MSI Modern 15 H AI C1MG โน๊ตบุ๊คจอใหญ่ รู้ใจคนทำงาน กาง 180 องศา Intel Core Ultra ราคาเบา เพื่อคนทำงานมีไลฟ์สไตล์
MSI Modern 15 H AI C1MG โน๊ตบุ๊คทำงานจอใหญ่ ที่มาพร้อมกับขุมพลัง Intel Core Ultra ซึ่งมี AI ช่วยในการทำงานกับ Intel AI Boost ทั้งในด้านของงานและการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น การตอบอีเมล์ แต่งภาพ สร้างวีดีโอหรือกระทั่งการแต่งเพลง ทั้งนี้เองผู้ใช้ยังจะได้สัมผัสกับความสะดวกสบายบนโน๊ตบุ๊ค MSI รุ่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นจอแสดงผลขนาดใหญ่ สามารถมองเห็นข้อมูลได้ชัดเจน แบ่งหน้าจอเพื่อเปรียบเทียบเอกสารได้ง่าย สอดคล้องกันไปกับความคมชัดของหน้าจอ กางจอได้ 180 องศา กับฟีเจอร์ Flip & Share สลับหน้าจอได้ เช่นเดียวกับกล้องเว็บแคม ที่มี AI ช่วยให้ภาพและเสียงที่ดีมากขึ้น บอดี้แข็งแรงระดับ MIL810H จึงพกพาไปใช้ข้างนอกได้ น้ำหนักพอที่จะใส่ในกระเป๋าสะพายเพื่อเดินทางได้ไม่ยาก พอร์ตมีอยู่อย่างครบครัน แบตเตอรี่ให้ใช้งานได้อย่างน้อย 5-6 ชั่วโมงต่อเนื่อง อีกทั้งรองรับการอัพเกรดได้ในอนาคต กับการรับประกัน 2 ปี สนนราคาเริ่มต้นที่เป็น Intel Core Ultra 5 อยู่ที่ราว 23,900 บาทเท่านั้น ถ้ามองในแง่ของคุณสมบัติพื้นฐาน บนบอดี้ที่เรียบหรู ซึ่งมี Windows 11 Home และ Microsoft Office Home & Student มาด้วย ก็น่าสนใจไม่น้อยเลย
จุดเด่น
- งานประกอบแน่น ให้ความทนทาน
- บานพับแข็งแรง กางจอได้ 180 องศา
- มาพร้อมซีพียู Intel Core Ultra ที่มี NPU Intel AI Boost
- ให้พอร์ตต่อพ่วงมาครบครัน USB มากถึง 4 พอร์ต
- กล้องเว็บแคมสนับสนุน Microsoft Studio Effect ปรับแต่งได้
- ปุ่มคีย์บอร์ดกดสนุกระยะยุบสั้น มีแสงไฟ Backlit สีขาว
- มีระบบ 3DNR ลดอาการภาพเบลอเมื่ออยู่ในที่แสงน้อย
- ระบบจัดเก็บข้อมูลทำได้ไว อัพเกรดเพิ่มได้
- ลำโพงให้เสียงค่อนข้างดี ไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง เล่นเกม
ข้อสังเกต
- แบตเตอรี่ใช้งานต่อเนื่องประมาณ 5-6 ชั่วโมง
- น้ำหนักประมาณ 1.9Kg. ไม่รวมอแดปเตอร์
MSI Modern 15 H AI C1MG
- Specification
- Hardware & Design
- Screen & Speaker
- Keyboard & Touchpad
- Connector, Thin & Weight
- Performance & Software
- Battery & Heat & Noise
- User Experience
- Conclusion & Award
Specification
Description | ||
Processor | Intel® Core™ Ultra 7 processor 155H with Intel® AI Boost (NPU) | |
OS | Windows 11 Home, w/ Microsoft Office Home & Student 2021 | |
Display | 15.6″ FHD (1920×1080), IPS-Level | |
Graphic | Intel® Arc™ graphics | |
Memory | 8GB2, DDR5, SO-DIMM | |
Storage | 1TB1 NVMe SSD PCIe Gen4 | |
Keyboard | Single Backlit Keyboard (White) with Copilot Key | |
Webcam | HD type (30fps@720p) 3D Noise Reduction (3DNR) | |
Speaker | 2x 2W Audio Speaker, Hi-Res Audio Ready | |
Port | 1x Mic-in/Headphone-out Combo Jack 3x Type-A USB3.2 Gen1 1x Type-C (USB3.2 Gen2 / DisplayPort™/ Power Delivery 3.0) 1x HDMI™ 2.1 (4K @ 60Hz) 1x Micro SD | |
WiFi+BT | Intel® Wi-Fi 6E AX211, Bluetooth v5.3 | |
Security | Firmware Trusted Platform, Module(fTPM) 2.0 | |
AC Charge | 90W Adaptor | |
Battery | 3-Cell, 53.8 Whrs | |
Dimension | 359 x 241 x 19.9 mm | |
Weight | 1.9 kg | |
Color | Classic Black | |
Certification | MIL-STD-810H/G | |
Warranty | 2 years limited warranty |
ข้อมูลเพิ่มเติม: MSI Modern 15
Hardware & Design
MSI Modern 15 H AI C1MG โน๊ตบุ๊คสำหรับการทำงานที่สามารถเข้ากันได้กับทุกโอกาสในชีวิตประจำวัน ซึ่งรวมถึงการศึกษาและเหล่านักสร้างคอนเทนต์ แม้จะเป็นโน๊ตบุ๊คจอใหญ่ 15.6″ แต่ก็ให้มิติที่บางกระชับมากขึ้น ทำให้เข้ากับการพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้ กับความแข็งแรงที่พร้อมสำหรับการเดินทาง มาในโทนสี Classic Black ที่เป็นสไตล์แบบดั้งเดิมของ MSI Modern ที่ผ่านมา
