อ้าว… เกมนี้มันไม่ได้ชื่อ Modern War ?FEAR 3? หรอกเรอะ…
Notebook ที่แนะนำ:
CPU |
Intel Core i5-2410M (2.30 GHz, 3 MB L3 Cache, up to 2.90 GHz) |
RAM | 4 GB RAM |
VGA Card | AMD Radeon HD 6850M or nVidia GeForce GTX 560M |
HDD | 10 GB of free Hard Drive space |
OS | Windows 7 |
Notebook ขั้นต่ำที่ต้องการ:
CPU |
Intel Core i3-380UM (1.33GHz, 3MB L3 Cache) |
RAM | 2 GB RAM |
VGA Card | AMD Radeon HD 6550M or nVidia GeForce GT 540M |
HDD | 10 GB of free Hard Drive space |
OS | Windows XP, Windows Vista or Windows 7 |
F.E.A.R. ภาคแรกเป็นเกม FPS เขย่าขวัญสั่นประสาทในระดับ ?ขึ้นหิ้ง? ที่พกเอาเนื้อเรื่องอันยอดเยี่ยม เกมเพลย์ที่สดใหม่ รวมไปถึงฉากกระตุ้นอารมณ์หลอนมาฝากผู้เล่นกันอย่างไม่มีกั๊ก โดยเฉพาะแล้วกับอย่างหลังที่ส่งให้ยัยเด็กนรกนามว่า Alma กลายเป็นผีเด็กทรงคุณค่าของวงการไปอีกตนหนึ่งอย่างไม่ยากเย็นนัก… กระนั้นลางมรณะก็ค่อยๆ คืบคลานเข้ามาอย่างช้าๆ ใน Project Origin หรือก็คือภาค 2 ของซีรีส์ เมื่อเนื้อเรื่องของมันเริ่มเบนออกสู่อ่าวไทยและมุ่งตรงสู่ฮาวายทันทีที่เล่นจนจบ… และถึงแม้ทีมพัฒนา Day 1 Studios จะพยายามพามันดริฟต์กลับเข้ามาฝั่งได้สำเร็จในภาคล่าสุดนี้ หากทว่า… กาลเวลาที่ จากจรแผ่นดินใหญ่ไปนานโขก็ดูเหมือนจะหล่อหลอมให้เกม F.E.A.R. ขบวนล่าสุดนี้สูญเสียตัวตน และกลายเป็น F.E.A.R. ที่เราไม่รู้จักไปเสียแล้ว…
คุณจะได้สวมบทเป็น Point Man ตลอดการเล่นกว่า 7-8 ชั่วโมงในแคมเปญเล่นเดี่ยว บุกป่าฝ่าดงในด่านที่ดูคุ้นตา ราวกับเคยเจอประสบการณ์คล้ายๆ กันจากที่ไหนมาก่อน (C_y_is 2, Mod_rn Wa_fa_e) แล้วสาดกระหน่ำลูกตะกั่วใส่ศัตรูนานาชนิดไล่ตั้งแต่ทหารเลวปลายแถว หน่วยพิเศษมีโล่ ไปจนถึง Silver Surfer(?) และเปรตวัดสุทัศน์ในดีกรีความบู๊ระดับ 80 ตีนถีบ! จนบังเกิดเป็นคำถามต่อมาว่าความหลอนอันเป็นเอกลักษณ์ของซีรีส์นี้มันหายหัวกันไปไหนหมด (ฟะ)
ยอมรับจริงๆ ครับว่าในหลายๆ ครั้ง ผมก็เล่นเกมนี้โดยลืมไปเลยว่ามันคือเกมที่แบกรับชื่อของ F.E.A.R. อยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแล้วเมื่อ Alma ไม่โผล่ออกมาเลยในช่วงฉากกลางๆ เกม แต่ด้วยระบบ Gunfight ตามแบบสมัยนิยมที่สนุกพอตัว (โผเข้าที่กำบัง โผล่ออกมายิง หลบเข้าที่กำบังอีกรอบ แล้วโผล่ออกมายิงอีกทีให้มันตาย ผลุบๆ โผล่ๆ อยู่แบบนี้ตลอดทั้งเกม) ทำให้มันไม่น่าเบื่อเกินไปนัก
