แนะนำซีรี่ย์ฝรั่ง โปรดักชั่นดี เนื้อเรื่องสนุก ใครยังไม่ได้ดูถือว่าพลาด อัพเดท 2024
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ซีรี่ย์ทางฝั่งตะวันตกนั้น ได้รับความนิยมไม่แพ้กับซีรี่ย์ทางฝั่งเอเชียเลย แถมยังมีหลากหลายแนวให้เราได้เลือกรับชม ผ่านทางแพลตฟอร์ม Streaming ต่างๆ ด้วย อีกทั้งในหลายๆ ซีรี่ย์ก็ยังได้มีการถ่ายทำและเนื้องเรื่องซีซันใหม่ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง ให้เราได้รับชมกันอย่างไม่รู้เบื่อ ทีมงาน NotebookSPEC ก็อยากมาแนะนำซีรี่ย์ฝรั่ง 2024 และซีรี่ย์ยอดนิยมที่ใครยังไม่ได้ดูถือว่าพลาดสุดๆ เนื้อเรื่องสนุก งานโปรดักชั่นดี ครบรส หลากหลายสไตล์ จะมีเรื่องไหนที่น่าสนใจกันบ้าง ไปดูกันเลย
- ซีรี่ย์ฝรั่งที่เรานำมาแนะนำกันนั้น จะเป็นซีรี่ย์ที่ถึงแม้จะไม่ได้มีกำหนดฉายในปี 2024 แต่ก็ยังมีเรื่องราวที่ต่อเนื่อง หรือซีซันใหม่ๆ ในปี 2024 นี้ด้วย แถมยังมีหลากหลายแนวให้เลือกรับชม ไม่ว่าจะเป็น โรแมนติก, ดรามา, แอคชั่น, ไซไฟ, แฟนตาซี, การแพทย์ เป็นต้น
- ซีรี่ย์ที่เรานำมาแนะนำกันนั้น สามารถรับชมได้ผ่านทาง Streaming แพลตฟอร์มต่างๆ ที่เปิดให้เราได้เข้าไปสมัครสมาชิกและรับชมคอนเทนต์ต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น Netflix, HBO GO, Disney+ Hotstar ฯลฯ
แนะนำซีรี่ย์ฝรั่ง 2024 น่าดู ครบรส ไม่ได้ดูถือว่าพลาด
1. House of the Dragon
ซีรี่ย์แนวดรามา แฟนตาซี ที่มีความเกี่ยวข้องกันกับซีรี่ย์ชื่อดังอย่าง Game of Thrones โดย ซีรี่ย์เรื่องนี้จะสร้างขึ้นมาจากหนังสือที่มีชื่อว่า “Fire & Blood” เขียนโดย George R.R. Martin บอกเล่าเรื่องราวขของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นประมาณ 200 ปี ก่อนเหตุการณ์ใน Game of Thrones จะเน้นไปที่การต่อสู้ภายในตระกูล Targaryen โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ช่วงเวลาที่เรียกว่า “Dance of the Dragons” หรือ สงครามกลางเมืองของตระกูล Targaryen ที่ทำให้เกิดความขัดแย่งและการต่อสู้แย่งชิงบัลลังก์ระหว่างเหล่าสมาชิกภายในตระกูล
สามารถเข้าไปรับชมได้ที่: HBO GO
2. The Witcher
ซีรี่ย์ฝรั่งอย่าง The Witcher ผลงานแนวแอคชัน แฟนตาซี ที่มาจากนวนิยายและเกมในชื่อเดียวกัน บอกเล่าเรื่องราวของยุคกลางที่ปกครองโดยเหล่ากษัตริย์, ราชินี และผู้วิเศษ แถมต่างฝ่ายยังเห็นเพียงประโยชน์ของตนเป็นหลัก เกรอลท์ แห่งริเวีย ผู้เป็น วิทเชอร์หรือมนุษย์กลายพันธุ์ นักล่าอสูรรับจ้าง โชคชะตาของเขาเชื่อมโยงกับเจ้าหญิงซิริ หรือ ซิริลา แห่งเมืองซินทรา เพราะเกรอลท์เคยช่วยชีวิตพ่อของซิริ และได้รางวัลเป็นการตอบแทนไร้เงื่อนไข ซึ่งเป็นการให้สิ่งที่มีอยู่แล้วแต่ไม่รู้ว่ามีอยู่แก่ผู้ที่ได้รับรางวัล ขณะนั้นเองแม่ของซิริก็ได้ตั้งครรภ์โดยที่ไม่มีใครรู้ ซิริจึงกลายเป็นรางวัลแก่เกรอลท์ แต่เขาก็ได้ปฏิเสธและออกล่าอสูรต่อไป
