ในงาน QuakeCon 2015 ที่นอกจากจะมีการเปิดเผยข้อมูลเกมแล้วก็ยังเปิดให้ผู้ชมในงานเข้าร่วมทดสอบเกมต่าง ๆ ในแต่ละบูธได้อีกด้วย ซึ่งคุณ Nathan Grayson แห่งเว็บไซต์ Kotaku ก็ได้รับเชิญให้ไปร่วมทดสอบเกมในครั้งนี้เช่นกันและเกมที่เขาได้ทดสอบก็ไม่ใช่อื่นใดนั่นก็คือ DOOM 4 ที่เป็นเกมระดับตำนานได้กลับมาอีกครั้งและเรียกเฮกันอย่างล้นหลามในงาน E3 2015 ที่ผ่านมาและคุณ Grayson ได้สัมผัสมันมาแล้วพร้อมกับสรุปความรู้สึกที่ได้รับเป็นจำนวน 10 ข้อด้วยกัน
ในการทดสอบครั้งนี้คุณ Grayson จะได้เล่นในโหมด Multiplayer แบบ Death Match ร่วมกับผู้ทดสอบคนอื่น ๆ ครับ
1.สดใหม่ไม่จำเจ
ประเดิมกันในโหมด Multiplayer ซึ่งโหมดนี้เป็นโหมดที่ถูกเปิดเผยให้เล่นเป็นครั้งแรกในงานด้วยและสิ่งที่คุณ Grayson ได้รับนั้นบอกว่าเป็นความสดใหม่ที่ไม่เคยเจอมาก่อนด้วยการเล่นแบบ 6 vs 6 Death Match ที่มอบความมันส์ถึงใจไม่ซ้ำกับเกมอื่น ๆ
2.การกระโดดที่รวดเร็วกว่าเดิม
การกระโดดใน DOOM 4 นั้นตอบสนองได้รวดเร็วกว่าภาคที่แล้วมาไม่ว่าจะเป็นการข้ามสิ่งกีดขวางหรือโดดข้ามหลุมรวมถึงการปะทะกับคู่ต่อสู้ที่ทำให้การเข้าปะทะทำได้เร็วไม่อืดอาดยืดยาดอีกต่อไปและในภาคนี้สามารถกระโดดได้ 2 ชั้นครับ
3.แท่นกระโดดมาแล้ว
อีกหนึ่งสิ่งที่หลาย ๆ คนโหยหาและมันก็ได้มาแล้วใน DOOM 4 นั่นคือแท่นกระโดดซึ่งจะมีพื้นที่จุดหนึ่งจะสามารถทำให้ผู้เล่นกระโดดได้สูงขึ้นและในโหมด Multiplayer นี้การหลบหลีกด้วยการกระโดดก็เป็นสิ่งสำคัญเป็นอย่างยิ่ง
4.กล่องยาก็มีให้เก็บเช่นกัน
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สาวกเรียกร้องให้นำมันกลับมา แน่นอนว่าใน DOOM 4 จะมีกล่องยาให้เก็บตามพื้นเหมือนในภาคแรกแล้วครับ
5.Static Cannon ปืนใหม่ไฉไลกว่าเดิม
ในเมื่อเป็นเกมภาคใหม่ก็ต้องมีปืนใหม่ให้เล่นกันซึ่งมีนามว่า Static Cannon ที่เป็นปืนยิงลำแสงแถมมีลูกเล่นพิเศษคือตัวปืนจะต้องชาร์ตพลังงานซึ่งทำได้โดยวิ่งหรือเคลื่อนที่ตลอดเวลาปืนถึงจะชาร์ตพลังได้และปืนกระบอกก็น่าจะเหมาะกับผู้เล่นที่ชอบความแรงแบบครั้งเดียวจอดไม่ต้องแจวแต่ว่าข้อเสียของมันก็คือการยิงแต่ละครั้งค่อนข้างช้าและต้องห้ามอยู่กับที่ด้วยไม่เช่นนั้นปืนจะยิงไม่ออก
