MSI GX623 [แรงถูกใจคอเกมส์]

มากันแล้วครับอีกหนึ่งรุ่นสำหรับคอเกมส์ด้วยประสิทธิภาพไม่แพ้ใครในราคาที่น่าสนใจกับ MSI GX623

หลังจากที่ได้ทดสอบ MSI GT729 กันไปแล้วซึ่งได้ชื่อว่าเป็นรุ่นระดับสุดยอดในปัจจุบันจาก MSI ในวันนี้ก็มีอีกหนึ่งรุ่นที่จัดได้ว่าเป็นรุ่นน้องลงมา แต่ประสิทธิภาพก็ยังอยู่ในระดับที่สูงมากพอสมควรกับ MSI GX623 แน่นอนว่าเป็น G Series ย่อมไม่ธรรมดาอย่างแน่นอนทั้งรูปลักษณ์หน้าตาที่โฉบเฉียว และสเปกที่แรงสำหรับการเล่นเกมส์โดยเฉพาะ ส่วนจะมีอะไรกันบ้างนั้นไปชมกันเลยครับ เริ่มด้วยซีพียู P8600 ในเครื่องทดสอบนี้ที่จะต่างจากเครื่องขายจริงที่จะเป็น P8700 ซึ่งจะมีประสิทธิภาพดีกว่าพอสมควร แต่แน่นอนว่าความแรงนั้นไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเพราะมีความเร็วระดับ 2.4 GHz การ์ดจอตัวแรงจาก ATI ในรุ่น HD 4670 จัดได้ว่าแรงไม่แพ้ใครในราคาระดับ 3 หมื่นต้นๆ เล่นเกมส์ก็ลื่นดูหนังก็สบาย แรมขนาด 4 GB เต็มสูบ ยังเป็นแบบ DDR2 อยู่ อาจจะช้ากว่า DDR3 อยู่บ้าง แต่ก็สามารถใช้งานได้ดีแทบไม่ต่างกัน ฮาร์ดดิสค์เองก็เต็มถัง 500 GB ถ้ามากกว่านี้ต้องต่อ 2 ลูกแล้วครับ จอภาพขนาด 15.4 นิ้ว เหมาะสมที่สุดสำหรับการเล่นเกมส์และการพกพา เพราะไม่ใหญ่จนหนักเกินไป แต่ก็ไม่เล็กจนใช้งานไม่ถนัด ส่วนความละเอียดนั้นอาจจะเป็นข้อสังเกตหน่อยเพราะยังเป็นจอภาพแบบ 16:10 อยู่ ซึ่งในความเป็นจริงถ้าเน้นเล่นเกมส์จริงๆ จอภาพอัตราส่วนแบบนี้จะมีเกมส์ที่รองรับมากกว่า (โดยเฉพาะเกมส์เก่าๆ) พอร์ตการเชื่อมต่อต่างๆก็ครบครันตามสไตล์ G Series ทั้ง HDMI, E-Sata ,IEEE 1394 การ์ดเสียงที่สามารถต่อ Output กับเครื่องเสียงภายนอกได้ถึง 7.1 Channel ทันทีโดยไม่ต้องใช้การ์ดเสียงเพิ่มเติม และโหมดเด็ดที่ขาดเสียไม่ได้ใน G Series คือ Turbo Mode ฟังค์ชั่นการ Over clock ซีพียูที่สามารถพาเครื่องของท่านแรงได้ขึ้นไปอีกเพียงแค่กดปุ่มเท่านั้น ต่อมาเราไปชมหน้าตาและประสิทธิภาพกันเลยครับ

และของแถมที่ถือว่าน่าสนใจมากที่สุดในโน๊ตบุ๊ค G ซีรีย์ทุกรุ่นจาก MSI คือ เมาส์พิเศษสำหรับคอเกมส์โดยเฉพาะ ไม่มีขายในไทยนะครับเป็นรุ่นพิเศษ เดี๋ยวไปดูกันนะครับว่ามันจะพิเศษกว่าเมาส์ทั่วๆไปอย่างไร

เมื่อเปิดแพ็คเกจออกมา จะมีตัวเมาส์สีแดงดำเข้ากันกับโน๊ตบุ๊คเลยครับ และตลับอะไรสักอย่าง หลายคนร้องอ๋อแล้วครับ

