ใครที่กำลังมองหาหนึ่งใน Gaming Notebook ขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้ว สเปคแรงๆ บอกเลยในตอนนี้รุ่นที่น่าสนใจที่สุดในช่วงกลางปี 2018 คงหนีไม่พ้น Predator Helios 300 รุ่นใหม่ที่ใช้ CPU เป็น Core i7 Gen 8 ตัวล่าสุด อย่าง Intel Core i7-8750H แบบ 6 Core/12 Thread และการ์ดจอสุดตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1060 (6GB) โดยมีราคาเริ่มต้นเพียง 43,990 บาทเท่านั้น จนไปถึง 46,990 บาท ซึ่งเป็น Gaming Notebook ที่มีสเปคคุ้มค่าต่อราคามากๆ แถมเปิดตัวมาถูกกว่ารุ่นก่อนอีก
โดยทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมกับประกัน 3 ปีแบบ On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้าน เรียกได้ว่าทาง Acer นั้นจัดเต็มจริงๆ ซึ่งล่าสุดทางทีมงาน NotebookSPEC ก็ได้จัดมาเพื่อทำการรีวิวเรียบร้อยแล้ว โดยเป็นในส่วนของรุ่นเริ่มต้นที่ราคา 43,990 บาท ประสิทธิภาพการทดสอบจะเป็นเช่นไร ไปติดตามที่รีวิวนี้เต็มๆ ในบทความนี้กันได้เลยครับ
VDO Review
Specification
Predator Helios 300 Gen 8 ในตอนนี้จะมีจำหน่ายด้วยกัน 2 รุ่นย่อย ซึ่งตัวที่ NotebookSPEC ได้มาทดสอบ เป็นตัวรุ่นเริ่มต้นราคา 43,900 บาท ใช้ชิปประมวลผลเป็น Intel Core i7-8750H (2.20 – 4.10 GHz) ทำงานแบบ 6 Core/12 Thread ประสิทธิภาพสูงแรงกว่ารุ่นเดิมเยอะพอสมควร พร้อมกราฟิการ์ดตัวแรงระดับ Desktop อย่าง NVIDIA GeForce GTX 1060 (6GB GDDR5) มีที่เก็บข้อมูลฮาร์ดดิสก์ความจุ 1 TB 5400 รอบ พร้อมติดตั้ง SSD แบบ M.2 ความจุ 128 GB ไว้ด้วย ในส่วนของ Ram เองมีมาให้ 8 GB แบบ DDR4 Bus 2666 อัปเกรดได้สูงสุด 32 GB
นอกจากนี้ Predator Helios 300 Gen 8 มาพร้อมจอแสดงผลแบบด้าน 15.6 นิ้ว ที่ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ให้สีสันที่สวยงามทุกมุมมอง แถมมาพร้อมขอบเขตสีสูงสุด 98% sRGB 60 Hz และในส่วนของระบบเสียงเป็นลำโพงแบบสเตอริโอให้เสียงที่ดีในระดับที่น่าพอใจ ประกอบกับมีซอฟต์แวร์จัดการเสียงอย่าง DOLBY AUDIO ทำให้มีคุณภาพที่ดียิ่งขั้นไปอีก
ตัวหน้าจอยังมาพร้อมกล้อง Webcam แบบ HD และมีไมค์ดิจิตอล 2 ตัวแบบตัดเสียง ส่วนการเชื่อมต่อก็มีมาอย่างครบถ้วน ทั้ง HDMI, 1 x USB 3.0, 1 x USB 3.1 Type-C, 2 x USB 2.0, Kensington Lock, 2-in-1 SD, RJ-45 , Headset 3.5mm พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 4.0 และ Wi-Fi Intel Dual Band มาตรฐาน 802.11a/b/g/n/ac
อีกอย่าง Predator Helios 300 Gen 8 ยังมาพร้อมกับ Windows 10 Home แท้ด้วยทุกรุ่น สำหรับรุ่นที่นำมารีวิวเป็นตัว Intel Core i7 ตัวเริ่มต้น สนนราคาอยู่ที่ 43,990 บาทเท่านั้นถือว่าคุ้มค่าที่สุด ณ เวลานี้เลยทีเดียวครับ
- Core i7-8750H + GTX 1060 (6GB) + RAM 8 GB + SSD m.2 128 GB ราคา 43,990 บาท
- Core i7-8750H + GTX 1060 (6GB) + RAM 16 GB + SSD m.2 256 GB NVMe ราคา 46,990 บาท
Hardware / Design
ดีไซน์ของตัวเครื่อง Predator Helios 300 Gen 8 นั้นเรียกได้ว่าถอดรูปมาเดิมมาจากรุ่นเก่าทั้งหมดแล้วเปลี่ยนไส้ในเอา ซึ่งโรงสร้างภายนอกจะเน้นรูปทรงภายนอกดูสมัยที่ดูคล้ายยานอวกาศ วัสดุหลักทั้งตัวเครื่องไม่ว่าจะเป็นฝานอกหรือบอดี้ตรงฐานคีย์บอร์ดวัสดุจะเป็นโลหะทั้งหมด ซึ่งบอกได้เลยว่าประกอบเนี้ยบ ดูดีจริงๆ โดยสีสันจะเป็นโทนดำตัดกับสีแดงตามสไตล์ Gaming ดุดัน พร้อมมีโลโก้ Predator กับมีขีดสีแดงแถวเฉียงสองเส้นสวยงาม
ผิวฝาบนสีดำมันวาวลายบลัชลายโลหะสเแตนเลส ให้สัมผัสที่ดี งานมีคุณภาพ ส่วนขอบฝาด้านบนจะทำเป็นลายที่จับกั้นลื่นด้วย แต่ดูเหมือนว่าจะเป็ยรอยนิ้วมือง่ายนิดหนึ่งสำหรับผิวอลูมิเนียมที่เป็นโลหะ ซึ่งคงต้องหมั่นคอยเช็ดทำความสะอาดสักหน่อยเวลาเหงื่อออกแล้วไปจับ
สำหรับเรื่องขนาดของ Predator Helios 300 Gen 8 เรียกได้ว่าทำออกมาได้ดีในระดับหนึ่งคือไม่ใหญ่เกินไปเหมือน Predator 15 แล้วก็ไม่ได้เล็กมากจนเกินไปเหมือน Gaming Notebook บางรุ่นที่เน้นความบางเบา (จนบางครั้งก็บางเกิน ทำให้ระบายความร้อนได้ไม่ดีนัก) อย่างไรก็ตามเรื่องขนาดนั้นสรุปได้ว่า Predator Helios 300 Gen 8 อยู่ตรงโซนกลางๆ ของโน๊ตบุ๊คสำหรับการเล่นเกมที่มาพร้อมกับหน้าจอ 15.6 นิ้ว
