เริ่มศักราชใหม่ได้ไม่กี่วันเราก็มีรีวิว notebook มานำเสนอผู้อ่านกันอีกเช่นเคยครับ โดยในครั้งนี้จะเป็นอีกแบรนด์จากไต้หวันอย่าง Gigabyte กันบ้าง ซึ่ง notebook ที่อยู่ในมือเราครั้งนี้ก็คือ Gigabyte Q1700 ที่อาจจะไม่ค่อยคุ้นหูคุ้นตากันซักเท่าไร โดยก่อนเราจะไปทำความรู้จักกับ Gigabyte Q1700 แบบเต็มๆ เรามาดูภาพรวมกันก่อนเลย
Gigabyte Q1700 นั้นถูกออกแบบมาให้เป็น notebook สำหรับใช้งานจิปาถะทั่วไปในครัวเรือน (ไม่ใช่ทำกับข้าว เย็บผ้านะ) ไม่ว่าจะเป็นเล่นเน็ต ฟังเพลง ทำงานทั่วไปก็สามารถทำได้อย่างสบายๆ โดยจุดที่เราสะดุดตาตั้งแต่แรกเห็นก็คือขนาดของตัวเครื่องและจะที่ใหญ่มาก เนื่องด้วยจอที่ติดตั้งมาเป็นจอ LCD ขนาด 17.3 นิ้วนั่นเอง เรียกได้ว่าจอใหญ่สบายตาเวลาใช้งานมากๆ แต่อย่าคิดว่าจอใหญ่แล้วเครื่องจะหนักนะครับ เพราะเมื่อลองยกจริงๆแล้วปรากฏว่ามันเบากว่าเครื่อง 17.3 นิ้วทั่วไปที่ผมเคยยกมาซะอีก ส่วนใครที่ต้องใช้ปุ่มตัวเลขบ่อยๆก็สามารถใช้งานได้อย่างสบายๆเลย เนื่องด้วยมันมีบรรดาปุ่ม numpad มาให้อย่างครบครัน และถึงแม้จะมีปุ่มตัวเลขมาให้ แต่พื้นที่ด้านข้าง keyboard ก็ยังมากมายเหลือเฟืออยู่ดี ใครจะเอาสติ๊กเกอร์มาติดก็ไม่ว่ากัน ส่วนในด้านของการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ภายนอกทั่วไปนั้นก็สามารถทำได้อย่างไม่มีปัญหา เนื่องด้วยมีพอร์ตจำเป็นๆที่ใช้บ่อยให้มาอย่างครบครัน
ส่วนจุดที่น่าสนใจของ Gigabyte Q1700 เครื่องนี้ก็คือการรับประกันเบื้องต้นที่ให้มาทันทีหลังซื้อเลย 2 ปีด้วยกัน นับว่าเหนือกว่าหลายๆแบรนด์ที่มักรับประกันแค่ปีเดียวเท่านั้น ก็ต้องนับว่าเป็นข้อดีของ Gigabyte Q1700 ตัวนี้ละครับ
สเปกของ Gigabyte Q1700 นั้น ถ้าให้มองจริงๆน่าจะอยู่ในกลุ่มเดียวกับพวก mini notebook หรือ netbook เนื่องด้วยมีการเลือกใช้ AMD APU E-450 เป็นหน่วยประมวลผล ซึ่งเอาจริงๆมันก็เพียงพอกับการใช้งานทั่วไป ดูหนัง HD, ฟังเพลง, ทำงานออฟฟิศแล้ว รวมไปถึงยังพอเล่นเกมได้ระดับหนึ่งด้วย เนื่องด้วยการ์ดจอ AMD Radeon HD 6320 ที่อยู่ในตัว APU นั้นมีความสามารถในการประมวลผลภาพที่ค่อนข้างดีกว่าบรรดาการ์ดจอออนบอร์ดด้วยกัน ส่วนแรมนั้นก็ให้มา 2 GB ที่พอดิบพอดีกับการใช้งานในปัจจุบัน แหล่งเก็บข้อมูลอย่าง HDD ก็ให้มาที่ 320 GB เท่านั้น แต่ในเรื่องจอนั้นจัดเต็มมากับจอขนาด 17.3 นิ้ว ความละเอียด 1600 x 900 เราจึงพอมองได้ว่า Gigabyte Q1700 ถูกออกแบบมาให้เป็นเครื่องสำหรับการใช้งานกลางของครอบครัวที่ไม่ค่อยได้เคลื่อนย้ายเครื่องไปไหน รวมไปถึงให้ผู้ที่มีสายตาไม่ค่อยดีนักใช้ เนื่องด้วยจอขนาดใหญ่ ตัวหนังสือที่ไม่จัดว่าเล็กเกินไป สเปกก็เพียงพอกับการใช้งานทั่วไปหรืองานเบาๆ ดังนั้นใครหวังจะเอาไปใช้เล่นเกม ทำงานหนักๆโหดๆ คงต้องผิดหวังละนะครับ
