Connect with us

Hi, what are you looking for?

Notebookspec

รีวิว Lenovo

รีวิว Lenovo Legion Pro 7 16IAX10H สเปคแรง จับคู่ Intel Core Ultra 9 กับ RTX 50 Series เล่นเกม 4K ลื่น ทำงานหนักก็ไหว จอ OLED สวยสดเต็มตา ลูกเล่นมีมาเพียบ!!

Lenovo Legion Pro 7 16IAX10H เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คลูกเล่นมาเต็ม! จอ OLED สีสวยโดนใจ แรงจนบอกลา PC ได้เลย!

Lenovo Legion Pro 7 16IAX10H

Lenovo Legion เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คซึ่งเกมเมอร์และครีเอเตอร์ชื่นชอบ เวลามีกระทู้ขอให้ช่วยเลือกโพสต์มาเมื่อไหร่ก็ต้องมีติดมาเสมอ อย่าง Lenovo Legion Pro 7 16IAX10H นี้ ก็ยังคงความน่าเลือกน่าใช้เอาไว้ได้ไม่แพ้รุ่นก่อนๆ แม้รูปลักษณ์จะยังคงคล้ายรุ่นก่อนอยู่ แต่ภายในนับว่าไม่แพ้เรือธงแบรนด์อื่น ตั้งต้นด้วยการอัพเกรดรายปีจับคู่ชิปเซ็ต Intel Core Ultra 200 HX-Series กับ NVIDIA GeForce RTX 50 Series ใหม่ ประกบระบบระบายความร้อน Legion Coldfront แบบ HyperChamber Vapor Chamber ช่วยคุมอุณหภูมิให้ชิปเซ็ตทำงานได้เต็มกำลังตลอดเวลา นอกจากเล่นเกมก็ใช้ทำงานหนักได้ดีเยี่ยมเช่นกัน

สิ่งน่าประทับใจของ Legion Pro 7 16IAX10H อย่างแรกคือหน้าจอ OLED มีสีสันสวยงามและรองรับ Dolby Vision ในตัว จึงเหมาะกับความบันเทิงทุกแบบและได้ X-Rite มาช่วยปรับพาเนลให้แสดงได้สีได้ใกล้เคียงความจริงยิ่งขึ้น มีชิปเซ็ต Lenovo AI Engine+ รหัส LA3 ไว้เรียนรู้พฤติกรรมเจ้าของจากการใช้งานแล้วปรับโหมดเครื่องให้โดยอัตโนมัติ ให้ผู้ใช้โฟกัสกับงานหรือเรื่องอยากทำได้เต็มที่ และถ้าใครอยากรีดเร่งสมรรถนะของมันก็เปิดโปรแกรม Legion Space มาโอเวอร์คล็อกชิปเซ็ตเพิ่มได้อีกนิดหน่อยด้วย

Advertisement
Lenovo Legion Pro 7 16IAX10H

นอกจากลูกเล่นเด่นๆ แล้ว Lenovo Legion Pro 7 16IAX10H ก็ยังคงฟีเจอร์เพื่อความสะดวกและสวยงามเอาไว้ครบถ้วน ทั้งคีย์บอร์ด Legion TrueStrike แบบเปลี่ยนไฟ RGB ได้เฉพาะปุ่ม (Per-Key RGB) หรือกดเปลี่ยนธีมการเล่นแสงสีก็มีให้เลือกหลายเอฟเฟค เสริมด้วยฟีเจอร์เพิ่มคุณภาพชีวิตไว้ให้เช่นเดิม ทั้ง USB-C Full Function กับ Thunderbolt 4 (DisplayPort 2.1) ไว้ให้ต่อ USB Hub แปลงเป็นพอร์ตอื่นๆ ให้เชื่อมต่ออุปกรณ์ใช้งานได้สะดวกขึ้น, คีย์ลัดเปลี่ยนค่า Refresh Rate ได้ตามต้องการ, ลำโพง 4 ตัวพร้อมแอมป์ ปรับแต่งจาก Nahimic Audio นอกจากเสียงดังฟังชัดแล้ว คุณภาพก็ดีไม่แพ้ลำโพงแยกแม้แต่น้อย


NBS Verdicts

Lenovo Legion Pro 7 16IAX10H

ไม่ว่าจะเอาสเปคหรือฟีเจอร์ประจำตัวของ Lenovo Legion Pro 7 16IAX10H มาเทียบกับเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นในปัจจุบัน ก็สมชื่อเทียบชั้นเรือธงจากแบรนด์คู่แข่งได้โดยไม่ต้องสงสัยและดีพอให้ใช้เล่นเกมชั้นนำในปัจจุบันบนความละเอียด 1440p Very High ได้ดีด้วยซีพียู Intel Core Ultra 9 275HX กับจีพียู NVIDIA GeForce RTX 5070 Ti แล้วมีงบประมาณมากพอ ก็ขยับไปจน GeForce RTX 5090 ได้ตามชอบ เวลาเล่นเกมและไลฟ์ไปด้วยภาพจะได้ลื่นไหลและมี NVIDIA G-SYNC ติดมาจึงไม่ต้องห่วงเรื่องภาพฉีกขาด ด้านพาเนล OLED ก็แสดงสีสันได้สวยจนดึงดูดเจ้าของให้นั่งติดหน้าจอเล่นเกมหรือดูหนังได้เพลินนานหลายชั่วโมงได้ง่ายๆ

