[Review] MAJESTY 2: MONSTER KINGDOM

หลังจาก Majesty 2 The Fantasy Kingdom Sim ออกมา และสร้างกระแส และการตอบรับที่ดี ก็ออกภาคใหม่ล่าสุดกับ Majesty 2 Monster Kingdom เมื่อพระราชาคิดว่า ดินแดน Ardania เป็นของเขาคนเดียว และที่ปรึกษาของเขาก็สนับสนุนเขา แต่มันก็ไม่แน่เสมอไป เมื่อพระราชาถูกขโมยมงกุฎแห่ง Ardania ไปเพื่อเรียกวิญญาณของแผ่นดิน คุณจึงพ่ายแพ้ และได้สูญเสียบัลลังก์ของคุณ และตอนนี้ต้องต่อสู้เพื่อเรียกคืน และความหวังเดียวของคุณคือการหาพันธมิตรใหม่ เป็นอีกครั้งหนึ่งที่คุณต้องวางแผนยึดคืน และ นำความสงบสุขกลับไป Ardania ในฐานะ พระราชา

เครื่องขั้นต่ำที่ต้องการ:

เครื่องที่แนะนำ:

Monster Kingdom เป็นภาคเสริมตัวที่สามของ Majesty 2: The Fantasy Kingdom Sim ซึ่งเป็นเกมไอเดียบรรเจิด โดยภาคแรกของเกมก็ขึ้นทำเนียบเกมสุดคลาสสิคอีกเกมหนึ่งทีเดียว ทว่าภาคสองนั้นแม้ตัวเกมจะปรับปรุงกราฟฟิคให้ดีขึ้นตามยุคสมัยและเพิ่มเติมฟีเจอร์ที่ควรมีหลายๆ อย่างลงไปแล้ว แต่ก็ยังนับว่าน้อยเกินไปหน่อยอยู่ดี? แม้จะมีภาคเสริมทยอยกันออกมาอย่างไม่หยุดหย่อน แต่มันก็ไม่ได้ช่วยเติมเต็มในสิ่งที่เกมขาดไปเลยแม้แต่น้อย เช่นเดียวกับ Monster Kingdom ภาคเสริมตัวล่าสุดนี้ ที่ยังคงทำลายความคาดหวังของแฟนๆ ได้เหมือนเช่นเคย

ผู้เล่นหลายๆ คนอาจจะตั้งความหวังไว้ว่าจะได้เปลี่ยนบรรยากาศมาเล่นฝ่ายมอนสเตอร์ สร้างเมืองอสูรแบบดิบเถื่อน แล้วกรีฑาทัพปีศาจเข้าบดขยี้ศัตรู แต่ในความเป็นจริงแล้ว บรรยากาศของเกมแทบจะไม่เปลี่ยนไปเลย เช่นเดียวกับรูปแบบการเล่นที่เหมือนเดิมแบบเป๊ะๆ ไล่กันตั้งแต่สถาปัตยกรรมในเกม เมืองของคุณ สิ่งก่อสร้างก็มีรูปร่างไม่ต่างจากเดิมเท่าไหร่เลย แม้แต่พวก Guild ต่างๆ ซึ่งภาคนี้จะให้คุณใช้งาน Heroes ที่เป็นมอนสเตอร์แทน

แต่รูปร่างหน้าตาของ Guild เหล่านี้ ก็ไม่ได้ดูเป็นรังมอนสเตอร์อย่างที่ควรจะเป็น ทำให้ไม่ได้ความรู้สึกว่าคุณกำลังเป็นจอมมาร หรือจ้าวแห่งสัตว์ประหลาดสักกะนิด นอกจากนี้เหล่ามอนสเตอร์ที่คุณจะได้ใช้ ก็มีรูปร่างเป็นพวกกึ่งมนุษย์ซะเป็นส่วนใหญ่ และแต่ละตัวก็จะทำหน้าทีแบบเดียวกับ Heroes พื้นฐานของฝ่ายมนุษย์ เช่น Goblin Spearman ที่เทียบได้กับ Warrior หรือ Lich ที่เทียบได้กับ Mage เป็นต้น สรุปก็คือต่างกันแค่รูปร่างหน้าตา แต่การใช้งานไม่ได้ต่างจากเดิมเลย เป็นเหล้าเก่าในขวดใหม่(?)โดยแท้ ทำให้ผู้เล่นจะได้รับประสพการณ์ใหม่ๆจากการเล่นน้อยมาก มีก็แค่ความตื่นตาตื่นใจในแรกเห็นเท่านั้น แต่พอหมดความแปลกใหม่ทางสายตาแล้ว ก็ไม่มีอะไรให้ตื่นเต้นอีก

