ถ้าพูดถึงสเปก ก็นับว่าน่าสนใจเลยทีเดียว เนื่องด้วยในตัว AMD E-350 ที่เป็น APU รุ่นล่าสุด ซึ่งมีหน่วยประมวลผลกราฟิกในตัวอย่าง AMD Radeon HD 6310 ที่มีประสิทธิภาพดีพอตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเทียบกับคู่แข่ง แต่ไม่ใชแค่นั้น เพราะ ASUS ยังจับการ์ดจอระดับกลางค่อนไปทางล่างอย่าง AMD Radeon HD 6470M มาให้พอเล่นเกมได้บ้างพอกล้อมแกล้ม ส่วนแรมก็ให้มาเต็มที่ 4 GB HDD นั้นก็ให้มาในระดับปกติ นั่นคือ 500 GB 5400RPM และต้องขอย้ำนะครับว่า ASUS K43BY นี้เป็นโน๊ตบุ๊คมิใช่เน็ตบุ๊ก เนื่องด้วยจอขนาด 14 นิ้ว ความละเอียดระดับ HD (1366×768) ต่อไปเราไปดูภาพตัวเครื่องกันดีกว่าครับ
ตัวฝาหลังนั้นมีสีดำอมน้ำตาลนิด ๆ ครับ ความแข็งแรงของวัสดุนั้นใช้ได้เลยทีเดียว สมกับยี่ห้อ ASUS
ลายบนฝาหลังก็เป็นแบบในรูปเลยครับ แต่พื้นผิวเรียบนะ ไม่ได้เป็นร่องลงไปตามลาย
ความหนาของจอก็อยู่ในระดับปกติเหมือนโน๊ตบุ๊คทั่ว ๆ ไป และสามารถกางออกมาได้ราว ๆ 135 องศา ขนาดของจอก็เป็น 14 นิ้ว ความละเอียด 1366 x 768 ชนิดของจอนั้นเป็นแบบจอกระจก ซึ่งทำให้มีแสงสะท้อนออกมาจากจอมากพอสมควร ใครจะเอาไปใช้ในที่แสงสว่างมาก ๆ หรือกลางแดดก็อาจจะลำบากหน่อยนะครับ
ตัวข้อบานพับมีความแข็งแรงดีเลย แต่ก็ไม่สามารถเปิดเครื่องด้วยมือเดียวเหมือน Macbook ได้นะ
วัสดุที่ใช้เป็น body หลักของส่วนตัวเครื่องนั้นเป็นอะลูมิเนียมสีน้ำตาลที่ให้ความแข็งแรง และมีลวดลายในตัวเป็นร่อง ๆ ลงไป ดูจากลักษณะแล้วน่าจะใช้เพื่อกันข้อมือลื่นนั่นเอง
เมื่อจับตัวเครื่องมาเทียบกับกล่อง DVD ก็พบว่าหนากว่ามากพอตัวเลย
น้ำหนักตัวเครื่องพร้อมแบตเตอรี่อยู่ที่ 2.1 กิโลกรัม นับว่าไม่หนักมากนัก แต่ถ้าดูจากสเปก CPU แล้ว มันดูหนัก ๆ ยังไงก็ไม่รู้นะ
พอชั่งทั้งตัวเครื่อง, แบตเตอรี่และ Adapter ก็ได้น้ำหนักรวมที่ 2.5 กิโลกรัม (Adapter หนักราว ๆ 350 กรัม)
มาดูด้านล่างกันบ้าง จะเห็นว่าช่องระบายอากาศนั้นมีอยู่มากเหมือนกัน น่าจะเพียงพอต่อการระบายความร้อนออกมา แถมสเปกก็ไม่น่าจะร้อนมากมายอีกต่างหาก
ฝาส่วนที่สามารถแกะได้มีอยู่ 2 ฝาครับ เราไปดูกันทีละส่วนเลย
ในส่วนของฝาใหญ่ด้านล่าง ภายใต้จะมี Harddisk ของ Hitachi สงบนิ่งอยู่ภายใน
ใกล้ ๆ กันนั้นก็จะพบกับการ์ดไวเลสแบบ mini ติดตั้งอยู่
สล็อตแรมมีมาให้ 2 สล็อตตามปกติ ส่วนแรมที่ให้มาก็เป็น DDR3 4GB แถวเดียวเลย ทำให้สามารถอัปเกรดเพิ่มได้สบาย ๆ เลย