เกมแนวผจญภัยตะลุยด่านถือว่าเป็นแนวเกมที่ได้รับความนิยมมากๆอีกแนวหนึ่งเพราะมันมีความหลากหลายในการเล่นไม่ว่าจะต้องพบเจอมอนสเตอร์รูปแบบต่างๆ , กลไกกับดับหรือปริศนาที่ทำให้ผู้เล่นต้องปวดหัวและบอสใหญ่สุดท้าทายที่รอคอยให้ผู้เล่นมาโค่นล้ม ซึ่งแนวเกมนี้ก็ได้รับความนิยมมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และในวันนี้ทางเว็บไซต์ IGN ได้เชิญนักพัฒนาเกมและผู้ก่อตั้งเกมแนว Adventure ผจญภัยทั้ง 15 ท่านมาพูดคุยสอบถามพวกเค้ากันว่ามีทัศนคติอย่างไรกับเกมทั้งในอดีต ปัจจุบันและอนาคต
ในส่วนแขกรับเชิญทั้ง 15 ท่านต่างก็มีชื่อเสียงโด่งดังกันไปแต่ละทางแทบจะเรียกได้ว่าเป็นกลุ่มอัศวินโต๊ะกลมแห่งวงการเกมเลยทีเดียว โดยมีรายชื่อดังนี้ครับ
Larry Ahern
หนึ่งในทีมพัฒนาเกม Monkey Island 2 , Day of the Tentacle , Sam & Max Hit the Road และเข้าร่วมกับบริษัท LucasArts ตอนนี้เขาดำรงตำแหน่ง C0-Designer ให้กับเกม Monkey Island
Charles Cecil
นักพัฒนาเกมชาวอังกฤษที่คร่ำหวอดวงการนี้มานานตั้งแต่ยุค 80’s เป็นผู้ก่อตั้งบริษัท Revolution Software และเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเพลงประกอบเกม Steel Sky (1994) และ Broken Sword: The Shadow of the Templars (1996)
Noah Falstein
ทำงานในฝ่ายออกแบบใน Lucasfilm Games ที่มีผลงานอันโด่งดังเช่น Indiana Jones และ the Last Crusade (1989) อีกทั้งยังเคยร่วมงานกับผู้กำกับหนังชื่อดังอย่าง Steven Spielberg ด้วย
David Fox
ผู้สร้างเกม Zak McKracken and the Alien Mindbenders (1988) และได้เข้าร่วมกับ LucasArt ในตำหน่ง Project Leader ให้กับเกม Labyrinth: The Computer Game (1986)
Dave Gilbert
นักออกแบบและผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของซีรี่ย์เกม Blackwell
Ron Gilbert
เป็นผู้สร้างร่วมของเกม Maniac Mansion (1987) อีกทั้งเขายังเป็นผู้สร้างและออกแบบเกม The Secret of Monkey Island (1990) อีกด้วย
Dave Grossman
นักออกแบบและมือเขียนบทให้กับเกม The Secret of Monkey Island (1990) เขายังเคยทำงานร่วมกับ Tim Schafer และในเดือนพฤศจิกายนปี 2014 เขาได้เป็นส่วนหนึ่งในทีมพัฒนาเกมที่ต้องใช้เสียงควบคุม
Jane Jensen
ผู้สร้างซีรี่ย์เกม Gabriel Knight ภายใต้สังกัด Sierra และยังทำหน้าที่เขียนบท ไดอะล็อคเนื้อเรื่องให้กับเกม Police Quest III และ EcoQuest นอกจากนี้ยังมีผลงานอื่นๆเช่น Gray Matter (2010) และ Moebius: Empire Rising (2014)
Chris Jones
ผู้สร้างร่วมและนักออกแบบซีรี่ย์ Tex Murphy และเขาก็ยังเป็นนักแสดงที่รับบทเป็น Tex Murphy อีกด้วย เขาก็ยังมีส่วนร่วมกับเกม Under a Killing Moon (1994)
Al Lowe
