หลังจากปล่อยให้ Battlefield 1 ได้โลดแล่นมาหลายสัปดาห์พร้อมกับคำวิจารณ์ในแง่บวกมาคราวนี้ก็ถึงคิวของคู่แข่งกันบ้างกับ Call of Duty: Infinite Warfare ที่มีเสียงกร่นด่าตั้งแต่เกมยังไม่ทันวางจำหน่ายก็มาดูกันว่าตัวเกมจริง ๆ ของมันจะปังหรือแป้กกันแน่
ใน Call of Duty: Infinite Warfare จุดเด่นที่เด่นจริง ๆ เลยก็คือโหมดเนื้อเรื่องหรือ Campaign Mode นี่แหละที่ยังคงรักษามาตรฐานได้เป็นอย่างดีทั้งการเดินเรื่องบทสนทนาหรือโมเม้นต์หรือฉากเท่ ๆ ให้เห็นเยอะให้อารมณ์ทหารหาญอีกทั้งตัวเกมก็ยังอิงเนื้อหาเกี่ยวกับการเมืองนิดหน่อยพอหอมปากหอมคอด้วย
ฉากแอ็คชั่นในเกมก็เช่นกันการไล่ล่าบนอวกาศทำได้ดีทีเดียวแต่ส่วนที่ไม่ค่อยพอใจก็มีเยอะเหมือนกันอย่างการเคลื่อนไหวบนอวกาศที่แน่นอนว่าต้องช้ากว่าบนโลกก็ทำให้รู้สึกน่าเบื่อ/น่ารำคาญบ้างในการหลบสิ่งของหรืออุปสรรคที่พุ่งเข้ามาในระหว่างทำภารกิจหรือการขับเครื่องบินรบที่เล็งเป้ายิงได้ง่ายมากจนหมดความท้าทายแต่การปล่อยระเบิดแฟลร์ถือว่ายากพอสมควร
นอกจากนี้ Call of Duty: Infinite Warfare ก็ยังมีส่วนที่คล้ายคลึงกับ Titanfall 2 อย่างการเคลื่อนไหวไต่กำแพงสไลด์พื้นซึ่งใน Infinite Warfare จะมาด้วย Jetpack ให้เราได้วิ่งไต่กำแพงแต่หาประโยชน์หรือช่วงเวลาการใช้ได้น้อยกว่า Titanfall 2 ที่รายนั้นพลิ้วไหวและมีช่วงเวลาใช้ประโยชน์จากมันได้เยอะกว่า
เมื่อตัวเกมอยู่ในธีมอนาคตแน่นอนว่ามันต้องมีพวกหุ่นโดรนเข้ามามีบทบาทในเกมซึ่งเราจะสามารถแฮกข้อมูลมันให้ทำลายพวกเดียวกันเองได้อย่างการแฮกหุ่นยนต์ศัตรูแล้วกราดยิงจากด้านหลังหรือใช้โดรนสอยข้าศึกจากด้านบนก็ทำได้มอบความบันเทิงได้ดีทีเดียวและการที่ได้เห็นสิ่งก่อสร้างแปลก ๆ บนอวกาศก็เป็นเรื่องที่น่าตื่นตาไม่น้อยเลย
มาในส่วนของโหมด Multiplayer กันบ้างที่แทบจะตรงกันข้ามกับโหมดเนื้อเรื่องเลยตั้งแต่ความเร็วของเกมเพลย์ที่เร็วมากหรือการเล็งยิงให้โดนเป้าหมายก็ทำได้ยากสุด ๆ ชนิดที่ว่าถ้าเอามือใหม่มาเล่นโหมดนี้ก็น่าจะเกิดอาการหัวร้อนเกมเมอร์ได้ง่าย ๆ แต่ตรงข้ามถ้าหากใครที่ชอบเกมที่เร็ว ๆ หรือช่ำชองเกม FPS มาก่อนก็น่าจะชอบโหมดนี้กันครับ
นอกจากนี้โหมดย่อยใน Multiplayer ก็มีเยอะแยะมากมายอย่าง Frontline ที่เป็นการปกป้องฐานจะให้ผู้เล่นในทีมเน้นวางแผนเน้นแทคติกเข้าปะทะกันและที่สำคัญ Jetpack จะมีประโยชน์มากในการเล่น Multiplayer ซึ่งต่างจากโหมดเนื้อเรื่องโดยสิ้นเชิงครับ
