Connect with us

Hi, what are you looking for?

Buyer's Guide

USB 3.0 กับ Thunderbolt พอร์ตไหนจะมาแรงกว่ากันในปี 2012 พร้อมวิธีสังเกตพอร์ตแบบง่ายๆ

ปีนี้เป็นปีแห่งการเริ่มต้นอะไรใหม่ๆในวงการไอทีหลายเรื่องทีเดียวครับ หลักๆเลยก็อย่างเช่นการเข้าสู่ตลาดเต็มตัวของ Ultrabook

ปีนี้เป็นปีแห่งการเริ่มต้นอะไรใหม่ๆในวงการไอทีหลายเรื่องทีเดียวครับ หลักๆเลยก็อย่างเช่นการเข้าสู่ตลาดเต็มตัวของ Ultrabook, การเปิดตัว CPU ตระกูลใหม่ๆของทั้ง Intel และ AMD และที่เราอาจจะเห็นมันมาตั้งแต่ปีก่อนแล้วแต่ดูแนวโน้มแล้ว ปีนี้น่าจะเป็นปีที่เกิดเต็มตัวอย่างพอร์ต USB 3.0 และ Thunderbolt ก็นับว่าเป็นจุดที่น่าสนใจเช่นเดียวกัน เนื่องด้วยเป็นพอร์ตที่ช่วยให้การรับส่งข้อมูลสามารถทำได้ในความเร็วที่สูงกว่าพอร์ตทั่วไปที่มีในปัจจุบัน เอาเป็นว่าเรามาดูกันดีกว่าครับ ว่าพอร์ตไหนมีแนวโน้มว่าจะมาแรงกว่ากันในปีนี้

2-24-11-intel-thunderbolt-600_thumb1_thumb

Advertisement

1. ที่มาที่น่าจะทำให้แพร่หลาย

โดยตัวของ USB 3.0 นั้นเราได้เห็นมันกระจายไปตามคอมพิวเตอร์ที่วางจำหน่ายไปในปีก่อนมากพอสมควรแล้ว แต่ในปีนี้ตัวชิปเซ็ตและ CPU ของทั้ง 2 ค่ายจะสนับสนุนพอร์ต USB 3.0 แบบเต็มตัว จึงน่าจะทำให้ราคาเครื่องที่มี USB 3.0 ลดราคาลงไปอีก จึงเป็นที่น่าสนใจมากว่า USB 3.0 น่าจะเข้ามาแทน USB 2.0 ได้ในปีนี้แน่ๆ

ส่วน Thunderbolt นั้น เดิมเคยมีแต่ในเครื่องของฝั่ง Apple เท่านั้น แต่ในช่วงเดือนเมษายนนี้ เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าพอร์ต Thunderbolt จะถูกจับนำมาใส่ในบรรดาเครื่อง PC ด้วยแล้ว ซึ่งน่าจะทำให้มันแพร่หลายมากขึ้น แต่ปัญหาก็คือในช่วงแรกมันจะมากับเครื่องที่ราคาค่อนข้างสูงเท่านั้น เหมือนๆกับตอน USB 3.0 ช่วงแรกๆ ดังนั้น Thunderbolt อาจจะเสียเปรียบตรงที่เกิดช้าไปหน่อย

2. ความแรงและคุณสมบัติusb-3-super-speed-a-t-b-cables_thumb_thumb

ทั้งคู่ต่างเป็นพอร์ตที่มีความเร็วในการรับส่งข้อมูลที่สูง โดยมีคุณสมบัติดังในตารางด้านล่างนี้