เวลาผ่านไปกว่า 12 ปี อาณาจักรซินทราต้องล่มสลายโดยฝีมือของนิล์ฟการ์ด อีกทั้งนิล์ฟการ์ดก็ต้องการครอบครองพลังของซิริ เพื่อควบคุมมหาทวีป ซิริจึงต้องหนีไปเพื่อตามหาเกรอลท์ เกรอลท์ที่ออกเดินทางล่าอสูรก็ได้พบกับเยนเนเฟอร์ แห่งแวนเกอร์เบิร์ก หญิงสายผู้มีเชื้อสายเอลฟ์ เคยมีหน้าตาอัปลักษณ์ แต่ด้วยความต้องการในการมีเวทย์มนตร์และอำนาจที่ยิ่งใหญ่ เธอจึงยอมสละความสามารถในการมีบุตรเพื่อแลกพลังนี้มา โชคชะตาก็ได้ทำให้ทั้งสามพบกัน และต้องออกเดินทางผ่าฟันเหตุการณ์ต่างๆ ในขณะที่มหาทวีปก็กำลังปั่นป่วนขึ้นทุกที
สามารถเข้าไปรับชมได้ที่: NETFLIX
3. Bridgerton
ซีรีย์จาก Netflix ที่สร้างขึ้นมาจากหนังสือซึ่งเป็น New York Best Seller ของนักเขียนอย่าง Julia Quinn บอกเล่าเรื่องราวความรักของพี่น้องในตระกูล Bridgerton ในช่วงศตวรรษที่ 18 ฤดูกาลแห่งการหาครูครองให้เหล่าชนขั้นสูงในลอนดอน ดาฟนี่ บริดเจอร์ตัน ที่มีพี่ชายสุดโหดอย่าง แอนโทนี่ บริดเจอร์ตัน คอยพยายามเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้เธอ จนทำให้หนุ่มๆ ที่เข้ามาค่อยๆ หายไป แต่ในช่วงนั้นเอง ดยุคเฮสติงส์ หรือ ไซม่อน ได้เดินทางกลับมายังลอนดอนพอดี ทั้งเขายังเป็นเพื่อนกับแอนโทนี่ด้วย ดาฟนี่จึงได้รู้จักกับไซม่อน ทั้งสองวางแผนแกล้งคบกันเพื่อให้ดาฟนี่กลายเป็นที่สนใจยิ่งขึ้น ส่วนไซม่อนเองก็ได้หลุดพ้นจากการที่เหล่าแม่ๆ พยายามหาคู่ให้เขาด้วย
สามารถเข้าไปรับชมได้ที่: NETFLIX
4. Locke & Key
ซีรีย์ฝรั่งที่สร้างขึ้นจากนิยายภาพขายดี บอหเล่าเรื่องราวของพี่น้อง 3 คน ที่ย้ายเข้าบ้านเก่าของตระกูล ภายหลังจากที่พ่อของพวกเขาถูกฆาตกรรม พวกเขายังได้พบว่าบ้านหลังนี้ มีกุญแจวิเศษที่สามารถไขไปสู่พลังวิเศษมากมายอีกด้วย
Locke & Key ซีรีย์ 18+ แนวแฟนตาซีสยองขวัญอีกเรื่องหนึ่งที่ถูกใจคนดูหลาย ๆ คน ซึ่งเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับสามพี่น้องขณะที่กำลังตามล่าหา 12 กุญแจวิเศษที่จะนำไปสู่หลังเหนือธรรมชาติและภัยร้ายอีกมากมาย ถึงจะพึ่งมีเพียงแค่ซีซั่นเดียว แต่ก็ทิ้งมิชชั่นและปริศนาไว้มากมาย ทั้งเรื่องความลับของประตู Black Door ปริศนาของพลังกุญแจแต่ละดอก และเรื่องภัยร้ายที่กำลังจะเกิดขึ้น ปมทั้งหมดที่ถูกทิ้งไว้จะถูกคลี่คลายในซีซั่น 2 ที่กำลังจะมานี้
สามารถเข้าไปรับชมได้ที่: NETFLIX