Cover หรือฝาปิดของโน๊ตบุ๊คมาในโทนสีดำเทาเข้ม แบบเดียวกันตลอดทั้งบอดี้ ตรงกลางมีโลโก้ MSI สีเงินโดดเด่น เช่นเดียวกับในหลายๆ ซีรีย์ของค่ายนี้
กรอบบานของหน้าจอ มีความบางทั้งด้านซ้ายและขวา ด้านบนมาพร้อมกับความหนาขึ้นเล็กน้อย เพื่อเป็นจุดที่ติดตั้งกล้องเว็บแคม เช่นเดียวกับขอบจอด้านล่าง ที่ใช้เป็นตัวรับโครงสร้างหลักของหน้าจอแสดงผล
เช่นเดียวกับโครงสร้างภายนอกที่ออกแบบมาในลักษณะที่โค้งมน จะต่างจากโน๊ตบุ๊ตทำงานไลฟ์สไตล์อย่าง MSI Prestige อยู่พอสมควร แต่ด้วยบอดี้ที่กระชับหยิบจับได้ง่าย พื้นผิวเป็นแบบมี Texture เล็กน้อย ช่วยให้ไม่ลื่นและไม่เกิดคราบรอยนิ้วมือได้ชัดเจนนัก
มิติความบาง ที่มีการเปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อเทียบกับ MSI Modern 15 ในช่วง 2-3 เจนเนอเรชั่นที่ผ่านมา แต่ก็ดูกลมกลืนและมีลุคของความเป็น Business มากขึ้น เข้าได้กับการใช้งานในทุกโอกาส
เอกลักษณ์คือการกางหน้าจอได้แบบ 180 องศา มาพร้อมกับบานพับที่แข็งแกร่ง ทำให้การกางเป็นมุมต่างๆ ทำได้ง่าย และไม่โยกคลอนจนน่าปวดหัว ให้สอดคล้องกับรูปแบบการใช้งานในแต่ละช่วงวัน
การปรับพับหรือกางหน้าจอ ทำได้ง่ายเพียงนิ้วเดียว ซึ่งโน๊ตบุ๊คให้สมดุลได้ค่อนข้างดี กับการยกบอดี้ขึ้นมาด้วยขอบด้านล่างของจอ ทำให้ปรับองศาและยึดเกาะกับพื้นโต๊ะทำงานได้ง่ายขึ้น
วัสดุให้ความแข็งแรง มีงานประกอบที่แน่น จับแล้วไม่นิ่มยุบ ทำให้เวลาที่พับจอ จับตัวเครื่อง เพื่อเดินไปยังจุดทำงานอื่นๆ ก็ยังอุ่นใจได้ โดยเฉพาะกรอบบานที่ดูจะทำออกมาแน่นเป็นพิเศษ ให้รับกับแรงบีบจับได้ดี
ฝาปิดแนบสนิทไปกับตัวเครื่อง แทบไม่มีช่องว่าง อีกทั้ง MSI เลือกออกแบบให้เส้นสายดูโค้งบางจากด้านท้ายไปยังส่วนหน้า จึงทำให้ดูมีมิติที่บางลง
บานพับทั้ง 2 จุดค่อนมาทางริมตัวเครื่องทั้งด้านซ้ายและขวา มีความแข็งแรงพอสมควร สามารถจับหน้าจอกางจากกึ่งกลางเปิดได้สะดวก มีความแน่นหนา เหมาะกับการใช้งานบนโต๊ะทำงานได้ในทุกรูปแบบ
ขอบด้านล่างของตัวจอบริเวณภายนอกเป็นวัสดุแบบยาง ใช้เป็นส่วนรับตัวจอเมื่อสัมผัสกับพื้นโต๊ะ เมื่อกางหน้าจอใช้งาน ป้องกันรอยขูดขีดและกันกระแทกได้ดีพอสมควร
ด้านใต้ของตัวเครื่องมาพร้อมช่องดูดลมจากด้านล่าง เพื่อเข้าไปหมุนเวียนและระบายความร้อนภายในตัวเครื่อง ตรงกับจุดที่เป็นพัดลมด้านใน โดยมีฐานยางที่ใช้ยกตัวเครื่องขึ้นเล็กน้อยทั้ง 4 มุมและจุดวางลำโพงจะค่อนมาทางด้านหน้าเครื่องทั้งซ้ายและขวา
ช่องระบายลมร้อนออกหลัก ถูกวางไว้ที่ด้านหลังทางขวาของตัวเครื่อง ซึ่งเป็นเพียงจุดเดียวบนเครื่องนี้ ยังคงรูปแบบเดิมบน MSI Modern หลายๆ รุ่นที่ผ่านมา แต่ยังระบายความร้อนได้ดี แม้จะอยู่ในระดับ Full load ก็ตาม
Screen & Speaker
MSI Modern 15 H AI รุ่นนี้ มาพร้อมจอแสดงผล 15.6″ ให้พื้นที่การทำงานที่กว้าง เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการพื้นที่สำหรับงานด้านต่างๆ ตั้งแต่งานเอกสาร แต่งภาพ ต้ดต่อวีดีโอ สร้างงานกราฟิก ไปจนถึงความบันเทิง โดยมีกรอบบานของจอที่บาง ทั้งด้านซ้ายและขวา ให้พื้นที่ได้เต็มตามากขึ้น
เป็นพาแนลแบบ IPS ให้มุมมองที่กว้าง และสีสันที่สดใส เหมาะกับการใช้งานในหลายรูปแบบ รวมถึงการแบ่งปันหน้าจอ เมื่อต้องนั่งดูร่วมกันหลายคนก็สะดวก ความละเอียด Full-HD 1080p มาตรฐาน อัตรารีเฟรชเรต 60Hz ผู้ใช้สามารถปรับความสว่างได้ด้วยตัวเอง ผ่านทางปุ่มเพิ่ม-ลดแสงบนหน้าจอ รวมถึงการสนับสนุน HDR Streaming หรือการปรับสีได้บนการชมภาพยนตร์อีกด้วย
โดยในแง่ของมุมมองการทำงาน กับพาแนลระดับนี้ ก็ถือว่าเป็นมาตรฐานของจอทำงานในยุคปัจจุบัน ซึ่งให้ทั้งความคมชัด ทั้งในเรื่องของภาพและตัวอักษร เพราะเป็นสิ่งสำคัญในการใช้งาน จากการลองปรับย่อขยายฟอนต์ ตามสเกลบน Display Properties เพื่อให้สอดคล้องกับความถนัดของแต่ละบุคคล การปรับเป็น 125% ขึ้นไป ขยายฟอนต์ใหญ่ขึ้น ก็ยังให้ความคมชัด
