แผนที่ประเภท Payload ใน Overwatch จัดว่าเป็นแผนที่ยอดนิยมกันมากเพราะรูปแบบการเล่นจะต้องนำสินค้าหรือรถขบวนไปให้ถึงที่หมายและตัวเกมจะแบ่งเป็นฝั่งโจมตีและฝั่งป้องกันโดยแต่ดูเหมือนว่าแผนที่ประเภทนี้การได้อยู่ฝ่ายป้องกันจะเป็นเรื่องที่กดดันมากกว่าเพราะเราจะต้องหยุดยั้งขบวนสินค้าให้ได้ซึ่งก็ต้องอาศัยการเลือกฮีโร่ที่เหมาะสมและความสามัคคีของเพื่อนร่วมทีมเป็นหลักครับ
ฉะนั้นใน Tip นี้เราก็จะมาจัดทีมฮีโร่เฉพาะกิจของฝ่ายป้องกันโดยเฉพาะกันครับว่าถ้าหากได้เล่นฝ่ายป้องกันแล้วจะมีฮีโร่ตัวไหนบ้างที่ควรหยิบมาเล่น โดย Tip นี้เหมาะสำหรับผู้เล่นที่เล่นกับเพื่อนเป็นทีมและเป็นผู้เล่นระดับกลางขึ้นไปและจะมีฮีโร่ตัวไหนอยู่ใน List บ้างมาดูพร้อมกันเลยดีกว่า
Zarya (สาย: Tank ระดับการเล่น: ยาก)
ฮีโร่รัสเซียสุดสตรองคนนี้ต้องติดอยู่ในโผทีมป้องกันแน่นอนครับเพราะว่าความสามารถของเธอนั้นออกแบบเพื่อการปกป้องเพื่อนร่วมทีมโดยเฉพาะ Particle Barrier ที่ซึบซับความเสียหายที่ได้รับแล้วแปรเปลี่ยนเป็นพลังโจมตีได้หรือสามารถใช้บาเรียดังกล่าวใส่เพื่อนก็ยังได้อีกด้วยเรียกว่าถ้าหากใช้ดี ๆ เราสามารถเซฟชีวิตและฆ่าศัตรูได้ในเวลาไล่เลี่ยกัน
สไตล์การเล่น: เกาะติดไปกับทีมและอยู่แนวหน้าตลอดให้ศัตรูเล็งมาที่เราเพราะ Particle Barrier จะช่วยดูดซับความเสียหายที่ได้แล้วจะเปลี่ยนเป็นพลังโจมตีให้รุนแรงขึ้นสามารถยันศัตรูได้ยาวนานและที่สำคัญห้ามลุยเดี่ยวเด็ดขาดเพราะ Zarya เคลื่อนที่ช้ามากและถ้าบาเรียไม่ได้รับความเสียหายพลังโจมตีก็จะเบามากเช่นกัน
Zenyatta (สาย: Support ระดับการเล่น: ยาก)
ฮีโร่สายสนับสนุนที่มีลูกเล่นแสบพอสมควรเพราะลูกแก้วของเขาสามารถฮีลเพื่อนได้และสามารถดีบัพศัตรูให้โดนโจมตีแรงขึ้นได้ถึง 50% เลยทีเดียวและมันจะปั่นป่วนมากถ้าหากใช้กับฮีโร่ศัตรูที่ถึก ๆ จะกลายเป็นขนมสำหรับสายทำ Damage ฝั่งเราในทันที
สไตล์การเล่น: เนื่องด้วยการเป็น Support ฉะนั้นจะต้องอยู่แนวหลังต้องมีเพื่อนคอยคุ้มกันซึ่งถ้าหากอยู่ใกล้กับ Zarya ก็จะดีมากหรืออยู่กับ Mercy ก็ดียิ่งขึ้นและด้วยสกิลที่สร้างความปั่นป่วนแบบนี้ Zenyatta ยิ่งมีชีวิตรอดได้นานเท่าไหร่เปอร์เซ้นต์การหยุดยั้งของฝ่ายโจมตีก็จะมีมากขึ้นเท่านั้น
Widowmaker (สาย: Defense ระดับการเล่น: ปานกลาง)