นอกจากเล่นเกม Legion Pro 7 ก็เหมาะกับการทำงานทุกแบบตั้งแต่งานเอกสารทั่วไป, ทำงานกราฟิคและครีเอเตอร์, เขียนโปรแกรม, ทำเกมหรือ Machine Learning ไปจนพัฒนา AI ก็ยังได้ ด้วยชิปเซ็ตสมรรถนะสูงเป็นทุนเดิมจนรัน On-device AI ได้ดีหรือจะใช้ทำงานกลุ่ม STEM ก็ไม่มีปัญหาเช่นกัน แนะนำว่าเวลาทำงานให้หาจอรุ่นได้รับการการันตีจาก PANTONE หรือ Calman verified มาต่อเพิ่มจะดีมาก จะเชื่อมเข้า HDMI 2.1, Thunderbolt 4 (DisplayPort 2.1) หรือ USB-C Full Function ก็แล้วแต่เจ้าของได้เลย แต่แนะนำว่าถ้าจะใช้จอไหนเป็นบานหลักให้เชื่อมกับ HDMI จะดีสุด

Lenovo Legion Pro 7 16IAX10H

องค์ประกอบเสริมอย่างชิป Lenovo AI Engine+ ก็เป็นส่วนสำคัญช่วยให้ Lenovo Legion Pro 7 16IAX10H ทำงานได้ถูกใจเจ้าของยิ่งขึ้น ซึ่งระบบจะคอยจับพฤติกรรมการแล้วปรับเครื่องให้เหมาะกับงานนั้นๆ ด้วยตัวมันเอง แนะนำว่าเลือกเป็นโหมด Auto ไปเลยก็สะดวกดีเช่นกัน ถัดมาเป็นลำโพง 4 ดอก พร้อมแอมป์ที่ถูกปรับจูนด้วยบริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านเสียงอย่าง Nahimic Audio นอกจากเสียงจะดังไปได้ถึง 89dB แล้ว ยังมีมิติทั้งรายละเอียดเสียงเครื่องดนตรี, นักร้อง, เสียงเบสและแรงปะทะไม่แพ้ลำโพงต่อแยกเลย จึงเหมาะทั้งฟังเพลงและเล่นเกมมาก

กลับกัน Lenovo Legion Pro 7 16IAX10H ก็ยังมีข้อสังเกตอยู่ อย่างแรกไม่มีเซนเซอร์สแกนใบหน้าหรือลายนิ้วมือเหมือนเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คของแบรนด์อื่น ซึ่งมันควรเป็นอุปกรณ์มาตรฐานของ Legion Pro Series ได้แล้วเพื่อความสะดวกปลอดภัยของเจ้าของเครื่อง อีกเรื่องคือเวลาเล่นเกมหรือทำงานกับโปรแกรมใหญ่ อุณหภูมิของชิปเซ็ตอาจขึ้นไปได้สูงเกิน 100 องศาเซลเซียสได้บ้างในบางครั้ง แนะนำว่าควรหาแท่นวางมีพัดลมระบายความร้อนสักตัวมาช่วยให้อากาศไหลเวียนเข้าเครื่องเร็วยิ่งขึ้นจะดีสุด

ข้อดีของ Lenovo Legion Pro 7 16IAX10H

  1. ซีพียู Intel Core Ultra 9 275HX มีสมรรถนะสูง ใช้ทำงานก็ดีเล่นเกมก็เยี่ยม
  2. จีพียู NVIDIA GeForce RTX 5070 Ti ใช้เล่นเกมบนความละเอียด 1440p ขึ้นไปได้ดี
  3. ชุดระบายความร้อน Legion Coldfront ทำงานได้ดี ระบายความร้อนได้รวดเร็ว
  4. ซอฟท์แวร์ Legion Space ใช้ปรับแต่งตัวเครื่องได้ดี รวมถึงโอเวอร์คล็อกได้ด้วย
  5. มี RAM 32 GB, SSD 1 TB ติดตั้งมาให้ สามารถอัพเกรดเพิ่มความจุในภายหลังได้
  6. หน้าจอ OLED มีขอบเขตสีกว้าง 100% DCI-P3 ปรับจูนสีจากโรงงานด้วย X-Rite
  7. พาเนล OLED ถูกปรับแต่งมาเป็นพิเศษเพื่อป้องกันอาการจอเบิร์นเวลาใช้งานนานๆ แล้ว
  8. หน้าจอมีอัตรา Refresh Rate 240Hz รองรับ NVIDIA G-SYNC ป้องกันภาพฉีกขาด
  9. เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้รวดเร็วและเสถียรด้วย Wi-Fi 7
  10. มีพอร์ต USB-C Full Function กับ Thunderbolt 4 (DisplayPort 2.1) ติดมาให้ใช้งาน
  11. ไฟ Per-Key RGB คีย์บอร์ด Legion TrueStrike เปลี่ยนเอฟเฟคได้หลากหลายสี
  12. ติดไฟ RGB มาให้รอบตัวทั้งขอบด้านหน้า, ช่องระบายความร้อนและโลโก้ LEGION
  13. มีลำโพง 4 ตัว พร้อมแอมป์ปรับจูนด้วย Nahimic Audio ให้เสียงดีน่าประทับใจ
  14. มีซอฟท์แวร์ Smart Connect ติดมาให้เชื่อมต่อมือถือหรือแท็บเล็ตใช้งานได้ง่าย

