ตามถึงภายในเกมจะมีอุปกรณ์ที่หลากหลายหรือความสามารถพิเศษของหน่วยรบแต่ละคนจะไม่เหมือนกันก็ตามแต่สิ่งที่ Ubisoft สามารถทำได้ก็คือ “ความสมดุล” เพราะภายใน Rainbow Six: Siege จะเน้นหนักในเรื่องการวางแผนของเพื่อนร่วมทีมมากกว่าอาวุธหรืออุปกรณ์เสริมเพราะต่อให้ฝั่งตรงข้ามจะมีโล่ไร้เทียมทานแต่ถ้าหากใช้ไม่ดีหรือผิดจังหวะก็จะถูกอีกฝั่งจัดการด้วยการเดินอ้อมหรือล่อให้มาโดนกับดัก ซึ่งก็แสดงให้เห็นว่า Teamwork สำคัญที่สุด
รวมแล้ว Rainbow Six: Siege เป็นอีกหนึ่งเกมที่น่าเล่นมาก ๆ และมันจะสนุกมากขึ้นถ้าหากเล่นด้วยกันกับเพื่อนและมีการสื่อสารกันบ่อย ๆ และคาดว่าการที่มีเกมนี้ขึ้นถือกำเนิดขึ้นก็จะช่วยเกมเมอร์หลาย ๆ คนใส่ใจในเรื่องการวางแผนและความเป็น Teamwork มากขึ้น ด้านเกมเพลย์ที่มันส์สมจริงสมจังสร้างบรรยากาศชวนเครียดและกดดันสุด ๆ ถ้าหากใครที่แสวงหาเกมแอ็คชั่นวางแผนกลยุทธ์ดี ๆ สักเกมแล้ว Rainbow Six: Siege เป็นตัวเลือกแรกและตัวเลือกเดียวที่ดีที่สุดในช่วงเวลานี้ครับ
ที่มา : Kotaku