เพียงแต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะเร้าใจไปซะทุกเรื่องนะครับ ตัวเกมประสบปัญหาใหญ่ยักษ์ในระดับที่สามารถบันดาลให้เกมเมอร์ทุกหมู่เหล่าคลิก Uninstall ถอดมันออกจากเครื่องไปได้อย่างง่ายดาย ทั้งการเดินเรื่องในเกมไปแบบเรื่อยๆ เอื่อยๆ อย่างจืดชืดแทบไม่มีจุดพีคใดๆ ทั้งสิ้น แล้วยังกราฟิกกับพวกเอฟเฟ็กต์การระเบิดที่ค่อนข้างตกยุคดูแล้วแทบไม่น่าเชื่อว่ามันเป็นเกมของปี 2011 และสำคัญที่สุดก็อย่างที่บอกครับ ความหลอนซึ่งมลายหายไปสิ้น…
นอกจากบางฉากที่ ?พยายาม? ทำให้หลอนเกินไปจนต้องเปล่งเสียงยี้แทนการกรีดร้องแล้วนั้น การปรากฏตัวแบบระทึกขวัญของผีเด็ก Alma ยังแทบนับครั้งได้เลย แถมก็ดัน ?วืด? ในหลายฉากอีกต่างหาก กลายเป็นว่าของประกอบฉากบางอย่างยังดูโดดเด่นกว่าเธอด้วยซ้ำ (ยอมรับว่าบางซีนที่ Alma โผล่ออกมานี่ผมแทบไม่รู้เรื่องเลย -*-) ยิ่งถ้าหากตัวละครของคุณเผลอตายในจุดใกล้ๆ กันแล้วโหลดกลับมาเล่นใหม่ คุณเธอก็ยังโผล่มาที่เดิม ณ จุดเดิมอยู่ร่ำไปไม่มีเปลี่ยนแนว บอกลาอาการสะดุ้งกรี๊ดจากภาคแรกไปโดยปริยาย
พูดถึงเรื่องการตายแล้วก็ต้องมาสาธยายถึงความเฟลของระบบเซฟของเกมนี้กันสักหน่อย… F.E.A.R. 3 ใช้ระบบ Checkpoint ตามเวอร์ชั่นคอนโซลครับ ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ยอมรับกันได้ (ชินแล้ว) แต่ที่น่าโมโหก็คือเจ้า Checkpoint เจ้ากรรมนี่แหละ มันจะเซฟทับตัวเก่าไปเรื่อยๆ กลายเป็นว่า หากคุณเปลี่ยนไปเล่น Fettel เมื่อไหร่ แล้วอยากจะกลับมาเล่น Point Man อีกครั้ง คุณต้องเริ่มใหม่ทั้งหมดเลยทีเดียว
อ่อใช่ ลืมบอกไปว่าคุณสามารถสลับสับตัวมาเล่น Fettel ได้ครับ (ซึ่งมีลูกเล่นเร้าใจกว่าคุณมนุษย์จุดอยู่พอสมควร) เพียงแต่มีเงื่อนไขที่ว่าต้องเล่น Point Man ให้จบในด่านนั้นๆ ก่อน จึงจะปลดล็อกพ่อหน้าหื่น Fettle ออกมาใช้ได้ ซึ่งผมก็แนะนำให้เล่นฝ่ายแรกจนเคลียร์ก่อนครับ แล้วค่อยเปลี่ยนมาเล่นฝ่ายหลังก็ยังไม่สาย… ทว่า ก็ขอให้ทำใจไว้หน่อยครับว่าถึงจะเล่นเป็นคนละตัว แต่เนื้อเรื่องในเกมนั้นก็ไม่ได้ต่างกันสักกะผีก… (แม้ฉากจบจะไม่เหมือนกันก็เถอะ) น่าเสียดาย