Predator Helios 300 Gen 8 นั้นพร้อมกับฝาหลังสามารถที่จะแกะด้านล่างของตัวเครื่องออกมาได้สะดวก ทั้งอัพเกรด HDD หรือ Ram ก็ทำได้ง่าย เพียงไขน็อตตัวเดียวแล้วแกะออกก็สามารถทำการอัพเกรดได้แล้ว แต่ถ้าหากจะอัพเกรด SSD คงจะยากสักหน่อยเพราะมันอยู่ด้านในสุด ต้องแกะฝาหลังเครื่องออกทั้งหมดเลยนั่นเอง ถ้าคนไม่เชี่ยวชาญคงต้องให้ทางร้านให้ช่างทำให้แล้วละครับ
Keyboard / Touchpad
ตัวเครื่องที่มาพร้อมกับหน้าจอใหญ่ถึง 15.6 นิ้วนั้นทำให้ทาง Predator Helios 300 Gen 8 สามารถที่จะติดตั้งคีย์บอร์ดแบบ Full Size มาให้ผู้ใช้งานได้ใช้กันได้อย่างสบายๆ โดยจุดเด่นนั้นก็คงหนีไม่พ้นเรื่องการมี ปุ่มแป้นคีย์ตัวเลข (Numpad) มาให้ด้วย รวมไปถึงแป้นปุ่มตรงตัวอักษร WASD ยังเป็นสีแดงเด่นออกมา ซึ่งมาพร้อมกับไฟส่องสว่างสีแดง (เปิดปิดได้เท่านั้น ปรับระดับแสงไม่ได้) ให้ความสว่างพอสมควรดูเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คสวยงาม อีกทั้งเรื่องการสัมผัสบนคีย์บอร์ดที่ปุ่มมีความนุ่มมาก รู้สึกได้เลยว่าดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปแน่นอน
ในส่วนทัชแพดนั้นจะมีขนาดกลางๆ ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป ออกแบบปุ่มมาเป็นแบบชิ้นเดียวซ่อนปุ่มตามสมัยนิยมทั้งคลิกซ้ายคลิกขวา ให้ความลื่นไหลในการใช้งานเป็นอย่างดี ซึ่งตัวทัชแพดจะวางตัวไปทางด้านซ้ายของเครื่องเล็กน้อยไม่ได้อยู่ตรงกลางหน้าจอเป๊ะๆ โดยรวมก็สามารถใช้งานได้ดีไม่ปัญหาแต่อย่างใด
Screen / Speaker
Predator Helios 300 Gen 8 มาพร้อมหน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD (1920×1080 พิกเซล) แบบ ComfyView ที่เลือกใช้ พาเนล IPS 60 Hz ให้มุมมองที่คมชัด สีสันสวยสดงดงาม โดยพื้นผิวจอเป็นแบบจอด้าน Anti-Glare ช่วยลดแสงสะท้อนเวลาเรานำโน๊ตบุ๊คไปทำงานข้างนอก ซึ่งดูรวมๆ แล้งทั้งสีสันและความคมชัดจัดว่าใช้ได้เลยทีเดียว เหมาะกับการใช้งานทั่วไปหรือการเล่นเกม ดูหนังก็ทำได้ย่อมทำได้อย่างน่าประทับใจไม่มีปัญหา
ส่วนทางด้านลำโพงของ Predator Helios 300 Gen 8 นั้นจะมีด้วยกัน 2 ตัวโดยจะอยู่ทางด้านล่างมุมซ้ายและขวาของเครื่องอย่างละตัว ลำโพงนั้นจะมีการวางตำแหน่งในลักษณะเฉียงลงไปยังพื้นเพื่อที่จะให้เสียงได้สัมผัสกับพื้นแล้วสะท้อนขึ้นมาให้ผู้ใช้ได้ยินซึ่งถือว่าเป็นการออกแบบที่ดีมาก ซึ่งคุณภาพเสียงการใช้งานต่างๆ เมื่อใช้งานร่วมกับฟีเจอร์ DOLBY AUDIO ก็สามารถทำออกมาได้ดีในระดับหนึ่งและจากการใช้งานรู้สึกว่าดีกว่ารุ่นเก่าด้วย
การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ Predator Helios 300 Gen 8 ที่เป็นโน๊ตบุ๊คที่ใช้หน้าจอพาเนล IPS ทางทีมงานเลยถือโอกาสทดสอบหน้าจอแบบละเอียดๆ ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งเมื่อคาลิเบรตแล้วเราก็เลือกโปรไฟล์ที่เราได้คาลิเบรทเอาไว้ ผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรทก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน จากโทนเย็นกลายเป็นโทนอุ่น
โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 98% ดูจากที่เส้นสีของหน้าจอจะเป็นสีแดง เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันนั้นดีมากกว่าเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ ซึ่งมีความเที่ยงตรงของสีสูง ส่วนความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 300 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าค่อนข้างสว่างกว่าหน้าจอเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่น ทำให้เมื่อคาลิเบตหน้าจอแล้วสามารถไปทำงานภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพที่เน้นความเที่ยงตรงได้โอเคเลยทีเดียว
สรุปสุดท้ายด้วยคะแนนรวมทั้งหมดโดยตัวเครื่อง Predator Helios 300 Gen 8 รุ่นใหม่ล็อตใหม่ก็ได้คะแนนไป 4.0 คะแนน ซึ่งเมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว ผ่านทางอุปกรณ์ Spyder5Elite ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์กลางๆ พอใช้งานตามมาตราฐานทั่วไปพอได้
Connector / Thin And Weight
Predator Helios 300 Gen 8 จัดว่าเป็น Gaming Notebook ขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้ว ที่มีพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครันอีกรุ่นเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น 1 x USB 3.0(เป็นแบบชาร์จเจอร์ด้วย), 1 x USB 3.1 Type-C, 2 x USB 2.0, HDMI, SD(XC/HC) Card reader, RJ45 (Gigabit Ethernet) และ Mic-in/Headphone-out แบบ Combo เรียกได้ว่าพอเพียงกับการใช้งานทั่วไปอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามสำหรับ USB 2.0 ที่ให้มา 2 พอร์ตนั้น ถ้าเปลี่ยนเป็น USB 3.0 ไปเลยจะดีมากๆ