Capture

ดูง่ายๆก็คือ Thunderbolt มีความเร็วในการรับส่งข้อมูลและสามารถจ่ายไฟผ่านทางตัวพอร์ตได้เหนือกว่า USB 3.0 จึงทำให้สามารถต่อพ่วงอุปกรณ์แล้วยังใช้ความเร็วได้เต็มที่อยู่ ดังนั้นใครที่จำเป็นต้องโอนถ่ายข้อมูลใหญ่ๆ จึงน่าจะเหมาะกับการใช้ Thunderbolt มากกว่า
นอกจากนี้ตัว Thunderbolt เองยังมีคุณสมบัติในการเชื่อมต่ออุปกรณ์อื่นๆได้อีกด้วย เช่น จอภาพที่เชื่อมต่อกันทาง DisplayPort เนื่องด้วยในตัวมันมี bandwidth ที่ใหญ่มหาศาล และกว้างพอที่จะใช้ในการรับส่งข้อมูลไปพร้อมๆกับส่งสัญญาณภาพสู่จอได้อย่างสบายๆ
อ้อ !! เอาเข้าจริงนี่ยังไม่ใช่ที่สุดของ Thunderbolt นะครับ เพราะที่จริง Intel ออกแบบ Thunderbolt ไว้ให้ใช้ fiber optic เป็นสื่อกลางการส่งข้อมูล แต่ในปัจจุบัน Intel หันมาใช้การส่งผ่านสายทองแดงเหมือนๆกับสายทั่วไปอยู่ ทำให้ความเร็วในการรับส่งลดลงไปจากที่ Intel เคยวางแผนไว้เยอะทีเดียว ทั้งนี้ก็เพื่อทำให้ราคาต้นทุนต่อหน่วยถูกลงเป็นหลัก แถมเครื่องที่สามารถใช้งาน fiber optic ได้ก็ไม่ใช่กลุ่มของลูกค้าทั่วไป จึงยังไม่มีความจำเป็นต้องปล่อยตัวแรงสุดออกมา

3. ความแพร่หลายของอุปกรณ์

iogear-USB-3.0-4-port-hub_thumb1_thumb

ทุกวันนี้บรรดาอุปกรณ์เสริมต่างๆในท้องตลาด กว่า 95% ใช้พอร์ตเป็น USB กันทั้งนั้น ทำให้โอกาสการแพร่หลายของเครื่องที่มาพร้อมพอร์ต USB 3.0 มีมากกว่า เพราะตัวพอร์ต USB 3.0 เองนั้น จะนำอุปกรณ์ที่ใช้ USB รุ่นเก่าๆมาใช้งานด้วยกันได้อย่างไม่มีปัญหา (ถ้าติดตั้ง driver ของ USB 3.0 เรียบร้อยแล้ว) ส่วนตัวอุปกรณ์ที่มาพร้อมกับพอร์ต USB 3.0 ในช่วงแรกนี้ที่จะเห็นกันมากขึ้นก็คือกลุ่มของ External HDD ที่หลายค่ายปรับไปใช้ USB 3.0 กันแล้ว โดยเฉพาะรุ่นที่มีความจุสูงๆ ดังนั้นในช่วงแรกนี้เราอาจจะได้เห็นอุปกรณ์ที่มี USB 3.0 เพียงแค่กลุ่มของอุปกรณ์เก็บข้อมูลเท่านั้น แต่หลังจากใช้ USB 3.0 จนกลายเป็นพอร์ตหลักไปแล้ว อุปกรณ์ส่วนใหญ่ก็คงมาพร้อมกับ USB 3.0 แน่นอน เหมือนกับที่เป็นใน USB 2.0 ในปัจจุบันนี้

