Portal 2 เริ่มขึ้นด้วย Chell ตื่นจากการจำศีลในห้อง Relaxation Room คอมพิวเตอร์ประกาศว่าเธอนอนหลับมาหลายร้อยปี
Portal 2
Developer: Valve Software Corporation
Publisher: Valve Steamworks / Electronic Arts
Genre: FPS-Action-Puzzle
Rated: E for Everyone (10+)
เครื่องขั้นต่ำที่ต้องการ:
CPU | Pentium 4 processor (3.0GHz, or better) |
RAM | 512 MB RAM |
VGA Card | NVIDIA GeForce 7900GS or ATI Radeon 1900XT |
HDD | 8 GB of free Hard Drive space |
OS | Windows XP, Windows Vista or Windows 7 |
เครื่องที่แนะนำ:
CPU | Intel Pentium Core 2 Duo 2.4 GHz or AMD Athlon X2 2.8GHz |
RAM | 1 GB RAM |
VGA Card | GeForce 315 512MB or ATI Radeon HD 3600 Series |
HDD | 10 GB of free Hard Drive space |
OS | Windows Vista or Windows 7 |
Portal 2 เริ่มขึ้นด้วย Chell ตื่นจากการจำศีลในห้อง Relaxation Room คอมพิวเตอร์ประกาศว่าเธอนอนหลับมาหลายร้อยปี ไม่นานนัก Chell ก็ได้พบกับ Wheatley ผู้ซึ่งกำลังหาคนช่วยกันหาทางออกไปข้างนอก ทั้งสองเดินทางฝ่าสถาบันวิจัยที่พังเละเทะตามกาลเวลา จนกระทั่งไปปลุก GLaDOS ขึ้น โดยไม่ได้ตั้งใจ..
Gameplay
ตัวเกมยังคงคอนเซปต์เดิมคือ ?แก้ปริศนาหาทางออกด้วยประตูมิติ? โดยผู้เล่นจะได้ควงปืนที่ในเกมเรียกว่า ?อุปกรณ์สร้างประตูมิติขนาดพกพาแห่งสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์อะเพอร์เจอร์ (Aperture Science Portal Handheld Device: ASPHD)? ซึ่งเรียกสั้นๆ ว่า ?ปืน Portal? (ฮา) เพื่อสร้างทางเข้า และทางออก และนำไปสู่การแก้ปริศนาอันซับซ้อนที่ไม่สามารถหาทางแก้ด้วยวิธีธรรมดาได้ เว้นแต่? คุณมีปืน Portal นี้เท่านั้น คอนเซปต์อีกอย่างคือ แรกเริ่มจะรู้สึกว่า ?โห.. ตูจะผ่านได้ไหมฟะ? แต่แล้วก็จะต้องร้อง ?โห่.. แค่นี้เอง? ประจำ เรียกได้ว่าเป็นปริศนาชนิด ?เส้นผมบังภูเขา? นั่นเอง
ลูกเล่นเดิมๆ ที่ยังคงมีบทบาทในภาคนี้ก็คือ การเข้า-ออกประตูมิติ และการใช้โมเมนตัมในการเหวี่ยงตัวเพื่อขึ้นไปยังที่ที่สูงกว่า หรือที่ที่ไกลกว่าได้ ในภาคนี้จะถือว่าเป็นสิ่งพื้นฐานที่ผู้เล่นจะต้องทำเป็นเรียบร้อยแล้ว เกมจะไม่แนะนำอะไรมากนัก
สำหรับลูกเล่นที่เพิ่มเข้ามามากมายในภาคนี้ จะมีตั้งแต่
- Thermal Discouragement Beam (เลเซอร์) สามารถเบี่ยงเส้นทางได้ด้วยการเอา Weighted Pivot Cube (กล่องกระจก) มาวางตรงแนวเลเซอร์
- Hard Light Bridge (สะพานแสง) สามารถยิงประตูมิติเพื่อต่อความยาว/เปลี่ยนทิศ/สร้างสะพานตามที่ต่างๆ ได้
- Aerial Faith Plate (แท่นกระโดด) เมื่อไปยืนบนแท่น ตัวแท่นจะดีดเราไปในทิศทางตามที่แท่นกำหนด โดยตรงที่เราจะตกจะมีพื้นรูปเป้าบอกด้วย
- Excursion Funnel (อุโมงค์แสง) มีสองทิศทางคือ ไปข้างหน้า (สีฟ้า) และย้อนหลัง (สีแดง) สามารถเคลื่อนย้ายคน/สิ่งของไปในแนวเส้นตรง และใช้ประตูมิติเชื่อมต่อได้