ข้อสังเกตของ Lenovo Legion Pro 7 16IAX10H

  1. ไม่มีเซนเซอร์สแกนใบหน้าหรือลายนิ้วมือ ซึ่งควรติดตั้งแบบใดแบบหนึ่งมาให้ใช้งานด้วย
  2. เวลาทำงานเต็มกำลัง อุณหภูมิในเครื่องอาจขึ้นไปได้เกิน 100 องศาเซลเซียส ได้บ้าง

รีวิว Lenovo Legion Pro 7 16IAX10H


Specification

Lenovo Legion Pro 7 16IAX10H

จุดแข็งของ Lenovo Legion Pro 7 16IAX10H นอกจากถูกอัพเกรดสเปคให้ดีขึ้นตามชิปเซ็ตใหม่จาก Intel และ NVIDIA แล้ว ก็ยังได้ฟีเจอร์ติดมาครบเครื่องไม่ว่าจะรุ่นเริ่มต้นหรือตัวแรงสุดตารางก็ตาม เพิ่มเติมคือมีสเปคทางเลือกถึง 3 แบบ ตั้งแต่ช่วงหลักหมื่นปลายไปจนหลักแสนบาทให้เลือกได้ตามต้องการ โดยแต่ละรุ่นจะมีรายละเอียดดังนี้

สเปค / รุ่นย่อยLegion Pro 7 16IAX10H-83F5004ETA
(เครื่องรีวิว)
Legion Pro 7 16IAX10H-83F5004ETALegion Pro 7 16IAX10H-83F5001UTA
CPUIntel Core Ultra 9 275HX
แบบ 24 คอร์ 24 เธรด (8P+16E) ความเร็วสูงสุด 5.4GHz
Intel Core Ultra 9 275HX
แบบ 24 คอร์ 24 เธรด (8P+16E) ความเร็วสูงสุด 5.4GHz
Intel Core Ultra 9 275HX
แบบ 24 คอร์ 24 เธรด (8P+16E) ความเร็วสูงสุด 5.4GHz
GPUNVIDIA GeForce RTX 5070 Ti
VRAM 12GB GDDR7
TGP 140W
NVIDIA GeForce RTX 5080
VRAM 16GB GDDR7
TGP 175W
NVIDIA GeForce RTX 5090
VRAM 24GB GDDR7
TGP 175W
StorageM.2 NVMe 1 TBM.2 NVMe 1 TBM.2 NVMe 1 TB
Memory32 GB DDR5 บัส 6400MHz
รองรับความจุสูงสุด 64 GB
32 GB DDR5 บัส 6400MHz
รองรับความจุสูงสุด 64 GB
32 GB DDR5 บัส 6400MHz
รองรับความจุสูงสุด 64 GB
Display16″ WQXGA (2560*1600) พาเนล OLED
Refresh Rate 240Hz
100% DCI-P3
VESA DisplayHDR True Black 1000
Dolby Vision
NVIDIA G-SYNC
NVIDIA Advanced Optimus
X-Rite factory color calibration
16″ WQXGA (2560*1600) พาเนล OLED
Refresh Rate 240Hz
100% DCI-P3
VESA DisplayHDR True Black 1000
Dolby Vision
NVIDIA G-SYNC
NVIDIA Advanced Optimus
X-Rite factory color calibration
16″ WQXGA (2560*1600) พาเนล OLED
Refresh Rate 240Hz
100% DCI-P3
VESA DisplayHDR True Black 1000
Dolby Vision
NVIDIA G-SYNC
NVIDIA Advanced Optimus
X-Rite factory color calibration
SoftwareWindows 11 HomeWindows 11 HomeWindows 11 Home
ConnectivityUSB-A 3.2 Gen1*2
USB-A 3.2 Gen2*1
USB-C 3.2 Full Function*1
Thunderbolt 4 (DisplayPort 2.1)*1
HDMI 2.1*1
LAN*1
Audio combo*1
Wi-Fi 7 มาตรฐาน 802.11be
Bluetooth 5.4
USB-A 3.2 Gen1*2
USB-A 3.2 Gen2*1
USB-C 3.2 Full Function*1
Thunderbolt 4 (DisplayPort 2.1)*1
HDMI 2.1*1
LAN*1
Audio combo*1
Wi-Fi 7 มาตรฐาน 802.11be
Bluetooth 5.4
USB-A 3.2 Gen1*2
USB-A 3.2 Gen2*1
USB-C 3.2 Full Function*1
Thunderbolt 4 (DisplayPort 2.1)*1
HDMI 2.1*1
LAN*1
Audio combo*1
Wi-Fi 7 มาตรฐาน 802.11be
Bluetooth 5.4
Weight2.57 กก.2.57 กก.2.57 กก.
Price94,990 บาท (BaNANA)116,990 บาท (BaNANA)154,990 บาท (BaNANA)