ส่วนการเชื่อมต่อไร้สายอย่างรองรับทั้ง Bluetooth 4.2 และอินเตอร์เน็ตไร้สายมาตรฐาน 802.11b/g/n/ac รูปแบบมาตราฐานใหม่ที่รองรับสัญญานแบบ 5 GHz และทางด้านการพกพา Predator Helios 300 Gen อาจจะลำบากสักนิดเพราะน้ำหนักที่มากกว่าเดิม ซึ่งหนักอยู่ที่ 2.70 กิโลกรัม และเมื่อรวมกับอแดปเตอร์ก็เข้าไปด้วยรวมจะมีน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 3.2 กิโลกรัมได้ครับ
Performance / Software
สำหรับตัว Predator Helios 300 Gen 8 มาพร้อมกับชิปประมวลผลจาก Intel Core i7-8750H ซึ่งเป็นชิปประมวลผลที่เน้นการใช้งานหนักๆ ไม่ว่าจะเป็นการโปรเซสหรือเล่นเกม มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.20 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง4.10 GHz เป็นซีพียูแบบ 6 Core/12 Threads รุ่นใหม่ล่าสุดที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลจริงจังก็รองรับได้อย่างสบายๆ และมาพร้อม Ram ภายในขนาด 8 GB DDR4 Bus 2666 MHz
กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel UHD Graphics 630 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง ส่วน การ์ดจอแยกใช้รุ่นใหม่ล่าสุดตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1060 ขนาด 6 GB ที่ต้องบอกว่าแรงเทียบเท่าระดับพีซี และแรงกว่า GTX 1050/1050Ti แบบรู้สึกได้ สามารถนำเอาไปเล่นเกมแบบ Full HD ปรับสุดได้ทุกเกมสบายๆ แถมยังรองรับเทคโนโลยี VR ในอนาคตอีกด้วย
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับสูงสุดๆ ที่น่าประทับใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลรุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าเดิมมาก รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นผสานกับการ์ดจอระดับบน ที่เน้นการทำงานหนักเป็นหลัก
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 128 GB แบบ M.2 (สล็อตรองรับการอัพเกรดเป็น SSD M.2 NVMe ได้) ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนแล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 554.0 MB/s และเขียนที่ 137.9 MB/s
ทดสอบการทำงานฮาร์ดดิสก์ความจุอยู่ที่ 1 TB แบบความเร็ว 5400 รอบที่ติดตั้งมาให้ ด้วยโปรแกรม HD Tune แล้วพบว่าอัตราการถ่ายโอนข้อมูลน้อยสุดที่ 48.3 MB/s และสูงสุดที่ 252.3 MB/s ทำให้ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 200.0 MB/s ด้วยกัน มีอัตราการเข้าถึงข้อมูลที่ 3.85 ms ซึ่งนับได้ว่าผลทดสอบที่ออกมานั้นมีความน่าประทับใจทีเดียว เรียกได้ว่าทำได้ดีกว่าฮาร์ดดิสก์ 5400 รอบตัวถูกๆ แบบรู้สึกได้เวลาเข้าเกมโหลดเกม
คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของ FPS จากทั้ง 6 เกม เรียกได้ว่าปรับสุดทุกอย่างมีคะแนน FPS เฉลี่ยมากกว่า 60 FPS ขึ้นไปทุกเกม ไปดูจากกราฟได้เลยครับว่าเป็นอย่างไรบ้าง
จากทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง Battlefield 1, GTA V, Far Cry 5 และ PUBG ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด ภาพก็สวยจนน่าประทับใจแบบที่สุด ซึ่งดูจากเฟรมเรทเฉลี่ยแล้วแทบไม่ต่ำไปกว่า 60 FPS เรียกได้ว่าเหลือๆ ไม่มีอาการแลคแต่อย่างใด
ส่วนอีก 2 เกมออนไลน์ที่ทีมงานเล่นกันเป็นประจำอย่าง Overwatch, DOTA 2 ค่าเฟรมเรทไม่เฉลี่ยแทบไม่ต่ำกว่า 100 FPS พูดได้เลยว่าลื่นจนภาพฉีก (แนะนำให้เปิด V-Sync) สรุปโดยรวมแล้วคือ Predator Helios 300 Gen 8 คือเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คชั้นยอดสุดคุ้มที่สามารถเล่นเกมทุกเกมบนโลกได้อย่างสบายๆ และทำได้อย่างน่าประทับใจ ทั้งจากความลื่นไหลและหน้าจอที่สวยงามสมจริงนั่นเองครับ
Battery / Heat / Noise
Predator Helios 300 Gen 8 นั้นมาพร้อมกับแบตเตอรี่ 3,000 mAh ซึ่งจะว่าไปแล้วนั้นก็ค่อนข้างที่จะน้อยไปหน่อย แต่เมื่อมาดูประสิทธิภาพก็อยู่ในระดับกลางๆ ด้วยการทดสอบ Predator Helios 300 Gen 8 ใช้งาน Wi-Fi เพื่อท่องเว็บดูท่องเว็บดู YouTube ได้สูงสุด 4 ชั่วโมง 3 นาที พอพกพาไปทำงานนอกสถานที่ก็พอได้บ้าง แต่เครื่องอาจจะหนักสักนิดแนะนำให้สะพายกระเป๋าไหล่สองข้างแล้วกันนะครับ