สำหรับฮีโร่ตัวนี้ในโหมดป้องกันจะเน้นการซุ่มสังหารพวกโจมตีระยะไกลหรือพวกคอยตอดอย่างเช่น Bastion หรือป้อมปืน Torbjorn หรือจะช่วยเหลือแนวหน้าด้วย Venom Mines ที่ทำให้พวกสายบู๊ทั้งหลายอ่อนแอลงแถมยังสร้างแรงกดดันไม่กล้าบุกสุ่มสี่สุ่มห้าอีกด้วย
สไตล์การเล่น: หารหาพื้นที่สูงสำหรับซุ่มยิงเป็นกุญแจสำคัญของ Widowmaker หรือจะหาพื้นที่ที่เป็นมุมอับลับตาคนก็ได้แต่ก็อย่าอยู่ไกลจากเพื่อน ๆ เกินไปนักจนเป็นเป้านิ่งและถ้าหากเจอพวกที่อ้อมมาโจมตีด้านหลังก็ให้ใช้ Venom Mines ดักไว้ก่อนแล้วค่อยจัดการมัน
Mei (สาย: Defense ระดับการเล่น: ยาก)
เป็นฮีโร่ที่เป็นตัวหยุดได้ดีสกิลความสามารถของเธอเหมาะกับการป้องกันเป็นอย่างมากเช่น Ice Wall หรือการโจมตีธรรมดาที่ทำให้ศัตรูถูกแช่แข็งและไม้ตาย Blizzard ก็ได้ผลดีมากกับศัตรูที่อยู่เป็นกลุ่มจึงส่งผลอย่างมากต่อฝ่ายโจมตีเพราะการจะดัน Payload จะต้องใช้ฮีโร่ประมาณ 3 คนดันและเมื่อมีฮีโร่รวมกันเยอะ ๆ ท่า Blizzard ก็จะยิ่งโหดมากขึ้น
สไตล์การเล่น: พยายามหาจังหวะใช้ Ice Wall เพื่อให้ศัตรูแยกออกจากกันจะทำให้เสียรูปขบวนหรือจะใช้แยกศัตรูสัก 1 ตัวเพื่อรุมฆ่าก็ย่อมได้และสกิลไม้ตาย Blizzard ควรใช้ทุกครั้งเมื่อ Cooldown ครบ
Tracer (สาย: Offense ระดับการเล่น: ปานกลาง)
ในทีมป้องกันจะต้องมีคนหนึ่งที่คอยก่อกวนกดดันฝ่ายตรงข้ามไม่ให้ดัน Payload มาง่าย ๆ และ Tracer ก็มีคุณสมบัติดังกล่าวครบเพราะเธอเป็นฮีโร่ความเร็วสูงมีสกิลก่อกวนศัตรูหาตัวจับยากแถมยังมีสกิลย้อนเวลาถ้าเกิดพลาดเราก็สามารถแก้ตัวใหม่อีกครั้งได้
สไตล์การเล่น: ถ้าหาก Zarya มีสไตล์การเล่นต้องอยู่แนวหน้า Tracer ก็จะตรงข้ามคือไปอยู่แนวหลังศัตรูวิ่งก่อกวนรอบ ๆโดยเฉพาะพวกสายโจมตีเช่น Hanzo , McCree , Reaper หรือจะเข้าไปโจมตีฮีโร่ที่โดน Orb of Discord ของ Zenyatta มาร์กตรงหัวไว้ก็ได้เพราะใครที่โดนท่านี้จะโดนโจมตีแรงขึ้นถึง 50% เลยทีเดียว
Reaper (สาย: Offense ระดับการเล่น: ง่าย)
จะมีหน้าที่เหมือนกับ Tracer ครับคือการก่อกวนฝ่ายตรงข้ามให้มากที่สุดโดยใช้ Shadow Step ที่เป็นสกิลการเคลื่อนที่ที่เร็วมาก ๆ จัดการศัตรูที่ทำ Damage จากแนวหลังเช่น Torbjorn หรือ Bastion เป็นหลักทั้งนี้ก็เพราะการโจมตีของ Reaper จะรุนแรงมาก ๆ เมื่ออยู่ใกล้ตัว
สไตล์การเล่น: เล็งเป้าหมาย 1 ตัวแล้ว Shadow Step ไปหาแล้วลอบโจมตีมันซะ ถ้าหากโดนโจมตีให้ใช้ Wraith Form เพื่อป้องกันความเสียหายที่เกิดขึ้นและควรจัดการฮีโร่ที่อยู่แนวหลังเป็นหลักเพราะฝั่งโจมตีส่วนมากมักจะไม่ระวังด้านหลังเพราะพวกเขาต้องคอยดัน Payload ด้านหน้าซึ่งจะทำให้ Reaper เข้าถึงตัวได้ง่ายขึ้นและการที่โดนป่วนแบบนี้ก็จะทำให้ฝั่งโจมตีต้องรับศึกทั้งสองด้านเลยทีเดียว