5. Emily in Paris
ซีรีย์คอมเมดี้ที่บอกเล่าเรื่องราวชีวิตของ เอมิลี คูเปอร์ หญิงสาวชาวอเมริกันจากชิคาโก ผู้มีความหลงใหลในปารีสมากๆ ที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทด้านการสื่อสาร ทั้งยังเก่งในเรื่องของการทำงานด้านการตลาผ่านโซเชียลมีเดีย ของบริษัทจึงได้ส่งเธอมาทำงานอยู่ที่บริษัทการตลาดในปารีส ฝรั่งเศส เธอจึงได้เดินทางไปยังดินแดนในฝัน ทั้งยังถือเป็นโอกาสในการพิสูจน์ฝีมือของเธอ แต่การมาอยู่ปารีสก็ไม่ใช่เรื่องง่าย การเดินตามความฝันของเธอจึงมีเรื่องราวต่างๆ มากมายเกิดขึ้น แถมยังมีความสนุกสนานและมีชีวิตชีวาได้ทุกวันด้วย
สามารถเข้าไปรับชมได้ที่: NETFLIX
6. Wednesday
ซีรี่ย์แนวแฟนตาซีที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากอย่าง Wednesday บอกเล่าเรื่องราวของ เวนส์เดย์ หญิงสาวหน้าตายผู้มืดหม่น ของครอบครัวสุดประหลาดอย่าง Addams โดยเวนส์เดย์กำลังอยู่ในวัยต่อต้านพ่อแม่ และเธอก็ได้ถูกส่งเข้าโรงเรียนที่รวมตัวประหลาดไว้มากมายซึ่งพ่อแม่ของเธอเองก็เป็นศิษย์เก่าที่นั่น อีกทั้งเวนส์เดย์ก็ยังต้องเข้าไปพัวพันกับความลับและเหตุการณ์ฆาตกรรมในละแวกนี้อีกด้วย
สามารถเข้าไปรับชมได้ที่: NETFLIX
7. Stranger Things
Stranger Things ซีรี่ย์แฟนตาซีฝรั่งชื่อดังที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม บอกเล่าเรื่องราวภายในเมือง ฮอว์กินส์ รัฐอินเดียนา เมืองสมมติในชนบทช่วงคริสต์ทรศวรรษ 1980 มีห้องทดลองแห่งชาติฮอว์กินส์ที่ทำการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ให้กับกระทรวงพลังงานของสหรัฐฯ แต่แอบทำการทดลองนอกเหนือจากแผนการและยังเหนือธรรมชาติอีกด้วย นอกจากนี้ก็ยังมีการทดลองกับมนุษย์ พวกเขาได้สร้างประตูไปยังมิติอื่นที่เรียกว่า โลกกลับด้าน โดยไม่รู้ตัว ทั้งอิทธิพลของโลกกลับด้านนี้ยังส่งผลกระทบต่อผู้คนที่อยู่อาศัยภายในเมืองแห่งนี้อีกด้วย
สามารถเข้าไปรับชมได้ที่: NETFLIX
8. Fallout
Fallout ซีรี่ย์ฝรั่ง ที่ดัดแปลงมาจากวิดีโอเกมในชื่อเดียวกัน โดยมีฉากหลังเป็นโลกภายหลังหายนะนิวเคลียร์ หรือ post-apocalyptic โดยซีรี่ย์จะบอกเล่าถึง โลกอนาคตที่เกิดสงครามนิวเคลียร์ขึ้นทั่วโลก ทำให้สังคมล่มสลายลง ผู้ที่เหลือรอดก็ต้องต่อสู่เพื่อเอาชีวิตรอต ในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยอันตราย ไม่ว่าจะเป็นอันตรายจากรังสี, มนุษย์ที่กลายพันธุ์, สัตว์ประหลาด และการขาดแคลนทรัพยากร
สามารถเข้าไปรับชมได้ที่: Prime Video
9. Young Royals