ส่วนของอุณหภูมิถือว่าสามารถที่จะทำได้ดีตอนที่ใช้งานเครื่องแบบไปบีบขั้นทรัพยากรมากนัก และถึงจะเป็นการเล่นเกมที่เน้น GPU และ CPU เข้ามาด้วยเป็นเวลานานๆ ตัวเครื่องจะไปร้อนสะสมอยู่ที่ด้านบนคีย์บอร์ด แต่ก็ไม่ได้ร้อนมากจนจับไม่ได้ โดยจากการทดสอบอุณหภูมิเฉลี่ยสูงสุดที่วัด CPU ได้อยู่ที่ 89 องศา และ GPU อยู่ที่ 75 องศา (ทดสอบในห้องแอร์อุณหภูมิ 25 องศา) เรียกได้ว่าทำได้น่าพอใจดีกว่ารุ่นเดิม เพราะมีการพัฒนาพัดลมให้เป็นแบบ AeroBlade 3D และ CPU มี Clockspeed เริ่มต้นต่ำกว่าเดิมนั่นเองครับ
Conclusion / Award
สรุปรีวิว Predator Helios 300 Gen 8 เป็น Gaming Notebook ที่ติดตั้งการ์ดจอตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1060 (6GB) ที่แรงคุ้มที่สุดในท้องตลาดในช่วงกลางปี 2018 เลยก็ว่าได้ ด้วยความสมบูรณ์แบบในความเป็นโน๊ตบุ๊คเพื่อการเล่นเกมจากประสิทธิภาพในการเล่นเกมที่ทำได้ดี ด้วยชิปประมวลผล Intel Core i7-8750H สามารถอัพเกรด Ram ได้ถึง 32 GB ที่สำคัญสามารถรองรับการเล่นเกมได้อย่างครอบคลุมจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นออฟไลน์หรือออนไลน์ อันนี้สบายๆ แน่นอน
อีกทั้งยังมาพร้อมกับ SSD M.2 128 GB ที่มี Windows 10 แท้ในตัว ทำให้ Predator Helios 300 Gen 8 เรียกได้ว่าเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คที่คุ้มค่าที่สุดรุ่นหนึ่งในตอนนี้ก็ว่าได้ แถมการมาในครั้งนี้ราคาเปิดตัวถูกลงกว่าเดิมซึ่งร่นก่อนหน้านี้ที่เป็น Gen 7 ราคาเริ่มต้น 46,990 บาท (ตัว i7) แต่รุ่นปัจจุบัน Predator Helios 300 Gen 8 ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 43,990 บาทเท่านั้น
ยังไม่พอทาง Acer ยังให้ประกัน Predator Helios 300 Gen 8 เป็นแบบประกัน On-Site Service 3 ปีเต็มอีกด้วย จัดเต็มกว่ายี่ห้ออื่นๆ กันพอสมควรเลย ส่วนข้อสังเกตของเครื่องนี้ก็มีอยู่บ้างคือ Predator Helios 300 Gen 8 ยังคงเลือกใช้ USB 2.0 จำนวน 2 ช่อง แทนที่จะเป็น USB 3.0 จำนวน 2 ช่องได้แล้ว (ไม่ได้เปลี่ยนแปลงจากรุ่นก่อนเลย) ทำให้ใครที่อยากใช้ USB 3.0 มากกว่าหนึ่งช่องต้องไปซื้อพอร์ตแปลง HUB ต่อผ่าน USB 3.1 type C แทนเอานะครับ
แต่เอาเข้าจริงๆ หากมองดูโดยรวมปราศจากอคติ Predator Helios 300 Gen 8 ถือเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คที่คุ้มค่าที่สุดในงบ 43,990 บาท ซึ่งได้สเปคอย่างที่บอกคือได้ GTX 1060 แบบ 6 GB ไม่กั๊กเหมือนแบรนด์อื่น หน้าจอ IPS sRGB 98% ประกัน 3 ปี On-site พร้อม SSD m.2 128 GB มี Windows 10 แท้ แถมระบบระบายความร้อนทำการอัปเกรดใหม่ด้วย ไม่เรียกว่าโครตคุ้มก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรแล้วละครับ
ข้อดี
- ดีไซน์การออกแบบมาใหม่สวยงาม วัสดุดี งานประกอบแน่นหนา แกะอัพเกรดได้ง่าย
- สเปคแรงมาก Core i7-8750H และการ์ดจอ GeForce GTX 1060 (6GB)
- พอร์ตเชื่อมต่อครบครันทีเดียวไม่ว่าจะเป็น USB 3.0, USB 3.1 Type-C, HDMI
- มี SSD M.2 มาให้กับ Windows 10 แท้มาให้ทุกรุ่น
- ใช้โปรแกรม PredatorSense ตัวใหม่สามารถ Overclock GPU ได้
- จอ 15.6 นิ้ว Full HD IPS ขอบเขตสี 98% sRGB
- ระบบระบายความร้อนสามารถทำได้ดีขึ้นกว่ารุ่นเดิมเป็น AeroBlade 3D
- เสียงลำโพงดีขึ้นกว่ารุ่นเดิม
- มาพร้อมกับการรับประกัน 3 ปี แบบ On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้าน
- ราคาเทียบกับสเปคที่ได้คุ้มมาก
ข้อสังเกต
- พอร์ต USB ยังคนเป็นเป็น USB 2.0 x 2 แทนที่จะเป็น USB 3.0 x 2 หรือ USB 3.0 ทั้งหมดได้แล้ว
- ตัวเครื่องบอดี้เป็นรอยนิ้วมือค่อนข้างง่าย
- พัดลมระบายความร้อนวางติดกันสองตัวด้านซ้าย ซึ่งน่าจะแยกสองตัวออกจากแบบแยกซ้ายขวามากกว่า
AWARDS
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับโน๊ตบุ๊คในกลุ่ม Gaming Notebook ขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้ว ซึ่ง Predator Helios 300 Gen 8 ก็ได้รับรางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Performance
Predator Helios 300 Gen 8 มีสเปคที่ครบครัน ทั้งชิบประมวลผล Core i7-8750H และการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1060 (6GB GDDR5) พร้อม Ram ตัวเครื่องขนาด 8 GB มาตรฐานใหม่แบบ DDR4 และ SSD แบบ M.2 ให้การเข้าถึงข้อมูลได้รวดเร็ว รวมถึงเล่นเกมได้อย่างลื่นไหลไม่มีปัญหา
