
หลังจากที่ Battlefield 6 ประกาศระบบป้องกันโกงแบบใหม่ที่เรียกว่า Javelin Anti-Cheat ซึ่งต้องใช้ฟีเจอร์ Secure Boot และ TPM 2.0 บนพีซี Windows เท่านั้น
ล่าสุด Call of Duty ก็เดินตามแนวทางเดียวกัน โดยประกาศว่าเกมในซีรีส์นี้รวมถึง Black Ops 7 จะต้องเปิดใช้ฟีเจอร์ทั้งสองนี้เช่นกัน ไม่งั้นจะไม่สามารถเล่นเกมได้
ฟีเจอร์ Secure Boot และ TPM 2.0 คืออะไร?
Secure Boot และ TPM 2.0 เป็นระบบรักษาความปลอดภัยที่มีอยู่ใน Windows 10 และ Windows 11 โดยเฉพาะใน Windows 11 ที่เป็นข้อกำหนดหลักตั้งแต่เปิดตัว
- Secure Boot เป็นระบบที่ช่วยตรวจสอบว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณบูตจากระบบที่เชื่อถือได้เท่านั้น ป้องกันการฝังมัลแวร์ก่อนเข้าสู่ระบบ
- TPM 2.0 (Trusted Platform Module) เป็นชิปพิเศษที่ใช้เก็บข้อมูลสำคัญ เช่น คีย์เข้ารหัสหรือการยืนยันตัวตน เพื่อป้องกันการแก้ไขระบบโดยไม่ได้รับอนุญาต
ทำไมเกม FPS ยุคใหม่ถึงต้องใช้ระบบนี้?
เกมแนว FPS มักตกเป็นเป้าหมายของผู้เล่นที่ใช้โปรแกรมโกง เช่น aimbot หรือ wallhack ซึ่งทำให้เสียสมดุลในเกม และทำลายประสบการณ์ผู้เล่นคนอื่น
EA ผู้พัฒนา Battlefield 6 และ Blizzard ระบุว่า ฟีเจอร์เหล่านี้มีส่วนช่วยอย่างมากในการป้องกันการดัดแปลงระบบปฏิบัติการหรือไฟล์ของเกม โดยระบบจะตรวจสอบตั้งแต่ตอนบูตเครื่อง และส่งผลการตรวจสอบไปยังเซิร์ฟเวอร์ของเกม ทำให้การโกงในระดับระบบทำได้ยากขึ้นมาก
Call of Duty เริ่มใช้ระบบนี้เมื่อไร?
การอัปเดต Season 05 ของ Black Ops 6 และ Warzone เริ่มทยอยใช้ระบบ Ricochet Anti-Cheat Engine เวอร์ชันใหม่ ที่ต้องเปิดใช้ TPM 2.0 และ Secure Boot แล้วในขณะนี้
และใน Black Ops 7 ซึ่งมีกำหนดเปิดตัวภายในปีนี้ ผู้เล่นจะ ต้องเปิดใช้งานทั้งสองฟีเจอร์นี้ ถึงจะเล่นได้ ไม่สามารถเลือกปิดได้เหมือนก่อน
มีผลกระทบต่อประสิทธิภาพหรือไม่?
หลายคนอาจกังวลว่าการเปิด TPM 2.0 และ Secure Boot จะทำให้เครื่องช้าลงหรือเปล่า ซึ่งทาง Blizzard ชี้แจงว่า ไม่มีผลกระทบกับการเล่นเกมเลย เพราะระบบจะทำงานแค่ช่วงเริ่มต้นเครื่องหรือเปิดเกมเท่านั้น และจะไม่ทำงานระหว่างเล่น
ถ้าเครื่องเราไม่ได้เปิด TPM หรือ Secure Boot ต้องทำอย่างไร?
หากคุณใช้พีซีที่ติดตั้ง Windows 10 หรือ 11 อยู่แล้ว มีโอกาสสูงมากว่าเครื่องของคุณรองรับฟีเจอร์ทั้งสอง เพียงแต่ต้องเข้าไปเปิดใน BIOS/UEFI ของเครื่อง ซึ่งอาจแตกต่างกันไปตามรุ่นเมนบอร์ด
บทสรุป: เกมยิงยุคใหม่เริ่มจริงจังกับระบบความปลอดภัยมากขึ้น
การที่เกมยักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่าง Battlefield และ Call of Duty หันมาบังคับใช้ TPM 2.0 และ Secure Boot อย่างเป็นทางการ ถือเป็นสัญญาณว่า ระบบรักษาความปลอดภัยระดับฮาร์ดแวร์ กำลังกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของการเล่นเกมพีซี
สำหรับผู้เล่นทั่วไป การเปิดฟีเจอร์นี้อาจยุ่งยากในช่วงแรก แต่ในระยะยาวถือเป็นการยกระดับความปลอดภัยของระบบ และช่วยให้ประสบการณ์การเล่นเกมมีคุณภาพมากขึ้น ปราศจากผู้เล่นที่ใช้โปรแกรมโกง
หากคุณยังไม่แน่ใจว่าเครื่องของคุณพร้อมหรือไม่ ควรตรวจสอบให้เรียบร้อยก่อนที่ Call of Duty: Black Ops 7 จะเปิดให้เล่นอย่างเป็นทางการ เพราะคราวนี้… ไม่เปิด = เล่นไม่ได้!
ที่มา: Neowin