Young Royals เป็นซีรีย์ฝรั่งวาย แนวโรแมนติก ดรามา สัญชาติสวีเดน ที่ออกอากาศทาง Netflix บอกเล่าเรื่องราวของ เจ้าชายวิลเฮล์ม รัชทายาทลำดับที่สองของสวีเดน ย้ายไปเรียนที่โรงเรียนประจำชั้นนำ Hillerska เขาได้พบกับ ซิมอน นักเรียนทุน ทั้งคู่ต่างมีนิสัยและคาแรคเตอร์ที่ตรงกันข้าม แต่ความรักของพวกเขาก็ค่อยๆ พัฒนาไปอย่างช้าๆ
สามารถเข้าไปรับชมได้ที่: NETFLIX
10. True Detective
True Detective ซีรี่ย์ฝรั่งแนวดรามา อาชญากรรม ดรามา ที่เน้นไปที่การสืบสวนคดีฆาตรกรรมสุดซับซ้อน ในแต่ละซีซันนั้น็จะมีตัวละครหลักและคดีใหม่ๆ ที่ไม่ได้เกี่ยวกับข้องกับซีซันก่อนหน้า ทำให้แต่ละซีซันนั้นจะความสนุกและเอกลักษณ์เฉพาะตัว แถมยังมีบรรยากาศของเรื่องที่เข้มข้นน่าติดตามอย่างมาก และยังมีประเด็นด้านจิตวิตยาและสังคมที่สอดแทรกเข้ามาผ่านการสืบสวนของตัวละครด้วย
- Season 1: จะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการสืบสวนคดีฆาตรกรรมระหว่าง 2 นักสืบ ในรัฐลุยเซียนา
- Season 2: บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการสืบสวนในรัฐแคลิฟอร์เนีย ที่เต็มไปด้วยคววามซับซ้อนและการคอร์รัปชั่น
- Season 3: มุ่งเน้นไปที่คดีการหายตัวไปของเด็ก 2 คน ในรัฐอาร์คันซอ ที่ได้ทิ้งบาดแผลไว้ให้กับนักสืบที่ทำการสืบสวน
- Season 4 (2024): จะเกี่ยวข้องกับคดีใหม่ในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างไปจากเดิม โดยจะมีนักสืบชุดใหม่ที่เข้ามาคลี่คลายปริศนาที่แสนลึกลับและท้าทายนี้
สามารถเข้าไปรับชมได้ที่: Prime Video
11. The Crown
ซีรี่ย์ดรามาย้อนยุคสุดเข้มข้นที่อิงประวัติศาสตร์ของอังกฤษ เรื่องราวในสถาบันกษัตริย์อย่างราชวงศ์วินด์เซอร์ โดยซีรีย์ The Crown จะพาให้เราย้อนไปในช่วงที่ Queen Elizabeth นั้น ยังเป็นเพียงเจ้าหญิง และต้องแต่งงานกับเจ้าชาย Philip ซึ่งนอกจากจะเป็นเรื่องในวังแล้ว เรายังจะได้เห็น Queen Elizabeth ในบทบาทที่ต้องเผชิญกับวิกฤตต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการแย่งชิงอำนาจทางการเมือง การครองราชย์ ตัวเรื่องยังมีการสะท้อนประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นจริงควบคู่กันไปด้วย ไม่ว่าจะเป็น การไว้อาลัยต่อการจากไปของนายกรัฐมนตรีแห่งอังกฤษ เซอร์วินสตัน เชอร์ชิล, เรื่องราวของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ แห่งราชวงวินด์เซอร์ และเจ้าหญิงไดอาน่า แห่งเวลส์, ความรักที่แสนจะอื้อฉาวของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ที่นำไปสู่ความร้าวฉานกับเจ้าหญิงไดอาน่า ฯลฯ สามารถติดตามได้ใน The Crown ได้เลย
สามารถเข้าไปรับชมได้ที่: NETFLIX
12. The Boys