Best Value
Predator Helios 300 Gen 8 มาพร้อมกับสเปคที่ลงตัวเอามากๆ ทั้ง i7-8750H + GTX 1060 (6GB) + Ram 8 + SSD 128 GB + จอ 15.6 นิ้ว IPS ประกัน On-site 3 ปี พร้อม Windows 10 แท้อีก เรียกได้ว่าซื้อไปตัวเดียวจบไม่ต้องอัพเกรดอะไรเพิ่ม ในราคา 43,990 บาทเท่านั้น เรียกได้ว่าคุ้มค่าที่สุดแล้วละครับในช่วงงบราคานี้
VDO Review
Specification
Predator Helios 300 Gen 8 ในตอนนี้จะมีจำหน่ายด้วยกัน 2 รุ่นย่อย ซึ่งตัวที่ NotebookSPEC ได้มาทดสอบ เป็นตัวรุ่นเริ่มต้นราคา 43,900 บาท ใช้ชิปประมวลผลเป็น Intel Core i7-8750H (2.20 – 4.10 GHz) ทำงานแบบ 6 Core/12 Thread ประสิทธิภาพสูงแรงกว่ารุ่นเดิมเยอะพอสมควร พร้อมกราฟิการ์ดตัวแรงระดับ Desktop อย่าง NVIDIA GeForce GTX 1060 (6GB GDDR5) มีที่เก็บข้อมูลฮาร์ดดิสก์ความจุ 1 TB 5400 รอบ พร้อมติดตั้ง SSD แบบ M.2 ความจุ 128 GB ไว้ด้วย ในส่วนของ Ram เองมีมาให้ 8 GB แบบ DDR4 Bus 2666 อัปเกรดได้สูงสุด 32 GB
นอกจากนี้ Predator Helios 300 Gen 8 มาพร้อมจอแสดงผลแบบด้าน 15.6 นิ้ว ที่ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ให้สีสันที่สวยงามทุกมุมมอง แถมมาพร้อมขอบเขตสีสูงสุด 98% sRGB 60 Hz และในส่วนของระบบเสียงเป็นลำโพงแบบสเตอริโอให้เสียงที่ดีในระดับที่น่าพอใจ ประกอบกับมีซอฟต์แวร์จัดการเสียงอย่าง DOLBY AUDIO ทำให้มีคุณภาพที่ดียิ่งขั้นไปอีก
ตัวหน้าจอยังมาพร้อมกล้อง Webcam แบบ HD และมีไมค์ดิจิตอล 2 ตัวแบบตัดเสียง ส่วนการเชื่อมต่อก็มีมาอย่างครบถ้วน ทั้ง HDMI, 1 x USB 3.0, 1 x USB 3.1 Type-C, 2 x USB 2.0, Kensington Lock, 2-in-1 SD, RJ-45 , Headset 3.5mm พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 4.0 และ Wi-Fi Intel Dual Band มาตรฐาน 802.11a/b/g/n/ac
อีกอย่าง Predator Helios 300 Gen 8 ยังมาพร้อมกับ Windows 10 Home แท้ด้วยทุกรุ่น สำหรับรุ่นที่นำมารีวิวเป็นตัว Intel Core i7 ตัวเริ่มต้น สนนราคาอยู่ที่ 43,990 บาทเท่านั้นถือว่าคุ้มค่าที่สุด ณ เวลานี้เลยทีเดียวครับ
- Core i7-8750H + GTX 1060 (6GB) + RAM 8 GB + SSD m.2 128 GB ราคา 43,990 บาท
- Core i7-8750H + GTX 1060 (6GB) + RAM 16 GB + SSD m.2 256 GB NVMe ราคา 46,990 บาท
Hardware / Design
ดีไซน์ของตัวเครื่อง Predator Helios 300 Gen 8 นั้นเรียกได้ว่าถอดรูปมาเดิมมาจากรุ่นเก่าทั้งหมดแล้วเปลี่ยนไส้ในเอา ซึ่งโรงสร้างภายนอกจะเน้นรูปทรงภายนอกดูสมัยที่ดูคล้ายยานอวกาศ วัสดุหลักทั้งตัวเครื่องไม่ว่าจะเป็นฝานอกหรือบอดี้ตรงฐานคีย์บอร์ดวัสดุจะเป็นโลหะทั้งหมด ซึ่งบอกได้เลยว่าประกอบเนี้ยบ ดูดีจริงๆ โดยสีสันจะเป็นโทนดำตัดกับสีแดงตามสไตล์ Gaming ดุดัน พร้อมมีโลโก้ Predator กับมีขีดสีแดงแถวเฉียงสองเส้นสวยงาม
ผิวฝาบนสีดำมันวาวลายบลัชลายโลหะสเแตนเลส ให้สัมผัสที่ดี งานมีคุณภาพ ส่วนขอบฝาด้านบนจะทำเป็นลายที่จับกั้นลื่นด้วย แต่ดูเหมือนว่าจะเป็ยรอยนิ้วมือง่ายนิดหนึ่งสำหรับผิวอลูมิเนียมที่เป็นโลหะ ซึ่งคงต้องหมั่นคอยเช็ดทำความสะอาดสักหน่อยเวลาเหงื่อออกแล้วไปจับ
สำหรับเรื่องขนาดของ Predator Helios 300 Gen 8 เรียกได้ว่าทำออกมาได้ดีในระดับหนึ่งคือไม่ใหญ่เกินไปเหมือน Predator 15 แล้วก็ไม่ได้เล็กมากจนเกินไปเหมือน Gaming Notebook บางรุ่นที่เน้นความบางเบา (จนบางครั้งก็บางเกิน ทำให้ระบายความร้อนได้ไม่ดีนัก) อย่างไรก็ตามเรื่องขนาดนั้นสรุปได้ว่า Predator Helios 300 Gen 8 อยู่ตรงโซนกลางๆ ของโน๊ตบุ๊คสำหรับการเล่นเกมที่มาพร้อมกับหน้าจอ 15.6 นิ้ว
Predator Helios 300 Gen 8 นั้นพร้อมกับฝาหลังสามารถที่จะแกะด้านล่างของตัวเครื่องออกมาได้สะดวก ทั้งอัพเกรด HDD หรือ Ram ก็ทำได้ง่าย เพียงไขน็อตตัวเดียวแล้วแกะออกก็สามารถทำการอัพเกรดได้แล้ว แต่ถ้าหากจะอัพเกรด SSD คงจะยากสักหน่อยเพราะมันอยู่ด้านในสุด ต้องแกะฝาหลังเครื่องออกทั้งหมดเลยนั่นเอง ถ้าคนไม่เชี่ยวชาญคงต้องให้ทางร้านให้ช่างทำให้แล้วละครับ
Keyboard / Touchpad