เช่นเดียวกับโน๊ตบุ๊คจอใหญ่หลายรุ่น กับการแสดงผล 15.6″ ขึ้นไป ผู้ใช้ที่ทำงานด้านเอกสาร จะต้องมีการเปรียบเทียบข้อมูลระหว่างกัน ก็สามารถแบ่งหน้าจอด้วยการ Split Window เพื่อแบ่งหน้าเอกสารได้ ปรับย่อขยายก็ยังเห็นได้ชัด สิ่งนี้คือช่วยให้การทำงานง่ายขึ้น และเหมาะกับการใช้บนโน๊ตบุ๊คกลุ่มนี้อย่างมาก
ด้านบนเป็นกล้องเว็บแคม ความละเอียด HD 720p ที่ 30fps. เป็นกล้องระดับพื้นฐาน ให้ความคมชัดได้พอสมควร เหมาะกับการสนทนาออนไลน์ และการประชุมในแต่ละวัน แต่ความพิเศษอยู่ที่ การปรับเอฟเฟกต์ด้วย AI ในการเพิ่มความน่าสนใจให้กับภาพ ด้วย Windows Studio Effect ทั้งในแง่ของการโฟกัสสายตากับกล้อง หรือจะปรับเบลอภาพพื้นหลัง เมื่อต้องใช้ในสถานการณ์ที่ฉากหลังดูวุ่นวาย รวมถึงระบบที่ช่วยติดตามใบหน้า ในกรณีที่ต้องขยับตัวบ่อย พรีเซนต์สินค้า กล้องจะหันตามใบหน้าเราตลอดเวลา มาพร้อมกับม่านชัตเตอร์ เพื่อความเป็นส่วนตัวมากขึ้น เลื่อนปิดได้เมื่อไม่ใช้งานกล้อง
โดยเพิ่มเติม 3D Noise Reduction หรือ 3DNR ซึ่งจะลดปัญหา Noise ที่รบกวน จะทำให้ภาพที่ได้มีความคมชัดมากขึ้น แม้อยู่ในที่แสงน้อยก็ตาม
ขอบจอจะบางประมาณ 3-5mm เท่านั้น เปิดให้ใช้พื้นที่ได้กว้างสุดๆ โดยเฉพาะคนที่ต้องการหน้าต่างแอพพลิเคชั่นทำงาน และการดูหนัง เล่นเกม สามารถดูได้อย่างเต็มตา
ขอบบานด้านล่างเป็นจุดรับโครงสร้างของหน้าจอ เช่นเดียวกับการติดอยู่กับบานพับ อันเป็นจุดสำคัญของโน๊ตบุ๊ค จากการใช้งาน MSI Modern 15 รุ่นนี้ ยังทำได้ดีเช่นเคย ส่วนหนึ่งก็เพราะต้องรองรับการกางหน้าจอ 180 องศา ดังนั้นจึงทำบานพับมาอย่างแน่นหนา จึงทำให้เวลานำไปใช้งานข้างนอก ที่โต๊ะอาจไม่ได้แข็งแรงนัก แรงสั่นสะเทือนขณะพิมพ์ ก็ไม่ทำให้จอสั่นคลอนจนไม่สบายตาอีกด้วย
อีกทั้งความพิเศษของจอโน๊ตบุ๊ครุ่นนี้ ที่ทาง MSI ทำมาไม่เหมือนใคร นั่นคือ นอกจากการกางได้ 180 องศา ก็ยังสามารถปรับสลับหน้าจอ ให้กับผู้ชมที่นั่งตรงกันข้ามให้เห็นภาพได้แบบไม่ต้องหันโน๊ตบุ๊คกลับไปอีกด้านให้วุ่นวายอีกด้วย กับฟีเจอร์ที่เรียกว่า Flip & Share แต่กดปุ่ม F12 บนคีย์บอร์ดเท่านั้น และยังสลับไปมาได้อีกด้วย
จากการทดสอบด้วย DisplayCAL เพื่อเช็คขอบเขตสีและความสว่าง อาจดูไม่ได้หวือหวามากนัก สำหรับการแสดงผล ซึ่งเป็นไปตามรูปแบบของโน๊ตบุ๊คทำงานพื้นฐานเป็นหลัก ซึ่งผลที่ออกมาอยู่ในระดับที่เหมาะกับการใช้งานกราฟิกในชีวิตประจำวันได้ เช่น การแต่งภาพ ทำกราฟิกและการพรีวิว รวมถึงการชมภาพยนตร์ ด้วยค่า Gamut Coverage 63.1% sRGB แต่ก็ยังถือว่าให้ค่า Delta-E ที่น้อยกว่า 2 จัดอยู่ในจอที่ใช้งานด้านภาพได้ในเบื้องต้นได้
ส่วนการสนับสนุน HDR โดยพื้นฐานจอรุ่นนี้ สนับสนุน HDR video streaming ตามข้อกำหนดบน Windows ซึ่งเน้นไปในเรื่องของความบันเทิงเป็นหลัก แต่หากต้องการขยับไปใช้งานหรือการแสดงผลที่มีของเขตสีกว้างและรองรับ HDR เต็มรูปแบบ ตัวเลือกอย่าง MSI Prestige ก็เป็นอีกรุ่นที่น่าสนใจ
ดังนั้นเรื่องของคุณภาพและการเกลี่ยสี ความสวยสดใสของภาพในการดูชมวีดีโอสตรีมมิ่งบนโน๊ตบุ๊ค MSI Modern 15 รุ่นนี้ ให้ความอิ่มของสีได้ดีพอสมควร เช่นเดียวกับการเกลี่ยสีบนภาพ สร้างความประทับใจไม่น้อยเลย แสดงให้เห็นว่าผู้ใช้สามารถทำงานจริงจัง ไปพร้อมๆ กับความสนุกเต็มอิ่มในด้านความบันเทิงคู่กันได้ดีทีเดียว
ในด้านความสว่างเมื่อปรับสุดอยู่ที่ราวๆ 256cd/m2 จากการทดสอบด้วย DisplayCAL จัดอยู่ในระดับมาตรฐาน สามารถใช้งานในที่แสงรบกวนได้ดีพอสมควร แม้จะไม่ได้มี Brightness ที่สูงมากเช่นเดียวกับบน OLED แต่ในแง่ของความสดใส และความคมชัด ก็จัดว่าพร้อมสำหรับงานในหลายๆ ด้าน รวมถึงความบันเทิง เมื่ออยู่ในห้องทำงาน ที่มีแสงปกติ เปิดความสว่างระดับ 50-60% ก็มากพอต่อการมองเห็นรายละเอียดได้ดีมากแล้ว