ส่วนในเรื่องจองราคานั้น เรียกได้ว่าผิดคาดมากๆเลยทีเดียว เพราะมันตั้งราคามาแค่ราวๆ 14,000 บาทเท่านั้น เรียกได้ว่าฟาดฟันกับ notebook รุ่นล่างๆของหลายๆแบรนด์ได้เลยทีเดียว แถมตัวนี้ยังมีดีกว่าที่จอใหญ่กว่าด้วย? แม้ว่าอาจจะพกพาลำบากซักนิด แถมยังพ่วงมาด้วยประกันยาวนานถึง 2 ปี ก็จัดได้ว่าคุ้มในระดับหนึ่งละนะ
วัสดุโดยรวมของ Gigabyte Q1700 นั้นเป็นพลาสติกสีดำมันเงา มีการตกแต่งลวดลายด้วยการสกรีนลายจุดสีเทาเล็กๆไปเกือบทั่วทั้งตัว บริเวณขอบมุมต่างๆของตัวเครื่องส่วนใหญ่จะเป็นเหลี่ยมมุมแต่ไม่คมมากนัก
ภายในก็ใช้วัสดุเดียวกับฝาหลัง และเนื่องด้วยขนาดจอที่ใหญ่ ทำให้มีพื้นที่ภายในค่อนข้างมาก สามารถจัดวาง keyboard แบบเต็มได้อย่างสบายๆ พื้นที่รองมือก็กว้างขวาง ส่วนตัวจอนั้นเป็นจอกระจกนะครับ จึงอาจทำให้เกิดแสงสะท้อนเบื้องหลังออกมาพอสมควรถ้าเลือกตำแหน่งที่นั่งไม่ดี ส่วนในเรื่องของความร้อนขณะใช้งานนั้นไม่ต้องห่วงเลยครับ แทบจะสัมผัสไม่ได้ถึงความร้อนจากตัวเครื่องเลยในขณะใช้งานปกติ ส่วนช่วง full load ก็จะอุ่นๆขึ้นมาเล็กน้อย
ปุ่มเปิด/ปิดเครื่องจะอยู่ตรงบริเวณขวาบนของ keyboard โดยถ้าเครื่องเปิดอยู่จะมีไฟสีฟ้าส่องสว่างขึ้นมา
ส่วนฝั่งซ้ายบนของ keyboard นั้นเป็นตำแหน่งของไฟแสดงสถานะการทำงานของเครื่อง ไม่ว่าจะสถานะการทำงานของการเชื่อมต่อไร้สาย, การทำงานของ HDD, ปุ่ม numlock, caps lock และ scroll lock ที่มีมาให้ด้วย
ตัวปุ่ม keyboard ของ Gigabyte Q1700 นั้นมาในแบบ chiclet ระยะห่างระหว่างปุ่มนั้นค่อนข้างน้อย แต่ก็ไม่ทำให้การใช้งานนั้นลำบากเท่าไร แต่ทางฝั่งของปุ่ม numpad อาจจะดูเล็กไปซักนิด อันนี้ก็แล้วแต่ความถนัดและความเคยชินของผู้ใช้ด้วยละครับ
ทัชแพดของ Gigabyte Q1700 นั้นมีขนาดกำลังพอดีสำหรับการใช้งาน ผิวสัมผัสจะมีลักษณะขรุขระเล็กน้อยซึ่งช่วยลดแรงเสียดทานขณะการใช้งาน ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น ตัวปุ่มคลิกซ้าย/ขวาจะแยกชิ้นออกมาจากตัวทัชแพด โดยในเวลาใช้งานจริง ถ้าไปกดตรงบริเวณริมนอกๆของแต่ละปุ่มจะเกิดเสียงที่ดังกว่าการกดตรงปุ่มด้านใน (ด้านที่ชิดกับเส้นแบ่งกลาง)เล็กน้อย โดยรวมก็คือสามารถใช้งานได้ค่อนข้างดี
ฝั่งซ้ายของแท่นรองมือจะมีสติ๊กเกอร์บ่งบอกสเปกและคุณสมบัติอยู่ เหนือขึ้นไปจากสติ๊กเกอร์ตรงที่เห็นเป็นรูเล็กๆ รูนั้นคือช่องรับเสียงของไมค์ครับ
ส่วนฝั่งขวานั้นก็จะมีสติ๊กเกอร์จาก AMD รวมไปถึงสติ๊กเกอร์แสดงว่ามีการรับประกันทั่วโลก 2 ปีด้วยกัน ไม่ว่าเครื่องจะเสียที่ประเทศไหน ก็สามารถนำเข้าศูนย์ Gigabyte ในประเทศนั้นๆได้เลย