ขนาดของเมาส์ใหญ่พอสมควรครับ ถ้าเป็นมือผู้หญิงอาจจะจับไม่ถนัดแต่ก็พอดีกับคนมือไม่ใหญ่อย่างผม มีการออกแบบที่รองรับกับสรีระของมือขวาเป็นอย่างดีครับ ใช้งานได้ถนัดโดยเฉพาะเวลาเล่นเกมส์ นอกจากจะมีปุ่มเมาส์ปรกติแล้วยังมีปุ่ม T, M ตรงกลางสำหรับปรับความละเอียดของค่า dpi ซึ่งค่าสูงสุดของเมาส์ตัวนี้คือ 3200 dpi ถือว่าสูงมากเลยทีเดียว

มาดูด้านใต้เมาส์จะลูกเล่นอีกอย่างครับคือลูกตุ้มที่เราสามารถเพิ่มหรือลดน้ำหนักให้ตัวเมาส์ได้ แต่ละคนอาจจะถนัดกับเมาส์ที่มีน้ำหนักต่างกันไป บางคนมือเบาก็จะใช้เมาส์ที่มีน้ำหนักเบา บางคนชอบเมาส์หนักเพราะมือหนัก จึงมีลูกตุ้มมาให้เราเพิ่มลดน้ำหนักตามที่เราต้องการได้ครับ และที่เห็นเป็นตลับในรูปด้านบนนั้นก็คือตลับที่เอาไว้เก็บลูกตุ้มถ่วงน้ำหนักครับ อย่างนี้ถ้าเล่นเกมส์ไม่ดีแล้วจะให้โทษเมาส์คงยากแล้วล่ะ

ส่วนแรกจะเป็นภาพภายนอกเวลาที่เราเห็นเครื่องจะเป็นส่วนที่สะดุดตาที่สุด

MSI GX629 ยังมาในรูปแบบของสไตล์ G Series ที่มีการออกแบบที่ดูเรียบๆแต่ก็ดูสวยงามทันสมัย ด้วยขอบสีแดงสดโดยรอบคีย์บอร์ดและโดยรอบตัดกับสีดำของตัวเครื่องทำให้เครื่องดูโดดเด่นสะดุดตา แสดงได้ถึงระดับประสิทธิภาพของ G series ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งขนาดที่ใหญ่ระดับ 15 นิ้ว ทำให้เหมาะกับการเล่นเกมส์และพกพาอย่างมาก แผงคีย์บอร์ดที่ใหญ่ วัสดุที่นำมาใช้มีการผสมผสานระหว่างพลาสติกธรรมดาบริเวณขอบสีแดงด้านใต้ท้อง เครื่องและโดยรอบของคีย์บอร์ดและอลูมิเนียมเคลือบสีเมทัลลิก ซึ่งเป็นส่วนของด้านหลังจอภาพและที่วางมือได้อย่างลงตัวจนแทบไม่รู้ว่าส่วน ไหนคืออลูมิเนียมหรือพลาสติก

บริเวณด้านหลังจอภาพและที่พักมือจะเห็นว่ามีวัสดุ อลูมิเนียมเคลือบสีเมทัลลิก นอกจากจะทำให้เครื่องมีความโดดเด่นสวยงามเท่ไปอีกแบบแล้ว ยังมีความแข็งแรงเป็นพิเศษเป็นรอยได้ยากกว่าพลาสติกทั่วๆไปอีกด้วย (แต่บริเวณอลูมิเนียมนี้ก็นำไฟได้ด้วยนะครับ แต่ก็ไม่ถึงกับแรงจนตกใจ แค่รู้สึกถึงไฟฟ้าสถิตเท่านั้น)

แม้แกนบานพับอาจจะดูเล็ก แต่มีความแข็งแรงดี อีกทั้งตัวแม่เหล็กด้านหน้าก็มีแรงดูดที่มาก ทำให้ต้องใช้แรงพอสมควรในการเปิดจอภาพ

บริเวณขอบโดยรอบนั้นปิดลงมาสนิทอย่างดีสำหรับรับแรงอัดได้เต็มที่

จอภาพของ MSI GX623 มีขนาดใหญ่ถึง 15.4 นิ้ว แบบ 16:9 ที่ความละเอียด 1280 x 800 แม้อาจจะไม่เหมาะกับหนัง HD แบบ 16:9 มากนัก แต่ก็เป็นความละเอียดที่เกมส์ทุกเกมส์ทั้งเก่าและใหม่รองรับหมด ไม่ต้องกลัวว่าปรับความละเอียดแล้วภาพจะเบี้ยว อีกทั้งแม้ความละเอียดแนวนอนจะลดลง แต่ก็ได้ความละเอียดแนวตั้งที่มากกว่าจอแบบ 16:9 ทำให้มีมุมมองพวกงานเอกสารที่มากกว่าด้วยครับ