- Propulsion Gel (เจลส้ม/เจลลื่น) สำหรับเพิ่มความเร็วในการวิ่ง, Repulsion Gel (เจลฟ้า/เจลเด้ง) สำหรับเพิ่มความสูงในการกระโดด, Conversion Gel (เจลขาว) ? อันนี้อุบไว้
Presentation
Portal 2 นำเสนอตัวเกมผ่านทางมุมมองของ Chell ตัวเอกตั้งแต่ภาคหนึ่งในมุมมอง FPS? โดยตัวเกมจะขับเคลื่อนการเล่าเนื้อเรื่องผ่านทางตัวละครหลัก 3 ตัวคือ GLaDOS หุ่นยนต์จอมอาฆาต, Wheatley เป็น Core หนุ่มสำเนียงอังกฤษ ผู้พยายามหาทางออกจากสถาบันวิจัย, และ Cave Johnson อดีตผู้อำนวยการสถาบันวิจัย (่ผ่านทางเสียงประกาศ) ไปพร้อมๆ กับการนำเสนอลูกเล่นใหม่ในการแก้ปริศนาใหม่แต่ละอย่าง ทำให้เราได้แก้ปริศนาไปพร้อมกับระทึกว่าเนื้อเรื่องจะเป็นอย่างไรหลังจากจบแต่ละห้องทดลอง
เนื้อเรื่องมีจุดหักมุมหลายจุด และทุกจุดจะหักมุมในชนิดที่ต้องอ้าปากค้าง จนตัวผมเองถึงกับกรีดร้อง(แบบเงียบๆ) ไปเลยทีเดียว การเล่าเรื่องอยู่ในระดับมาสเตอร์พีซ ผมบอกได้เลยว่า ถ้าได้เล่นแล้วจะไม่ผิดหวังกับการเล่าเรื่องจากเกมนี้แน่นอน! ตัวละครแต่ละตัวจะมีเอกลักษณ์ อุปนิสัยเป็นของตัวเอง มีการปล่อยมุกด้วย! ทำให้เราจะจมลึกไปกับบทบาทของแต่ละตัว และ ?อิน? กับบทเอาได้ง่ายๆ นี่แหละ ที่เป็นเสน่ห์ของเกมทุกเกมจาก Valve
ลูกเล่นของปริศนาแต่ละอย่าง จะค่อยๆ แนะนำมาให้รู้จักทีละอย่าง ตอนเล่นเราจะไม่รู้สึกว่าเกมได้ยัดเยียดให้เราต้องรู้จักและชินไปกับมัน เราจะรู้สึกเหมือนค่อยๆ เดินขึ้นไปตามเนินอันสูงชัน แต่ไม่ได้รู้สึกเหนื่อยเลยสักนิดเดียว เว้นแต่เมื่อพ้นไปครึ่งเกม.. ตรงนี้รู้สึกว่าจะนำเสนอออกมาได้โหดหินมาก ถึงแม้จะเคยเล่นภาค 1 มาแล้วก็ตาม เป็นเพราะว่าจุดยิงประตูมิติมีน้อย แถมยังซ่อน/เอาไว้ไกลตาอีกแน่ะนอกจากนี้ ตัวเกมชอบทำให้เรารู้สึกว่า เราฉลาดมากๆ เวลาแก้ปริศนาได้ (ถึงแม้จริงๆ แล้วมันไม่ได้ยากมากมาย ฮ่าๆ) นี่ก็ถือเป็นจุดเด่นในการนำเสนอของเกมนี้เลยทีเดียวเชียวล่ะ ? ไม่ง่าย แต่ก็ไม่ได้ยากจนเกินความสามารถ
Graphics
ภาพที่เห็นในเกม ถือว่ามีการอัพเกรดขึ้นมาจากภาคแรกเยอะมาก เป็นเพราะ Portal 2 ได้อานิสงส์มาจาก Source Engine 2009 (ตัวเดียวกับ Left 4 Dead 2) และปรับปรุงระบบแสง-เงาอีกนิดหน่อย ภาพที่ได้นั้นสวยชวนตะลึงได้ในหลายๆ ฉากทีเดียวครับ สภาพแวดล้อมในเกมก็มีหลากหลายแบบ ไม่ซ้ำซากจำเจ มีตั้งแต่ศูนย์วิจัยรกร้างที่เต็มไปด้วยเถาวัลย์ ห้องทดสอบที่ค่อยๆ ซ่อมแซมต่อหน้าต่อตา และศูนย์วิจัยเก่าอารมณ์ยุค ?70 ของ Aperture รวมทั้งป้าย, โปสเตอร์, รูปวาดต่างๆ ที่เหมาะสมกับยุค ทำให้องค์ประกอบของฉากสมบูรณ์ขึ้นมาก ราวกับเป็นสถานที่ที่เคยมีคนอยู่มาก่อนเลยทีเดียว