DSC_3396_thumb1_thumb

ฝั่งของ Thunderbolt นั้น อาจจะลำบากไปหน่อย เนื่องด้วยที่ผ่านมาตัวพอร์ตนั้นมาอยู่แต่บนฝั่ง Apple เท่านั้น ทำให้ราคาของอุปกรณ์เสริมค่อนข้างสูง คนจึงให้ความสนใจน้อย ประกอบกับตัวชิป Thunderbolt มีราคาต่อหน่วยที่ค่อนข้างแพง ทำให้ผู้ผลิตต่างไม่ค่อยให้ความสนใจกับการผลิตอุปกรณ์ Thunderbolt ออกมามากนัก แต่ในปีนี้ Thunderbolt จะมาลงทางฝั่ง PC แม้ว่าอาจจะได้เห็นกันแต่ในเครื่องราคาค่อนข้างสูงเท่านั้น แต่ก็เป็นสัญญาณที่ดีว่าต่อไปในอนาคต ราคาของอุปกรณ์ Thunderbolt รวมไปถึงตัวพอร์ตน่าจะมีราคาต่อหน่วยที่ถูกลงจนคนสามารถหาซื้อมาใช้ได้ โดยเฉพาะกลุ่มตลาดแหล่งเก็บข้อมูลความจุมาก ที่ต้องการความเร็วในการรับส่งข้อมูลที่สูง น่าจะเป็นตลาดของ Thunderbolt ได้อย่างไม่ยากนัก ถ้า Intel ต้องการจะรุกจริงๆ แต่เกรงว่ามันจะมาซ้ำรอยสถานการณ์ของ eSATA/Firewire นั่นละครับ แรงจริง แต่มีเครื่องให้ใช้ไม่เยอะ

4. การสังเกตตัวพอร์ตแบบง่ายๆ

thunderbolt_macbook_pro_apple_thumb1_thumb

ฝั่งของ Thunderbolt นั้นคงไม่ยากเย็นนัก เพราะตัวพอร์ตมีหน้าตาที่ไม่เหมือนกับพอร์ตอื่นๆอยู่แล้ว มันจึงไม่ยากอะไรครับ เพียงแค่ดูหน้าตาก็พอรู้ได้ทันที หรือถ้าจำหน้าตาไม่ได้ ก็สังเกตได้จากสัญลักษณ์ดังในรูปด้านบนนี้เลย

แต่ทางฝั่งของ USB 3.0 อาจจะมีให้สังเกตกันได้ 2 แบบครับ หนึ่งคือภายในพอร์ตจะเป็นสีฟ้าๆ เหมือนรูปในข้อก่อนหน้านี้ อันนี้จะสังเกตได้ค่อนข้างง่าย แต่จะมีในโน๊ตบุ๊คบางแบรนด์ที่ไม่ได้ทาสีฟ้าไว้ที่ตัวพอร์ต อันนี้จะเริ่มยากขึ้นมาละ แต่ก็ยังมีวิธีสังเกตอยู่ครับ คือให้ดูที่สัญลักษณ์ใกล้ๆกับตัวพอร์ต มันจะเป็นเหมือนในรูปด้านล่างนี้ (มีคำว่า SS ที่ย่อมาจาก SuperSpeed อยู่ด้วย)

13675843_thumb1_thumb

ดังนั้นเท่าที่ดูจากทั้ง 3 ข้อแล้ว คงหนีไม่พ้น USB 3.0 ที่จะมาแรงกว่าในปีนี้แน่นอน แต่ส่วนของ Thunderbolt ก็มีจุดที่น่าจับตามองคือ Intel จะวางแผนบุกตลาดอย่างไร และราคาของอุปกรณ์จะลดลงมามากแค่ไหน จุดนี้ละครับที่น่าจับตามองมากกว่ายอดขายของ Thunderbolt :D

Click to comment
Advertisement

บทความน่าสนใจ

Special Story

ปีนี้นับเป็นปีที่ซีพียูโน้ตบุ๊กของ AMD มีการเปลี่ยนแปลงแบบเห็นได้ชัด และมีความน่าสนใจในด้านประสิทธิภาพที่สูงขึ้นโดยที่ยังคุมการใช้พลังงานและความร้อนได้ดี ทำให้เราได้เห็นการนำซีพียู AMD ไปใช้ทั้งในโน้ตบุ๊กทำงานทั่วไป เกมมิ่งโน้ตบุ๊กตั้งแต่สเปคระดับเริ่มต้นไปจนถึงระดับท็อป รวมถึงในกลุ่มเครื่องเกมพีซีพกพาด้วย แต่ที่จะเด่นชัดสุดคงหนีไม่พ้นชิปรุ่นใหม่ล่าสุดที่มีโค้ดเนมว่า AMD Strix Point หรือในชื่อที่ใช้จริงนั่นคือ AMD Ryzen AI 300 series นั่นเอง