เดิมเขาเคยเป็นอาจารย์สอนคอมพิวเตอร์ที่โรงเรียนดนตรีแต่ต่อมาเขาก็ได้เข้าร่วมกับ Sierra ได้สร้างสรรค์ผลงานอย่าง Leisure Suit Larry in The Land of the Lounge Lizards (1987) ที่เป็นเกมสำหรับผู้ใหญ่
Josh Mandel
เริ่มต้นอาชีพด้วยการเป็นนักแสดงตลกและได้เข้ามาทำงานกับ Sierra โดยมีจุดมุ่งหมายว่าจะสร้างมุกตลกขบขันให้กับเกม Freddy Pharkas: Frontier Pharmacist (1993) และ Space Quest 6: Roger Wilco in The Spinal Frontier (1995) รวมไปถึงให้เสียงพากษ์ให้กับซีรี่ย์ King’s Quest
Dan Marshall
หนึ่งในผู้พัฒนา Ben There, Dan That (2008) , Time, Gentlemen Please! (2009) และเขายังเป็นผู้ก่อตั้งสตูดิโอเกมของเขาเองอีกด้วย
Rand Miller
ผู้ก่อตั้งร่วมและควบตำแหน่ง CEO บริษัท Cyan Worlds และยังมีส่วนร่วมในการสร้างมุมมองแบบบุคคลที่หนึ่งในเกม Myst
Benoit Sokal
นักวาดการ์ตูนชาวเบลเยี่ยมที่ผันตัวเป็นนักออกแบบเกม ซึ่งมีเกมที่สร้างชื่อให้กับเขานั่นก็คือ Syberia (2002)
Gary Winnick
เข้าร่วมกับบริษัท LucasArts ในตำแหน่ง Animator เขายังได้ทำงานร่วมกับ Ron Gilbert และมีผลงานเกมในชื่อว่า Maniac Mansion
และจากนี้ก็จะเข้าสู่ช่วงสัมภาษณ์ โดยทาง IGN ก็ได้เตรียมคำถามมากมายให้ทั้ง 15 ท่านตอบกันครับ
IGN : เกมผจญภัยเกมแรกของพวกคุณคือเกมอะไร และมันให้ความรู้สึกอย่างไรบ้าง?
Rand Miller: “เกม Colossal Cave Adventure จากความทรงจำของผมคิดว่าเกมนี้มันให้ประสบการณ์สำรวจพื้นที่ต่างๆได้ดีทีเดียวและยังมีกับดักต่างๆไว้ให้แก้ไขด้วยครับ”
Al Lowe: “เป็นเกมในเครื่อง Apple II ที่มีชื่อว่า On line ซึ่งเป็นเกมผจญภัยที่เหมาะกับการเล่นสองคนมากๆ ผมจึงเล่นกับลูกๆและภรรยาอยู่บ่อยๆ มันให้ประสบการณ์ที่ดีเลยล่ะ”
Jane Jensen: “เกมแรกที่ฉันเล่นน่ะหรือ คงต้องเป็นเกม King’s Quest IV ที่มีบทสนทนาอันยาวเหยียดและคุณภาพกราฟฟิกที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนและเกมนี้ก็เป็นสาเหตุที่ฉันเข้ามาทำงานให้กับ Sierra ค่ะ”
Dave Grossman: “เกม Colossal Cave Adventure ครับเป็นเกมแรกในสมัยที่ผมยังเป็นวัยรุ่น และมันเป็นเกมที่ผมติดมากจนไม่อยากลุกออกจากเก้าอี้เลย”
Noah Falstein: “คงเป็นเกม Colossal Cave Adventure ครับแต่ผมเล่นแล้วไม่รู้สึกสนุกเลย แต่พอผมได้มาทำงานที่ Milton ผมก็มีโอกาสได้เล่นเกม Zork ซึ่งมันสนุกมากๆและผมชอบการเล่าเรื่องในเกมนะ มันเป็นความทรงจำที่ดีเลยล่ะครับ”
Larry Ahern: “เกมแรกที่ผมเล่นก็ต้องเป็นช่วงที่ผมทำงานให้กับ LucasArt นั่นแหละและมันก็คือเกม The Secret of Monkey Island ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าซ้ำว่าเกมนี้มีความสนุกยังไง”
Dan Marshall: “เรื่องแบบนี้ผมจำไม่ค่อยได้นะ แต่ดูเหมือนจะเป็นเกม Monkey Island และ Sam and Max Hit the Road ซึ่งมันก็เป็นเกมที่เยี่ยมมากๆ”
Benoit Sokal: “สำหรับเกมผจญภัยเกมแรกต้องให้เกม Myst ครับ เพราะมันเป็นเกมที่ให้ผู้เล่นสำรวจตามสถานที่ต่างๆได้กว้างขวางและปริศนาที่ยากพอสมควร”
Chris Jones: “ผมเลือกเกม Dungeons & Dragons เป็นเกมแรกที่เล่น เพราะมันมันค่อนข้างแตกต่างจากเกมอาเขตทั่วไป มันเหมือนเข้าไปอยู่ในโลกของเกมๆนั้นเลยทีเดียว”
Josh Mandel: “เกม colossal cave adventure ครับผม มันเหมือนเป็นเกมต้นตำรับของเกมแนวผจญภัยครับ”
Gary Winnick: “เกม King’s Quest และ Space Quest มันทำให้ผมทึ่งไปกับเกมเพลย์และกราฟฟิกแบบการ์ตูน มันน่าสนใจมากเลยครับ”
Ron Gilbert: “ผมเริ่มเล่นเกมแนวผจญภัยเมื่อสมัยมหาวิทยาลัย มีเพื่อนร่วมห้องชวนผมเล่นซึ่งตัวเกมจะเป็นเกมแก้ปริศนาและให้วาดรูปด้วยมันทำให้ผมหลงไหลเกมแนวนี้มากๆ”
Dave Gilbert: “เกมแรกที่ผมเล่นก็ต้องเป็นเกม Wishbringer ครับ พอได้เล่นแล้วผมรู้สึกหลงรักมันเลย ด้วยเกมเพลย์ที่ให้เราสำรวจสิ่งต่างๆและผมก็ชื่นชอบการสำรวจอะไรใหม่ๆอยู่แล้วด้วย”
David Fox: “Colossal Cave อยู่แล้ว ถึงแม้จะเป็นคำอธิบายสั้นๆในเกมผมก็ชอบที่จะดื่มด่ำกับมันและมันช่วยทำให้เราจินตนาการภาพได้ดั่งใจเราด้วย”
Charles Cecil: “Scott Adams text adventure เป็นเกมแรกที่ผมเล่นนะ และเล่นในเครื่อง TRS80 อีกด้วย”
IGN : เมื่อพวกคุณเริ่มทำงานพัฒนาเกม คุณจะพัฒนาไปในทิศทางไหนและเป้าหมายของการพัฒนาเกมตัวแรก?
David Fox: “ผมชอบความรู้สึกในการสำรวจพื้นที่และการแก้ไขปริศนา ดังนั้นเกมที่ผมออกแบบอย่าง Labyrinth จึงเน้นที่เส้นทางการเดินทางจะมีเรื่องตื่นเต้นเสมอและการได้ใช้ SCUMM scripter เป็นตัวช่วยในเกมมันก็ยิ่งเพิ่มความสนุกเข้าไปอีก”
Noah Falstein: “สิ่งที่ผมทำและรับผิดชอบหลักๆในที่ทำงานก็คือฉากคั่นระหว่างเกมหรือภาพยนตร์คัทซีนนั่นแหละ มันเป็นการนำเสนอประสบการณ์เล่นเกมให้สมจริงขึ้นอย่างเกม Indiana Jones ที่ผู้เล่นจะให้ความรู้สึกว่าตนเองเป็นนักล่าสมบัติจริงๆ”
Rand Miller: ” The Manhole เกมแรกที่พัฒนา ซึ่งผมและพี่ชายพยายามที่จะทำให้มันเป็นเกมผจญภัยสำรวจสถานที่ให้เป็นธรรมชาติที่สุด จากเกมนี้เราก็มีเป้าหมายว่าจะสร้างตัวเกมให้มีความซับซ้อนขึ้นจึงลงเอยที่เกม Myst ครับ”
Benoit Sokal: “สิ่งแรกที่ผมให้ความสำคัญนั่นคือเนื้อเรื่องหรือการดำเนินเรื่องในเกม เน้นความรู้สึกร่วมเหมือนว่าผู้เล่นไปอยู่ในโลกของเกมจริงๆ รวมไปถึงระบบกาควบคุมและกราฟฟิกก็เป็นสิ่งสำคัญเหมือนกันซึ่งผมจะพัฒนาให้แตกต่างจากเกมผจญภัยทั่วไป”
Charles Cecil: “ผมได้รับเชิญให้มาเขียนบทให้กับเกมผจญภัย Dungeons & Dragons ที่มีบทสนทนาโต้ตอบ แต่จากนั้นมันก็เป็นแรงบันดาลใจให้ผมอยากพัฒนาเกม Indiana Jones”
