กลับมาเจอกันอีกครั้งกับรีวิวเกม Two World สุดยอดเกม RPG ภาคต่อสุดคลาสิกบนพีซี Two World ถือว่าเป็นเกมแนว RPG?ที่ได้รับความนิยมในฝั่งตะวันตกอย่างมาก ซึ่งได้บ้านเราก็ได้รับความนิยมไม่น้อยเช่นกัน ถือว่าเป็นเกมที่น่าสนใจไม่น้อยเลย พร้อมแล้วเราไปดูรีวิวกันเลยดีกว่าครับ
เครื่องขั้นต่ำที่ต้องการ:
CPU | Intel Pentium 4 at 2.0 GHz / AMD Athlon 2400+ |
RAM | 512 RAM |
VGA Card | NVIDIA GeForce FX 5600 / ATI Radeon 9500 |
HDD | 6 GB of free Hard Drive space |
OS | Windows XP / Windows Vista / Windows 7 |
เครื่องที่แนะนำ:
CPU | Intel Core 2 Duo at 2.2 GHz / AMD Athlon 64 X2 4200+ |
RAM | 1 GB RAM |
VGA Card | NVIDIA GeForce 7600 / ATI Radeon X1800 |
HDD | 7 GB of free Hard Drive space |
OS | Windows 7 |
ชื่อของ Two World นั้นหลายๆ คนคงจะเคยได้ยินกันมาบ้าง โดยเฉพาะคอเกม RPG ซึ่งภาคแรกนั้นจัดว่าเป็นเกมที่มีกระแสดีเกมหนึ่งเลย น่าเสียดายที่เมื่อตัวเกมจริงออกมาแล้วกลับมีบั๊กมหาศาลตามสูตรของเกมฝั่งยุโรป ส่วนคุณภาพของเกมก็อยู่ในระดับพอใช้เท่านั้น อย่างไรก็ตาม ทุกคนยังมีความเห็นตรงกันว่า Two World มีคุณสมบัติแฝงที่จะทำให้มันกลายเป็นเกม RPG ระดับแนวหน้าได้อยู่ จึงไม่น่าแปลกใจที่สื่อหลายสำนัก รวมทั้งคอเกม RPG ยังคงเฝ้าติดตามการมาของ Two World 2 อย่างใจจดใจจ่อ ข่าวดีก็คือ มันมีการพัฒนาจากภาคแรกขึ้นในเกือบทุกๆ ด้าน และมีความสนุกล้ำลึกให้คุณได้ค้นหา ข่าวร้ายคือเปลือกที่ยังไม่ได้รับการขัดเกลาของมันก็ยังคงห่อหุ้มส่วนดีๆ เอาไว้ ทำให้มันอาจถูกมองข้ามจากผู้เล่นหลายๆ คน และส่วนดีที่ให้ความรู้สึกว่ามันเป็นเกมดาวรุ่งพุ่งแรงนั้นก็กลับมาหมดไฟเอากลางทางทำให้มันต้องดิ่งกลับลงมาปักพสุธาก่อนจะได้ไปถึงดวงดาวซะอีก
ความประทับใจเมื่อแรกพบ เป็นหนึ่งในส่วนสำคัญของเกมทุกเกม เพราะผู้เล่นจะยอมสละเวลาอันมีค่าของเขาเพื่อเข้าถึงเนื้อในของเกมนั้นๆ หรือไม่ ก็จำเป็นต้องอาศัยความประทับใจเมื่อแรกเห็นแรกสัมผัสนี้ ซึ่งในแง่ของรูปลักษณ์ ?