Hardware & Design

Lenovo Legion Pro 7 16IAX10H

ตัวเครื่องของ Lenovo Legion Pro 7 16IAX10H เทียบกับรุ่นก่อนหน้าจะใกล้เคียงกันไม่ค่อยเปลี่ยนรูปลักษณ์โดยรวมนัก แต่เน้นปรับแต่งเพิ่มรายละเอียดวัสดุแล้วเสริมชิ้นส่วนอื่นๆ แทน เริ่มจากบอดี้อลูมิเนียมสีดำถูกนำไปยิงทรายให้ผิวเป็นแบบดำด้านสวยงาม ส่วนเหนือคีย์บอร์ดมีสันสูงขึ้นเป็นพิเศษติดตั้งลำโพงดอกที่ 3 กับ 4 กับแอมป์เข้ามาให้มิติเสียงดีขึ้น ถัดลงมาเป็นปุ่ม Power โลโก้ Legion เสริมฟีเจอร์เปลี่ยนสีตามโหมดของตัวเครื่อง มีชื่อเฉพาะว่า “Legion O” ถัดจากคีย์บอร์ด Full size ลงมาถึงริมแท่นวางข้อมือขวาจะมีสติกเกอร์ของ Lenovo, Intel และ NVIDIA ไว้ริมที่วางข้อมือฝั่งขวาเพื่อหลบข้อมือซ้ายเจ้าของได้พอดี

Lenovo Legion Pro 7 16IAX10H

จุดนำสายตาของ Legion Pro 7 ยกให้ LED Lightbar สีสันสวยงามติดตั้งไว้ด้านใต้หันออกมาด้านหน้าเครื่อง สีของไฟจะเปลี่ยนอัตโนมัติตามรูปแบบไฟ RGB ของคีย์บอร์ด TrueStrike ดูสวยงามและตั้งค่าในซอฟท์แวร์ของ Lenovo ได้ตามชอบ นอกจากนี้ยังมีไฟ RGB อีก 2 จุด คือ กรอบรอบช่องระบายความร้อนและโลโก้ Legion บนฝาหลัง เวลาใช้งานก็ดูโดดเด่นสมความเป็นรุ่นเรือธงมากโดยไม่ต้องสงสัย

Lenovo Legion Pro 7 16IAX10H

ชุดก้านบานพับหน้าจอของ Legion Pro 7 เป็นก้านสี่เหลี่ยมเล็กติดอยู่ริมบานหน้าจอทั้งสองฝั่ง ยื่นลงมาสวมกับขาบานพับโลหะตรงริมของสันเหนือคีย์บอร์ดและเว้นช่องว่างจากขอบล่างของจอกับตัวเครื่องเล็กน้อย ดูจากภายนอกขาบานพับจะเล็กแต่ฐานด้านในเป็นสันโลหะพับตามแนวตัวเครื่องมีขนาดใหญ่แข็งแรง กางหน้าจอได้กว้างราว 130 องศา เพียงเอานิ้วโป้งเกี่ยวสันขอบบนจอก็เปิดใช้งานได้ทันที ปรับองศาให้เข้ากับมุมสายตาได้สะดวกหรือวางบนแท่นวางโน๊ตบุ๊คก็ง่ายไม่แพ้กัน

Lenovo Legion Pro 7 16IAX10H

สังเกตจากฝาหลังจากด้านบนจะมีสันยื่นสูงขึ้นมาเป็นพิเศษให้เจ้าของกางหน้าจอได้ง่ายขึ้น ถัดลงมาเป็นโลโก้ LEGION พิมพ์ใหญ่มีไฟ RGB สว่างโดดเด่นอยู่ตรงกลางและมีคีย์ลัดไว้กดปิดได้หากไม่ต้องการ ถัดลงมาเป็นกรอบไฟ RGB ล้อมช่องระบายความร้อนทรงหกเหลี่ยมอยู่ ส่วนตรงกลางมีชื่อแบรนด์ Lenovo ยิงเลเซอร์ไว้ระหว่างทั้งสองช่อง ดูเรียบร้อยพอเหมาะพอดีไม่มีลายเส้นเกินจำเป็นติดเข้ามาให้รกสายตานัก