Josh Mandel: “ต้องเป็นเกมผจญภัยที่ผมพัฒนาในที่ทำงานอย่าง Leisure Suit Larry ผมได้ใส่มุกตลกเข้าไปในเกม ผมคิดว่ามันคงจะดีถ้าหากเรามีมุมตลกๆระหว่างเล่นเกม มันน่าจะทำให้เกมสนุกสนานขึ้น”
Al Lowe: “ผมอยากให้เกมที่พัฒนาเหมือนเป็นห้องเรียนแห่งการเรียนรู้ ซึ่งแนวเกมผจญภัยก็ดูเหมือนจะเหมาะสมกันดีที่ผู้เล่นจะได้เรียนรู้ สำรวจเส้นทางใหม่ๆหรือไอเทมต่างๆและการควบคุมก็จะทำให้มันง่ายอย่างเช่นกด Space Bar อย่างเดียว”
Ron Gilbert: “ผมชอบส่วนของการดำเนินเรื่องในเกมนะ รวมไปถึงการไขปริศนาด้วย และ King’s Quest มันก็เป็นเกมที่รวมทุกอย่างไว้ในนั้นหมดแล้วด้วย”
Gary Winnick: “สิ่งสำคัญของการพัฒนาเกมต้องทำให้เนื้อเรื่องหรือเหล่าตัวละครเคลื่อนไหวเป็นธรรมชาติจะดีที่สุดและต้องให้ผู้เล่นรู้สึกสนุกสนานไปกับมัน นั่นแหละเป้าหมายของผม”
Chris Jones: “เป้าหมายของผมตลอดเวลาที่ผ่านมาก็คือ เนื้อเรื่อง , การดำเนินเรื่อง , ตัวละคร , ภาพยนตร์คัทซีน มันเป็นตัวเชื่อมระหว่างเกมให้มีความสนุกขึ้น มันจะทำให้ผู้เล่นเหมือนเป็นตัวละครในเกมนั้นจริงๆเลยล่ะครับ”
Dave Grossman: “ต้องเป็นเกมพจญภัยที่มีเรื่องราวซับซ้อน มีบทสนทนาเยอะๆ เพราะผมก็ทำงานในส่วนนี้อยู่แล้ว”
Larry Ahern: “ตัวผมเองก็ไม่เคยได้เล่นเกมฟอร์มยักษ์อะไรมาก่อน แต่ผมคิดว่าสิ่งสำคัญก็คือ เหล่าตัวละครต่างๆที่คอยโต้ตอบกับผู้เล่น รวมไปถึงการออบแบบตัวละครต้องทำให้สวยงามด้วย”
Dave Gilbert: “เป้าหมายของผมก็ไม่มีอะไรมากมายแค่ทำตามคำสั่งที่ได้รับมาก็แค่นั้น ผมชอบการเขียนบทเนื้อเรื่อง บทสนทนา เพราะมันเป็นงานถนัดของผมนี่”
Dan Marshall: “ต้องเป็นเกมที่เล่นง่ายๆแบบใช้เม้าส์คลิกเพื่อดำเนินเรื่องเพียงอย่างเดียว ถึงมันจะดูตลกๆไปหน่อยก็เถอะ”
Jane Jensen: “เป้าหมายที่สำคัญก็คือการพัฒนาเนื้อเรื่องให้ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้น มีความหม่นหมองและมีด้านมืดในตัวมัน”
IGN : ทุกวันนี้คุณคิดเห็นอย่างไรกับเกมผจญภัยมักจะมีตัวละครที่ดูดีขึ้นรวมถึงเนื้อเรื่องด้วย คุณคิดว่าเกมที่ทำอยู่มันประสบความสำเร็จพอที่จะก้าวข้ามไปยังเกมประเภทอื่นหรือยัง?
Charles Cecil: “แน่นอนมันเจ๋งทุกประเภทเลย โดยเฉพาะแนว RPG และนี่คงเป็นสา้เหตุให้เกมยุค 90’s หมดความนิยมอย่างรวดเร็ว เกมสมัยนี้จะเน้นเรื่องราวที่ซับซ้อนและผลตอบแทนแต่ละด่านที่สูง แต่คำว่าเกมแนวผจญภัยมันตีความได้หลายอย่างนะ”
Dave Grossman: “ความสำเร็จหนึ่งเดียวของแนวเกมนี้นั่นก็คือการโต้ตอบของตัวละคร บทสนทนาต่างๆ มันยากมากที่เกมแนวอื่นจะทำได้แบบนี้”
Rand Miller: “ผมว่าแนวผจญภัยก็เหมือนกับเกมประเภทอื่นๆ และเกมสมัยนี้เน้นให้ผู้เล่นมีความรุนแรงขึ้นอีกต่างหาก”
David Fox: “ที่จริงคุณสามารถนำตัวละครพวกนี้ไปใส่ในเกมอื่นๆก็ได้นะ แต่ถ้ามันอยู่ในเกมผจญภัยมันเป็นสิ่งพิเศษที่สุดไปเลย”
Noah Falstein: “ผมคิดว่าเกมสมัยนี้อย่าง Bioshock , Mass Effect , Assassin’s Creed มันน่าสนใจมากๆ มันเป็นการแข่งขันของเกมแนวผจญภัยอย่างแท้จริงเลย”
Jane Jensen: “ส่วนตัวแล้วฉันคิดว่าแนวเกมแบบไหนมันก็ควรจะเป็นไปตามนั้นและฉันก็ไม่ชอบเกมพวกเนื้อเรื่องปัจจุบันแต่ฉันชอบเกมแนวไขปริศนา , สำรวจเส้นทางเสียมากกว่า”
Al Lowe: “ผมว่าในเกมผจญภัยเราสามารถทำอะไรก็ได้หลายอย่างนะและมันก็ไม่ง่ายเลยที่สร้างเกมๆหนึ่งขึ้นมา อีกทั้งผู้เล่นส่วนใหญ่ก็สนใจพวกระบบการควบคุมและกราฟฟิกมากกว่าเนื้อเรื่องอีกต่างหาก”
Dan Marshall: “เหมือนว่าผู้เล่นในยุคนี้จะรู้ทันนักพัฒนาไปหมดทุกอย่าง แต่ระวังไว้พวกเขาอาจจะหลอกคุณแต่ผมคิดว่าเกม Playing Day Of The Tentacle มันให้อะไรมากกว่าเกมปัจจุบันเสียอีก”
Gary Winnick: “ทั้งหมดมันเชื่อมต่อกันทั้งการดำเนินเรื่อง ระบบเกมเพื่อตอบสนองความคาดหวังของผู้เล่น”
Chris Jones: “ผมคิดว่ามันดีที่สุดแล้วกับการพัฒนาในรูปแบบนี้เพราะมันจะช่วยให้การสื่อสาร โต้ตอบทำได้ดีขึ้น”
Dave Gilbert: “ผมรู้สึกว่าพวกตัวละครสมัยนี้ทำเพื่อตอบสนองพวกคนรวยมากกว่า ซึ่งเกมแนวผจญภัยมันทำได้มากกว่านั้นอีกนะ”
Benoit Sokal: “ทุกวันนี้สิ่งที่ตื่นเต้นที่สุดในเกมผจญภัยคือ ตัวละคร เหตุการณ์ต่างๆ ถึงแม้ว่าจะสามารถพบเห็นได้ในเกมทั่วๆไปก็ตาม แต่มันก็ทำให้ผู้เล่นรู้สึกถึงความสมจริง”
Larry Ahern: “บางทีเกมแนวผจญภัยมันก็อาจจะไปอยู่กับเกมแนวอื่นได้อย่าง Half-Life ที่เป็นเกมมุมมองบุคคลที่หนึ่งแต่ก็ยังมีรูปแบบเกมให้ผู้เล่นผจญภัย สำรวจสถานที่ต่างๆเช่นกัน”
Josh Mandel: “ดูเหมือนสมัยนี้จะพัฒนาไปมากโดยเฉพาะเกม RPG และ FPS พวกเขาเหมือนจะใช้จุดเด่นของเกมให้เป็นประโยชน์สูงสุดและพวกเขาก็จะมุ่งเน้นพัฒนาส่วนนี้อย่างเดียวเลยล่ะ”
Ron Gilbert: “ไม่ว่าจะเป็นเกมประเภทไหนทุกคนก็ชื่นชอบการเล่าเรื่อง การดำเนินเรื่องที่ลื่นไหลทั้งนั้น ผมไม่รู้หรอกนะว่าพวกเขาทำได้ดีแค่ไหนแต่ผมสนใจกระบวนการทำงานของพวกเขามาก”
IGN : มีเหตุการณ์ประทับใจหรือความทรงจำดีๆจากการทำงานด้านนี้บ้างไหม?
Dave Grossman: “แปลกนะ เหมือนว่าผมจะไม่มีช่วงเวลาแบบนี้ในหัวเลย มีแต่ช่วงเวลาข้อผิดพลาดของเกมที่ผมต้องพัฒนาแก้ไขเสียมากกว่า อย่างเช่นเกม Monkey Island ที่มีปัญหาเยอะในระหว่างการพัฒนาเสียเหลือเกิน”
Dan Marshall: “ผมเคยมีช่วงเวลาแสนประทับใจเมื่อสมัยผมทำ Alien Planet มันเป็นงานที่ไม่มีตัวละครใดๆเลย มีแต่พื้นที่รกร้างว่างเปล่าแต่มันก็มีการผจญภัยเล็กๆที่สนุกมากและมันยังเป็นสาเหตุที่ผมมาทำงานด้านนี้ด้วย”