ภายนอก? แล้ว Two World 2 นั้นสอบผ่านได้อย่างสบายๆ เพราะกราฟิกในเกมค่อนข้างงดงาม สดใส และมีชีวิตชีวา ทว่าความมีชีวิตชีวาของกราฟิกนั้นกลับขัดแย้งกับส่วนประกอบอื่นๆ อย่างสิ้นเชิง อย่างแรกคือท่าทางการเคลื่อนไหวของตัวละครที่ทั้งแข็งและผิดธรรมชาติ แถมท่วงท่าอิริยาบถของตัวพระเอกตั้งแต่ท่าเดินยันท่าโจมตีก็สุดแสนจะแต๋วแตก เรื่องท่าทางแข็งและผิดธรรมชาตินี่พอจะเข้าใจ เพราะเกมทุนต่ำเลยไม่ได้ใช้ Motion Capture ทำให้การเคลื่อนไหวแข็งเหมือนหุ่นกระบอก แต่พวกท่าทางอ้อนแอ้นอรชรนี่ยังไงก็คิดไม่ตก หรือบางทีนี่อาจเป็นเทรนด์นิยมของฝั่งยุโรปเราก็ไม่อาจทราบได้
อีกเรื่องก็คือเสียงพากย์ในเกมซึ่งแข็งกระด้างไม่แพ้ท่วงท่าการเคลื่อนไหวของตัวละครเลย โดยเฉพาะเสียงพระเอก ที่ฟังดูยังกับโทรศัพท์โรคจิตซะมากกว่า และระบบควบคุมในเกมที่ยังดูสับสนอยู่นิดหน่อย หลายๆ ปุ่มไม่ใช่คีย์การควบคุมมาตรฐานของพีซี เช่น ปุ่มสำรวจ จะใช้ปุ่มเดียวกับปุ่มกระโดด คือ Spacebar หรือการคลิกขวา ที่ถ้ากดก่อนเดินจะเป็นการย่อง แต่ถ้ากดหลังจากเดินจะกลายเป็นการวิ่งเร็วแทน ซึ่งการที่ปุ่มเดียวกันกลับทำหน้าที่สองอย่างที่ต่างกันคนละโยชน์ทำให้เกิดความผิดพลาดในการควบคุมได้ง่าย อีกอย่างที่หลายๆ คนอาจจะไม่พอใจนักคือ เนื้อเรื่องของเกมบังคับให้คุณต้องเล่นเป็นตัวเอกชายเท่านั้น ไม่สามารถเลือกเล่นเป็นตัวละครหญิงได้ อาจทำให้หลายๆ คนรู้สึกผิดหวังอยู่ไม่น้อย
อย่างไรก็ตาม เมื่อผ่านส่วนที่น่าขัดใจเหล่านั้นมาได้ เกมก็จะนำผู้เล่นเข้าสู่เนื้อแท้ของมัน ผ่านทางระบบสอนเล่นที่ทำออกมาได้ค่อนข้างลงตัว ผู้เล่นจะได้เรียนรู้วิธีการเล่นพื้นฐานทั้ง 3 แบบ คือสายต่อสู้ สายยิง และสายเวทย์ ซึ่งการพัฒนาตัวละครนั้นค่อนข้างเข้าใจง่าย ค่า Stat หลักๆ มีแค่ 4 อย่างและแต่ละอย่างก็มีหน้าที่ชัดเจน แต่ในส่วนของสกิลนั้นมีรายละเอียดเยอะหน่อย ซึ่งสกิลในเกมนี้ส่วนใหญ่ต้องใช้หนังสือในการปลดล็อกซะก่อน จึงจะสามารถเพิ่มแต้มสกิลได้ และผังสกิลยังแยกเป็นอีกสองหมวดหลักๆ คือสกิลสายต่อสู้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความรุนแรงของท่าโจมตีพิเศษ หรือให้โบนัสพิเศษสำหรับการใช้อุปกรณ์แต่ละอย่างฟรีๆ ส่วนอีกหมวดหนึ่งก็คือสกิลสายช่วยเหลือ ซึ่งมีทั้งทักษะการลอบสังหาร การคราฟต์ไอเทม และการเสริมโบนัสพื้นฐานของตัวละคร ทำให้ผู้เล่นมีทางเลือกในการพัฒนาตัวละครที่ค่อนข้างหลากหลาย