Lenovo Legion Pro 7 16IAX10H

ฝาด้านใต้ Lenovo Legion Pro 7 16IAX10H แบ่งพื้นที่ครึ่งบนราว 60% เป็นช่องนำอากาศไประบายความร้อนในชุดระบายความร้อน Legion Coldfront เจาะช่องรังผึ้งเป็นแนวตั้งจากขอบขึ้นไปสุดตรงแถบยางกันลื่นทั้งสองฝั่ง สูงเสมอกับชุดพัดลมโบลวเวอร์ภายในและตรงกลางเป็นช่องสำหรับพัดลมเสริมตัวที่ 3 ไว้อัดลมตรงเข้าไปยังจีพียูโดยเฉพาะ

นอกจากช่องระบายความร้อนก็มีแถบยางกันลื่นเส้นยาวไว้ส่วนบนตรงข้ามกับเส้นสั้นคู่ล่างข้างลำโพง ช่วยป้องกันเครื่องไถลแถมลดโอกาสเกิดรอยความเสียหายและขนแมวไปในตัว มีน็อตหัวแฉก Philips Head 10 ดอก ขันล็อคให้ฝาด้านใต้กับตัวเครื่องยึดเป็นชิ้นเดียวกัน


Screen & Speaker

Lenovo Legion Pro 7 16IAX10H

หน้าจอขนาด 16 นิ้ว ของ Lenovo Legion Pro 7 16IAX10H ถูกรีดกรอบ 3 ด้านให้บางลงเป็นพิเศษเพื่อเพิ่มพื้นที่แสดงผล แต่ส่วนตรงกลางขอบบนหน้าจอจะมีสันสูงขึ้นมาเพื่อติดตั้งกล้องเว็บแคมกับไมโครโฟนไว้เพื่อใช้งาน ขอบล่างหน้าจอหนาขึ้นกว่าด้านอื่นเพื่อติดตั้งชุดพาเนลหน้าจอและเดินสายไฟเข้าไปยังอุปกรณ์ส่วนอื่นได้

หน้าจอนี้มีความละเอียด 2560*1600 พิกเซล พาเนล OLED เป็นอัตราส่วน 16:10 ได้พื้นที่แนวตั้งเพิ่มขึ้น ได้รับการการันตี VESA DisplayHDR True Black 1000 ว่าพาเนลนี้เร่งความสว่างไปได้ถึง 1,000 nits ขอบเขตสีกว้าง 100% DCI-P3 รองรับ Dolby Vision, NVIDIA G-SYNC และถูกปรับจูนสีด้วย X-Rite มาให้พร้อมกับซอฟท์แวร์คาลิเบรตสีด้วย รองรับ VRR (Variable Refresh Rate) ตั้งแต่ 103~240 Hz ไว้ปรับค่า Hz ให้เหมาะกับคอนเทนต์ต่างๆ โดยอัตโนมัติ เวลาใช้งานจริงสีสันสดสวยงามมากและ Contrast จัดจ้านจนดึงดูดให้เจ้าของผละตัวได้ยาก ถ้าใช้ทำงานก็ลดความสว่างลงเหลือ 50% ก็สว่างพอให้มองเห็นภาพบนจอได้ชัดเจนแล้ว

Lenovo Legion Pro 7 16IAX10H

ลำโพงของ Lenovo Legion Pro 7 16IAX10H มีทั้งหมด 4 ดอก เสริมด้วย Smart Amp และได้ Nahimic ช่วยปรับแต่งเสียงและมีซอฟท์แวร์ให้ใช้ด้วย คู่ล่างติดอยู่ใต้เครื่องข้างขอบยางกันลื่นส่วนอีกคู่อยู่บนสันเครื่องเหนือคีย์บอร์ด เวลาเร่งเสียงดัง 100% วัดแล้วมีความดังถึง 89dB และบางจังหวะอาจพีคไปเกิน 90dB ได้เช่นกัน

เนื้อเสียงจากลำโพงชุดนี้นับว่าสมชื่อรุ่นเรือธง ได้เสียงร้องกับเสียงเครื่องดนตรีแบ่งกันชัดเจนไม่กลืนกันเกินไป เบสมีน้ำหนักและแรงปะทะกำลังพอดีไม่บวมแตกจึงเหมาะกับการฟังเพลงยุคปัจจุบันทุกแนวโดยไม่ต้องพึ่งลำโพงแยกก็ได้ เวลาดูหนังหรือเล่นเกมก็สามารถจำลองแยกฝั่งเสียงซ้ายและขวาได้ชัดเจน

Lenovo Legion Pro 7 16IAX10H

จุดเด่นของซอฟท์แวร์ Nahimic ใน Lenovo Legion Pro 7 16IAX10H นอกจากฟังก์ชั่นเลือกโหมดเสียงให้เหมาะกับการใช้งานในรูปแบบต่างๆ บนหน้าแรกแล้ว ยังมีฟังก์ชั่นควบคุมลำโพงบลูทูธและทำ Sound Sharing Plus เชื่อมหูฟังบลูทูธสองตัวแล้วส่งสัญญาณไฟล์เสียงไปทั้งคู่ได้ในเวลาเดียวกันได้ เหมาะกับสายดูหนังฟังเพลงเป็นพิเศษ