โดยที่ MSI เตรียมเรื่องของระบบเสียงด้วยลำโพงคู่ 2Wจำนวน 2 ตัว ติดตั้งอยู่ใต้เครื่องทั้งด้านซ้ายและขวา เฉียงออกด้านข้างเล็กน้อย ให้ทิศทางเสียงได้ดีพอสมควร เพียงพอกับการใช้งาน เมื่อนั่งบริเวณด้านหน้าเครื่อง หรือสามารถใช้ในห้องอยู่ในห้องทำงาน ประชุมออนไลน์ในห้องที่ไม่กว้างมากนัก ยังพอนั่งฟังร่วมกันได้หลายคน หรือใช้ระหว่างการเดินทาง นั่งพักระหว่างรอลูกค้าก็ได้เช่นกัน
ในเรื่องของพลังเสียง การปรับเพิ่ม Volume หนักๆ ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อชุดลำโพงบนตัวเครื่องมากนัก ไม่พบแม้อาการแตกพร่าให้ได้ยิน เสียงการสนทนาจัดว่าเป็นเรื่องพื้นฐานบนโน๊ตบุ๊ครุ่นนี้ เสียงดังฟังชัด ลดเสียงรบกวนได้ดีพอสมควร แต่ถ้าอยากให้ได้รายละเอียดมากกว่าเดิม และเป็นส่วนตัว หูฟังก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ
ความบันเทิงอย่างที่ได้เกริ่นไว้ในตอนต้น MSI Modern series ยังคงเต็มที่กับสิ่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการฟังเพลง เสียงนุ่ม ทุ้ม เสียงกลางพอได้ เสียงแหลมดรอปเล็กน้อยในบางจังหวะ เหมาะกับการฟังเพลงสบายๆ อยู่ที่บ้าน หรือฟัง Podcast ได้ดี แนวเพลง Jazz นุ่มๆ ฟังสบาย ส่วนสไตล์ร็อคหรือแนวพังก์ อาจจะไม่ถึงใจนัก แต่ก็ฟังได้สะใจ ดนตรีไม่คม แต่เสียงนักร้องจัดมาดี
ส่วนการชมภาพยนตร์ก็เร้าใจไม่แพ้กัน ด้วยลำโพง 2W จัดมาคู่แบบนี้ เก็บเอฟเฟกต์แนวไซไฟหรือสไตล์ของระเบิดภูเขาเผากระท่อม ก็สนุกสะใจไม่แพ้กัน โดยเฉพาะเสียงห่ากระสุน และระเบิดขณะที่ยกพลขึ้นบกในฉากรบ Saving Private Ryan หรือกระทั่งเสียงชนกันสนั่นของฮ็อบส์ & ชอว์ใน Fast & Furious ก็ตาม หรือจะเป็นช่วงที่ฟังเพลงประกอบไปด้วยแบบนุ่มๆ ในไททานิกก็ตาม
และยิ่งถ้าคุณใช้งานหูฟังที่รองรับระบบเสียง Hi-Res Audio ด้วยแล้ว ก็ยิ่งเต็มที่ไปกับความบันเทิงได้มากกว่า กับอัตรา Sampling ที่สูงถึง 24 บิตที่ 192kHz ให้คุณสัมผัสได้ในทุกย่านเสียง กับสเตจเสียงที่กว้าง สร้างความเร้าใจทั้งในการฟังเพลง และการชมภาพยนตร์ ซึ่งอารมณ์ในการรับชมรับฟังก็จะสนุกสะใจไม่น้อยเลย โดยต่อเข้ากับแจ๊ค 3.5mm ที่เป็น Combo jack ที่อยู่ด้านข้างตัวเครื่องได้อีกด้วย
Keyboard & Touchpad
MSI Modern 15 H AI รุ่นนี้มาพร้อมคีย์บอร์ดอันเป็นเอกลักษณ์ของค่าย ในลักษณะเดียวกันกับ Prestige และเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คบางรุ่นของค่าย ที่มาในลักษณะของปุ่มขนาดใหญ่ เลย์เอาท์ 6 แถว กดถนัดแม่นยำ ตอบสนองได้ดีพอสมควร เอาใจสายพิมพ์สัมผัส เพิ่มความไวให้กับการทำงาน กับการเลเซอร์ตัวฟอนต์มาคมชัด ไม่ว่าจะเป็น TH หรือ EN ก็ตาม
แต่สิ่งหนึ่งที่โดดเด่นขึ้นมาจากคีย์บอร์ดบนโน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่นของค่ายก็คือ ปุ่มลูกศร หรือ Arrow ทั้งในปุ่ม Up/ Down และ Left/ Right มาแบบเต็มปุ่ม ไม่ได้เป็นแบบครึ่งปุ่ม เหมือนอย่างที่เห็นอยู่ในบางรุ่น ทำให้ใช้งานได้แม่นยำกว่าเดิม โดยเฉพาะคนที่ต้องใช้งานตัวเลข และการใช้แทนเมาส์ จะได้ประโยชน์ไม่น้อย
ส่วนปุ่มฮอตคีย์หรือ Fn key บนรุ่นนี้ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เพราะมีมาให้แบบครบครันเช่นกัน ตั้งแต่ปุ่ม F1-F12 และปุ่มใกล้เคียงที่เป็น Print screen, Insert และ Delete ประกอบด้วย
- F1 เปิด/ปิดเสียง
- F2 ลดเสียง
- F3 เพิ่มเสียง
- F4 เปิด/ ปิดทัชแพด
- F5 เปิด/ ปิดไมโครโฟน
- F6 ใช้งาน บลูทูธ
- F7 เรียกใช้ MSI Center
- F8 ปรับแสงไฟคีย์บอร์ด
- F9 ลดแสงหน้าจอ
- F10 เพิ่มแสงหน้าจอ
- F11 ต่อสัญญาณจอสู่จอนอก
- F12 ใช้งาน Flip & Share
โดยจะมีแสงไฟบอกสถานะขึ้นอยู่เฉพาะบางปุ่มเท่านั้น เช่น ปุ่มเพาเวอร์, Num lock และ Cap lock เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีปุ่ม Microsoft Copilot มาให้ เพื่อเรียกใช้งานได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งอยู่บริเวณด้านล่างขวาของคึย์บอร์ด ใกล้กับ Arrow นั่นเอง
