คงไม่มีใครไม่รู้จักเกม Resident Evil หรือที่ติดปากว่า Biohazard ที่นำเสนอเกมในรูปแบบสยองขวัญและการแก้ไขปริศนาจากผู้สร้าง Shinji Mikami ก็ทำให้เฟรนไชส์เกมนี้ดังระเบิดจนทยอยเข็นออกมาหลายต่อหลายภาคแต่กลับกลายเป็นว่ายิ่งมีหลายภาคความสยองแบบต้นตำรับก็ดูจะเจือจางลงอย่างเห็นได้ชัดที่สุดก็คงจะเป็นตั้งแต่ภาคที่ 4 เป็นต้นมา
ท่ามกลางความผิดหวังของแฟนเดนตายหลาย ๆ คนจนกระทั่ง Capcom ได้ปล่อยตัวอย่าง Resident Evil 7 ออกมาโดยได้นำเสนอความสยองขวัญเป็นเมนหลักก็ดูเหมือนว่าความหวังของเฟรนไชส์นี้มันได้กลับมาอีกครั้งและเมื่อตัวเกมวางจำหน่ายในช่วงต้นปี 2017 หลาย ๆ คนที่เล่นก็ต่างบอกว่าความสยองที่แท้ทรูมันได้กลับมาและยังสร้างความแตกต่างอีกด้วย
ในชั่วโมงแรกที่เข้าไปสัมผัสกับ Resident Evil 7 มันช่างแตกต่างจากเกมสยองขวัญในทำนองเดียวกันอย่าง Amnesia หรือ Aliens: Isolation ซึ่งใน Resident Evil 7 จะค่อย ๆ ไต่ระดับความสยองพร้อมกับค่อย ๆ ทำความรู้จักกับบ้าน Baker ทีละน้อยมันยิ่งกว่าการแค่หาอาวุธหรือสมุนไพรแต่มันคือการเอาตัวรอดจากบ้านนรกหลังนี้ให้ได้
สถานที่ดำเนินเรื่องหลักจะอยู่ในบ้าน Baker ซึ่งก็ออกแบบมาได้สยดสยองชวนให้นึกถึงคฤหาสน์ของ Spencer ไม่มีผิดกับพื้นที่อันคับแคบ สิ่งของสกปรกทรุดโทรม อาหารที่เน่าเปื่อยจนแทบจะได้กลิ่นของมันเลยทีเดียวและยิ่งไปกว่านั้นการเปิดตัววายร้ายของเรื่องก็น่าสะพรึงกลัวเชื่อว่าหลาย ๆ คนคงหลอนกับการปรากฏตัวของลุง Jack Baker อย่างแน่นอน
นอกจากนี้การดำเนินเรื่องปริศนาที่มีก็น่าติดตามค่อย ๆ ขยายผลจากบ้านหลังเล็ก ๆ สู่เรื่องราวที่ใหญ่ขึ้นทำให้ในภาคที่ 7 หรือใส่ความสยองที่ให้กลิ่นอายความเป็นหนังไล่ล่าฆาตกรหนีตายโรคจิตและการใช้มุมมอง FPS ก็เป็นความสดใหม่แปลกใหม่ให้กับเฟรนไชส์ Resident Evil เป็นอย่างมากซ้ำยังมี DLC เพิ่มเนื้อเรื่องเสริมที่ชวนติดตามอีกทำให้ภาคที่ 7 ดูน่าสนใจเอามาก ๆ
แม้ว่าข้อด้อยของ Resident Evil 7 จะมีอยู่ตรงที่ช่วงสุดท้ายของเรื่องจัดเต็มกับจำนวนกระสุนมากเกินไปให้ยิงอัดบอสกันแต่โดยรวมมันถือว่าเป็นภาคที่ช่วยรีเฟรชช่วยฟื้นคืนความสดใหม่ให้เฟรนไชส์ Resident Evil กระปรี้กระเปร่าขึ้นมาอีกรอบและมันก็เป็นมาตรฐานสำหรับภาคต่อไปที่ต้องมาดูกันว่า Capcom จะมาไม้ไหนต่ออีก
ที่มา: PCGAMER