มาดูด้านล่างกันบ้าง จะสังเกตได้ว่าช่องระบายอากาศมีกระจายไปค่อนข้างเยอะทีเดียว โดยเฉพาะใต้ฝาใหญ่ที่ภายในจะมีช่องใส่แรมและแผงวงจร รวมไปถึง CPU อยู่ภายใต้แผงนี้ ซึ่งตัว Gigabyte Q1700 นี้จะมีลักษณะที่ไม่เหมือนใครอยู่จุดหนึ่งก็คือตัวพัดลมระบายอากาศภายในนั้นไม่ได้ติดอยู่กับเมนบอร์ดนะครับ แต่มันจะมาติดกับตัวฝาหลังแผ่นใหญ่นี่ล่ะ ทำใหค่อนข้างง่ายกับการถอดมาทำความสะอาด แต่เวลาดึงฝาใหญ่ขึ้นก็ต้องระวังนิดนึง ไม่อย่างนั้นอาจจะเป็นการไปดึงสายไฟพัดลมขาดได้ (ขออภัยที่ไม่ได้ถ่ายรูปภายในมาด้วยครับ)
ส่วนฝาหลังชิ้นเล็กนั้น ภายในจะมี HDD อยู่ 1 ลูกครับ และเมื่อลองดูภายในเท่าที่จะสอดส่องสายตาเข้าไปได้แล้ว จะพบว่ามีช่องว่างระหว่างตัวโครงเครื่องกับเมนบอร์ดและอุปกรณ์ต่างๆค่อนข้างมาก ดังนั้นเรื่องของการระบายความร้อนก็ไม่ต้องเป็นห่วงเลย แถมสเปกก็ไม่ค่อยมีความร้อนมากนัก ทำให้ไม่ต้องกังวลเมื่อเปิดใช้งานนานๆ
ในช่องตามภาพทั้ง 2 นั้นเป็นช่องของลำโพงขนาดเล็กที่ซ่อนอยู่ในตัวเครื่อง เสียงที่ได้ก็จัดว่าอยู่ในระดับกลางๆเท่านั้น
แบตเตอรี่ที่ติดตั้งมาด้วยมีความจุในระดับที่ค่อนข้างสูงทีเดียว ที่ 4400mAh 48.84Wh ประกอบกับสเปกที่กินไฟน้อยอีก ดังนั้นสามารถใช้งานได้อย่างยาวนานแน่นอน
ตัวเครื่องส่วนสันด้านหน้าจะมีไฟแสดงสถานะของแหล่งพลังงานอยู่ โดยทางซ้ายจะติดเมื่อเครื่องเปิดและเสียบปลั๊กไฟเพื่อชาร์จอยู่ ส่วนไฟทางขวาจะติดขึ้นมาเมื่อใช้งานเครื่องด้วยแบตเตอรี่
ด้านหลังนั้นไม่มีอะไรนอกจากแบตเตอรี่และบานพับที่มีขนาดใหญ่พอเหมาะกับขนาดจอ ความแข็งแรงของบานพับจัดได้ว่าดีทีเดียว ไม่แข็งหรืออ่อนเกินไป แต่ถ้าจะเปิดฝาจอด้วยมือเดียวอาจจะลำบากซักนิดนึงเพราะตัวจอค่อนข้างหนักพอสมควร
ฝั่งขวาของ Gigabyte Q1700 นั้นมีพอร์ตต่างๆอยู่ดังนี้ Mic, Speaker, USB, DVD Writer และช่อง Kensington Lock
ส่วนฝั่งซ้ายก็มีช่องเสียบสาย adapter, VGA, LAN, HDMI, ช่องระบายอากาศ, USB 2 ช่อง, Card reader และช่อง eSATA ที่ถูกปิดไว้ คาดว่าน่าจะมีรุ่นอื่นที่ใช้บอดี้เดียวกันแล้วมีพอร์ต eSATA อยู่ด้วยแน่นอน เพียงแต่ไม่มีขายในประเทศไทย จึงได้ทำการปิดช่องมาเช่นนี้ เพื่อแสดงให้เห็นว่าไม่มีพอร์ต eSATA มาด้วย
ความหนาของตัวเครื่องเมื่อเทียบกับกล่อง DVD ครับ หนากว่ากันร่วม 2-3 เท่าตัวเลยทีเดียว
เมื่อเทียบกับหนังสือและ adapter ต้องขอบอกว่า adapter มีขนาดเล็กมากเมื่อเทียบกับตัวเครื่อง ทั้งนี้ก็เนื่องจากสเปกที่ไม่กินไฟมาก จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้ adapter ขนาดใหญ่นั่นเอง
ต่อไปเชิญพบกับผลเทสได้เลยครับ