จอภาพไม่ได้หนาไปกว่าจอภาพรุ่นอื่นเท่าใดนัก

จอภาพกางจนสุดได้ราวๆ 170 องศา เลยทีเดียว

ใหญ่กว่าหนังสือขนาด A4 พอสมควร

หนากว่ากล้อง CD 8 แผ่น ประมาณ 0.5 เท่า

เป็นด้านใต้ท้องเครื่องรวมถึงช่องระบายความร้อนใต้ท้องเครื่อง

ใต้เครื่อง จะมีส่วนที่เปิดได้อยู่เพียง 2 ส่วนหลักคือฮาร์ดดิสค์และอีกที่หนึ่งจะเป็นส่วนที่ใหญ่ที่สุดครบคลุมทั้ง ซีพียู การ์ดจอ แรม ฯลฯ โดยมีช่องระบายความร้อนมากมายหลายช่อง

ช่องระบายความร้อนที่ฝาปิดหลังเช่น ซีพียู การ์ดจอ มีช่องระบายความร้อนจำนวนมากและภายในก็ยังมีตะแกรงรังผึ้งปิดอีกชั้นหนึ่งเพื่อกันฝุ่นเข้าไปภายใน ทั้งยังมีการยกพื้นให้นูนขึ้นมาเพื่อให้ภายในโปรง และรับอากาศได้มากขึ้นเพื่อลดความร้อนภายในตัวเครื่องด้วย (ส่วนจะเย็นจริงไหมนั้นเดียวได้รู้กันครับ)

ช่องระบายความร้อนมีขนาดที่ใหญ่พอสมควร ลมแรงดี เสียงพัดลมดังพอประมาณ

เปิดเครื่องออกมาแล้วมี 2 ส่วนคือฮาร์ดดิสค์ และส่วนที่รวมอุปกรณ์เกือบทั้งหมดเข้าไว้ด้วยกัน

เริ่มที่แรม 4 GB แบบ DDR2 จำนวน 2 ช่องเต็มที่

พัดลมระบายความร้อนหลักมีเพียงตัวเคียวแต่ก็มีขนาดใหญ่พอสมควร โดยจะมีท่อนำความร้อนทั้งหมด 2 เส้น โดย เส้นแรกจะนำความร้อนจากการ์ดจอ และอีก 1 เส้นจาก ซีพียู และชิปเซ็ต (บริเวณปลายท่อจะเป็นชิปเซ็ต และซีพียูตามลำดับ)

ด้วยประสิทธิภาพของการ์ดจอที่สูงจึงต้องใช้ท่อนำความร้อนแยกต่างหาก 1 เส้น แต่ตัวการ์ดเป็นแบบแยกจากบอร์ด (MMX) จึงสามารถเปลี่ยนอัพเกรดได้ และยังสามารถซ่อมแซมได้ง่ายกว่าแบบติดตั้งบนเมนบอร์ดอีกด้วย

การ์ด Wifi จะเป็นแบบครึ่งใบซึ่งจะประหยัดพลังงานและใช้พื้นที่น้อยกว่า แต่ก็มีแผ่นเหล็กมาให้เสริมความแข็งแรง นอกนั้นยังมี Slot PCI Express ให้สามารถใส่อุปกรณ์เพิ่มเติมได้อีกด้วย

.

คีย์บอร์ดของ MSI GX623 จะเป็นแบบ Full Size ใหญ่มาก มีครบทุกปุ่มรวมถึงปุ่ม Num pad ด้วย และที่ตัวอักษรจะมีการใช้สีสันที่แตกต่างกันไปตามการใช้งานในสไตล์ Gamer เช่นปุ่มลูกศรหรือปุ่ม F1- F10 ที่นิยมใช้ในการเล่นเกมส์ก็จะมีการเน้นสีแดงมาเพื่อให้สะดุดตา และสีนี้จะลบเลือนได้ยากกว่าสีขาวแบบธรรมดา โดยปุ่มคีย์บอร์ดนั้นก็ได้มีการปรับปรุงใหญ่มีขนาดใหญ่ขึ้นและมีความแข็งแรงกว่ารุ่นเก่า สามารถรองรับการกดหนักๆได้สบายๆ ปุ่มเองก็ไม่นิ่มจนเกินไปสามารถตอบสนองได้ดี

