ตั้งแต่วันที่ 9 มีนาคมนี้เป็นต้นไปผู้ที่จะเดินเข้าไปใช้บริการหลังการขายใน iStore ของทาง Apple จะต้องประหลาดใจกับความอัจฉริยะที่มีมากขึ้นกว่าเดิมของตัวร้านตั้งแต่เดินเข้าประตูเพื่อที่จะทำการแจ้งความต้องการในการใช้งานในร้านเลยทีเดียวครับ เพราะทาง 9to5Mac ได้รายงานออกมาว่า ตั้งแต่วันที่ 9 มีนาคมนี้ ทาง Apple จะติดตั้งระบบที่เรียกว่า “Concierge” ซึ่งแปลเป็นไทยตรงๆ ตัวว่าคนเฝ้าประตูไปในทุกร้าน iStore ของทาง Apple เลยทีเดียวครับ
ระบบใหม่ที่จะถูกติดตั้งเข้าไปนี้จะยังคงให้บริการผู้ใช้งานตามแบบที่เราเรียกว่ามาก่อนได้ใช้ก่อนครับ โดยทางพนักงานในร้านจะทำการบันทึกความต้องการในการใช้บริการของคุณเข้าไปยังระบบผ่านทางแอปพลิเคชันบน iPad แล้วตัวแอปพลิเคชันจะทำการบันทึกข้อมูลนั้นเข้าไปรวมทั้งทำการประมวลผลเพื่อดูว่าผู้ที่เข้ามาใช้บริการนั้นจะต้องทำการรอนานเท่าไรจนกว่าจะถึงคิวของเขา ซึ่งการประมวลผลนี้จะนำเอาปัญหาของคนก่อนหน้าที่ทั้งกำลังได้รับบริการอยู่และรอก่อนคุณรวมเข้าไปด้วยครับ
หากเทียบกับระบบที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบันนั้นเวลาที่ผู้ใช้มาทำการใช้งานจะได้รับบัตรคิวเพื่อที่จะรอเรียกเป็นคิวๆ ไปโดยยังคงต้องทำการบอกปัญหานั้นๆ ให้กับทางพนักงานแต่จะไม่มีการบันทึกข้อมูลปัญหาดังกล่าวไว้ ซึ่งทำให้เวลาที่ถึงคิวของผู้ใช้งานแล้ว ผู้ใช้จะต้องเข้าไปทำการอธิบายปัญหาเดิมอีกครั้งกับทางพนักงานที่ประจำอยู่ที่โต๊ะรับเรื่องอีกทีครับ(คล้ายๆ กับการให้บริการในบ้านเราครับ) โดยช่วงที่ระหว่างรอนั้นผู้ใช้จะไม่มีทางรู้ได้เลยครับว่าจะต้องรอนานมากขนาดไหน(ระบบใหม่ค่อนข้างจะทำงานเหมือนระบบการจองโต๊ะในร้านอาหาร)
การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้นั้นเป็นผลงานของ Angela Ahrendts ผู้ดำรงตำแหน่งรองประธานอาวุโสฝ่ายการค้าปลีกที่พึ่งจะเข้ามารับทำงานใน Apple ได้เพียง 10 เดือนเท่านั้น แต่ทว่าตลอดระยะเวลา 10 เดือนที่ผ่านมานั้นเธอได้สร้างการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ให้กับร้าน iStore มากมายเลยทีเดียวครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการรุกเข้าสู่ตลาดจีนที่ทำได้ดีจนน่าตกใจมากเลยทีเดียว
หมายเหตุ – อย่างไรก็ตามแต่ครับ ระบบดังกล่าวจะถูกใช้ในร้าน iStore เท่านั้น ซึ่งนั่นหมายความว่าในเมืองไทยบ้านเรา (ที่ไม่รู้ว่าทำไม Apple ถึงยังไม่เข้ามาเปิด iStore อย่างเป็นทางการด้วยตัวเองสักที) ก็คงต้องรอให้มีร้าน iStore มาเปิดให้บริการกันก่อนนะครับถึงจะตื่นเต้นกับเรื่องนี้
ที่มา : cnet