The Boys เป็นซีรี่ย์ฝรั่ง แนวซูปอร์ฮีโร่ แอคชั่น ดรามา ที่บอกเล่าเรื่องราวที่แตกต่างไปจากซีรี่ย์ซูเปอร์ฮีโร่ทั่วไป โดยเรื่องนี้จะเน้นไปที่ด้านมืดและความเลวร้ายของเหล่าฮีโร่ ที่ซ่อนอยู่ภายใต้ภาพลักษณ์ที่ดูดีของพวกเขา
เรื่องราวของ The Boys จะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในโลกที่ซูเปอร์ฮีโร่ เป็นที่เคารพนับถือและมีอิทธิพลอย่างมาก แต่ในความจริงแล้ว พวกเขาก็มักจะใช้พลังในการกระทำความผิดและหาประโยชน์ให้ตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกลุ่มฮีโร่ที่ที่เรียกว่า “The Seven” ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีอิทธิพลมากที่สุด ด้วยเหตุนี้เอง กลุ่ม “The Boys” จึงพยายามที่จะเปิดโปงความจริงและต้องการต่อสู้กับซูปเปอร์ฮีโร่เหล่านี้ โดยใช้วิธีการที่รุนแรงและไม่ธรรมดา เพื่อทวงความยุติธรรม
สามารถเข้าไปรับชมได้ที่: Prime Video
13. Avatar: The Last Airbender
ซีรี่ย์แนวผจญภัย แฟนตาซี ที่บอกเล่าเรื่องราวของ 4 อาณาจักรใหญ่ แบ่งตามธาตุ ได้แก่ ดิน, น้ำ, ลม และไฟ โดยผู้คนที่อยู่ในโลกนี้บางคนจะสามารถควบคุมธาตุเหล่านี้ได้ ซึ่งถูกเรียกว่า “Benders” แต่จะมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถควบคุมได้ทั้ง 4 ธาตุ ซึ่งจะถูกเรียกว่า “Avatar” โดยเขามีหน้าที่รักษาสมดุลและสันติภาพในโลก
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ Aang เด็กหนุ่มที่เป็น Avatar คนปัจจุบัน ได้ตื่นขึ้นจากการถูกแช่แข็งในน้ำแข็งเป็นเวลา 100 ปี ซึ่งในระหว่างที่เขาหายตัวไป Fire Nation หรือ อาณาจักรไฟ ก็ได้เริ่มก่อสงครามและพยายามยึดครองโลกทั้งใบ Aang และเพื่อนๆ ของเขา ทั้ง Katara และ Sokka ก็ต้องออกเดินทางเพื่อฝึกฝนการควบคุมพลังธาตุทั้ง 4 เพื่อเอาชนะผู้นำของอาณาจักรไฟ และฟื้นฟูสมดุลให้กับโลก
สามารถเข้าไปรับชมได้ที่: NETFLIX
14. Outlander
ซีรี่ย์ฝรั่งแนวโรแมนติก ดรามา แฟนตาซี ที่ดัดแปลงมาจากนวนิยายในชื่อเดียวกัน บอกเล่าเรื่องราวในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ Claire Randall พยาบาลสงคราม ชาวอังกฤษ ได้บังเอิญเดินทางข้ามเวลา ด้วยหินโบราณในแถบ Scottish Highlands กลับไปยังสกอตแลนด์ในช่วงปี 1743
เมื่อ Claire ต้องติดอยู่ในอดีต เธอก็ได้พบว่าตัวเองอยู่ในช่วงเวลาที่เกิดความขัดแย้งขึ้นระหว่างชาวสกอตแลนด์และอังกฤษ เธอต้องหาทางเอาตัวรอดในโลกที่เธอไม่คุ้นเคย แถมยังเต็มไปด้วยอันตราย ในระหว่างนี้เอง เธอก็ได้พบกับ Jamie Fraser ชายหนุ่มชาวสกอตแลนด์ ทั้งสองได้ตกหลุมรักกัน แม้ว่าตัวของ Claire นั้น เธอจะมีสามีอยู่แล้วในยุคปัจจุบันของเธอก็ตาม