6.จำนวนปืนที่ถือค่อนข้างจำกัด
ใน DOOM 4 จำนวนปืนของผู้เล่นที่ถือได้คือ 2 กระบอกและอีก 1 อุปกรณ์เสริม (ระเบิด หรือ เครื่องเทเลพอร์ท) ในจุดนี้คุณ Grayson เห็นว่ามันค่อนข้างน้อยและเหมือนถูกจำกัดการใช้งานและแผนกลยุทธ์
7.เป็นอสูรกายก็ยังได้
ในโหมด Multiplayer ก็ยังได้แฝงฟีเจอร์ย่อยเข้าไปอีกด้วยการที่มีหนึ่งในผู้เล่นจะเป็นปีศาจจากนรกและจะต้องมีหน้าที่สังหารผู้เล่นคนอื่นให้หมดโดยการยิงจรวดมิสไซส์ที่ตรงไหล่ซึ่งระบบนี้ได้สร้างสนุกสนานให้แก่ผู้เล่นได้เป็นอย่างดีเพราะการที่ได้สวมบทเป็นปีศาจร้ายพร้อมอาวุธครบมือมันคงจะมันส์กว่าการเป็นมนุษย์ธรรมดา ๆ แน่นอน
8.ระบบต่อสู้ระยะประชิดโหมด Multiplayer ที่ยังไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่
ส่วนนี้ก็เป็นระบบที่ใหม่สำหรับ DOOM และในเกมเพลย์งาน E3 2015 ที่ได้มีการสาธิตไปก็มีเสียงตอบรับที่ดีแต่เมื่อได้มาลองของจริงในโหมด Multiplayer ก็พบว่าการปะทะแต่ละครั้งมีความความรุนแรงมากเช่นหักกระดูก , ควักหัวใจ หรือ หักคอ แต่ความรู้สึกที่ได้รับนั้นคุณ Grayson บอกว่า ไม่ค่อยสะใจเท่าไหร่นักอาจเป็นเพราะเหยื่อเป็นมนุษย์ด้วยกันก็เป็นได้แต่ถ้าหากเหยื่อเคราะห์ร้ายเป็นพวกปีศาจแล้วล่ะก็ถือว่าใช้ได้เลยทีเดียว
9.โทนสีในเกมที่ไม่เหมือนเดิม
ถึงแม้ DOOM 4 จะนำความดั้งเดิมจากภาคก่อนกลับมาเยอะมากแต่สิ่งที่ไม่เหมือนเดิมเลยคือโทนสีของเกมทั้งตัวปีศาจหรือสภาพแวดล้อมโดยจะมีโทนสีซีดกว่าภาคแรกที่มีสีสด ในส่วนนี้ก็ขึ้นอยู่กับรสนิยมของผู้เล่นแล้วว่าชอบกันแบบไหน
10.ชอบนะแต่ยังไม่ถึงขั้นรักหรอก
สุดท้ายนี้จากที่คุณ Grayson ได้เล่นได้สัมผัสมานั้นถือว่าการกลับมาของ DOOM 4 เป็นอะไรที่ตื่นตาแต่ยังไม่ตื่นใจจนถึงต้องร้อง “ว้าว” นักถึงแม้จะมีหลาย ๆ อย่างกลับมาแต่ดูเหมือนว่ายังห่างไกลจากภาคแรกดั้งเดิมอยู่บ้างแต่อย่างไรก็ตาม DOOM 4 เป็นเกมที่มอบความสนุกความบันเทิงให้แก่ผู้เล่นได้อย่างดีเยี่ยมครับ
และส่งท้ายด้วยการย้ำกันอีกรอบในส่วนของเกม DOOM 4 นั้นจะวางจำหน่ายในต้นปี 2016 บน PlayStation 4 , Xbox One และ PC ครับ
ที่มา : Kotaku