เสาหลักของทีม
ฮ๊โร่ที่เป็นแกนหลักของฝ่ายป้องกันก็คือ Zarya นั่นเองเพราะด้วยสกิล Particle Barrier ของเธอจัดว่ามีประโยชน์มากเพราะใช้ได้กับตัวเองหรือใช้กับคนอื่นก็ได้และเกราะตัวนี้ก็จะช่วยดูบซับความเสียหายได้แทบทุกประเภทอีกทั้งสามารถคอมโบจับคู่กับฮีโร่อื่น ๆ ได้เช่น Zenyatta , Mei เป็นต้น
จับคู่ฮีโร่
- Zarya-Zanyatta เป็นคอมโบที่สมบูรณ์แบบโดยให้ Zarya อยู่แนวหน้ารับความเสียหายและให้ Zenyatta คอยดีบัพจากด้านหลังด้วย Orb of Discord หรือคอยฮีลให้เพื่อนด้วย Orb of Harmony
- Zenyatta – Widowmaker/Reaper/Mei เป็นการจับคู่ที่เน้นการโจมตีเป็นหลักโดยให้ Zenyatta อยู่ด้านหลังคอยสนับสนุนและควรใช้ Orb of Discord มาร์กหัวศัตรูเพื่อที่ให้ฮีโร่สาย Damage ของเรากำจัดได้ง่ายขึ้นครับ
ตัวแทน
ฮีโร่ที่สามารถเล่นแทนตำแหน่งกันได้คือ Reaper ซึ่งสามารถแทนด้วยฮีโร่ดังนี้
- Symmetra – สามารถแทน Reaper ได้แต่จะเปลี่ยนเป็นกลยุทธ์ตั้งรับมากขึ้นด้วย Sentry Turret ที่จะได้เปรียบมากถ้าหากอยู่ในพื้นที่แคบสามารถตั้งเป็นกับดักรอให้ศัตรูเดินเข้ามาเพราะป้อมปืนนี้แรงมากและติดตั้งได้หลายอัน นอกจากนี้ยังมี Portal เปิดวาร์ปย่นระยะทางให้เพื่อนไปยังจุดหมายได้ทันท่วงที
- Soldier: 76 – ฮีโร่ตัวนี้ก็สามารถแทน Reaper ได้เหมือนกันเพราะความสามารถของเขาก็ถือว่าใกล้เคียงกันมากแต่ Soldier: 76 จะได้เปรียบตรงที่พลังโจมตีพื้นฐานที่แรงและมีท่า Tactical Visor เล็งเป้าหมายได้ไม่มีวันพลาดและสามารถคอมโบกับ Zarya หรือ Zenyatta ได้ดี
- Mercy – จะเปลี่ยนเป็นการสนับสนุนเต็มรูปแบบโดยให้ Mercr อยู่แนวหลังคอยฮีลหรือเพิ่มความเร็วกับฮีโร่สาย Damageหรือสาย Tank ให้ทนนานยิ่งขึ้นเพราะการยื้อไม่ให้ Payload เข้ามาใกล้คือจุดหมายของฝั่งป้องกันครับ
จะเห็นว่าการอยู่ทีมป้องกันไม่จำเป็นต้องเล่นฮีโณ่ตั้งรับเพียว ๆ ก็ได้แต่เราสามารถใช้ฮีโร่สาย Offense ไปก่อกวนหรือการเน้นฮีโร่ Support ช่วยคุ้มกันก็เป็นอะไรที่ดีงามสุด ๆ ครับและอย่าลืมว่าสิ่งสำคัญที่ทำให้ทีมคว้าชัยชนะได้คือ Teamwork การร่วมแรงร่วมใจกันดังเช่นคำพูดที่ Zarya พูดบ่อย ๆ คือ “Together we are strong” นั่นเองครับ
ที่มา: vg247