David Fox: “ความประทับใจของผมจะเป็นช่วงเวลาการทำงานนะ การได้ร่วมงานกับเพื่อนร่วมทีม , ได้ทดสอบเกมที่หลากหลาย มันก็เป็นความสุขสุดๆของผมแล้ว”
Gary Winnick: “การได้ฟังเสียงตอบรับจากเกม Maniac Mansion เพราะสมัยนั้นไม่มีอินเตอร์เน็ตหรือโซเชี่ยลมีเดียหรอก มีแต่หนังสือหรือนิตยสารวิจารณ์เกมเท่านั้นแหละที่ผมรู้สึกว่ามันน่าตื่นเต้นชะมัด”
Charles Cecil: “ตอนที่พบปะกับแฟนๆเกม Broken Sword ครับ เหมือนทำให้ผู้พัฒนากับผู้เล่นสนิทสนมกันและยังทำให้รู้ว่าผู้เล่นต้องการอะไรจากเกม”
Ron Gilbert: “ต้องเป็นช่วงเวลาที่ผมพัฒนาเกมสำหรับเด็กที่บริษัท Humongous Entertainment ครับ”
Larry Ahern: “สมัยที่ผมทำงานเป็นแอนิเมเตอร์ให้กับเกม Sam & Max Hit the Road ครับและตอนนั้นผมก็เป็นแฟนตัวยงของ Steve Purcell ด้วยแต่ผมไม่ได้ทำงานที่เกี่ยวข้องกับเขาเลย ผมจึงพยายามที่จะทำงานร่วมกับเขาให้ได้จนกระทั่ง Steve ได้เอ่ยว่า “มาร่วมงานกับผมดีกว่า พวกเรามีบางอย่างต้องทำด้วยกัน” จากนั้นผมก็ได้มีส่วนร่วมการสร้างสรรค์เกม Sam & Max Hit the Road มากขึ้น”
Noah Falstein: “ตอนที่ผมเป็น Project Leader ให้กับ LucasArt และได้ประชุมร่วมกับ George Lucas และ Steven Spielberg นั่นถือว่าเป็นจุดสูงสุดของอาชีพผมเลยทีเดียว”
Jane Jensen: “ฉันชอบเวลาที่พวกนักแสดงให้เสียงพากษ์ในสตูดิโอ เหมือนในวันที่ฉันทำงานใน Sierra กับเกม Gabriel Knight: Sins of the Fathers มันเป็นวันที่ดีที่สุดเลยค่ะ”
Josh Mandel: “การได้ทำงานร่วมกับคุณ Al Lowe และทีมงาน เพราะพวกเราได้ใช้เวลาร่วมกันนานมากทั้งกิน อยู่ อดหลับอดนอนด้วยกันเพื่อพัฒนาเกม มันเป็นประสบการณ์ที่ล้ำค่ามากเลย”
Al Lowe: “มันเป็นช่วงขีดเส้นตายส่งงาน King’s Quest IV มันบ้าคลั่งมากๆเลยล่ะทุกๆคนทำงานมือเป็นระวิงอย่างกับเครื่องจักรสังหารเลยล่ะครับ และพอมานึกย้อนอีกทีจนต้องถามตัวเองเลยว่า ทำไปได้ยังไง”
Rand Miller: “การสัมภาษณ์ข้อมูลของผู้เล่นเกม Myst และเสียงตอบรับจากพวกเขาก็เป็นยาชั้นดีสำหรับนักพัฒนาอย่างเราๆเลยล่ะครับ”
Benoit Sokal: “สำหรับผม คิดว่าความประทับใจดีๆอาจจะยังไม่มาหาผมในตอนนี้แต่มันอาจจะมาเมื่อเกม Syberia ภาคใหม่ออกมาก็เป็นได้นะ”
Dave Gilbert: “การได้ทำงานกับพวกนักแสดงครับ เพราะมันน่าเบื่อมากๆเวลาหันไปไหนก็เจอแต่นักพัฒนาเกมแต่การได้ร่วมงานกับเหล่านักแสดงมันเกิดแรงบันดาลใจอะไรหลายอย่างทีเดียว”
Chris Jones: “การได้ดูนักแสดงทำงานกัน อย่าง Michael York ที่การแสดงของเขาทรงพลังแม้จะมีบทพูดเพียงไม่กี่คำเขาก็ยังแสดงออกมาได้อินมาก และอีกคนหนึ่งในซีรี่ย์ Tex Murphy ก็เช่นกันมันน่าประทับใจสุดๆ”
IGN : ในยุคที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัยเข้ามาเกี่ยวข้องกับเกม พวกคุณอยากให้เทคโนโลยีแบบไหนมาอยู่ในเกมแนวผจญภัยบ้าง?