Keyboard & Touchpad

Lenovo Legion Pro 7 16IAX10H

คีย์บอร์ด TrueStrike ของ Lenovo Legion Pro 7 ขนาด Full size ทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าแต่แยกชุดปุ่มลูกศรแยกออกมาจากปุ่มชุดหลัก มีไฟ LED Backlit ปรับเปลี่ยนสีไฟแยกปุ่มได้ (Per-Key) เวลากด Fn+Space bar จะเปลี่ยนเอฟเฟคแสงเป็นแบบต่างๆ ได้ตามชอบแถมปรับความสว่างได้ เวลาใช้งานแสงจะลอดทุกตัวอักษรและเรืองแสงรอบปุ่มจึงใช้งานได้ทุกสถานการณ์แม้มีแสงน้อยก็ยังมองเห็นได้ชัดเจน

ปุ่มใช้งานมี Function key อยู่ถัดจาก F12 เป็นต้นไปจนสุดระยะตรง Numpad มีคำสั่ง Insert, Print screen กับ Snipping tool, Delete ส่วน Home, End, Page Up/Down ถูกรวมอยู่กับปุ่ม Multimedia key สามารถกดทำงานหรือควบคุมการเล่นไฟล์เพลงและภาพยนตร์ก็ได้ อีกฝั่งปุ่ม Esc รวมคำสั่ง FnLock ไว้สลับเลเยอร์ระหว่าง Hotkeys กับ F1~F12 ได้ ถ้าสังเกตบนแป้นจะเห็น Easter egg เล็กๆ ตรงตัวอักษร “O” จะไม่ได้เป็นวงกลมตามปกติ แต่เป็นโลโก้ Legion เหมือนกับปุ่ม Power “Legion O” ด้วย

สัมผัสปุ่มคีย์บอร์ดของ Legion Pro 7 ตอบสนองได้เร็วต่อเนื่อง กดแล้วตอบสนองตามสั่งไม่มีอาการกดแล้วไม่ทำงานแม้แต่ครั้งเดียว นอกจากเล่นเกมได้ดีคนพิมพ์สัมผัสได้เร็วก็น่าจะถูกใจคีย์บอร์ด TrueStrike ตัวนี้ได้ไม่ยาก

Lenovo Legion Pro 7 16IAX10H

Hotkeys ของ Lenovo Legion Pro 7 16IAX10H บรรทัด F1~F12 ถูกเปลี่ยนคำสั่งเล็กน้อย โดยถอดคำสั่ง Task view ออก เปลี่ยนเป็นปุ่มเรียกโปรแกรม Smart Connect สำหรับเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต โดย Mirror หน้าจอเครื่องนั้นๆ มาใช้บนหน้าจอโน๊ตบุ๊คได้ทันที ได้คำสั่งใช้งานพื้นฐานครบถ้วน แต่อยากเสนอให้รวมปุ่ม Insert กับ Delete ไว้ด้วยกัน แล้วใส่คีย์ลัดเรียก Legion Space เข้ามาจะดีกว่า ส่วนคำสั่งอื่นๆ จะมีดังนี้

  • F1~F3 – ปิด, ลดหรือเพิ่มเสียงลำโพง
  • F4 – ปิด/เปิดไมโครโฟน
  • F5~F6 – ลด/เพิ่มความสว่างหน้าจอ
  • F7 – ปุ่ม Project ตั้งค่าหน้าจอหลักและเสริม
  • F8 – Airplane Mode
  • F9 – ปุ่มเรียกโปรแกรม Lenovo Vantage ขึ้นมาตั้งค่าตัวเครื่อง
  • F10 – ปิดการทำงานทัชแพด
  • F11 Smart Connect โปรแกรมเชื่อมต่อระหว่างโน๊ตบุ๊ค, สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต
  • F12 – เรียกเครื่องคิดเลข (Calculator) ขึ้นมาใช้งาน
Lenovo Legion Pro 7 16IAX10H

นอกจากคีย์ลัดในบรรทัดบนสุดตามปกติแล้ว ถ้ากดปุ่ม Fn ค้างเอาไว้ ไฟคีย์บอร์ดทั้งหมดจะดับและมีไฟสีฟ้าแสดงคีย์ลัดเพิ่มเติมให้ผู้ใช้กดใช้งานเพิ่มเติมได้ด้วย โดยเฉพาะการเปลี่ยนค่า Refresh Rate ได้ตามใจเจ้าของ ถึงจะเล็กน้อยแต่ก็ช่วยลัดขั้นตอนไปได้มาก แต่ละปุ่มเมื่อกดแล้วจะทำงานตามนี้

  • Fn+Q – ปุ่มเปลี่ยนโหมดตัวเครื่อง จะขึ้นภาพโหมดและไฟ Legion O จะเปลี่ยนตาม
  • Fn+R – ปรับค่า Refresh Rate ระหว่าง 60 Hz กับ 240 Hz
  • Fn+L – ปิดหรือเปิดไฟโลโก้ Legion ด้านหลังเครื่อง
  • Fn+Space bar – เปลี่ยนเอฟเฟค LED Backlit Keyboard
  • Fn+Up/Down – ลดหรือเพิ่มความสว่างไฟคีย์บอร์ด
  • Fn+Print screen – เรียกใช้งาน Snipping Tools
  • Fn+Multimedia keys – Play, Pause, Skip, Forward