ปุ่ม FN พื้นฐานก็ยังครบครันไม่ขาดตกบกพร่อง และยังมีปุ่มชุด Num Pad เพิ่มเติมเข้ามาตามขนาดเครื่องด้วย

แน่นอนครับว่าสำหรับคอเกมส์ยิ่งเกมส์เดินยิงหรือพวก Shutter นั้นปุ่ม W A S D นั้นคือชีวิตจิตใจเลยก็ว่าได้เพราะเป็นปุ่มสำหรับควบคุมการเคลื่อนที่ ปรกติปุ่มตรงนี้ตัวอักษรมักจะลบเลือกไปก่อนเลยถ้าหากเล่นเกมส์หนักๆ จึงมีการเน้นสีแดงมาให้เพื่อให้สะดุดตาและตัวอักษรจะได้ไม่ลบเลือนไปได้ ง่ายๆ

ปุ่มเปิด/ปิดเครื่องจะอยู่บริเวณด้านขวาสุดของ Aerodynamic Touch Sensor ใกล้ๆกันบานพับเลย ปุ่มใหญ่สังเกตุได้ง่าย

จุดเด่นของการสั่งงาน MSI GX623 จะอยู่ที่ Panel ชุดควบคุมบริเวณเหนือคีย์บอร์ดเป็นแนวยาวจากซ้ายจรดขวา ที่ MSI เรียกว่า Aerodynamic Touch Sensor มีการออกแบบที่เป็นคล้ายรูปปีกนก พื้นสีดำ มีเส้นสีแดงบอกปุ่มต่างๆที่เข้ากับตัวเครื่องเป็นอย่างดี ซึ่งรวมการสั่งงานต่างๆไว้เกือบหมดโดยจะเป็นปุ่มแบบสัมผัสทั้งหมด

ฝั่งซ้ายจะเป็นปุ่มในการควบคุมโปรแกรมมัลติมีเดีย เล่น หยุด เดินหน้า ถอยหลัง ตรงกลางจะเป็นปุ่ม Eco และ Turbo

ฝั่งขวาจะมีปุ่ม เปิด/ปิด Web cam ,Bluetooth , Wireless ตามลำดับ และปุ่ม P1 สำหรับกำหนดให้เป็นปุ่มอะไรก็ได้ตามที่เราต้องการ

ปุ่มพิเศษ 2 ปุ่มที่หาไม่ได้ในโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆได้แก่ปุ่ม Eco เป็นเทคโนโลยีของ MSI ที่จะเป็นปุ่มสำหรับเลือกโหมดการใช้งานต่างๆที่แตกต่างกันไป โดยโปรแกรม Eco จะไปปรับจูนเครื่องเองให้เหมาะสมตามโหมดการใช้งานนั้นๆ และปุ่ม Turbo เป็นปุ่มที่ใช้สำหรับการ OC (Over clock) ซีพียูเพื่อให้เครื่องเราสามารถทำงานได้สูงขึ้นไปอีก ซึ่งอาจจะเป็นงานที่ต้องการความรวดเร็วเป็นบางครั้ง เช่นเวลาที่เราต้องการบีบไฟล์ zip ถ้าหากเราใช้ฟังค์ชั่น Turbo จะทำให้เราใช้เวลาน้อยกว่าปรกติไปได้อีก แต่ฟังค์ชั่นนี้จะใช้ได้เฉพาะเวลาที่เราเสียบปลั๊กเครื่องเท่านั้นนะครับ

Eco Engine เป็นเทคโนโลยีของ MSI ที่จะเป็นปุ่มสำหรับเลือกโหมดการใช้งานต่างๆที่แตกต่างกันไปเพื่อช่วยให้เครื่องเราใช้พลังงานได้เหมาะสมจะได้ใช้งานแบตเตอรี่ได้ยาวนานขึ้นและไม่เสียเวลาต้องไปปรับจูนเอง โดยโปรแกรม Eco จะไปปรับจูนเครื่องเองให้เหมาะสมตามโหมดการใช้งานนั้นๆ ได้แก่ Gaming Mode สำหรับการเล่นเกมส์ซึ่งจะใช้พลังงานสูงสุดแต่ก็ได้ประสิทธิภาพเครื่องสูงสุดเช่นกัน , Movie Mode สำหรับการใช้งานดูหนัง ซึ่งจะเน้นไปที่ระบบภาพและเสียงให้เหมาะสม , Presentation Mode สำหรับงานที่ต้องต่อจอภาพภายนอกก็จะใช้พลังงานของเครื่องน้อยลงเพื่อการพรีเซนต์งานได้ยาวนานขึ้น , Office Mode สำหรับทำงานเอกสารจะลดความสว่างของจอภาพลง ใช้พลังงานตามที่เหมาะสม พัดลมซีพียูจะหมดรอบต่ำเพื่อลดเสียงเครื่องให้เงียบลง , Turbo Battery Mode เป็นรูปแบบที่ประหยัดพลังงานทุกส่วนมากที่สุดเพื่อที่เน้นใช้งานเครื่องแบตเตอรี่ได้นานที่สุด และ ECO off ปิดโหมด Eco