Al Lowe: “ก็คงเป็นเทคโนโลยีตรวจจับใบหน้าและความเคลื่อนไหวในเกมนะ ผู้เล่นจะได้มีความรู้สึกว่าเป็นตัวละครฮีโร่นั้นจริงๆ”
Gary Winnick: “การโต้ตอบด้านภาษาหรือการแก้ปริศนาเป็นคำใบ้ครับ”
Rand Miller: “การทำให้โลกในเกมให้เหมือนจริงที่สุดเท่าที่จะทำได้ ผมต้องการแค่นั้นจริงๆ”
Benoit Sokal: “เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์กราฟฟิก (CGI) มันเหมือนเป็นงานศิลปะชั้นยอดและช่วยเติมเต็มจินตนาการได้ดีเยี่ยม”
Ron Gilbert: “อาจจะล้ำยุคไปหน่อยแต่ผมคาดว่าในอนาคตเราจะทำแค่นั่งบนเก้าอี้และเสียบหูฟังและฉีดภาพโฮโลเข้าสู่สมองเหมือนเสียบปลั๊กไปเลย ในอนาคตมีแนวโน้มที่จะเกิดแบบนี้นะครับ”
Charles Cecil: “การเล่าเรื่องผสมผสานภายในเกมและสื่อสารกับผู้ชมได้ง่ายตรงไปตรงมา”
Dave Grossman: “การควบคุมโดยใช้เสียง เพราะสมัยผมอยูในสตูดิโอก็มีการใช้เทคนิคจดจำเสียงด้วยและผมคิดว่ามันน่าจะสนุกดี”
David Fox: “ผมชื่นชอบการผจญภัยแต่มันจะดีมากถ้ามีแว่นVR มาเสริมให้ตัวเกมมีอรรถรสมากขึ้นมันคงเจ๋งมากเลยล่ะครับ”
Jane Jensen: “แน่นอน! ต้องเทคโนโลยี VR เท่านั้นค่ะ”
Chris Jones: “สำหรับผมนั้นเทคโนโลยีใหม่มันก็แค่ทำให้ภาพดูสมจริงขึ้นแต่ที่สำคัญที่สุดก็คือเนื้อเรื่องมากกว่าครับ”
Noah Falstein: “ผมสนใจในส่วนการดำเนินเรื่องมากกว่า อีกทั้งการโต้ตอบบทสนทนากับ NPC เป็นสิ่งสำคัญกว่าเป็นไหนๆ”
Larry Ahern: “มันน่าสนใจนะครับถ้าระบบ Virtual Reality มาใช้กับเกมผจญภัยเพียงแต่อาจจะต้องหาพื้นที่กว้างสักหน่อยเพื่อเล่นมัน”
Dan Marshall: “ผมคิดว่าระบบเกมแบบเดิมเป็นเรื่องที่ดีอยู่และผมก็ไม่อยากให้ใครมาวุ่นวายกับตัวเกมของผมมากนักหรอก”
Dave Gilbert: “บอกตรงๆผมพอใจกับตัวเกมในปัจจุบันนี้แล้วนะ ผมไม่คิดว่าต้องไปปรับปรุงเพิ่มเติมมากขอแค่เนื้อเรื่องในเกมมีความสมบูรณ์ก็พอแล้ว”
Josh Mandel: “เพิ่มประสิทธิภาพระบบเกมแบบ Point and Click ด้วย GUIs (graphical user interfaces) ให้ดีขึ้น”
IGN : คำถามสุดท้ายแล้ว พวกคุณคิดว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้เกมผจญภัยในยุค 90’s หมดความนิยมไป?
Noah Falstein: “สั้นๆเลย ก็เป็นเพราะการมาของเกมแนวแอ็คชั่น FPS นั่นแหละ”
Ron Gilbert: “เพราะเกม DOOM ครับ แต่ไม่ใช่ว่าผมเกลียดเกมนี้นะ แต่มันเป็นเกมกึ่งผจญภัยปนแอ็คชั่นที่ยอดเยี่ยมและเกมเมอร์รุ่นใหม่มักจะเกิดทันในยุคของเกมพวกนี้และผมคิดว่าเกมผจญภัยไม่ตายลงไปหรอก เพียงแค่ส่วนแบ่งตลาดจะไม่มากเท่าเดิม”
David Fox: “ตัวการที่แท้จริงนั่นคือเทคโนโลยีปัจจุบันนั่นแหละ เพราะการอัพเกรดเพิ่มเติมเสริมนี่ถึงมันจะทำให้ประสิทธิภาพของเกมเพิ่มขึ้น แต่เมื่อมันวางจำหน่ายด้วยราคาที่แพงสุดกู่เพราะต้นทุนการผลิตสูง แต่ว่าพวกลูกค้าไม่ได้มีกำลังซื้อมากมายขนาดนั้นหรอกนะและก็ได้ยินมาว่าพวกพนักงานใน LucasArt มีสภาพเหมือนตายทั้งเป็นเลยล่ะ”
Larry Ahern: “ผมไม่คิดว่าเกมยุค 90’s จะตายจากไปหรอกมันแค่อาการโคม่าหรือสถาวะยักษ์หลับที่รอวันตื่นขึ้นเท่านั้น ระวังตัวไว้ล่ะ!”