ของใช้อื่นๆ เช่น ยา หรืออาหาร ก็สามารถคราฟต์ขึ้นมาใช้ได้เช่นกัน ตรงนี้มีจุดเด่นคือของบางอย่างคุณไม่ต้องการ Recipe เพื่อทำขึ้นมาใช้ แต่คุณสามารถมั่วการผสมเพื่อสร้างไอเทมใหม่ๆ ออกมาใช้เองได้ แค่อาศัยการปรับเปลี่ยนส่วนผสมหลักแต่ละอย่างตามใจชอบ และรอดูผลเท่านั้นว่าจะออกมาเป็นอะไร จัดเป็นความสนุกอีกอย่างหนึ่ง เช่นเดียวกับเวทมนตร์ในเกมนี้ ซึ่งคุณสามารถผสมเวทมนตร์ชนิดใหม่ๆ ขึ้นมาใช้เองได้ด้วย เพียงแต่จะมีเงื่อนไขจำเพาะกว่าการผสมไอเทมนิดหน่อย คือคุณต้องรวบรวมตำราและคัมภีร์ที่ใช้ปลดล็อกตัวเวทย์แต่ละธาตุมาซะก่อน จึงจะใช้เวทย์ธาตุนั้นๆ เป็นแกนหลักในการผสม ก่อนจะดัดแปลง ปรับเปลี่ยนผลของมันให้แสดงผลเป็นอย่างอื่นได้ในภายหลัง บางทีคุณอาจได้เวทย์มหาประลัยจากการมั่วสูตรขึ้นมาเองก็ได้ โดยรวมแล้วระบบการคราฟต์ในเกมนี้จัดว่าเป็นระบบที่สร้างสรรค์และแปลกใหม่พอตัวทีเดียว และเป็นหนึ่งในจุดเด่นของเกมที่ทำให้การเล่นสนุกสนานขึ้นมาก
เมื่อคุณผจญภัยผ่านไปยังเกาะต่อๆ ไปแล้ว คุณจะรู้สึกได้ถึงรายละเอียดของเกมที่ตกลงอย่างเห็นได้ชัด แม้ว่าแต่ละเกาะจะมีสถาปัตยกรรมใหม่ๆ ที่แตกต่างกันพอให้ตื่นตาตื่นใจอยู่บ้าง แต่เมื่อเทียบสัดส่วนเควสต์และกิจกรรมที่มีให้คุณเลือกทำในเกาะแรกๆ กับเกาะหลังๆ ของเกมแล้วจะมีจำนวนต่างกันอย่างมากราวกับเป็นคนละเกมทีเดียว ซึ่งในเกมจะให้คุณได้ผจญภัยไปตามเกาะต่างๆ รวมทั้งหมดสี่เกาะ แต่เกาะแรกคือเกาะที่มีรายละเอียดเยอะสุด พอผ่านไปเกาะสอง เกาะสาม รายละเอียดที่เคยมีก็ยิ่งลดลงเรื่อยๆ
คะแนน 68%
ข้อดี: ระบบคราฟต์ที่เปิดกว้าง, รายละเอียดของเกมสูง มีเควสต์ให้ทำเป็นจำนวนมาก
ข้อเสีย: ส่วนดีที่ว่ามีอยู่ในช่วงครึ่งแรกของเกมเท่านั้น, Motion ของตัวละครแย่ เสียงพากย์แย่, ปุ่มควบคุมไม่ได้มาตรฐาน
โดยรวม: อันที่จริง Two World 2 มีคุณสมบัติเด่นที่จะเทียบชั้นกับเกมระดับเทพอย่าง Oblivion ได้เลย แต่น่าเสียดายที่เกมดันรักษาคุณภาพในระดับนั้นเอาไว้ได้ไม่ตลอดทั้งเกม ยิ่งเล่นๆ ไปรายละเอียดและความพิถีพิถันก็ยิ่งลดน้อยถอยลง ทำให้ตกม้าตายก่อนจะเข้าเส้นชัยไปอย่างน่าเสียดาย
ขอขอบคุณ :: นิตยสาร FuterGamer