Special Story

สำหรับการเล่นเกม แน่นอนว่าพลังประมวลผลกราฟิกจาก GPU คือหนึ่งในปัจจัยสำคัญ เพราะจะเป็นสิ่งที่ชี้วัดถึงระดับประสิทธิภาพว่าจะสามารถเรนเดอร์ภาพออกมาได้สวย เฟรมเรตสูง ความหน่วงต่ำขนาดไหน ทำงานร่วมกับ CPU และฮาร์ดแวร์อื่น ๆ ในเครื่อง ซึ่งถ้าทั้งระบบสามารถทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดี ก็จะช่วยยกระดับประสบการณ์การเล่นเกมให้ดีขึ้นไปด้วย นอกจากนี้เหล่าผู้ผลิตเองก็มีเทคโนโลยีที่จะมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับพลังกราฟิก โดยที่ยังลดภาระของฮาร์ดแวร์ลงด้วย หนึ่งในนั้นก็คือ AFMF 2 เทคโนโลยีล่าสุดจาก AMD นั่นเอง

Buyer's Guide

หน้าจอคอมในปัจจุบันเริ่มมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ 18.5 นิ้วเมื่อสิบกว่าปีก่อน จนตอนนี้ก็มีจอคอม 32 นิ้ว ทั้งจอคอมทำงานและจอคอมเล่นเกมให้เลือกซื้อมากมายหลายรุ่น แม้บางคนอาจคิดว่ามันมีขนาดใหญ่จนเท่ากับจอทีวีรุ่นเล็กแล้วจะวางบนโต๊ะคอมก็คงใหญ่เกินไป แต่ในความเป็นจริงขนาดของมันก็ใหญ่กว่าจอ 27 นิ้ว ตรงหน้าไปอีกนิดเดียว ทำให้พื้นที่แสดงผลกว้างจนสุดขอบสายตายิ่งขึ้น ถ้าใครเล่นเกมเป็นประจำจะได้เห็นฉากหลังของเกมเต็มสายตาจนดื่มด่ำไปกับบรรยากาศได้เต็มอิ่มยิ่งขึ้น กรณีจอทำงานก็มีพื้นที่แสดงผลกว้างขึ้นทั้งมองเห็นตารางและหน้าเอกสารกว้างขึ้น รวมไปถึง Timeline เวลาตัดต่อคลิปยาวกว่าเดิม ถ้าสังเกตจะเห็นว่าผู้ผลิตหน้าจอแบรนด์ต่างๆ พากันใส่ฟีเจอร์มาให้หน้าจอขนาดนี้มากขึ้นจนกลายเป็นจอพรีเมี่ยมระดับเริ่มต้นกันแล้ว ไม่ว่าจะได้พาเนลคุณภาพขอบเขตสีกว้างใช้ทำงานกราฟิคได้, มีพอร์ต USB-C...

Special Story

หากจะพูดถึงซีพียูรุ่นใหม่ล่าสุดปี 2024 สำหรับโน้ตบุ๊กของ AMD ก็จะต้องเป็น AMD Ryzen AI 300 series ที่เน้นเพิ่มประสิทธิภาพทั้งในด้านพลังประมวลผล พลังกราฟิก และที่เด่นชัดสุดคือความสามารถในการทำงานด้าน AI โดยที่ผ่านมาก็จะมีรุ่นที่ออกมาทำตลาดคือ AMD Ryzen AI 9 HX 370 ที่เป็นชิปรุ่นกลาง แต่ล่าสุดเราเริ่มเห็นโน้ตบุ๊กที่ใช้ AMD...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก