mouse เป็นอุปกรณ์ที่สำคัญสำหรับการใช้คอมพิวเตอร์มาตั้งหลายปีแล้ว แต่เมื่อมาถึงยุค notebook และการทำงานที่มักอยู่นอกสถานที่บ่อยๆ ทำให้คนหันไปชินกับ touchpad มากขึ้น เนื่องด้วยขี้เกียจพก mouse ไปมา แต่ก็มีสิ่งมาทดแทนก็คือ mouse ไร้สายที่เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นในปัจจุบัน ทำให้หลายๆคนเกิดลังเลว่าจะเลือกซื้อเม้าส์แบบไหนดี ทาง Notebookspec เราจึงรวบรวมข้อเท็จจริงรวมไปถึงข้อมูลต่างๆของ mouse ทั้งแบบมีสายและไร้สายมาให้ทุกท่านได้ใช้ประกอบการตัดสินใจกัน ไปเริ่มกันเลย
ระยะการใช้งาน
จุดนี้เป็นจุดที่สร้างความแตกต่างอย่างชัดเจนระหว่าง mouse ทั้งสองประเภท เนื่องด้วยแบบมีสาย ระยะการใช้งานก็จะอยู่เพียงแค่ระยะของสายนั้น แต่แบบไร้สายก็จะขึ้นอยู่กับชนิดของคลื่นที่ใช้งาน ซึ่งเฉลี่ยแล้วก็หลายเมตรทีเดียว ทำให้สามารถนำ mouse ไปใช้งานที่อื่นได้ หรือในรุ่นที่สามารถตั้งค่าปุ่มเพื่อการทำหน้าที่อื่นๆ จะตั้งให้เป็นรีโมทสำหรับใช้ในการนำเสนองานก็ยังได้ บางทีอาจจะใช้เป็นรีโมทสำหรับควบคุมคอมในห้องนั่งเล่นเวลาต่อคอมออกจอใหญ่ได้อีกต่างหาก
แต่ปัจจุบันมี??mouse ที่ใช้งานแบบไร้สายก็ได้ หรือถ้าอยากใช้แบบมีสายก็เอาสายมาต่อหรือดึงสายมาจากในตัวมาเสียบกับพอร์ต USB แทน แต่ราคาก็เอาเรื่องเหมือนกัน
ความสะดวกในการใช้งาน
แน่นอนว่า mouse แบบไร้สายย่อมจะมีความสะดวกมากกว่าแบบมีสาย เนื่องด้วยเวลาใช้งานไม่ต้องพะวงเรื่องของสาย สามารถลาก mouse ได้อย่างเต็มวงสวิง โดยในส่วนของ mouse ไร้สายนั้นในปัจจุบันจะมีการเชื่อมต่อผ่านคลื่น 2 แบบ คือ Bluetooth กับ Wireless 2.4 GHz ซึ่งแบบแรกจะเหมาะกับ notebook หรือ desktop ที่มีตัวรับส่งคลื่น Bluetooth อยู่ในตัวอยู่แล้ว เพราะจะได้ไม่ต้องเปลืองพอร์ต USB ของเครื่องด้วย แต่ในแบบหลังจะต้องใช้ตัวรับส่งสัญญาณแบบเฉพาะของ mouse แต่ละตัว ทำให้ในการใช้จะต้องเสียพอร์ต USB ไป 1 ช่องด้วยกัน
ซึ่งถ้ามาเทียบจริงๆแล้ว mouse ไร้สายแบบ Bluetooth น่าจะเป็นประเภทที่สะดวกที่สุด เพราะไม่มีสายให้เกะกะ แถมไม่ต้องเสียพอร์ต USB ไปอีกต่างหาก
ปุ่มฟังก์ชันต่างๆ
