จากความสำเร็จในปีที่ผ่านมาซึ่งเอซุสได้ครองตลาดโน๊ตบุ๊คเป็นท็อป 2 ของอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ ในปีนี้เอซุสได้ตอกย้ำความเป็นเจ้าตลาดด้วยการส่งโน๊ตบุ๊ค ZenBook UX305 ซึ่งมีความบางที่สุดในโลก เข้ามาเปิดตัวตั้งแต่ช่วงไตรมาสแรก
โดยโน๊ตบุ๊ค ZenBook UX305 นี้ มีความหนาเพียง 12.3 มิลลิเมตร และน้ำหนักเพียง 1.2 กิโลกรัม หน้าจอขนาด 13.3 นิ้ว พกพาสะดวก UX305 มีความโดดเด่นที่หน้าจอแบบ IPS ทำให้ภาพมีชีวิตชีวา ลดแสงสะท้อน และมีความความละเอียดสูง ใช้หน่วยประมวลผล Intel® Core™ M processor แบบใหม่ เพื่อการใช้งานที่ลื่นไหล ไม่สะดุด ส่วนแบตเตอรี่ก็มีอายุยาวนานถึง 10 ชั่วโมง
ZenBook UX305
ยิ่งไปกว่านั้น ZenBook UX305 นี้ยังได้รับรางวัล iF Design Award 2015 มาหมาดๆ ซึ่งรางวัลนี้เป็นที่ยอมรับทั่วโลกว่าเป็นเสมือนตราประทับรับรองในเรื่องคุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่เหนือกว่าผลิตภัณฑ์อื่น เช่น คุณภาพการออกแบบ ระดับของนวัตกรรม ฟังก์ชั่น หลักสรีรศาสตร์ และอื่นๆ ประเมินผลและตัดสินโดยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ 50 ท่านจากทั่วโลกอีกด้วย
ZenBook UX305 มาพร้อมความบางเบาและปรับแต่งรูปร่างตัวบอดี้ใหม่ ประกอบกันเป็นความคลาสสิคของ ZenBook มาพร้อมคุณสมบัติเด่นคือการออกแบบให้มีความเงา หรูหราและเพิ่มไฮไลน์ขอบ สวยงามแบบ diamond-cut มีให้เลือกด้วยกัน 2 สี ได้แก่ สี Obsidian Stone (สีดำ) ซึ่งเป็นสีที่ออกใหม่ และสี Ceramic Alloy (สีขาว) ซึ่งสีที่มีจำหน่ายในประเทศไทยแล้วคือสี Obsidian Stone
คีย์บอร์ดถูกออกแบบมาตามหลักสรีรศาสตร์ มีการพัฒนาขึ้นเพื่อความสะดวกและถูกต้องในการพิมพ์ในทุกระดับความสว่าง และ touchpad ก็รองรับ Smart Gestures เพื่อให้ใช้งาน Windows 8.1ได้ง่าย ทั้งยังชูเอกลักษณ์ของ Zenbook โดยการใช้โลหะที่พื้นผิวเป็นเงา เมื่อสะท้อนกับแสงจึงมองเห็นความเงาเป็นวงสวยงาม (concentric circle pattern) เป็นการผสมผสานระหว่างความหรูหราและการพกพาที่สะดวก
ZenBook UX305 ใช้หน่วยประมวลผล Intel Core M processor ใหม่ทั้งหมด ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ใช้งานได้อย่างราบลื่น มาพร้อมแรม 4GB และความจุ 256GB แบบ SSD สำหรับ Zenbook UX305 นี้มีสมรรถนะโดยรวมที่น่าประทับใจ ไฟล์ทำงานได้สะดวกขึ้น ใช้งานออฟฟิศที่เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น ลดปัญหาแอพพลิเคชั่นหนักเครื่องรวมถึงเวลาบูทเครื่องก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัด
พร้อมขายแล้วที่ราคา 29,990 บาท
ส่วนการออกแบบในเรื่องการลดความร้อนของผลิตภัณฑ์ เอซุสก็ได้พัฒนาเทคโนโลยี ASUS IceCool ทำให้ไม่มีเสียงดังจากพัดลมและลดความร้อนของเครื่อง และลดอุณหภูมิรอบเครื่อง เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับความสะดวกสบายสูงสุด
การใช้แบตเตอร์รี่แบบลิเทียม-โพลิเมอร์ และส่วนประกอบที่มีประสิทธิภาพ ทำให้ UX305 สามารถใช้งานได้ทั้งวัน โดยมีอายุการใช้งานถึง 10 ชั่วโมง เหมาะสำหรับมืออาชีพที่ชีวิตเร่งรีบและต้องพร้อมในทุกสถานการณ์
แม้ว่าตัวเครื่องจะถูกออกแบบให้มีความบาง แต่ UX305 ก็ยังสามารถเชื่อมต่อได้อย่างเต็มรูปแบบ ด้วย USB 3.0 ความเร็วสูง ทั้งหมด 3 พอร์ทด้วยกัน ทำให้การส่งข้อมูลรวดเร็วกว่า USB 2.0 ถึง 10 เท่า พอร์ทหนึ่งใช้เพื่อการชาร์ตไฟ และมีเทคโนโลยีทำให้ชาร์ตโทรศัพท์มือถือได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์แปลงสัญญาณ USB-to-Ethernet adapter พ่วงมาในกล่อง เช่นเดียวกับ mini DisplayPort-to-VGA adapter เพื่อเชื่อมต่อกับจอข้างนอก
นอกจากนี้เพื่อให้เห็นความสวยงามสูงสุด หน้าจอจึงมีความพิเศษ ด้วยขนาดพอเหมาะ 13 นิ้ว ที่มีความคมชัดและมีเทคโนโลยี IPS ระบบสัมผัส ความละเอียด 1920×1080 พิกเซล สำหรับมองในมุมกว้างได้ถึง 178 องศา เพื่อภาพและวิดีโอที่สดใสมีชีวิตชีวา สีสันสมจริง
รวมไปถึงการสัมผัสซึ่งเรียกได้ว่าเป็นหัวใจของ ZenBook UX305 ด้วยสัมผัสหน้าจอที่ไว ความแม่นยำของ touchpad รองรับ Smart Gesture บวกกับคีย์บอร์ดที่มีการออกแบบทางวิศวกรรมมาอย่างดีเยี่ยมให้มีแสงจากด้านหลัง เพื่อความสะดวกในการพิมพ์ในที่แสงน้อย ทุกๆ ส่วนของ UX305 ถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้งานได้สัมผัส Windows 8.1 อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด
นอกจากนั้น เสียงที่น่าประทับใจ ก็เป็นหนึ่งในคุณสมบัติพิเศษของโน๊ตบุ๊คตระกูล ZenBook รวมถึง UX305 ด้วย ASUS SonicMaster audio ผสมผสานกับ ICEpower® และเทคโนโลยี Bang & Olufsen ผลิตเสียงคุณภาพสูง ที่คุณจะไม่เคยได้ยินจากโน๊ตบุ๊คที่ไหนๆ ด้วยเสียงเบสที่หนัก และกังวาลใส เสนาะหู ซอฟแวร์ AudioWizard ที่ใช้งานง่ายนี้มี 5 ระดับเสียง เพื่อให้ได้เสียงที่เหมาะสมที่สุดจากแหล่งของเสียงที่ต่างกัน เพื่อที่ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์การฟังที่ดีที่สุดเสมอ
ส่วนราคานั้นทาง ASUS Thailand เปิดราคาเจ้านี่มาที่ 29,990 บาท พร้อมเริ่มขายในประเทศไทยแล้ว เพื่อนๆ สมาชิก NotebookSPEC ท่านใดที่สนใจก็สอบถามได้จากตัวแทนจำหน่าย ASUS ใกล้บ้านกันได้เลย