AI ศัตรูเป็นอะไรที่น่าชมพอดู เพราะเหมือนมันจะแบ่งหน้าที่กันอย่างชัดเจน เช่น ตัวถือปืนกลคอยกดดันระยะไกลไม่ให้เราโผล่หัวออกมาสาดกระสุนได้ง่ายนัก แต่ในขณะเดียวกัน ตัวซึ่งถือลูกซองก็จะค่อยๆ กระดึ๊บเข้ามาประชิดตัวเราขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งปากกระบอกมาจ่อหน้าคุณแล้วก็ตู้ม! ส่งคุณกลับไปโหลด Checkpoint ยังจุดที่เล่นผ่านมาเมื่อ 3-4 นาทีที่แล้วอีกรอบ
ขอบอกไว้ก่อนเลยว่าคุณจะได้เจอกลยุทธ์นรกแบบนี้ตลอดทั้งเกม (แต่ Fettlel พลิกสถานการณ์แบบนี้ได้ง่ายๆ) ซึ่งนั่นค่อนข้างท้าทายและบางฉากนี่เข้าขั้นโหดเอาการเลยทีเดียว… ในส่วนของคลังแสงในภาคนี้ก็ไม่มีอะไรที่โดดเด่นมากนัก ส่วนใหญ่เป็นอาวุธมาตรฐานในเกมเดินหน้ายิงทั่วไปที่เห็นกันจนเกร่อ จะมีที่น่าสนใจก็เพียงปืนยิงแท่งเหล็กซึ่งติดสอยห้อยตามมาจากภาคแรก กับหุ่นรบที่จะให้คุณได้ขับเท่านั้น (หฤหรรษ์มากขอบอก)
อย่างไรก็ตามเรื่องให้บ่นก็ยังคงไม่จบสิ้นและคราวนี้เป็นคิวของ ?เสียง? ที่ไม่ถึงใจชอบกล โดยเฉพาะกับเสียงปืนและระเบิดที่ไม่หนักแน่นเท่าที่ควร รวมไปถึงเรื่องเพลงประกอบที่ไม่ได้ช่วยบิวท์อารมณ์ตื่นเต้นให้กับเกมเลยแม้แต่น้อย นอกจากนี้กับเกมที่ขายความหลอนแล้ว โสตเสียงแวดล้อมที่จะสร้างความสะพรึงให้กับผู้เล่นนั้นก็ไม่สม่ำเสมอเอาซะเลย เพราะบางฉากนั้นก็พอโอเคอยู่บ้าง แต่ในอีกหลายๆ ฉากกลับจืดสนิทไปซะนี่… เฮ้อ…
หากโหมด Single Player สามารถทำให้คุณหาวหวอดๆ ได้ล่ะก็… Multiplayer ก็จะทำให้คุณแหกปากแผดเสียงร้องด้วยความตื่นเต้นได้อย่างแน่นอนครับ ซึ่งสิ่งนี้แหละที่ผมคิดว่า F.E.A.R. 3 เกิดมาเพื่อเป็นมัน… โหมดนี้ของเกมจะไม่เน้นการสาดกระสุนใส่ผู้เล่นด้วยกันอย่างพวก Death Match นะครับ แต่จะเน้นการ Co-op ระหว่างผู้เล่น 2- 4คนเสียส่วนใหญ่ (จริงๆ ก็เกือบทั้งหมดนั่นแหละ)
โดยคุณสามารถเล่น Co-op ผ่านเนื้อเรื่องได้ด้วย เพียงแต่ผู้ที่เป็นโฮสต์จะได้เล่นเป็น Point Man และแน่นอนว่าคน Join จะต้องเป็น Fettel เท่านั้นไม่สามารถเลือกเล่นได้เลย (แถมพ่วงมาด้วยระบบเซฟมหาเทพที่ลองได้เผลอคลิกเพียงครั้งเดียวโหมดเล่นเดี่ยวซึ่งค้างเติ่งเอาไว้ได้เอวังอย่างแน่นอน)