ปุ่มคีย์บอร์ด มีแสงไฟสีขาว เป็นแสงไฟ Backlit สีขาว สว่างสดใสตามสไตล์ของคีย์บอร์ดค่ายนี้ สามารถปรับความสว่างได้ถึง 3 ระดับ และยังเปิด/ ปิดการทำงาน ในกรณีที่ไม่ได้ใช้ในที่มืด หรือต้องการประหยัดพลังงาน ด้วยการกดที่ปุ่ม F8 เพื่อปรับรูปแบบของแสงไฟ ที่จะเป็นการเลือกวนไป ปิด > เปิด > ระดับ 1-ระดับ 2 > ระดับ 3 > ปิด
ทัชแพดมาในไซส์ขนาดกลาง แต่ก็ให้พื้นที่ได้กว้างตามสัดส่วนของโน๊ตบุ๊ค 15.6″ เช่นนี้ พอจะแทนการทำงานของเมาส์ได้ในระดับหนึ่ง เมื่อต้องใช้งานบนพื้นที่จำกัด ซึ่งมีพื้นผิวเรียบลื่น ทำให้ใช้งานได้สบายมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นการใช้นิ้วเดียวเลื่อนแทนเมาส์ หรือจะใช้ Multi-Gesture ลาก ปาด เลื่อน เปลี่ยนหน้าต่างหรือย่อ ขยายก็ง่ายมากขึ้น แต่ปุ่มคลิ๊กเมาส์ซ้าย-ขวาที่ซ่อนไว้ ดูจะลึกลงไปนิดหน่อย ต้องอาศัยน้ำหนักนิ้วในการกดเพิ่มเล็กน้อย
แต่ก็มีพื้นที่วางมือที่กว้างมากขึ้น เพื่อที่ผู้ใช้ที่เน้นการใช้ปุ่มคีย์ และทัชแพด จะพอมีที่วางได้เต็มที่มากกว่า โดยที่วางมือด้านซ้ายมาพร้อมลาเบล Intel Core Ultra และ Intel ARC ส่วนทางด้านขวา จะเป็นพื้นที่โล่งๆ
Connector, Thin & Weight
MSI Modern 15 H AI มาพร้อมพอร์ตสำหรับต่อพ่วงอุปกรณ์เอาไว้อย่างครบครัน โดยแบ่งออกเป็น 2 ด้าน ให้สามารถกระจายการใช้งาน ไม่เบียดเสียดกันจนเกินไป
พอร์ตต่อพ่วงทางด้านขวามือ
- 2x USB 3.2 Type-A โอนถ่าย ย้ายข้อมูล ชาร์จไฟ ต่อเมาส์ คีย์บอร์ด
- 1x Micro SD Card Reader
พอร์ตต่อพ่วงทางด้านซ้ายมือ
- 1x DC-In ต่อจากอแดปเตอร์ชาร์จ
- 1x Type-A USB3.2 Gen1
- 1x Type-C (USB3.2 Gen2 / DisplayPort™/ Power Delivery 3.0)
- 1x HDMI™ 2.1 (4K @ 60Hz)
- 1x Micro SD
- 1x Mic-in/Headphone-out Combo Jack
ในภาพรวมจัดว่าครบครันสำหรับการใช้งานพื้นฐาน ไม่ว่าจะเป็นในบ้านหรือสำนักงาน โดยเฉพาะ USB port นั้นมีให้ถึง 4 พอร์ตด้วยกัน โดยแบ่งเป็น USB Type-A จำนวน 3 พอร์ต ตอบโจทย์สำหรับคนที่มีการเชื่อมต่อจำนวนมากพร้อมกัน เช่น ต่อแฟลชไดร์โอนถ่ายข้อมูล และต่อเมาส์ คีย์บอร์ด หรือใช้ USB Receiver และต่ออุปกรณ์เสริมอื่นไปด้วย เช่นเดียวกับ USB-C ที่ให้การชาร์จร่วมกับ PD 3.0 ก็สะดวกรวดเร็ว หรือจะใช้ต่อจอเพิ่มก็ได้ ด้วยการต่อผ่านสัญญาณแบบ DP ไปยังจอนอก นอกเหนือจากการต่อกับ HDMI นั่นเอง
ส่วนน้ำหนักที่ทาง MSI เคลมเอาไว้อยู่ที่ 1.9Kg ซึ่งจากการชั่งน้ำหนักของเรา ถือว่าใกล้เคียง นั่นคือประมาณ 1.974Kg. จัดว่ายังอยู่ในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คทำงานที่พกพาได้ เพราะไม่ถึง 2Kg. ดีนัก แต่พอรวมกับอแดปเตอร์ชาร์จแล้ว จะอยู่ที่ 2.34Kg. โดยประมาณ ก็ถือว่าค่อนข้างมีน้ำหนัก แต่ยังอยู่ในเกณฑ์ของโน๊ตบุ๊คทำงานในปัจจุบัน แต่ได้เรื่องของความบางเข้ามาแทน ถ้าเทียบกับในโมเดลอื่น เช่น MSI Cyborg หรือ MSI Thin ก็ตาม ผู้ใช้อาจจะต้องใส่กระเป๋าเป้หรือสะพายข้าง เพื่อความสะดวกต่อการนำไปใช้งานนอกสถานที่
โดยอแดปเตอร์ที่มีมาให้เป็นแบบ 90W ข้อดีคือ ด้วยการที่เป็นที่ชาร์จระดับนี้ จึงมีมิติที่เล็ก ขนาดประมาณเท่าฝ่ามือเท่านั้น ไม่เทอะทะ พอให้การพกพาไม่ใช่เรื่องยาก ต่างจากเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คที่ระดับ 120W ขึ้นไป เพียงแต่หัวชาร์จยังคงเป็น DC-In ไม่ได้เป็น USB-C แต่อย่างใดเท่านั้น
Performance & Software
CPUz รายงานซีพียูที่ติดตั้งมากับ MSI Modern 15 H AI รุ่นนี้เป็น Intel Core Ultra 7 155H มีรูปแบบการทำงาน 6 Core-P และ 8 Core-E รวมกับ 2 LPE Core เป็น 16 Core และ 22 Thread เป็นซีพียูโมบาย Core Ultra 100 series ความถี่สัญญาณสูงสุด 4.8GHz และค่าการใช้พลังงาน TDP 28W พื้นฐาน และสูงสุดที่ 115W พร้อมจุดเด่นสำคัญคือ Intel AI Boost ที่รองรับการทำงานด้าน AI ในปัจจุบัน ด้วยการสนับสนุน OpenVINO™, WindowsML, DirectML และ ONNX RT โดยมีแรม SO-DIMM DDR5 5600 ความจุ 16GB มาด้วย