ผมทดสอบโดยการปรับ 4x MSAA, 16x AF และทุกอย่างสูงสุดเท่าที่จะปรับได้ พบว่า ไม่มีอาการหน่วงเลยแม้แต่จุดเดียวแม้จะเป็นฉากกว้างแค่ไหนก็ตาม! แถมภาพที่ได้ก็คมสุดๆ เลยด้วย นอกเหนือจากภาพกราฟิกแล้ว ตัวเกมยังใส่รายละเอียดการเคลื่อนไหวของตัวละครไปเสียละเอียดยิบ ราวกับดูภาพยนตร์แอนิเมชันชั้นยอดจาก Pixar เลยก็มิปาน ไม่ใช่แค่ตัวละครอย่างเดียวเท่านั้น รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่คนมักเดินผ่านไปแบบไม่มองเขาก็ยังทำ? อย่างเช่น แอนิเมชั่นตามจอภาพขนาดใหญ่, แอนิเมชั่นการประกอบหุ่นยนต์ป้อมปืนในโรงงานประกอบหุ่นยนต์ เป็นต้น เป็นส่วนสำคัญที่สื่อว่า Valve ใส่ใจกับทุกรายละเอียดจริงๆ
Sound
เสียงภายในเกมมีรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ อยู่เต็มไปหมด ทั้งเสียงนกร้องจากที่ไกลๆ เสียงโรงงานกำลังทำงาน ฯลฯ เรียกได้ว่าครบรายละเอียดในเกมมากๆ ของแบบนี้ต้องลองหลับตาฟังเอง แล้วจะรู้ซึ้ง!! และส่วนสำคัญที่ขาดไม่ได้คือ เพลงประกอบ ครับ เพลงประกอบทำออกมาได้ดีมาก เหมาะกับอารมณ์ทุกช่วงทุกตอน เพลง ?Exile Vilify? ของ The National, เพลงในฉากจบ (Want You Gone), และ ?เพลงก่อนฉากจบ? ก็ทำออกมาได้เยีย่ม สื่ออารมณ์หวานขมอมเปรี้ยวของฉากจบได้ชัดเจน และที่เจ๋งคือ ฟังแล้วติดหูมาก ผมเล่นจบแล้วถึงกับต้องหาฟังตาม YouTube เลยทีเดียว และระหว่างที่เรากำลังไขปัญหาในห้อง เกมก็จะเปิดเพลงเสริมอารมณ์ให้กับเราด้วย เช่น เมื่อเราต่อเลเซอร์เข้าด้วยกันหลายๆ ที่ ก็จะมีเสียงเพลงดังออกมาจากเลเซอร์ ยิ่งใกล้จุดหมายเข้าไปเท่าไร เพลงก็จะดังขึ้นเท่านั้น ทำให้ผู้เล่นรู้สึกถึง ?ความคืบหน้า? ที่ตัวเองทำได้ดีทีเดียว
บทพูดในเกมมีหลากหลายแบบมาก นอกเหนือจากบทพูดหลักๆ แล้ว ผมแทบจะไม่เจอบทเดิมเลย (หลังจากเล่นมาสองรอบ) ที่สำคัญ บทพูดไม่ได้มีเฉพาะตัวละครหลักในเกมเท่านั้นนะ ตัวประกอบหลายๆ ตัวยังมีบทพูดเจ๋งๆ อยู่ด้วย เอาเป็นว่า เจอตัวอะไรคงต้องหยุดรอฟังบทพูดมันละกัน พูดถึงบทพูด คงขาดคำบรรยายหรือซับไตเติ้ลไม่ได้ ใน Portal 2 ได้ปรับระบบฟอนต์ภาษาอังกฤษใหม่ พร้อมทั้งจัดสี ให้สวยน่าอ่านขึ้น ?และตัวเกมยังติดหราหน้ากล่องว่ามี ซับไตเติ้ลภาษาไทยด้วย! แต่ขอโทษเถอะ.. ซับไทย แปลได้ห่วยมาก ห่วยจนให้อภัยไม่ได้.. ห่วยถึงขนาดที่ว่า เปิดซับอังกฤษยังจะเล่นรู้เรื่องกว่ามาก ถึงจะเป็นส่วนเล็กๆ แต่ก็ทำให้หลายๆ คน(รวมถึงผม)เสียความรู้สึกไปมากโข เกมฟอร์มยักษ์ระดับนี้แล้ว ไม่ควรที่จะทำกับลูกค้าแบบนี้
โดยสรุปแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างใน Portal 2 ช่วยดันให้เกมนี้เป็นสุดยอดแห่งเกมที่ห้ามพลาดอย่างแท้จริง พร้อมชิงรางวัล Game of the Year ได้อย่างไม่ยากเลย.. นับตั้งแต่ Half-life 2 แล้ว ไม่เคยมีเกมไหนที่ทำให้ผมรู้สึกสนุกและอิ่มเอมได้ขนาดนี้มาก่อน เป็น Masterpiece แห่งวงการเกมที่หาคู่เคียบเทียงได้ยาก
ขอบคุณเนื้อหาจาก http://www.noob.in.th