สามารถเข้าไปรับชมได้ที่: NETFLIX
15. The Last of Us
ซีรี่ย์คนแสดงที่สร้างมาจากเกมดังในชื่อเดียวกันอย่าง The Last of Us เป็นซีรีย์ที่บอกเล่าถึงการล่มสลายของโลก ภายหลังจากเกิดวิกฤตการณ์ที่เชื้อรามรณะชนิดหนึ่งอย่าง Cordyceps Brain Infection ฝังตัวและเติบโตในสมองของมนุษย์ ส่งผลให้คนเสียชีวิตและกลายเป็นผู้ติดเชื้อ ทั้งยังสามารถแพร่ขยายพันธุ์ออกไปได้อย่างไม่สิ้นสุด เนื้อเรื่องดำเนินโดยตัวละครหลักอย่าง โจเอล ชายวัยกลางคนที่สูญเสียลูกสาวอันเป็นที่รักไป กับ เอลลี เด็กสาวผู้กุมความลับที่อาจพลิกชะตาของโลกได้ เพราะเธอเป็นเพียงคนเดียวที่มีภูมิคุ้มกันต่อเชื้อรานี้
สามารถเข้าไปรับชมได้ที่: HBO GO
16. Loki
ซีรี่ย์ฝรั่งแนวซูเฟอร์ฮีโร่ แฟนตาซี ที่เป็นส่วนหนึ่งของจักรวาล Marvel หรือ MCU โดยในเรื่องนี้จะเน้นไปที่เรื่องราวของ Loki เทพเจ้าแห่งความชั่วร้าย ซึ่งเป็นน้องชายของ Thor โดยเหตุการณ์ในซีรี่ย์ จะเริ่มต้นจากเหตุการณ์ในภาพยนตร์ “Avengers: Endgame” เมื่อ Loki ได้ฉกฉวย Tesseract ซึ่งเป็นหนึ่งใน Infinity Stones และได้หนีออกจากการควบคุมของเหล่า Avengers ทำให้เขาถูกจับตัวไปโดยองค์กรลึกลับที่เรียกตัวเองว่า “Time Variance Authority (TVA)” มีหน้าที่ในการรักษาเส้นเวลาให้เป็นไปตามที่ควร Loki ได้ถูกบังคับให้ช่วย TVA ในการแก้ไขความผิดปกติของเส้นเวลา โดยที่แลกกับการไว้ชีวิต ซึ่งเขาเองก็ต้องไขปริศนานี้ด้วยว่า แท้จริงแล้วผู้ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ คือใครกันแน่
สามารถเข้าไปรับชมได้ที่: Disney+ Hotstar
17. The Mandalorian
ซีรี่ย์แนวแอคชั่น ผจญภัย ไซไฟ ที่อยู่ในจักรวาลของ Star Wars บอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นภายหลังจากการล่มสบายของจักรวรรดิ ประมาณ 5 ปี โดย Din Djarin หรือที่รู้จักกันในชื่อ “The Mandalorian” นักล่าค่าหัว ที่ทำงานคนเดียวในกาแล็กซี่ที่ไม่มีกฎหมาย เขาได้รับภารกิจให้ตามหาและจับตัวสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า “The Child” (Grogu หรือ Baby Yoda) แต่แทนที่เขาจะส่งมองให้ผู้ว่าจ้าง เขากลับตัดสินใจปกป้อง Baby Yoda แทน
สามารถเข้าไปรับชมได้ที่: Disney+ Hotstar
18. The Umbrella Academy
คอมิกแนวซูเปอร์ฮีโร่จากค่าย Dark Horse Comics ผลงานของ Gerard Way ที่ถูกสร้างมาเป็นซีรีย์ที่กล่าวถึง Sir Reginald Hargreeves นักวิทยาศาสตร์และมหาเศรษฐี ได้รับเลี้ยงดูเด็ก 7 คน ที่เกิดมาพร้อมปริศนา จากแม่ที่ตั้งครรภ์อย่างกะทันหันและคลอดแทนจะทันที เขาได้เลี้ยงดูเด็กเหล่านี้ที่มีพลังพิเศษเพื่อให้เติบโตมาเป็นกำลังในการปกป้องโลก
