Gartner เปิดเผยออกมาว่าช่วยไตรมาสที่ 4 ของปีก่อนนั้นยอดจำหน่ายโน๊ตบุ๊ครวมลดลง 4.9% จากองค์รวมทั้งหมด โดยยอดจำหน่ายนั้นทำได้เพียงแค่ 90.3 ล้านเครื่องเท่านั้น หากเทียบกับไตรมาสที่ 4 ปี 2011 ที่ผ่านมาที่ทำได้ 95 ล้านเครื่อง นับว่าลดลงไปพอสมควร โดยยอดจัดจำหน่ายของ HP นั้นเป็นอันดับที่ 1 ที่ปริมาณ 14.6 ล้านเครื่อง ถือส่วนแบ่งการตลาดไป 16.2% ซึ่งนำ Lenovo ที่จำหน่ายไปได้ 13.9 ล้านเครื่อง ส่วน DELL เองในตอนนี้ก็มียอดจำหน่ายที่ลดลงเช่นกัน โดยอยู่ที่ 9.2 ล้านเครื่อง ได้เป็นอันดับ 3 Acer เป็นอันดับที่ 4 ด้วยยอดจำหน่าย 8.6 ล้านเครื่อง ส่วน ASUS ครองอันดับที่ 5 กับยอดขาย 6.5 ล้านเครื่อง
ส่วนของยอดการเติบโตนั้นกลับตรงกันข้าม เพราะว่า HP ที่มียอดส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดกลับมีอัตราเติบโตลดลงจากปีที่แล้ว 0.5% ส่วน Lenovo ที่ได้อันดับที่ 2 กลับเติบโตมากขึ้นกว่าปีก่อนที่ 8.2% ส่วน DELL กลับมีอัตราการเติบโตลดลงมากถึง 21% ทีเดียว ส่วน Acer เติบโตลดลงจากปีที่แล้ว 11% ขณะที่ ASUS เติบโตเพิ่มขึ้นอีก 6.4% ทีเดียว
สาเหตุที่ทาง Gartner วิเคราะห์ถึงยอดการเติบโตที่ลดลงว่าระบบปฏิบัติการ Windows 8 ไม่ได้สร้าง Impact มากเท่าที่ควรและเข้ากับ PC ได้ไม่ดีอย่างที่ควรจะเป็นนัก และแท็บเล็ตที่เข้าสู่ตลาดมาในตอนนี้ก็ทำให้มุมมองการเลือกซื้อของผู้ใช้ในตลาดเปลี่ยนไปหาแท็บเล็ตที่เป็นสื่อเชื่อมกลางระหว่างคนกับคอมพิวเตอร์พีซีอีกด้วย และยอดการจัดจำหน่ายในโซนยุโรปตะวันตกจะตกลงมากที่สุด 9.6% ในขณะที่ทางฝั่งเอเซียแปซิฟิกจะลดลง 1.8% ทว่าด้านยุโรปกลางและตะวันออกและแอฟริกากลับเติบโตขึ้นต่อเนื่องไตรมาสต่อไตรมาสทีเดียว นับว่าการมาถึงของแท็บเล็ตทำให้หลายอย่างสั่นคลอนมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นพีซีหรือโน๊ตบุ๊คแบบนี้ ก็ต้องรอดูว่าทางตลาดโน๊ตบุ๊คนั้นจะหาทางไหนมาแก้กลับบ้างครับ
ที่มา :?techcrunch