แป้นทัชแพดของ Legion Pro 7 มีขนาดใหญ่รองรับ Touch Gesture ของ Windows 11 ครบถ้วน จึงควบคุมใช้งานได้ง่ายแถมตอบสนองดีจึงทำให้ใช้งานในยามจำเป็นได้สะดวกขึ้น เวลาวางมือบนปุ่ม WASD สันมือจะอยู่พอดีมุมของทัชแพดพอดี ถ้าต่อเมาส์แยกก็กดปิดทิ้งได้ด้วยคีย์ลัดบนปุ่ม F10 ก็ได้


Connector, Thin & Weight

พอร์ตของ Lenovo Legion Pro 7 16IAX10H มีเฉพาะด้านข้างทั้งสองฝั่ง ส่วนด้านหลังเป็นช่องระบายความร้อน Legion Coldfront เท่านั้น สังเกตว่าฝั่งซ้ายจะเน้นเป็นพอร์ตแบบต่อติดเครื่องไว้เป็นเวลานาน ส่วนฝั่งขวาเป็นแบบต่อเข้าถอดออกเป็นระยะๆ และมีปุ่ม E-Shutter ไว้ปิดเว็บแคมเวลาไม่ใช้งาน โดยแต่ละพอร์ตจะเป็นดังนี้

  • ฝั่งซ้ายจากซ้ายมือ – DC-in, HDMI 2.1 (8K / 60 Hz), USB-C 3.2 Gen2 Full Function, Thunderbolt 4 (DisplayPort 2.1), USB-A 3.2 Gen2 (Always On)
  • ฝั่งขวาจากซ้ายมือ – Audio combo, USB-A 3.2 Gen1*2, E-Shutter, LAN
  • การเชื่อมต่อไร้สาย – Wi-Fi 7 มาตรฐาน 802.11be รองรับ Bluetooth 5.4
Lenovo Legion Pro 7 16IAX10H

น้ำหนักของ Lenovo Legion Pro 7 16IAX10H ในหน้าสเปคถูกเคลมเอาไว้ 2.57 กก. ไล่เลี่ยกับ 2.61 กก. บนตาชั่ง พอรวมน้ำหนักของอะแดปเตอร์ 400W เข้าไปอีก 1.2 กก. น้ำหนักรวมจะขึ้นไปได้ถึง 3.84 กก. ถ้าพกไปใช้งานนอกสถานที่ควรพกใส่กระเป๋าเป้แบบมีซับไหล่หนาสำหรับโน๊ตบุ๊ค 15.6 นิ้วขึ้นไปเท่านั้น ไม่แนะนำแบบอื่นเพราะอาการ Office syndrome อาจถามหาได้ ประกอบกับตัวเครื่องมีความหนา 22.6~26.4 มม. ซองใส่โน๊ตบุ๊คก็ควรมีความหนาพอควรถึงจะใส่มันได้พอดี


Inside & Upgrade

Lenovo Legion Pro 7 16IAX10H

อิงกับข้อมูลสเปคของ Lenovo Legion Pro 7 16IAX10H ระบุว่ามันรองรับความจุ RAM ได้ถึง 64 GB DDR5 บัส 6400 MHz กับ M.2 NVMe SSD รองรับความจุช่องละ 2 TB อินเทอร์เฟสเป็น PCIe 5.0 x4 คู่กับ PCIe 4.0 x4 รวม 2 ช่อง ไดรฟ์หลักมีความจุ 1 TB ตั้งต้นจากโรงงานแล้วและมีความเร็วสูง อย่างมากก็ซื้อ SSD 2 TB มาติดเพิ่มก็พอใช้งานได้สบายๆ

วิธีการเปิดฝาอัพเกรดค่อนข้างยากเพราะ Lenovo ซีลเครื่องมาแน่นแข็งแรงจึงถอดออกยาก ให้เริ่มต้นเมื่อขันน็อต Philips Head ออกให้หมด ค่อยใช้การ์ดแข็งหรือปิ๊กกีตาร์เบิกร่องเอาไว้แล้วใช้อีกชิ้นแแกะตามร่องไปรอบตัว แนะนำให้เริ่มจากด้านข้างพอร์ต LAN ไล่ลงไปยังลำโพงกับ LED Lightbar ขึ้นไปอีกฝั่งจะง่ายสุด สุดท้ายค่อยดึงให้ตะเข็บใต้ช่องระบายความร้อนหลวมแล้วหลุดจากตัวเครื่องจะเปิดฝาได้ปลอดภัยแล้วตะเข็บไม่แตกเสียหายแน่นอน