สามารถเข้าไปรับชมได้ที่: NETFLIX
19. The Good Doctor
ซีรี่ย์ The Good Doctor เวอร์ชันอเมริกา เป็นซีรีย์ที่รีเมคมาจากเวอร์ชันเกาหลี เป็นแนวการแพทย์ ดราม่า และโรแมนติก ออกอากาศครั้งแรกในปี 2017 ทางช่อง ABC ซีรี่ย์เรื่องนี้นำแสดงโดย เฟรดดี ไฮมอร์, ซาแมนธา แม็คคินซี่, แจ็ค แมคกิแวร์, เฟลิเซีย แชปแมน และ นิโคลาส์ กุนน์ บอกเล่าเล่าเรื่องราวของ ฌอน เมอร์ฟี่ (รับบทโดย เฟรดดี ไฮมอร์) ศัลยแพทย์หนุ่มออทิสติกที่มีศักยภาพสูง เขามีความจำดีเยี่ยมและทักษะการวินิจฉัยที่แม่นยำ แต่เขามีปัญหาในการเข้าสังคมและการสื่อสาร ฌอนได้รับโอกาสให้เข้าฝึกงานในแผนกศัลยกรรมเด็กที่โรงพยาบาลเซนต์โบนาเวนเจอร์ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในอเมริกา
ที่โรงพยาบาลแห่งนี้ ฌอนต้องเผชิญหน้ากับปัญหาต่าง ๆ ทั้งจากแพทย์และพยาบาลที่มองว่าเขาไม่สามารถเป็นแพทย์ที่ดีได้ เขาต้องต่อสู้เพื่อพิสูจน์ตัวเองและเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วย นอกจากนี้ ซีรีย์เรื่องนี้ยังเล่าเรื่องราวของ ลีซา โคดี้ (รับบทโดย ซาแมนธา แม็คคินซี่) แพทย์ฝึกหัดที่ทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลเซนต์โบนาเวนเจอร์ เธอเป็นลูกสาวของผู้อำนวยการโรงพยาบาล และเธอก็แอบชอบฌอน
สามารถเข้าไปรับชมได้ที่: Prime Video
20. New Amsterdam
ซีรี่ย์ฝรั่งแนวการแพทย์ ที่ชวนให้เราได้ติดตามเรื่องราวในโรงพยาบาลสารธารณะที่เก่าแก่ที่สุดในอเมริกา โดยซีรี่ย์เรื่องนี้ได้รับแรงบันดาลใจจาหนังสืออย่าง “Twelve Patients: Life and Death at Bellevue Hospital” ของ Dr. Eric Manheimer
เรื่องราวของ New Amsterdam เริ่มต้นขึ้น เมื่อ Dr. Max Goodwin ได้เขข้ารับตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการทางการแพทย์คนใหม่ของโรงพยาบาล New Amsterdam โดยเขามีวิสัยทัศน์ที่จะปฏิรูปโรงพยาบาล โดยตั้งใจที่จะรื้อฟื้นและพัฒนาบริการทางการแพทย์ เพื่อให้ผู้ป่วยทุกคนได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด
ตัวซีรี่ย์ยังพาเราไปสำรวจความท้าทายที่เกิดขึ้นในวงการแพทย์และโรงพยาบาล การปะทะกันระหว่างอุดมการณ์และระบบ ความขัดแย้งภายในองค์กร รวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างบุคลากรทางการแพทย์อีกด้วย
สามารถเข้าไปรับชมได้ที่: NETFLIX
และทั้งหมดนี้ก็คือซีรี่ย์ฝรั่งที่เราได้นำมาแนะนำกัน มีให้เลือกรับชมได้หลากหลายแนว ครบรส ตอบโจทย์คนที่ชอบซีรี่ย์หรือภาพยนตร์ทางฝั่งตะวันตกได้เป็นอย่างดี ใครที่กำลังมองหาซีรี่ย์สนุกๆ ดูเพลินๆ ก็สามารถเข้าไปรับชมได้จากแพลตฟอร์ม Streaming ต่างๆ เลย