โดยที่มีกราฟิก Intel® Arc™ graphics ซึ่งมีประสิทธิภาพมากพอสำหรับการทำงาน งานด้านกราฟิกมัลติมีเดีย และการเล่นเกมในระดับเบื้องต้นในตัว รองรับ Ray-Tracing และมี Xe-Core ช่วยในการประมวลผล สนับสนุนเทคโลโลยีต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเข้า/ถอดรหัสระดับฮาร์ดแวร์ H.264 และ H.265 รวมถึง AV1 และลูกเล่นอย่าง Intel® Quick Sync สำหรับเหล่าสตรีมเมอร์หรือการบรอดแคสเป็นต้น
PCMark
- Essentials งานทั่วไปในชีวิตประจำวันทำตัวเลขได้ค่อนข้างดี ไม่ว่าจะเป็นประชุมออนไลน์ งานท่องเว็บและเอกสาร รวมถึงการเปิดใช้แอพพลิเคชั่น ซึ่งโดยพื้นฐานซีพียู Intel Core หรือ Core Ultra 5 ก็ตอบโจทย์ได้ดีอยู่แล้ว
- Productivity พอเป็นการทำงานที่หนักขึ้นมาอีกนิด ในด้านงานเอกสาร การเขียนข้อมูล ตรงนี้ซีพียู แรมและ Storage จะรับบทหนักขึ้น แต่ตัวเลขที่ได้ยังจัดว่าทำได้ดี เมื่อเทียบกับ Intel Core i5 และ Core i7 ในเจนเนอเรชั่นที่ผ่านมา โน๊ตบุ๊ครุ่นนี้ ถือว่าจัดการสิ่งต่างๆ ได้ดีมากขึ้น
- Digital Content Creation ด้วยการเป็นซีพียู H series จึงไม่น่าแปลกใจที่ทำคะแนนได้เกือบ 8,500 คะแนน เพราะถ้าเป็นซีพียูระดับ U series ส่วนนี้จะดรอปลงไปพอสมควร เนื่องจากระดับการใช้พลังงานที่ต่างกัน นับว่าโน๊ตบุ๊ค MSI Modern รุ่นนี้ ช่วยให้งานต่างๆ ทั้งหนักและเบาไปด้วยกันได้
CrystalDiskMark
สำหรับ SSD ที่ติดตั้งมาบน MSI Modern 15 H AI รุ่นนี้มีโมดูลเดียว ในโมเดล WD SN560 ความจุ 1TB บนอินเทอร์เฟส M.2 PCIe 4.0 ในรุ่นนี้จะเป็น WD Blue ซึ่งเป็นแบบที่ใช้กันบนโน๊ตบุ๊คทำงานในปัจจุบัน รวมถึงพีซีในระดับสำนักงาน ให้ประสิทธิภาพได้ค่อนข้างดี ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้งแอพพลิเคชั่น หรือการโอนถ่ายข้อมูล เก็บข้อมูล ที่มีการเรียกใช้งานบ่อยๆ โดยที่ SEQ Read/ Write ให้ผลออกมา ตามสเปคที่แนะนำในเว็บไซต์นั่นคือ 4800MB/s และ 3500MB/s ตามลำดับ
CINEBench
กับการทดสอบด้าน Motion graphic ซึ่งต้องถือว่าเป็นงานหนักของโน๊ตบุ๊ค แต่ด้วยพลังการทำงานของซีพียูระดับ Intel Core Ultra ในการเรนเดอร์ เพื่อสร้างภาพสำเร็จ แม้กระทั้ง R24 ว่าโหดๆ ก็ยังรันจนจบได้ กับคะแนนด้าน Multi-core ที่ทำได้น่าประทับใจ ส่วนของ Single core ก็ช่วยในงานได้เช่นกัน อย่างไรก็ดีกับงานเหล่านี้ ยังเหมาะกับสเกลงานไม่ใหญ่มาก จะสามารถทำงานได้เร็ว แต่ถ้าเป็นงานสเกลใหญ่ มีรายละเอียดเยอะ ก็ต้องอาศัยพลังของพีซี เพื่อให้สามารถจบงานได้เร็วขึ้นกว่าเดิม แต่ถ้าเป็นงานพรีวิว หรืองานพื้นฐานทำได้เช่นกัน
Corona 10
กับงานด้านเรนเดอร์กราฟิกเช่นกัน ที่ยังคงเรียกใช้พลังจากซีพียูเป็นหลัก ตัวเลขที่ได้อยู่ที่ประมาณ 4.8M Rays/sec ถ้าเทียบกับที่เคยทดสอบมาก่อนหน้านี้ จะเป็นรองเพียง Intel Core Ultra 7 165H ที่ทำได้ประมาณ 5.3M Rays/sec ต่างกันอยู่เล็กน้อยเท่านั้น ถ้ามองในแง่ของประสิทธิภาพในการทำงาน ยังถือว่าตอบโจทย์งานด้านกราฟิกได้ดีในระดับหนึ่ง
Geekbench
กับการทดสอบความสามารถของพลังประมวลผลของซีพียู ที่เกี่ยวข้องกันในหลายๆ ส่วน ไม่ว่าจะเป็นด้านการเรียนรู้ของซีพียู การทดสอบคล้ายกับบน PCMark10 แต่จะต่างกันในรายละเอียดอยู่บ้าง แต่โฟกัสไปที่งานของภาพและวีดีโอ รวมถึงการเขียนโปรแกรม การจัดการด้าน HDR และการจำลองกราฟิก Ray Tracing อีกด้วย งานเหล่านี้จะมีความซับซ้อนพอสมควร กับซีพียูที่มีโครงสร้างทางสถาปัตยกรรมแบบไฮบริดใหม่ในยุคปัจจุบัน ก็ทำตัวเลขได้ค่อนข้างดีเช่นกัน
โดยในส่วนของ Multi-Core ทำไปได้กว่า 11929 คะแนน และ Single-Core อยู่ที่ 2343 คะแนน ส่วนผลที่ได้จากกราฟิก OpenCL บน Intel Arc Graphic อยู่ที่ 31391 คะแนน ดูดีกว่าบน Intel Xe กับซีพียูรุ่นก่อนหน้านี้ และ Intel Graphic บน Intel Core 100 series อยู่อย่างชัดเจน
Geekbench AI