ถ้าพูดถึงปุ่มฟังก์ชันทั้งหลายบนตัว mouse เราก็มักจะเห็นมันอยู่บน mouse แบบมีสายมากกว่า โดยเฉพาะ mouse สำหรับเล่นเกมที่จะมีปุ่มเยอะแยะมากมาย ดังนั้นใครที่ต้องใช้ปุ่มสำหรับทำงานต่างๆ ก็แนะนำว่าไปทางแบบมีสายจะดีกว่า ส่วนในกลุ่มไร้สายนั้น เรามักจะไม่ค่อยเห็น mouse ที่มีปุ่มเยอะๆ เพราะ mouse ในกลุ่มนี้มักจะออกแบบมาสำหรับการใช้งานและพกพามากกว่าใช้เล่นเกมหนักๆ ซึ่งมักจะเป็นการเล่นเกมบนคอมที่ตั้งอยู่กับที่ซะมากกว่า รวมไปถึงการปรับแต่งการทำงานของปุ่มที่เรามักจะเห็นใน mouse สำหรับเกมมากกว่าด้วย เอาเป็นว่าใครอยากได้ปุ่มเยอะๆ ก็ไปแบบมีสายแล้วกันนะครับ สมใจแน่นอน
ความเร็วของการรับส่งสัญญาณ
ณ เวลานี้ต้องขอบอกว่า mouse ไร้สายไม่ได้มีการรับส่งสัญญาณที่ช้าอีกต่อไปแล้วครับ โดยเฉพาะในการใช้ทำงานนั้นแทบจะไม่ต่างกันเลย การเล่นเกมก็สามารถทำได้อย่างไม่มีปัญหา เนื่องด้วยเทคโนโลยีในการส่งสัญญาณที่มีการพัฒนาขึ้นมามาก ทำให้ข้อนี้ไม่ได้เป็นจุดอ่อนของแบบไร้สายอีกต่อไป แต่เมื่อแบตอ่อนละก็แล้วแต่ตัว mouse ละครับ ว่าการรับส่งสัญญาณจะอ่อนลงด้วยหรือเปล่า (ส่วนตัวที่ผมใช้ก็ใช้เล่นเกมได้สบายๆจนแบตมันหมดไปเลยนะ) แต่ถ้าอยากเอาชัวร์และเพื่อความสบายใจละก็ แบบมีสายครับชัวร์สุด
ปล. แบบไร้สายที่ว่านี้ต้องเป็นแบบมียี่ห้อหน่อยนะ ไม่ใช่ของโนเนมหรือราคาถูกจนเกินไป อันนั้นผมไม่รับประกันเน้อ
พลังงานที่นำมาใช้
ถ้าเป็นแบบมีสายก็ไม่ต้องห่วงเลย เพราะมันก็มาจากพอร์ต USB นั่นเอง แต่ถ้าแบบไร้สายก็จำเป็นที่จะต้องมีแบตเตอรี่ในตัว ซึ่งที่เราพบเห็นกันได้มากก็คือการใช้ถ่านก้อน ไม่ว่าจะทั้งขนาด AA หรือ AAA และแบบที่ใช้ถ่านก้อนเดียวหรือ 2 ก้อนก็ตาม นับว่าเป็นแบบที่ใช้งานได้ง่าย เพราะสามารถหาซื้อถ่าน alkaline มาใช้ก็ได้ แต่ทางที่ดีหาถ่านชาร์จมาใช้จะดีกว่าครับ เพราะเรื่องของความคุ้มค่านั้นสูงกว่ามาก แถมยังสามารถใช้งานต่อการชาร์จ 1 รอบได้นานกว่าถ่าน alkaline อีกด้วย ยังไงก็ตามคนที่เลือกใช้ mouse ไร้สายคงต้องหาถ่านสำรองติดตัวไว้ด้วยนะครับ เผื่อระหว่างทำงานเกิดถ่านหมดจะได้มีสำรองไว้ใช้ (ดูเรื่องจะเยอะนะ)
ส่วนอีกแบบก็คือ mouse ไร้สายแบบที่ภายในมีแบตเตอรี่อยู่ โดยการชาร์จไฟก็ให้เอา mouse ไปวางบนแท่นชาร์จของตัว mouse เองเพื่อทำการชาร์จไฟ ซึ่งแบบนี้ก็สะดวกตรงที่ไม่ต้องเสาะหาถ่านมาใส่ แต่แบบนี้หาได้ค่อนข้างยากพอสมควรทีเดียวแถมราคาสูงด้วย
ก็จบกันไประหว่างความแตกต่างที่เห็นได้ชัดของทั้งสองแบบ เท่านี้ก็น่าจะพอเป็นข้อมูลช่วยในการตัดสินใจเลือกซื้อ mouse ได้พอสมควรละนะครับ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานและความสะดวกของแต่ละท่านแล้วล่ะ ขอให้ทุกท่านโชคดีกับการเลือก mouse จ้า