อย่างไรก็ตามต้องบอกว่าความสนุกจริงๆ ของ Multiplayer อยู่ที่โหมดการเล่นอีก 4 โหมดที่เหลืออันประกอบไปด้วย Soul King, Soul Survivals, Contractions และ Fxxxing Run เสียมากกว่า โดยเฉพาะแล้วกับอย่างหลังสุด ที่สนุกเอามากๆ เลยทีเดียว อธิบายง่ายๆ ก็คือโหมดนี้จะให้คุณจับมือกับผู้เล่นอีก 3 คนใส่ตีนหมาเข้าเกียร์ 5 เปิดแน่บแบบไม่ต้องสนหน้าอินทร์หน้าพรหมกันตั้งแต่เริ่ม เนื่องเพราะเป้าหมายการบรรลุภารกิจนี้ก็คือชิ่งจากกำแพงพายุที่ไล่หลังเราเข้ามาเรื่อยๆ โดยมีความท้าทายเล็กน้อยๆ คือ ตัวเกมจะปล่อยศัตรูนานาชนิดออกมาตามรายทางอย่างต่อเนื่อง และสำคัญที่สุดหากเพื่อนในทีมคนใดคนหนึ่งโดนรุมทึ้งจนด่าวดิ้นหรือถูกกลืนกินเข้าไปในพายุมรณะเบื้องหลังแล้วไซร้ ทุกๆ อย่างก็เป็นอันจบ (เห่)
ต้องยอมรับครับว่า Multiplayer จาก 3 ใน 4 โหมดนี้จำเป็นต้องใช้ทีมเวิร์คสูงเอามากๆ ครับ แต่ตัวเกมกลับไม่เอื้อประโยชน์นัก เพราะคุณสามารถใช้ไมค์ในการส่งเสียงสื่อสารได้เพียงหนทางเดียว อย่างไรก็ตามผมคิดว่าโหมด Multiplayer ของ F.E.A.R. 3นั้นคงได้รับแรงบันดาลใจมาจากเกมดังมีชื่อของค่าย Valve มาแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยเลยทีเดียว เพียงแต่ทีมพัฒนาก็เข้าใจดัดแปลงมาเป็นเกมเพลย์ในแบบฉบับของตัวเองได้อย่างน่าดูชม และสามารถทำให้ผู้เล่นส่วนใหญ่สามารถสนุกไปกับมันได้โดยไร้อคติใดๆ บดบัง
เรื่อง: Dark_Librarian
เมื่อลองพิจารณาจากวีรกรรมที่ Project Origin ได้ทำเอาไว้ คงต้องบอกว่า F.E.A.R. 3 มาได้ไกลกว่าที่ผมคิดเอาไว้ครับ เพราะแม้ทั้งเนื้อเรื่องที่จบลงไปและเกมเพลย์แบบเล่นเดี่ยวจะราบเรียบเข้าขั้นจืดชืดไม่มีอะไรน่าจดจำสักเท่าไหร่ แต่ Multiplayer อันแสนหฤหรรษ์ก็สามารถกู้หน้าให้กับตัวเกมได้มากพอดูครับ
ข้อดี: Multiplayer สุดแจ่ม, AI ฉลาดใช้ได้, ระบบ Gunfight ดูพัฒนาขึ้น, ขับหุ่นยนต์สนุกดี
ข้อด้อย: เนื้อเรื่องแบบหนังเกรดล่างๆ, ระบบเซฟเกม, ความหลอนที่หายไปจนแทบหมดสิ้น, กราฟิกและเอฟเฟ็กต์ดูตกยุค, ระบบเสียงน่าผิดหวัง, การเดินเรื่องที่ราบเรียบไม่กระตุ้นอารมณ์ใดๆ ของผู้เล่นทั้งสิ้น และสุดท้ายคือความพยายามมากเกินไปจนลงท้ายกลับกลายเป็นรสชาติที่จืดสนิท
โดยรวม: F.E.A.R. 3 เป็นเกมที่ดีเกมหนึ่งครับ แต่หากมันไม่ได้แบกรับชื่อคำว่า F.E.A.R. ไว้แล้วละก็ ด้วยศักยภาพที่มีผมคิดว่ามันอาจจะผงาดง้ำค้ำโลก (เว่อร์ไป) มากกว่านี้ก็เป็นได้
ขอขอบคุณ :: นิตยสาร FuterGamer
www.fgmag.in.th