
ประเด็นตลับเกมของ Switch 2 ที่ยังเป็นปัญหา
แม้ Nintendo Switch 2 จะได้รับความสนใจอย่างมากในด้านตัวเครื่องและแนวทางของแพลตฟอร์ม แต่หนึ่งในประเด็นที่ถูกพูดถึงไม่แพ้กัน คือเรื่องการจัดการสื่อเกมแบบ Physical
ผู้เล่นจำนวนมากพบว่า เกมหลายเกมวางขายมาในรูปแบบกล่องจริง แต่ภายในกลับเป็นเพียงโค้ดสำหรับดาวน์โหลดเกม ขณะที่บางเกมก็ไม่มีเวอร์ชันตลับให้เลือกตั้งแต่แรก สิ่งนี้ทำให้ผู้เล่นสายสะสมหรือคนที่ยังให้คุณค่ากับเกมแบบจับต้องได้รู้สึกผิดหวังไม่น้อย
ตัวเลือกตลับเกมในปัจจุบัน ยังไม่ตอบโจทย์นัก
หากดูจากตัวเลือกที่ Nintendo มีอยู่ในตอนนี้ การวางขายเกมแบบ Physical สำหรับ Switch 2 มีทางเลือกหลักอยู่เพียงสองแบบ
แบบแรกคือ Game Card ความจุ 64GB ซึ่งมีต้นทุนการผลิตสูง และยังถูกจำกัดความเร็วอินเทอร์เฟซไว้ที่ประมาณ 400MB/s ส่งผลให้หลายค่าย โดยเฉพาะค่ายอินดี้ มองว่าต้นทุนไม่คุ้มค่าในการวางขายแบบตลับ
อีกแบบคือ Game-Key Card ที่แม้จะดูเหมือนเป็นตลับเกม แต่ภายในไม่มีข้อมูลเกม ผู้เล่นยังต้องดาวน์โหลดเกมทั้งหมดจาก Nintendo eShop อยู่ดี ในทางปฏิบัติ รูปแบบนี้แทบไม่ต่างจากการซื้อเกมดิจิทัล
สัญญาณตลับความจุเล็ก เริ่มมาจากค่ายเกมอินดี้
ก่อนหน้านี้ Inin Games ผู้จัดจำหน่ายเกม R-Type Dimensions III เคยระบุว่า เกมของพวกเขาจะสามารถวางขายแบบ Physical ได้ เนื่องจาก Nintendo เริ่มเปิดให้ใช้ตลับเกมที่มีความจุน้อยลง
อย่างไรก็ตาม ข้อความดังกล่าวถูกแก้ไขในเวลาต่อมา เหลือเพียงการระบุว่า ราคาจำหน่ายจะเพิ่มขึ้น 10 ยูโร จากต้นทุนการผลิตตลับเกม ซึ่งคิดเป็นเงินไทยราว 390 – 400 บาท ตามอัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบัน
ต่อมา Inin Games ได้ออกมาชี้แจงเพิ่มเติมว่า ข้อมูลก่อนหน้านี้อาจเปิดเผยรายละเอียดมากเกินไป และย้ำว่าข้อมูลเกี่ยวกับสเปกตลับเกมยังไม่ได้รับการยืนยันจาก Nintendo อย่างเป็นทางการ
16GB และ 32GB ทางเลือกที่ถูกคาดหมายมากที่สุด
แม้ Nintendo จะยังไม่ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการ แต่แหล่งข่าวในอุตสาหกรรมคาดว่า ตลับเกมรุ่นใหม่สำหรับ Switch 2 น่าจะเป็นตลับความจุ 16GB หรือ 32GB ซึ่งเป็นการลดขนาดลงจากตลับ 64GB ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน
หากเกิดขึ้นจริง จะช่วยให้ค่ายเกม โดยเฉพาะค่ายขนาดเล็ก สามารถกลับมาพิจารณาการวางขายแบบ Physical ได้ง่ายขึ้น ขณะเดียวกัน ผู้เล่นก็จะมีตัวเลือกมากกว่าการซื้อเกมแบบโค้ดหรือดิจิทัลเพียงอย่างเดียว
ปัญหาใหญ่ยังคงอยู่ วิกฤต NAND จากอุตสาหกรรม AI
อย่างไรก็ตาม แนวคิดเรื่องตลับความจุเล็กอาจไม่ได้ช่วยลดต้นทุนได้มากอย่างที่หลายคนหวัง
Nintendeal แหล่งข่าววงในที่ติดตามความเคลื่อนไหวของ Nintendo เปิดเผยว่า ตลับเกมความจุเล็กกำลังอยู่ในกระบวนการผลิตจริง แต่มีแนวโน้มเผชิญปัญหาความล่าช้า และไม่ได้มีต้นทุนที่ถูกลงอย่างมีนัยสำคัญ
สาเหตุหลักมาจากความต้องการชิป NAND ที่พุ่งสูงจากตลาด AI และ data center ทำให้ผู้ผลิตชิปให้ความสำคัญกับตลาดองค์กรก่อนสินค้าผู้บริโภคทั่วไป
microSD Express สำหรับ Switch 2 ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน
แม้ Switch 2 จะรองรับ microSD Express สำหรับขยายพื้นที่เก็บข้อมูล แต่การ์ดประเภทนี้เองก็เผชิญกับปัญหาดีมานด์ล้นตลาด มีรายงานว่าร้านค้าหลายแห่งในญี่ปุ่นประสบปัญหาสินค้าหมดอย่างต่อเนื่อง และราคาปรับตัวสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมา
อย่างน้อยสื่อเกมแบบตลับยังไม่หายไป
แม้สถานการณ์โดยรวมจะไม่เอื้ออำนวยนัก แต่ก็ยังมีสัญญาณบวกอยู่บ้าง นั่นคือ Nintendo ยังไม่ละทิ้งการวางขายเกมแบบตลับสำหรับ Switch 2
ในยุคที่ทุกอย่างถูกผลักเข้าสู่ดิจิทัล การได้ถือครองเกมในรูปแบบ Physical ยังคงมีคุณค่า โดยเฉพาะสำหรับผู้เล่นที่ให้ความสำคัญกับการสะสมและความเป็นเจ้าของอย่างแท้จริง
ที่มา: tomshardware





