
หนึ่งในประเด็นที่ถูกพูดถึงมากขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา คืออนาคตของ Intel Foundry และความสามารถของ Intel ในการดึงลูกค้าภายนอกรายใหญ่เข้ามาใช้บริการโรงงานผลิตชิปของตนเอง ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือดกับ TSMC และ Samsung
ล่าสุด David Yoffie อดีตกรรมการบริหาร (Board Member) ของ Intel ออกมาให้ความเห็นอย่างตรงไปตรงมาว่า ปัญหาใหญ่ที่สุดของ Intel ไม่ใช่เทคโนโลยีการผลิตเพียงอย่างเดียว แต่คือ “โครงสร้างทางธุรกิจ” ที่ Intel ยังเป็นทั้งผู้ผลิตชิปของตัวเอง และเป็นผู้ให้บริการโรงงานผลิตแก่คู่แข่งในเวลาเดียวกัน
เป็นทั้งคู่ค้าและคู่แข่ง ปัญหาที่ลูกค้าไม่สบายใจ
Yoffie มองว่า หากมองจากมุมของบริษัท fabless รายใหญ่ เช่น NVIDIA, AMD หรือ Qualcomm การตัดสินใจนำดีไซน์ชิประดับสูงที่เป็นความลับสูงสุดของบริษัท (secret sauce) ไปให้ Intel ผลิต ย่อมมีความกังวลโดยธรรมชาติ
คำถามสำคัญคือ
ใครจะกล้านำเทคโนโลยีสำคัญไปให้บริษัทที่เป็นคู่แข่งโดยตรงในตลาดเดียวกันผลิตให้?
แม้ Intel จะยืนยันว่ามีมาตรการด้านความปลอดภัยและการแยกข้อมูลอย่างเข้มงวด แต่ในเชิงจิตวิทยาทางธุรกิจ ความไม่สบายใจนี้อาจส่งผลโดยตรงต่อ “ปริมาณคำสั่งผลิต” ที่ลูกค้ากล้ายื่นให้ Intel Foundry
Yoffie ระบุว่า ปัญหานี้อาจไม่ใช่เรื่องเล็ก เพราะมันสามารถจำกัดโอกาสที่ Intel จะได้รับคำสั่งผลิตในระดับ high volume ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจ foundry
แนวคิด “แยก Foundry ออกเป็นบริษัทอิสระ”
อดีตบอร์ด Intel เสนอแนวทางแก้ไขที่ชัดเจน คือการ แยก Intel Foundry ออกเป็นบริษัทอิสระ (Spin-Off) อย่างแท้จริง
เขามองว่า หากธุรกิจโรงงานผลิตถูกแยกออกจากฝั่งผลิตภัณฑ์ (CPU, GPU, AI accelerator ของ Intel เอง) อย่างเด็ดขาด จะช่วยลดความกังวลของลูกค้าภายนอกได้อย่างมาก
“ถ้าแยกสองส่วนนี้ออกจากกันจริง ๆ ผมคิดว่า Intel จะมีโอกาสประสบความสำเร็จมากขึ้นอย่างชัดเจน”
— David Yoffie ให้สัมภาษณ์กับ CNBC
ทำไม NVIDIA และ AMD ถึงยังลังเล
แม้จะมีรายงานว่า NVIDIA และ AMD กำลังพิจารณาใช้ Intel Foundry เป็นทางเลือกเพิ่มเติม เนื่องจากกำลังการผลิตของ TSMC ตึงตัว และแรงกดดันด้านการผลิตในสหรัฐฯ เพิ่มสูงขึ้น แต่ Yoffie มองว่าการสั่งผลิต “ชิปรุ่นหลัก” ยังเป็นเรื่องที่หลายบริษัทลังเล
สาเหตุสำคัญไม่ใช่เรื่อง yield หรือ node technology เพียงอย่างเดียว แต่คือความกังวลด้าน technology transfer ทางอ้อม แม้จะไม่มีการละเมิดโดยตรงก็ตาม
ในอุตสาหกรรม fabless ความปลอดภัยของเทคโนโลยีถือเป็นเรื่องที่ซีเรียสสูงสุด และความขัดแย้งทางผลประโยชน์แบบนี้ ทำให้แนวคิดการแยก Intel Foundry กลายเป็นทางเลือกที่ดูสมเหตุสมผลมากขึ้นเรื่อย ๆ
Intel Foundry เริ่มขยับตัวสู่ความเป็นอิสระแล้ว
อย่างไรก็ตาม Intel เองก็รับรู้ถึงประเด็นนี้เช่นกัน โดย John Pitzer รองประธานของ Intel เปิดเผยในงาน UBS Conference ว่า Intel Foundry กำลังเดินหน้าไปสู่โครงสร้างที่แยกออกจากบริษัทแม่มากขึ้น
ปัจจุบัน Intel Foundry มีคณะกรรมการที่ปรึกษา (Advisory Board) แยกเฉพาะ และกำลังอยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างให้เป็น นิติบุคคลที่แยกต่างหากในเชิงกฎหมาย
Pitzer ระบุชัดว่า หาก CEO อย่าง Lip-Bu Tan และบอร์ดบริหารเห็นว่าการ spin-off จะสร้างมูลค่าให้บริษัทจริง Intel ก็พร้อมเดินหน้าในทิศทางนั้นทันที
เปรียบเทียบกับ TSMC ทำไมไม่เกิดปัญหาเดียวกัน
หนึ่งในข้อโต้แย้งที่น่าสนใจคือ Intel เองก็เป็นลูกค้ารายสำคัญของ TSMC มายาวนาน และ TSMC ก็รับผลิตให้แทบทุกบริษัทเทคโนโลยีระดับโลก โดยไม่เคยมีข้อกังวลเรื่องการถ่ายโอนเทคโนโลยี
เหตุผลสำคัญคือ TSMC เป็น pure-play foundry อย่างแท้จริง ไม่มีผลิตภัณฑ์ของตัวเองที่แข่งขันกับลูกค้า นี่จึงเป็นจุดแตกต่างเชิงโครงสร้างที่ Intel Foundry ยังต้องพิสูจน์ให้ตลาดเห็น
อนาคต Intel Foundry กับ 18A และ 14A
ในช่วงเวลานี้ Intel กำลังก้าวเข้าสู่ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญ โดย 18A กำลังเตรียมเข้าสู่การผลิตเชิงพาณิชย์ และ 14A ถูกวางตัวเป็นกระบวนการผลิตยุคถัดไปที่มีความสำคัญต่อการอยู่รอดของ Intel Foundry ในระยะยาว
คำถามสำคัญจึงไม่ใช่แค่ “เทคโนโลยีดีพอหรือไม่” แต่คือ
โครงสร้างธุรกิจของ Intel จะทำให้ลูกค้าเชื่อมั่นได้แค่ไหน
การแยก Intel Foundry ออกเป็นบริษัทอิสระ อาจไม่ใช่คำตอบเดียว แต่ชัดเจนว่าเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ถูกพูดถึงมากขึ้นเรื่อย ๆ และอาจเป็นกุญแจสำคัญในการแข่งขันกับ TSMC ในระยะยาว
ที่มา: wccftech