เป็นการทดสอบความสามารถกับการทำงานร่วมกับ AI ในรูปแบบต่างๆ ซึ่งเข้ามามีบทบาทอย่างมากในการทำงานเวลานี้ โดยที่ MSI Modern 15 รุ่นนี้มาพร้อม Intel AI Boost ด้วย NPU ที่พร้อมสำหรับการสร้างคอนเทนต์ด้วย AI ซึ่งโดยพื้นฐานซีพียู Intel Core Ultra 100 series นี้ จะรองรับทั้ง OpenVINO™, WindowsML, DirectML, ONNX RT และ WebGPU เป็นหลัก ทำให้ผลทดสอบที่ออกมาเป็นดังนี้
AI Generative
การใช้งานร่วมกับ AI โดยมี NPU บนซีพียู Intel Core Ultra 7 155H มาช่วยในการทำงาน เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่ช่วยให้ผู้ใช้สนุกไปกับการสร้างสรรค์งาน รวมถึงลดเวลาในการจัดการสิ่งต่างๆ ได้มากขึ้น เช่นช่วยในการตอบอีเมล์ การค้นหาข้อมูล ไปจนถึงการแต่งภาพ ลบพื้นหลัง หรือการแต่งเพลง รวมไปถึงกรณีที่ต้องการเพิ่มความสะดวกสบาย ในงานที่ตัวคุณเองอาจไม่ได้ถนัด แต่ก็ทำได้ด้วยตัวเองไม่ยาก ผ่านทาง AI Generative ที่มีให้ลือกใช้ในปัจจุบันมากมาย ซึ่งคุณก็สามารถสัมผัสได้บนโน๊ตบุ๊ค MSI Modern 15 H AI เครื่องนี้
3DMark
ผลทดสอบที่ออกมาอาจไม่ได้หวือหวามากนัก ในภาพของกราฟิก 3D สำหรับการเล่นเกม เพราะส่วนหนึ่งคือ เป็นกราฟิกที่เน้นไปในงานด้านมัลติมีเดีย โดดเด่นในด้านการเข้ารหัส/ ถอดรหัสและงานในด้านนี้ ซึ่งดูจะเหมาะกับคนที่เน้นไปทางแต่งภาพ ตัดต่อวีดีโอเบื้องต้น หรือการบรอดแคส สตรีมมิ่ง แต่ก็ยังถือว่าทำคะแนนออกมาได้ในระดับหนึ่ง เพื่อให้คอเกมได้มีช่วงเวลาพัก สนุกกับการเล่นได้บ้าง การทดสอบสามารถรันได้ทั้งโหมดปกติและโหมด Extreme เหมาะกับการเล่นเกมแบบง่ายๆ กราฟิกไม่หนักเกินไปนัก บนความละเอียด Full-HD เป็นต้น
DOTA2
ในการเล่นเกมเราเน้นที่เกมพื้นฐาน ที่หลายๆ คนยังเป็นแฟนบอยกันอยู่อย่าง DOTA2 ซึ่งเรียกใช้ทรัพยากรกราฟิกไม่หนักมากนัก เหมาะกับโน๊ตบุ๊คที่ใช้การ์ดจอบนซีพียูเช่นนี้ บนความละเอียด Full-HD 1080p ตั้งค่าเป็น Fastest mode เน้นความลื่นไหล เฟรมเรตไปแตะที่ระดับ 100fps. ได้ไม่ยาก กราฟิกเองก็ทำงานไปประมาณ 80-85%
แต่ถ้าต้องการภาพที่สวยขึ้น การปรับ High ก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ แต่ก็จะเพิ่มโหลดให้ระบบอยู่เหมือนกัน แต่เฟรมเรตที่ได้นั้นก็อยู่ที่ราวๆ 69-75fps. มีบางช่วงที่หล่นลงมาบ้าง 60fps. ต้นๆ แต่โดยรวมถึงว่าดี ภาพสวย แม้เจอกับเอฟเฟกต์เวทย์ของฮีโร่แบบหนักๆ ก็ตาม
COD: Modern Warfare II
มาที่ตัวแทนของเกม Action FPS สุดหนักหน่วงอีกเกมหนึ่ง ซึ่งสามารถทรมานโน๊ตบุ๊คที่ใช้ Integrate graphic ได้ไม่น้อย จากการทดสอบเน้นไปที่การปรับแบบง่ายๆ เพื่อให้ระบบสามารถรันได้ โดยเลือกที่ Basic และ Balanced settings ซึ่ง 2 โหมดนี้ ค่อนข้างลงตัว เฟรมเรตที่ได้จะอยู่ที่ราวๆ 40fps.++ สำหรับ General และถ้าต้องการให้ลื่นกว่า ภาพพอใช้ได้ เลือกเป็น Basic และเปิดใช้ XeSS เท่านี้ก็จะเห็นระดับ 50-60fps. ให้เห็น เล่นได้สวยเนียนมากขึ้น
Battery & Heat & Noise
ความจุแบตเตอรี่ที่แสดงอยู่บนโปรแกรมทดสอบ BatteryMon แจ้งเอาไว้ 100% ที่ 51357 mWh เป็นระดับเดียวกับที่ระบุเอาไว้บนสเปคระบบ ดูจะเป็นขนาดมาตรฐานสำหรับโน๊ตบุ๊คจอใหญ่ที่ใช้ Integrate graphic ของค่ายนี้ไปแล้ว แบตจะให้มาค่อนข้างเยอะ แต่ก็ต้องสมดุลกับน้ำหนัก สามารถพกพาได้ เพราะถ้าเทียบกับ Prestige 14 รายนั้นจัดไป 90WHr เลยทีเดียว
ในการทดสอบเราเลือก Scenario และ Profile ของระบบ ทั้งบน Power Options และ MSI Center ปรับให้ใช้งานเป็น Super Battery รวมถึง Best Power Efficiency ใช้วิธีการเปิดวีดีโอสตรีมมิ่งต่อเนื่อง ปรับเสียงลดลงเท่ากับการใช้งานคนเดียวในห้อง แสงสว่างอยู่ที่ราวๆ 15% มองเห็นได้ชัด หลังจากที่รันไปประมาณครึ่งชั่วโมง ระบบแจ้งว่าเวลารวมใช้ได้ราวๆ 5 ชั่วโมง
ตัวเลขระดับนี้จัดอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ เพราะโน๊ตบุ๊ครุ่นนี้ ไม่ได้ใช้ซีพียูที่เป็น Intel U series แต่เป็น H series ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า ดังนั้นระยะเวลาที่ได้นี้ ถ้าได้รับการปรับจูนเพิ่มเติมเข้าไป ก็น่าจะไปได้ถึง 6 ชั่วโมงเลยทีเดียว