อย่างไรก็ดีแม้จะมีความมันส์+บันเทิงบ้างแต่โดยรวมแล้วใน Multiplayer ก็ยังไม่น่าสนใจมากนักเพราะสไตล์การเล่นที่เน้นเดินหน้ายิงอย่างเดียวตัวเกมไม่ให้ความสำคัญกับบทบาทหน้าที่ในทีมหาตัวซัพพอร์ตขนานแท้ได้ยาก
หรือแม้แต่ Minimap ก็เช่นเดียวกันไม่มีผู้เล่นคนไหนใส่ใจและแม้ว่าจะมีโหมดย่อยเยอะแต่เราก็จะเห็นแต่โหมด Deathmatch จึงทำให้ใน Multiplayer ยังคงเน้นยิงลุยดะอย่างเดียว
เมื่อพูดถึง Call of Duty ก็คงต้องพูดถึงโหมด Zombie ด้วยซึ่งในภาคนี้จะมาแปลกครับที่มาในโทนการ์ตูนภาพสีสันฉูดฉาดอารมณ์เกมยุคเก่าแต่สไตล์การเล่นก็จะเหมือน ๆ กันคือ Co-op ยิงซอมบี้สร้างกำแพงมากั้นไว้เก็บเงินซื้อปืนตามธรรมเนียมปฏิบัติซึ่งก็ไม่ได้มีอะไรโดดเด่นนักเอาไว้เล่นขำ ๆ กับเพื่อนซะมากกว่าครับ
ถึง Call of Duty: Infinite Warfare จะมีดีที่โหมดเนื้อเรื่องและปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามันมอบความสนุกตื่นเต้นอินไปกับเนื้อหาได้ดีแต่ถึงอย่างนั้นเมื่อมองมาที่โหมด Multiplayer ก็พบกับความเดิม ๆ ที่ไม่เปลี่ยนจากภาคก่อนมากนักกับเกมเพลย์ที่รวดเร็วยิงอย่างเดียวบวกกับความไม่สมดุลของตัวอาวุธผู้เล่นที่ทำให้หงุดหงิดได้ง่าย ๆ โหมดซอมบี้ที่ไม่เด่นเอาเสียเลย
นอกจากนี้การที่ตัวเกมมาในราคาสูงถึง 2,099 บาทก็น่าจะทำให้หลายคนคิดหนักไม่น้อยแต่ถ้าใครเป็นแฟนเดนตายของเฟรนไชส์เกมนี้ก็น่าซื้อเก็บไว้แต่ถ้าใครเป็นคอเกม FPS ขาจรเล่นบ้างไม่เล่นบ้างก็ต้องบอกว่ารอให้เกมลดราคาจะดีกว่าครับและย้ำอีกครั้งกับคนที่ซื้อเพราะอยากเล่น Modern Warfare Remastered ต้องซื้อในชุด Deluxe ในราคา 2,799 บาทครับ
Call of Duty: Infinite Warfare (Xbox One , PlayStation 4 , PC)
ผู้พัฒนา: Infinity Ward
ผู้จัดจำหน่าย: Activision
วันวางจำหน่าย: 4 พฤศจิกายน 2016
Link: Steam
System Requirements
- OS: Windows 7 64-Bit or later
- Processor: Intel Core i3-3225 @ 3.30GHz or equivalent
- Memory: 8 GB RAM
- Graphics: NVIDIA GeForce GTX 660 2GB / AMD Radeon HD 7850 2GB
- DirectX: Version 11
- Network: Broadband Internet connection
- Storage: 70 GB available space
- Sound Card: DirectX 11 Compatible
PCGAMER Score: 48/100
ที่มา: PCGAMER