ได้เห็นกันไปแล้วครับกับ iPhone 7 และ 7 Plus ที่เป็นไปตามข่าวลือว่าจะตัดช่องเชื่อมต่อเสียงแบบ 3.5 audio jack ทิ้งไป และก็ได้เห็นกันแล้วครับว่าทาง Apple นั้นจะให้ผู้ใช้ได้เปลี่ยนไปใช้งาน AirPod หรือหูฟังรุ่นใหม่ที่ใช้การเชื่อมต่อแบบไร้สาย
วันนี้เรามาดูบางส่วนของบทสัมภษาณ์ของทาง BuzzFeed News กับ Phil Schiller, Greg Joswiak, Dan Riccio และ Tim Cook เกี่ยวกับเรื่องนี้กันครับว่าเพราะเหตุใด Apple จึงได้ทำการตัดช่องเชื่อมต่อ 3.5 audio jack ทิ้งไปบน iPhone 7 ทั้ง 2 รุ่นครับ
โดยรวมแล้วทาง Apple นั้นมีหลายเหตุผลเลยทีเดียวครับที่ตัดช่องเชื่อมต่อ 3.5 audio jack ออกไป แต่เหตุผลหลักๆ ที่ทุกคน(ที่ให้สัมภาษณ์) ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันนั่นก็คือ ช่องเชื่อมต่อแบบ 3.5 audio jack นั้นมันโบราณ, มันกินพื้นที่บนสมาร์ทโฟนและที่สำคัญที่สุดก็คือมันมีความซับซ้อนมากๆ ในการที่จะทำให้ตัวเครื่องมาพร้อมกับระบบกันน้ำครับ(หรือจะพูดกันง่ายๆ ก็คือมันทำให้ออกแบบเครื่องที่มาพร้อมกับระบบกันน้ำยากขึ้นนั่นเองครับ)
Joswiak หนึ่งในผู้ให้สัมภาษณ์ให้เหตุผลว่าช่องเชื่อมต่อแบบ 3.5 audio jack มีอายุการใช้งานมาก็มากแล้ว มากกว่า 50 ปีซึ่งนั่นทำให้มันเป็นเทคโนโลยีขั้นไดโนเสาร์ที่ไม่เหมาะเอาซะเลยกับอะไรที่เป็นยุคดิจิทัลนี้ (เอาจริงๆ แล้วช่องเชื่อมต่อเสียงรุ่นแรกสุดคือขนาด 6.35 mm นั้นมีมาตั้งแต่ในปี 1878 อายุเกิน 100 ปี ส่วนช่องเชื่อมต่อแบบ 3.5 mm นั้นเกิดทีหลังตอนปี 1950s ซึ่งก็มีอายุเกิน 50 ปีไปแล้วเหมือนกัน) ดังนั้นทาง Joswiak เองก็ได้บอกครับว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องทิ้งเทคโนโลยีโบราณแล้วหันไปหาเทคโนโลยีใหม่ให้สมกับยุคดิจิทัลได้แล้วครับ
Riccio ให้สัมภาษณ์ในเชิงการดีไซน์ว่าช่องเชื่อมต่อแบบ 3.5 mm นั้นไม่ได้เป็นอะไรเลยนอกเหนือไปช่องช่องว่างโหว่ๆ ที่อากาศสามารถเข้าออกได้บนสมาร์ทโฟน ช่องเชื่อมต่อดังกล่าวนี้เป็นจุดหนึ่งที่ปิดกั้นนวัตกรรมของทาง Apple มาอย่างเนิ่นนานหลายปี ที่สำคัญด้วยขนาดของมันนั้นทำให้มันต้องการพื้นที่บนสมาร์ทโฟนมากจนเกิดไปซึ่งพื้นที่เหล่านั้นสามารถที่จะนำไปใช้ทำอย่างอื่นที่มีประโยชน์ได้ตัวอย่างเช่นเมื่อนำช่องเชื่อมต่อแบบ 3.5 mm ออกไปแล้วนั้น
ทำให้ Apple สามารถเพิ่มประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ได้, ใส่เทคโนโลยีกล้องแบบใหม่ลงไปได้, เพิ่มความสามารถของชิปเซ็ทให้แรงขึ้น รวมไปถึงยังสามารถให้ Apple ทำให้ iPhone 7 ทั้ง 2 รุ่นมีสเปคเป็นไปตามความต้องการของการกันน้ำตามมาตรฐาน IP7 ครับ
เปลี่ยนมาที่ Schiller ผู้ที่เป็นหัวหน้าฝ่ายออกแบบผลิตภัณฑ์ของทาง Apple กันบ้างโดยเขาได้ให้เหตุผลค่อนข้างจะเป็นด้านเทคโนโลยีเชิงลึกครับว่าการนำเอาช่องเชื่อมต่อแบบ 3.5 mm ออกไปนั้นทำให้ Apple สามารถที่จะแนะนำแพลตฟอร์ม digital rights management (DRM) หรือระบบเสียงดิจิทัลสมบูรณ์แบบให้กับผู้ใช้ iPhone 7 ได้(และถือว่าเป็นครั้งแรกของโลกสมาร์ทโฟนด้วยอีกต่างห่าก) รวมไปถึง Taptic Engine API แบบใหม่ที่เข้ามาแทนที่ปุ่ม Home แบบเดิมๆ ซึ่งทั้งหมดนี้คงไม่สามารถที่จะทำได้หากยังคงมีช่องเชื่อมต่อแบบ 3.5 mm
ปิดท้ายด้วยหัวเรือใหญ่ของ Apple อย่าง CEO Tim Cook ที่ได้บอกเอาไว้ครับว่าการที่ Apple ทำแบบนี้นั้นเป็นการสร้างนวัตกรรมใหม่(ล้มล้างคำพูดของนักวิเคราะห์หลายๆ คนที่เคยบอกเอาไว้ว่า iPhone รุ่นหลังๆ มานี้ไม่มีนวัตกรรมใหม่) ซึ่งก็ถูกข้อง Cook เขานะครับเนื่องจากว่าระบบเสียงแบบนี้นั้นถือได้ว่า Apple เป็นผู้ที่พัฒนาออกมาสู้ตลาดผู้บริโภครายแรกของโลก ส่วนอื่นๆ ที่ Cook กล่าวนั้นจะคล้ายๆ กับ Riccio หล่ะครับว่า iPhone 7 ทั้ง 2 รุ่นสามารถที่จะเพิ่มอะไรต่างๆ นาๆ เข้าไปได้อีกมากมาย
อย่างไรก็ตามแต่ครับ ในข้อดีต่างๆ Apple ไม่ได้พูดถึงข้อเสียที่ใหญ่ที่สุดซึ่งนั่นก็คือ AirPod หูฟังรุ่นใหม่นั้นไม่ได้แถมมาให้ด้วยภายในกล่องครับ ในกล่องของ iPhonr 7 ทั้ง 2 รุ่นจะยังคงใช้ EarPods แบบที่ใช้ช่องเชื่อมต่อ Lightning และจะมี Lightning to 3.5 Headphone Jack Adapter มาให้เท่านั้น ดังนั้นแล้วหากคุณต้องการสัมผัสเทคโนโลยีใหม่อย่าง AirPods แล้วหล่ะก็คุณจะต้องเสียเงินซื้อเพิ่มหล่ะครับ
ที่มา : 9to5mac