ในแง่ของการระบายความร้อน MSI Modern 15 H AI มาในโครงสร้างของบอดี้ที่กว้าง แต่มิติไม่ได้หนามากนัก โดยมีช่องระบายลมร้อนออกทางด้านหลัง เพียงช่องทางเดียว และด้านใต้จะเป็นจุดที่ดูดลมเย็นเข้ามา จากการทดสอบด้วย CPU Burner ซึ่งจะรันซีพียูไปแบบ Full load 100% บนการตั้งค่า MSI Center เป็น Extreme Performance เพื่อจำลองการทำงานหนักๆ ต่อเนื่องเป็นเวลานาน ผลที่ได้จากการทดสอบคือ
ซีพียูนั้นทำงานไปสูงสุดที่ประมาณ 4.2-4.8GHz ตามรอบจังหวะ และเฉลี่ยของ P-Core อยู่ที่ราวๆ 3.5-3.8GHz รอบพัดลมสูงถึง 3,400rpm โดยประมาณ ซึ่งแทบไม่มีเสียงรบกวนเกิดขึ้นมากนัก ส่วนอุณหภูมิอยู่ที่ราว 80-96 องศาเซลเซียส ที่สูงสุดจะเป็น P-Core ซึ่งเป็นคอร์หลัก เน้นประสิทธิภาพ รับงานหนัก จึงไปกว่า 90 องศาเซลเซียส แต่ก็ยังอยู่ในระยะที่ปลอดภัย เพราะโดยพื้นฐานโอกาสน้อยมากที่จะเจอกับโหลดงานระดับ 100% เช่นนี้ ต้องยกให้กับระบบระบายความร้อนของโน๊ตบุ๊ค MSI รุ่นนี้ ที่ยังคงทำได้คงเส้นคงวา
แต่ถ้าจะวัดกันที่ความรู้สึก เมื่อระบบเริ่มทำงานจะมีส่วนไหนที่คุณรู้สึกได้บ้างบนตัวเครื่องและคีย์บอร์ด หลังจากที่เปิด CPU Burner กับซีพียูที่ทำงาน 100% ไปราวๆ 30 นาที อุณหภูมิสูงสุดจะอยู่บริเวณช่องลมออก ด้านท้ายตัวเครื่อง เยื้องไปทางด้านหลังทางขวา ให้พอรู้สึกอุ่นๆ แต่ไม่กระทบลงมาที่ฮออตคีย์ จากที่ตัววุดอยู่ที่ราวๆ 53-55 องศาเซลเซียส
ส่วนด้านล่างไล่ลงมาจากแถวของปุ่มฮอตคีย์ และคีย์บอร์ดแถว 2-3 จะอยู่ที่ประมาณ 33-35 องศาเซลเซียสเท่านั้น ซึ่งหมายความว่า แทบจะไม่มีผลกระทบต่อการใช้งานแต่อย่างใด และสุดท้ายกับบริเวณที่วางมือ รวมถึงทัชแพดอุณหภูมิจะอยู่ที่ราวๆ 27-31 องศาเซลเซียส ดังนั้นสบายใจได้กับการใช้งานเป็นเวลานานๆ
User Experience
สำหรับ MSI Modern 15 H AI เป็นโน๊ตบุ๊คที่โดยส่วนตัวมองว่า ตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างครอบคลุม โดยเฉพาะคนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คจอใหญ่ ขุมพลังการทำงานที่พอเหมาะ แต่ยังอยู่ในระดับที่ไม่เปลืองพลังงานมากเกินไป และยังมี AI ในตัว ด้วยซีพียู Intel Core Ultra 7 155H ที่ออกแบบมาเพื่อการทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์และ AI Generative ใหม่ๆ ได้ดี และเมื่อใช้ซีพียูในรุ่นใหม่ ก็จะได้แรม DDR5 มาใช้อีกด้วย ซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพชัดเจน แม้จะเป็นจอใหญ่ แต่ก็มีความบาง การกางจอได้ 180 องศา แถมยังมีฟีเจอร์ที่เรียกว่า Flip & Share ในการสลับหน้าจอถือว่าหาได้ยาก
นอกจากนี้ยังมีพอร์ตต่อพ่วงมาให้ครบครัน กล้องเว็บแคมมาพร้อม AI เพิ่มความน่าใช้มากขึ้น อุณหภูมิในการทำงาน ก็จัดว่าเจอกับงานหนักๆ ก็ยังไหว งานประกอบแน่น เรียกได้ว่าแทบจะไม่สามารถแกะได้ง่ายๆ เลยทีเดียว สิ่งที่ดูขาดไปบ้างก็คงจะเป็นเรื่องตัวช่วยในการยืนยันตัวตน อย่างเช่น ระบบสแกนลายนิ้วมือ ถ้ามีมาด้วยก็จะครบจบสำหรับสายทำงาน
Conclusion & Award
เป็นโน๊ตบุ๊คทำงาน จอใหญ่ที่ให้ความคุ้มค่ากับพลังการทำงานที่พร้อมสำหรับแอพพลิเคชั่นในชีวิตประจำวัน ทำงานได้รวดเร็ว แบตเตอรี่จัดว่าอยู่ในระยะกลางๆ ประมาณ 5-6 ชั่วโมง บอดี้ดูบางกระชับ งานประกอบแน่นหนา มาพร้อมความทนทานระดับ MIL810H ละอองน้ำ แรงกระแทกยังไหวอยู่ สิ่งอำนวยความสะดวกค่อนข้างครบ น้ำหนักอาจจะไปแตะ 2Kg อยู่บ้าง เมื่อรวมอแดปเตอร์ พอร์ตเยอะให้ครบ หลายๆ อย่างดูลงตัวในราคาที่คุ้มค่า อีกทั้งทาง MSI จัดเตรียมทั้ง Windows 11 Home และ Microsoft Office Home & Student 2021 มาให้พร้อมใช้งานได้ทันทีกับการรับประกัน 2 ปีใช้งานได้อุ่นใจ สนนราคาเริ่มต้นรุ่น Intel Core Ultra 5 อยู่ที่ 23,990 บาท
แม้จะดูเรียบง่าย ไม่หวือหวา แต่ก็มีการใส่ฟังก์ชั่นการใช้งานเข้ามาค่อนข้างครบ ภายใต้บอดี้ที่บาง จอใหญ่ ขอบจอบาง พอร์ตให้มาเยอะพอสมควร คีย์บอร์ดปุ่มใหญ่ ไฟสีขาว เรียกว่าออกแบบเน้นใช้งานสำหรับคนทำงานจริงจัง