Dave Grossman: “เกมสมัย 90’s อยู่ในอาการหลับเท่านั้นนะมันยังไม่ตายซะหน่อย ผมว่าเกมสมัยนี้ค่อนข้างเอาใจตลาดค่อนข้างมากและการพัฒนาเกมดูเหมือนจะไม่ใส่ใจกับความต้องการของผู้เล่นเท่าไหร่นัก”
Benoit Sokal: “ผมไม่ใช่นักวิเคราะห์ที่เก่งนัก ผมจำได้ดีที่สมัยก่อนเกมแนวผจญภัยเป็นเกมกระแสหลักแต่เมื่อเวลาผ่านไปมีเกมหลากหลายแนวเพิ่มขึ้น ทำให้เกมผจญภัยเริ่มตกกระแสลงและนั่นก็หมายถึงรายได้จากการขายก็น้อยลงด้วย แต่ถึงอย่างนั้นผมเชื่อว่าเกมแนวนี้จะกลับมาครองใจเกมเมอร์อีกครั้งหนึ่ง”
Rand Miller: “เอาจริงๆนะ ผมว่าเกมสมัยนี้มีความซับซ้อนน้อยลงทั้งเนื้อเรื่องและระบบเกมเพลย์ ดูอย่างพวกเกม FPS สิ ทุกๆปีที่พวกเขาพัฒนามีไม่กี่อย่าง เช่น เพิ่มปืนใหม่ ให้ผู้เล่นสามารถฆ่าอะไรก็ได้บนแผนที่หรือสักพักก็มียานพาหนะใหม่ให้ใช้และก็วนไปที่เพิ่มปืนใหม่ๆอีกรอบเป็นวงจร ดังนั้นเราควรจะพัฒนาเรื่องความซับซ้อนของตัวเกมหรือเพิ่มปริศนาต่างๆให้แก้ไขอย่างเช่น Myst”
Al Lowe: “น่าจะเป็นพวกมุกตลกที่มีมากเกินไปครับ มันทำให้บรรยากาศของเกมสูญเสียไปหรือบางเกมที่มีแต่มุกตลกไม่ได้เรื่องแบบนั้นผมก็รับไม่ได้เหมือนกัน”
Josh Mandel: “ผมคิดว่าตัวการก็คือตัวผมเองที่ตัดสินใจพลาดไปส่งเกม Myst วางจำหน่ายในจำนวนที่น้อยนิดและคิดว่ามันไม่ส่งผลกระทบอะไรมาก แต่นั่นมันเป็นความคิดที่ผิดมากๆ ผมไม่สามารถจะพูดอะไรได้อีกนอกจากโทษตัวเอง”
Gary Winnick: “สาเหตุน่าจะมาจากการรวมตัวของตลาดเปลี่ยนไปที่จากเดิมเป็นของ PC แต่ตอนนี้เกมคอนโซลกลับมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ก็ได้แต่หวังว่าเกมผจญภัยจะกลับมาโด่งดังอีกครั้งหนึ่งนะครับ”
Dan Marshall: “คุณ Schafer แกล้งทำเป็นว่าเกมมันตายลงไปแล้วแต่ความจริงเขากำลังซุ่มพัฒนาใน Kickstarter อยู่ต่างหากล่ะ”
Dave Gilbert: “ผมก็คิดเหมือนกับคุณ Marshall เกมพวกนี้แค่แกล้งแพ้ต่อเกมสมัยใหม่เท่านั้น”
Jane Jensen: “ฉันคิดว่าปัจจุบันไม่มีอะไรที่น่าสนใจแล้วล่ะ”
Charles Cecil: “สาเหตุเป็นเพราะ PlayStation จากความสำเร็จของ PlayStation ในยุค 90 ที่ดังเป็นพลุแตกทำให้เกิดกระแสเกมต่างๆอีกทั้งจากอันดับยอดเกมขายดีใน PlayStation เกมแนวผจญภัยติดเพียงอันดับ 5 เท่านั้น นอกจากนี้ก็ยังมีพวกอินดี้เกมเข้ามามีบทบาทมาก เลยทำให้เกมผจญภัยถูกลดความนิยมไปอย่างน่าเสียดาย”
Chris Jones: “ผมไม่รู้สาเหตุหรอกแต่ผมไม่หมดหวังนะ ในอนาคตมันจะต้องผงาดขึ้นอีกครั้งแน่นอน”
สรุปแล้วจากทัศนะของยอดนักพัฒนาทั้ง 15 ท่านต่างก็ลงความเห็นกันว่าเกมในปัจจุบันไม่มีความซับซ้อนหรือความสนุกเท่าเกมสมัยก่อนแต่อย่างไรก็ดีพวกเขาพร้อมที่จะสนับสนุนเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาโดยเฉพาะแว่นVR ที่ตอนนี้เป็นกระแสอยู่พอสมควรและคาดว่าจะมีบทบาทเต็มตัวในไม่กี่ปีข้างหน้านี้และก็ต้องขอขอบคุณแขกรับเชิญ 15 ท่านพร้อมความเห็นอันล้ำค่านี้ด้วยครับ
ที่มา : IGN