อย่างที่รู้ๆกันว่าเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา Diablo 3 ได้เปิดเป็น Open Beta ให้ทุกๆคนได้เล่นกันถ้วนหน้า และหลายๆคนก็ไม่ค่อยพอใจกับกราฟฟิคในตัวเกมสักเท่าไหร่นัก
ทั้งๆที่มันเป็นเวลาถึง 12 ปีจาก Diablo ภาคแรกและ 4 ปี ตั้งแต่ Diablo 3 ประกาศเริ่มพัฒนา จึงเข้าใจได้ง่ายๆเลยว่าแฟนๆเกมนี้เค้ารอกันมานานขนาดไหน คาดหวังสูงขนาดไหน เขาต้องการเห็นกราฟฟิคที่พัฒนาขึ้น ต้องการเห็นว่ามันไปถึงไหนแล้ว แต่พวกเขาก็ไม่ได้ตามที่หวังไว้?และแปลกนิดหน่อยตรงที่ Blizzard ไม่ค่อยได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เท่าไหร่
“พวกเราไม่ค่อยได้ให้ความสำคัญกับกราฟฟิคมากเท่าไหร่นักตามสไตล์ของเกม Blizzard” Bashiok, Blizzard Community Manager ให้คำตอบกับแฟนเกมที่วิจารณ์กราฟฟิคที่ดูไม่ค่อยจะดีนักและตัวละครที่ความละเอียดต่ำเมื่อเทียบกับเกมอื่นๆใน gen เดียวกัน “เจตนาที่แท้จริงของเราคือการทำความอมตะให้กับเกมในขณะที่คอมทุกเครื่องสามารถเปิดเกมนี้ได้โดยเห็นภาพคล้ายๆกัน”
อย่างที่เห็นว่า Blizzard นั้นเลือกที่จะทำเกมให้สนุกข้ามยุคข้ามสมัยมาโดยตลอด ไม่ว่าจะกลับไปเล่นอีกกี่ครั้งก็ยังสนุก ไม่เชื่อลองนึกเกมทุกเกมของ Blizzard ที่คุณเคยเล่นดูสิ ไม่มีเกมไหนเลยที่กินสเปคสูงเว่อร์ๆสักเกม ไม่ว่าคอมจะห่วยแค่ไหนก็สามารถเล่นได้ ตัวอย่างเช่น Diablo 2 และ Starcraft ซึ่งผ่านบาททดสอบความอมตะมาแล้ว แต่ไม่ใช่เพราะภาพกราฟฟิคที่สวยงาม แต่เป็นระบบการเล่นที่สนุกนานต่างหาก ถึงมันจะดูไม่อลังการมากเท่าไหร่แต่มันก็ยังสนุกอยู่ดี กราฟฟิคเป็นสิ่งที่ต้องพัฒนาตามยุคตามสมัยตลอดเวลา แต่ไม่ใช่ระบบการเล่นที่ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคก็ยังเล่นสนุกอยู่เหมือนเดิม