นอกจากโครงสร้างหลักและรูปแบบการเล่นจะไม่เปลี่ยนไปจากเดิมแล้ว ภารกิจในเกมก็ยังคงโหดหินเช่นเคย และออกไปในแนวทางที่ไม่ค่อยสร้างสรรค์นัก กล่าวคือความยากของเกมจัดอยู่ในระดับสูง และผู้เล่นจะต้องรีบลงมือทำตามแนวทางที่ถูกต้องอย่างเร่งด่วนเพื่อเอาชนะภารกิจนั้นได้ หากลงมือช้า หรือทำอะไรนอกเหนือแนวทางไปก็จะส่งผลให้เกมยากขึ้นจนเกินกว่าที่จะผ่านได้ ด้วยเหตุนี้ทำให้แนวทางการเล่นและทำภารกิจค่อนข้างจะแคบ แม้แต่ละฉากจะมีรูปแบบภารกิจที่แตกต่างกันออกไป แต่ส่วนใหญ่แล้วจะมีแนวทางที่ถูกต้องเพื่อผ่านภารกิจเพียงแนวทางเดียว ทำให้ผู้เล่น

อันที่จริงแล้วไอเดียการสลับมาเล่นเป็นจอมมาร ควบคุมเหล่าสัตว์ประหลาดนั้นเป็นไอเดียง่ายๆแต่น่าสนใจมากหากนำเสนออย่างถูกต้อง ถ้าจะให้ดีภาคเสริมตัวนี้ควรจะฉีกแนวให้เราเล่นเป็นฝ่ายอสูรอย่างแท้จริงไปเลย โดยให้สวมบทจอมมารสร้างเมืองปิศาจ เลี้ยงสัตว์อสูรที่ดุร้าย และใช้เลือดหรือวิญญาณมนุษย์แทนเงินในเกมตามปกติ

แต่ที่ออกมากลับเป็นความเปลี่ยนแปลงในระดับที่ Mod ของเกมก็สามารถทำได้โดยไม่ต้องรอภาคเสริมเลย ทั้งแคมเปญและ Guild ของมอนสเตอร์ ก็ล้วนแล้วแต่มี Mod แนวนี้ให้ดาวน์โหลดไปลองเล่นอยู่ก่อนแล้ว และบางอันทำออกมาดีกว่านี้ด้วยซ้ำ ดังนั้นหากคุณอยากเล่นด้วยยูนิทใหม่ๆ แคมเปญใหม่ๆ ก็หาโหลด Mod เอายังจะประหยัดเงินซะกว่า แถมคุณภาพและความแตกต่างที่ได้รับยังอาจจะมากกว่าด้วย

ข้อดี: ยูนิทใหม่, ภารกิจใหม่ๆ, ตัวเกมยังคงเล่นสนุก ถ้าไม่คิดอะไรมาก

ข้อเสีย: ใหม่แค่เปลือก, ความแตกต่างจากภาคปกติแทบไม่มีเลย, ระดับความยากสูงกว่าที่ควรจะเป็น

โดยรวม: มันน่าเสียดายมาก ที่เกมเปี่ยมคุณสมบัติเด่นอย่าง Majesty 2 กลับมาตกอยู่ในมือของทีมพัฒนาที่ด้อยฝีมือ ไร้ความคิดสร้างสรรค์ ยิ่งพัฒนาก็เหมือนจะยิ่งถอยหลังลงคลองไปเรื่อยๆ ได้แต่หวังว่าในอนาคตจะมีทีมพัฒนาดีๆรับช่วงต่อไปพัฒนาแทน เพื่อไม่ให้ชื่อของ Majesty ต้องมัวมองแหละถูกเก็บเข้ากรุไปในที่สุด