ตัวเครื่องที่มาพร้อมกับหน้าจอใหญ่ถึง 15.6 นิ้วนั้นทำให้ทาง Predator Helios 300 Gen 8 สามารถที่จะติดตั้งคีย์บอร์ดแบบ Full Size มาให้ผู้ใช้งานได้ใช้กันได้อย่างสบายๆ โดยจุดเด่นนั้นก็คงหนีไม่พ้นเรื่องการมี ปุ่มแป้นคีย์ตัวเลข (Numpad) มาให้ด้วย รวมไปถึงแป้นปุ่มตรงตัวอักษร WASD ยังเป็นสีแดงเด่นออกมา ซึ่งมาพร้อมกับไฟส่องสว่างสีแดง (เปิดปิดได้เท่านั้น ปรับระดับแสงไม่ได้) ให้ความสว่างพอสมควรดูเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คสวยงาม อีกทั้งเรื่องการสัมผัสบนคีย์บอร์ดที่ปุ่มมีความนุ่มมาก รู้สึกได้เลยว่าดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปแน่นอน
ในส่วนทัชแพดนั้นจะมีขนาดกลางๆ ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป ออกแบบปุ่มมาเป็นแบบชิ้นเดียวซ่อนปุ่มตามสมัยนิยมทั้งคลิกซ้ายคลิกขวา ให้ความลื่นไหลในการใช้งานเป็นอย่างดี ซึ่งตัวทัชแพดจะวางตัวไปทางด้านซ้ายของเครื่องเล็กน้อยไม่ได้อยู่ตรงกลางหน้าจอเป๊ะๆ โดยรวมก็สามารถใช้งานได้ดีไม่ปัญหาแต่อย่างใด
Screen / Speaker
Predator Helios 300 Gen 8 มาพร้อมหน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD (1920×1080 พิกเซล) แบบ ComfyView ที่เลือกใช้ พาเนล IPS 60 Hz ให้มุมมองที่คมชัด สีสันสวยสดงดงาม โดยพื้นผิวจอเป็นแบบจอด้าน Anti-Glare ช่วยลดแสงสะท้อนเวลาเรานำโน๊ตบุ๊คไปทำงานข้างนอก ซึ่งดูรวมๆ แล้งทั้งสีสันและความคมชัดจัดว่าใช้ได้เลยทีเดียว เหมาะกับการใช้งานทั่วไปหรือการเล่นเกม ดูหนังก็ทำได้ย่อมทำได้อย่างน่าประทับใจไม่มีปัญหา
ส่วนทางด้านลำโพงของ Predator Helios 300 Gen 8 นั้นจะมีด้วยกัน 2 ตัวโดยจะอยู่ทางด้านล่างมุมซ้ายและขวาของเครื่องอย่างละตัว ลำโพงนั้นจะมีการวางตำแหน่งในลักษณะเฉียงลงไปยังพื้นเพื่อที่จะให้เสียงได้สัมผัสกับพื้นแล้วสะท้อนขึ้นมาให้ผู้ใช้ได้ยินซึ่งถือว่าเป็นการออกแบบที่ดีมาก ซึ่งคุณภาพเสียงการใช้งานต่างๆ เมื่อใช้งานร่วมกับฟีเจอร์ DOLBY AUDIO ก็สามารถทำออกมาได้ดีในระดับหนึ่งและจากการใช้งานรู้สึกว่าดีกว่ารุ่นเก่าด้วย
การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ Predator Helios 300 Gen 8 ที่เป็นโน๊ตบุ๊คที่ใช้หน้าจอพาเนล IPS ทางทีมงานเลยถือโอกาสทดสอบหน้าจอแบบละเอียดๆ ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งเมื่อคาลิเบรตแล้วเราก็เลือกโปรไฟล์ที่เราได้คาลิเบรทเอาไว้ ผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรทก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน จากโทนเย็นกลายเป็นโทนอุ่น
โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 98% ดูจากที่เส้นสีของหน้าจอจะเป็นสีแดง เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันนั้นดีมากกว่าเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ ซึ่งมีความเที่ยงตรงของสีสูง ส่วนความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 300 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าค่อนข้างสว่างกว่าหน้าจอเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่น ทำให้เมื่อคาลิเบตหน้าจอแล้วสามารถไปทำงานภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพที่เน้นความเที่ยงตรงได้โอเคเลยทีเดียว
สรุปสุดท้ายด้วยคะแนนรวมทั้งหมดโดยตัวเครื่อง Predator Helios 300 Gen 8 รุ่นใหม่ล็อตใหม่ก็ได้คะแนนไป 4.0 คะแนน ซึ่งเมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว ผ่านทางอุปกรณ์ Spyder5Elite ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์กลางๆ พอใช้งานตามมาตราฐานทั่วไปพอได้
Connector / Thin And Weight
Predator Helios 300 Gen 8 จัดว่าเป็น Gaming Notebook ขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้ว ที่มีพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครันอีกรุ่นเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น 1 x USB 3.0(เป็นแบบชาร์จเจอร์ด้วย), 1 x USB 3.1 Type-C, 2 x USB 2.0, HDMI, SD(XC/HC) Card reader, RJ45 (Gigabit Ethernet) และ Mic-in/Headphone-out แบบ Combo เรียกได้ว่าพอเพียงกับการใช้งานทั่วไปอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามสำหรับ USB 2.0 ที่ให้มา 2 พอร์ตนั้น ถ้าเปลี่ยนเป็น USB 3.0 ไปเลยจะดีมากๆ
ส่วนการเชื่อมต่อไร้สายอย่างรองรับทั้ง Bluetooth 4.2 และอินเตอร์เน็ตไร้สายมาตรฐาน 802.11b/g/n/ac รูปแบบมาตราฐานใหม่ที่รองรับสัญญานแบบ 5 GHz และทางด้านการพกพา Predator Helios 300 Gen อาจจะลำบากสักนิดเพราะน้ำหนักที่มากกว่าเดิม ซึ่งหนักอยู่ที่ 2.70 กิโลกรัม และเมื่อรวมกับอแดปเตอร์ก็เข้าไปด้วยรวมจะมีน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 3.2 กิโลกรัมได้ครับ
Performance / Software
สำหรับตัว Predator Helios 300 Gen 8 มาพร้อมกับชิปประมวลผลจาก Intel Core i7-8750H ซึ่งเป็นชิปประมวลผลที่เน้นการใช้งานหนักๆ ไม่ว่าจะเป็นการโปรเซสหรือเล่นเกม มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.20 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง4.10 GHz เป็นซีพียูแบบ 6 Core/12 Threads รุ่นใหม่ล่าสุดที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลจริงจังก็รองรับได้อย่างสบายๆ และมาพร้อม Ram ภายในขนาด 8 GB DDR4 Bus 2666 MHz
กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel UHD Graphics 630 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง ส่วน การ์ดจอแยกใช้รุ่นใหม่ล่าสุดตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1060 ขนาด 6 GB ที่ต้องบอกว่าแรงเทียบเท่าระดับพีซี และแรงกว่า GTX 1050/1050Ti แบบรู้สึกได้ สามารถนำเอาไปเล่นเกมแบบ Full HD ปรับสุดได้ทุกเกมสบายๆ แถมยังรองรับเทคโนโลยี VR ในอนาคตอีกด้วย
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับสูงสุดๆ ที่น่าประทับใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลรุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าเดิมมาก รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นผสานกับการ์ดจอระดับบน ที่เน้นการทำงานหนักเป็นหลัก
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 128 GB แบบ M.2 (สล็อตรองรับการอัพเกรดเป็น SSD M.2 NVMe ได้) ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนแล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 554.0 MB/s และเขียนที่ 137.9 MB/s
ทดสอบการทำงานฮาร์ดดิสก์ความจุอยู่ที่ 1 TB แบบความเร็ว 5400 รอบที่ติดตั้งมาให้ ด้วยโปรแกรม HD Tune แล้วพบว่าอัตราการถ่ายโอนข้อมูลน้อยสุดที่ 48.3 MB/s และสูงสุดที่ 252.3 MB/s ทำให้ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 200.0 MB/s ด้วยกัน มีอัตราการเข้าถึงข้อมูลที่ 3.85 ms ซึ่งนับได้ว่าผลทดสอบที่ออกมานั้นมีความน่าประทับใจทีเดียว เรียกได้ว่าทำได้ดีกว่าฮาร์ดดิสก์ 5400 รอบตัวถูกๆ แบบรู้สึกได้เวลาเข้าเกมโหลดเกม
คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของ FPS จากทั้ง 6 เกม เรียกได้ว่าปรับสุดทุกอย่างมีคะแนน FPS เฉลี่ยมากกว่า 60 FPS ขึ้นไปทุกเกม ไปดูจากกราฟได้เลยครับว่าเป็นอย่างไรบ้าง
จากทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง Battlefield 1, GTA V, Far Cry 5 และ PUBG ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด ภาพก็สวยจนน่าประทับใจแบบที่สุด ซึ่งดูจากเฟรมเรทเฉลี่ยแล้วแทบไม่ต่ำไปกว่า 60 FPS เรียกได้ว่าเหลือๆ ไม่มีอาการแลคแต่อย่างใด
ส่วนอีก 2 เกมออนไลน์ที่ทีมงานเล่นกันเป็นประจำอย่าง Overwatch, DOTA 2 ค่าเฟรมเรทไม่เฉลี่ยแทบไม่ต่ำกว่า 100 FPS พูดได้เลยว่าลื่นจนภาพฉีก (แนะนำให้เปิด V-Sync) สรุปโดยรวมแล้วคือ Predator Helios 300 Gen 8 คือเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คชั้นยอดสุดคุ้มที่สามารถเล่นเกมทุกเกมบนโลกได้อย่างสบายๆ และทำได้อย่างน่าประทับใจ ทั้งจากความลื่นไหลและหน้าจอที่สวยงามสมจริงนั่นเองครับ
Battery / Heat / Noise
Predator Helios 300 Gen 8 นั้นมาพร้อมกับแบตเตอรี่ 3,000 mAh ซึ่งจะว่าไปแล้วนั้นก็ค่อนข้างที่จะน้อยไปหน่อย แต่เมื่อมาดูประสิทธิภาพก็อยู่ในระดับกลางๆ ด้วยการทดสอบ Predator Helios 300 Gen 8 ใช้งาน Wi-Fi เพื่อท่องเว็บดูท่องเว็บดู YouTube ได้สูงสุด 4 ชั่วโมง 3 นาที พอพกพาไปทำงานนอกสถานที่ก็พอได้บ้าง แต่เครื่องอาจจะหนักสักนิดแนะนำให้สะพายกระเป๋าไหล่สองข้างแล้วกันนะครับ
ส่วนของอุณหภูมิถือว่าสามารถที่จะทำได้ดีตอนที่ใช้งานเครื่องแบบไปบีบขั้นทรัพยากรมากนัก และถึงจะเป็นการเล่นเกมที่เน้น GPU และ CPU เข้ามาด้วยเป็นเวลานานๆ ตัวเครื่องจะไปร้อนสะสมอยู่ที่ด้านบนคีย์บอร์ด แต่ก็ไม่ได้ร้อนมากจนจับไม่ได้ โดยจากการทดสอบอุณหภูมิเฉลี่ยสูงสุดที่วัด CPU ได้อยู่ที่ 89 องศา และ GPU อยู่ที่ 75 องศา (ทดสอบในห้องแอร์อุณหภูมิ 25 องศา) เรียกได้ว่าทำได้น่าพอใจดีกว่ารุ่นเดิม เพราะมีการพัฒนาพัดลมให้เป็นแบบ AeroBlade 3D และ CPU มี Clockspeed เริ่มต้นต่ำกว่าเดิมนั่นเองครับ
Conclusion / Award
สรุปรีวิว Predator Helios 300 Gen 8 เป็น Gaming Notebook ที่ติดตั้งการ์ดจอตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1060 (6GB) ที่แรงคุ้มที่สุดในท้องตลาดในช่วงกลางปี 2018 เลยก็ว่าได้ ด้วยความสมบูรณ์แบบในความเป็นโน๊ตบุ๊คเพื่อการเล่นเกมจากประสิทธิภาพในการเล่นเกมที่ทำได้ดี ด้วยชิปประมวลผล Intel Core i7-8750H สามารถอัพเกรด Ram ได้ถึง 32 GB ที่สำคัญสามารถรองรับการเล่นเกมได้อย่างครอบคลุมจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นออฟไลน์หรือออนไลน์ อันนี้สบายๆ แน่นอน
อีกทั้งยังมาพร้อมกับ SSD M.2 128 GB ที่มี Windows 10 แท้ในตัว ทำให้ Predator Helios 300 Gen 8 เรียกได้ว่าเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คที่คุ้มค่าที่สุดรุ่นหนึ่งในตอนนี้ก็ว่าได้ แถมการมาในครั้งนี้ราคาเปิดตัวถูกลงกว่าเดิมซึ่งร่นก่อนหน้านี้ที่เป็น Gen 7 ราคาเริ่มต้น 46,990 บาท (ตัว i7) แต่รุ่นปัจจุบัน Predator Helios 300 Gen 8 ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 43,990 บาทเท่านั้น
ยังไม่พอทาง Acer ยังให้ประกัน Predator Helios 300 Gen 8 เป็นแบบประกัน On-Site Service 3 ปีเต็มอีกด้วย จัดเต็มกว่ายี่ห้ออื่นๆ กันพอสมควรเลย ส่วนข้อสังเกตของเครื่องนี้ก็มีอยู่บ้างคือ Predator Helios 300 Gen 8 ยังคงเลือกใช้ USB 2.0 จำนวน 2 ช่อง แทนที่จะเป็น USB 3.0 จำนวน 2 ช่องได้แล้ว (ไม่ได้เปลี่ยนแปลงจากรุ่นก่อนเลย) ทำให้ใครที่อยากใช้ USB 3.0 มากกว่าหนึ่งช่องต้องไปซื้อพอร์ตแปลง HUB ต่อผ่าน USB 3.1 type C แทนเอานะครับ
แต่เอาเข้าจริงๆ หากมองดูโดยรวมปราศจากอคติ Predator Helios 300 Gen 8 ถือเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คที่คุ้มค่าที่สุดในงบ 43,990 บาท ซึ่งได้สเปคอย่างที่บอกคือได้ GTX 1060 แบบ 6 GB ไม่กั๊กเหมือนแบรนด์อื่น หน้าจอ IPS sRGB 98% ประกัน 3 ปี On-site พร้อม SSD m.2 128 GB มี Windows 10 แท้ แถมระบบระบายความร้อนทำการอัปเกรดใหม่ด้วย ไม่เรียกว่าโครตคุ้มก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรแล้วละครับ
ข้อดี
- ดีไซน์การออกแบบมาใหม่สวยงาม วัสดุดี งานประกอบแน่นหนา แกะอัพเกรดได้ง่าย
- สเปคแรงมาก Core i7-8750H และการ์ดจอ GeForce GTX 1060 (6GB)
- พอร์ตเชื่อมต่อครบครันทีเดียวไม่ว่าจะเป็น USB 3.0, USB 3.1 Type-C, HDMI
- มี SSD M.2 มาให้กับ Windows 10 แท้มาให้ทุกรุ่น
- ใช้โปรแกรม PredatorSense ตัวใหม่สามารถ Overclock GPU ได้
- จอ 15.6 นิ้ว Full HD IPS ขอบเขตสี 98% sRGB
- ระบบระบายความร้อนสามารถทำได้ดีขึ้นกว่ารุ่นเดิมเป็น AeroBlade 3D
- เสียงลำโพงดีขึ้นกว่ารุ่นเดิม
- มาพร้อมกับการรับประกัน 3 ปี แบบ On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้าน
- ราคาเทียบกับสเปคที่ได้คุ้มมาก
ข้อสังเกต
- พอร์ต USB ยังคนเป็นเป็น USB 2.0 x 2 แทนที่จะเป็น USB 3.0 x 2 หรือ USB 3.0 ทั้งหมดได้แล้ว
- ตัวเครื่องบอดี้เป็นรอยนิ้วมือค่อนข้างง่าย
- พัดลมระบายความร้อนวางติดกันสองตัวด้านซ้าย ซึ่งน่าจะแยกสองตัวออกจากแบบแยกซ้ายขวามากกว่า
AWARDS
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับโน๊ตบุ๊คในกลุ่ม Gaming Notebook ขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้ว ซึ่ง Predator Helios 300 Gen 8 ก็ได้รับรางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Performance
Predator Helios 300 Gen 8 มีสเปคที่ครบครัน ทั้งชิบประมวลผล Core i7-8750H และการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1060 (6GB GDDR5) พร้อม Ram ตัวเครื่องขนาด 8 GB มาตรฐานใหม่แบบ DDR4 และ SSD แบบ M.2 ให้การเข้าถึงข้อมูลได้รวดเร็ว รวมถึงเล่นเกมได้อย่างลื่นไหลไม่มีปัญหา
Best Value
Predator Helios 300 Gen 8 มาพร้อมกับสเปคที่ลงตัวเอามากๆ ทั้ง i7-8750H + GTX 1060 (6GB) + Ram 8 + SSD 128 GB + จอ 15.6 นิ้ว IPS ประกัน On-site 3 ปี พร้อม Windows 10 แท้อีก เรียกได้ว่าซื้อไปตัวเดียวจบไม่ต้องอัพเกรดอะไรเพิ่ม ในราคา 43,990 บาทเท่านั้น เรียกได้ว่าคุ้มค่าที่สุดแล้วละครับในช่วงงบราคานี้