Touchpad เมื่อเทียบกับขนาดของเครื่องอยู่ในระดับกลางๆไม่ใหญ่หรือเล็กจนเกินไป จะมีขอบบอกระยะชัดเจนเป็นคนละพื้นผิวกับที่วางมือ โดยจะมีผิวเรียบเนียนสามารถสั่งงานได้อย่างเที่ยงตรง ปุ่มเมาส์ก็ใหญ่ พอสมควรสามารถสั่งงานได้ดีไม่นิ่มหรือแข็งจนเกินไป

มีสติ๊กเกอร์บอกถึงเทคโนโลยีต่างๆที่ถูกติดตั้งมาในเครื่องเช่น แพลตฟอร์ม Centrino 2 , การ์ดจอ ATI HD 4670

เทคโนโลยีเด่นๆที่ถูกติดตั้งมากับ MSI GX623

ด้านใต้เครื่องมีสติ๊กเกอร์บอกรุ่นและข้อบ่งชี้ต่างๆ

Panel ด้านหน้ามี ไฟ Panel แสดงสถานะ

ด้านซ้ายเริ่มจากด้านในสุด สายล็อคเครื่อง , Modem ,ไดร์ฟ DVD ,USB 1 พอร์ต และ ชุดต่อเครื่องเสียงภายนอกที่นอกจากจะต่อไมค์ หรือลำโพงทั่วไปแล้วยังสามารถต่อกับเครื่องเสียงระบบ 7.1 Channel ได้อีกด้วย

ทางด้านขวาเริ่มด้วย Card Reader ,PC Card Slot (Express Card) , IEEE 1394 ,USB 1 port , พอร์ต E-SATA แบบ Combo ที่สามารถใช้งานเป็นพอร์ต USB ได้ด้วย, ช่องระบายความร้อนซีพียู และ LAN

ด้านหลังมี พอร์ต HDMI , พอร์ต D-SUB , พอร์ต Adapter และ แบตเตอรี่ (ปลายสุดจะเป็นสายสำหรับต่อ TV Tuner ซึ่งยังไม่สามารถใช้งานได้)

คุณภาพของ Web cam และระบบเสียง

กล้อง Web Cam ของ MSI GX623

ลำโพงของ MSI GX623 มาพร้อมลำโพงคู่หน้า 2 ตัว ที่ติดตั้งอยู่บริเวณหลายของ Aerodynamic Touch Sensor ทั้ง 2 ด้าน คุณภาพเสียงจัดอยู่ในระดับที่สามารถตอบสนองการเล่นเกมส์ ดูหนังฟังเพลงได้ดีพอตัว เสียงดังดี

แบตเตอรี่ของ MSI GX623 มากับแบตเตอรี่มาตรฐานขนาด 6 Cell ที่มีความจุ5200 mAh น่าจะรองรับการใช้นานพอสมควรกับสเปกเครื่องระดับนี้

โปรแกรมต่างๆที่ได้มีการติดตั้งมาให้

โปรแกรมกล้องเว็ปแคมของ GX623 มีลูกเล่นมาให้ทั้ง บันทึกภาพนิ่ง วีดีโอ ซูมภาพ อีกทั้งยังได้ความละเอียดสูงสุดถึง 3200 x 2400

โปรแกรมตั้งค่าเมาส์ที่แถมมาครับสามารถทำอะไรได้หลายอย่าง ทั้งปรับความละเอียดเมาส์ ตั้งค่าปุ่มลัดต่างๆ

ในเครื่องทดสอบ MSI GX623 มาพร้อมกับ Windows 7 Ultimate แบบลิขสิทธิ์แท้จาก MSI ที่ติดตั้งให้มาในเครื่องทดสอบ ส่วนในเครื่องขายจริงนั้นจะไม่ได้มีการติดตั้งมาให้

(ซึ่งช่วงหลังจากนี้ NBS เองก็จะเริ่มเปลี่ยนไปใช้ Windows 7 ทดสอบมากขึ้นทั้งที่ติดตั้งใหม่ และที่มาพร้อมเครื่องทดสอบจากแต่ละค่ายเอง โดยตัว Windows 7 เองจากการทดสอบจะให้คะแนนทดสอบจากโปรแกรมต่างๆที่มากกว่าตัวของ Vista อยู่เล็กน้อย ทำให้ในการทดสอบนะอาจจะไม่เทียบกับการทดสอบในรุ่นเก่าที่ใช้ Vista ในการทดสอบ 100% นะครับ แต่จะเน้นเทียบเพื่อให้เห็นถึงประสิทธิภาพเครื่องเป็นหลักนะครับ)

Normal Mode

Turbo Mode

คะแนนที่ออกมาจากทั้ง 2 โหมด ต่างกันระดับหลักหน่วยแสดงให้เห็นว่า Turbo mode นี่ใช้ได้เหมือนกัน

MSI GX623 ในเครื่องทดสอบนี้มาพร้อมซีพียู P8600 ซึ่งจะต่างจากเครื่องขายจริงที่จะใช้ซีพียูดีกว่าในรุ่น P8700 แต่ก็สามารถนำมาทดสอบเทียบเคียงได้ด้วยซีพียูที่มีประสิทธิภาพไม่ต่างกันมากนัก (แรงไม่แพ้กัน) จุดสังเกตที่อยากแนะนำก็คือเรื่องของ Turbo Mode ที่เป็นฟังค์ชั่นการ OC เพียงแค่กดปุ่มเท่านั้น โดยเครื่องจะปรับให้เองอัตโนมัติให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัยจึงไม่ต้องกลัวว่าจะสงผลให้ซีพียูเสียหายก่อนเวลาอันสมควร ซึ่งใน MSI GX623 จะเป็นการ OC โดยเพิ่ม FSB จากเดิม 266 MHz เป็น 308 MHz ทำให้ซีพียูมีความเร็วจากเดิม 1.596 GHz(ทดสอบในโหมดธรรมดาไม่ได้สั่งให้รันเต็มสเปกซีพียู) เป็น 1.851 MHz ความเร็วเพิ่มขึ้นมาอีก ถึง 0.2 GHz เลยทีเดียว ในการ OC แต่ขึ้นมา 0.1 ก็ถือว่าน่าพอใจแล้วเพราะนั่นหมายถึงประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นมาด้วย

แต่ข้อเสียอย่างหนึ่งของการ OC แบบเพิ่ม FSB ก็คือแรมจะต้องเพิ่มความเร็ว FSB ให้เท่ากันไปด้วย แต่ MSI GX623 เองก็เล็งเห็นถึงตรงจุดนี้เลย ปรับซีพียูจากสเปกเต็มๆที่วิ่งอยู่ 800 MHz เหลือ 667 MHz ทำให้สามารถเพิ่มความเร็วซีพียูไปได้โดยไม่ต้องห่วงว่าแรมจะมีปัญหา แต่ก็ต้องแลกมาด้วยความเร็วของแรมที่น้อยลง ซึ่งในตอนใช้งานจริงก็ไม่ได้ต่างกันมากนัก

แรม DDR2 ทั้ง 2 แถว แถวละ 2 GB รุ่น PC2-6400 ความเร็วแรม 800 MHz (มีให้ใส่แค่ 2 Slot นะครับ ไม่ใช่ 4 Slot อย่างที่โปรแกรมมันโชว์)

และที่ยิ่งทำให้เจ้า MSI GX623 แรงยิ่งขึ้นไปอีกด้วยการ์ดจอระดับบนจากค่าย ATI ในรุ่น HD4670 แรงที่สุดแล้วในระดับราคาแค่ 3 หมื่นต้นๆ

ไดร์ฟรองรับมาตรฐาน Drive DVD-RW ทั่วๆไป

การทดสอบในส่วนของ Resolution ว่ารองรับความละเอียดสูงสุดเท่าไร และในส่วนของ Page view ว่าสามารถแสดงผลหน้า web ได้ขนาดไหน

Resolution ของ MSI GX623มากับจอภาพใหญ่ 15.4 นิ้ว ความละเอียดต้อง 1280 x 800 ความละเอียดที่ทุกเกมส์และทุกโปรแกรมรองรับเป็นมาตรฐาน แต่อาจจะไม่เหมาะกับภาพยนตร์แบบ 16:9 มากนัก เพราะเวลาใช้งานจะมีขอบดำเกิดขึ้นมา

Pages: 1 2 3