Lenovo Legion Pro 7 16IAX10H

จุดอัพเกรด RAM, SSD ของ Lenovo Legion Pro 7 16IAX10H จะอยู่ใต้เพลตโลหะ Legion ตรงกลางเครื่อง ดังนั้นต้องไล่ขันน็อต Philips Head ออกอีกรอบด้วยไขควงหัวแฉกขนาดเล็ก น็อตจะอยู่ตรงใต้พัดลมฝั่งซ้ายหนึ่งคู่, ฝั่งซ้ายเหนือแบตเตอรี่, บนพัดลมตัวที่สามอีก 4 ดอก ปิดท้ายด้วยน็อตใต้พัดลมขวาอีกคู่ จะถอดเพลตโลหะออกมาได้

เริ่มต้นจากฝั่งซ้ายใต้ Wi-Fi PCIe card เป็นอินเทอร์เฟส PCIe สำหรับ M.2 NVMe SSD เปิดโล่งไว้ ฝั่งขวาเป็น SSD หลักขนาด M.2 2242 อยู่ถัดจาก RAM 32 GB DDR5 ของ Lenovo Legion Pro 7 16IAX10H ถ้าต้องการเปลี่ยนเป็น M.2 2280 ก็มีฐานรองรับแล้ว สามารถถอดอันเก่าออกใส่อันใหม่ได้ทันที


Performance & Software

Lenovo Legion Pro 7 16IAX10H

หัวใจหลักของ Lenovo Legion Pro 7 16IAX10H เป็นซีพียู Intel Core Ultra 9 275HX แบบ 24 คอร์ 24 เธรด ความเร็วสูงสุด 5.4 GHz สถาปัตยกรรม Arrow Lake แยกเป็นคอร์หลัก (P-Cores / Performance Cores) 8 แกน เสริมด้วยคอร์รอง (E-Cores / Efficient Cores) อีก 16 แกน มี Intel Thread Director (Intel ITD) ไว้จัดสรรงานให้อัตโนมัติ มีค่า TDP พื้นฐาน 55W รองรับชุดคำสั่งพื้นฐานครบถ้วนจึงใช้ทำงานได้รอบด้าน

แง่ประสิทธิภาพหากเทียบกับ Intel Core Ultra 9 285K ของ Desktop PC ซึ่งสเปคไล่เลี่ยกันด้วย CPU-Z Benchmark จะเห็นว่าคะแนน Multi Thread คำนวณผลต่างได้ 5% และ Single Thread ต่างกันเพียง 4% นับว่าดีไม่แพ้กันแน่นอน

RAM มีติดตั้งมาจากโรงงาน 32 GB DDR5 บัส 6400 MHz อัพเกรดเพิ่มไปได้ถึง 64 GB ในแง่ใช้งานจริงเพียงเท่านี้ก็มากพอใช้งานในชีวิตประจำวันและเล่นเกมได้ดีมาก ไม่ต้องอัพเกรดเพิ่มก็ยังได้ ยกเว้นใครนำไปทำงาน Programming แล้วความจุนี้ไม่พอค่อยเพิ่มก็ยังได้

Lenovo Legion Pro 7 16IAX10H

จีพียูของเครื่องทดสอบเป็น NVIDIA GeForce RTX 5070 Ti มี VRAM 12 GB GDDR7 รุ่น TGP 140W มี CUDA 5,888 Unified รองรับ Dynamic Boost ให้จีพียูจัดสรรกำลังไฟกับซีพียูโดยอัตโนมัติรวมถึง Resizable BAR ให้ซีพียูเชื่อมต่อ VRAM ได้โดยตรงเพื่อประมวลผลได้รวดเร็วขึ้น รองรับชุดคำสั่ง DirectX 12, OpenCL, OpenGL 4.6, CUDA, DirectCompute, DirectML, Vulkan และ Ray Tracing ครบถ้วน

หากเกมเมอร์คนไหนมีงบประมาณแล้วต้องการการ์ดจอดีกว่านี้ ยังมีรุ่นติดตั้งการ์ดจอ GeForce RTX 5080 กับ RTX 5090 ให้เลือก แต่ราคาก็จะสูงขึ้นอีกพอสมควร

Lenovo Legion Pro 7 16IAX10H

ด้านชิปรักษาความปลอดภัยใน Lenovo Legion Pro 7 16IAX10H มี TPM 2.0 ติดตั้งมาเป็นพื้นฐานเพื่อทำงานร่วมกับ Windows Hello ไว้รักษาความปลอดภัยของข้อมูล ขาดแค่เซนเซอร์ Biometric ซึ่งคาดหวังว่า Lenovo จะติดตั้งเป็นอุปกรณ์พื้นฐานในรุ่นถัดๆ ไปเพื่อความสะดวกปลอดภัยของผู้ใช้งานด้วย

Lenovo Legion Pro 7 16IAX10H

ชิป Wi-Fi PCIe เป็นรุ่น Intel Wi-Fi 7 BE200 ตามสเปครองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 2.4 GHz / 5 GHz / 6 GHz ความเร็วสูงสุด 5.8 Gbps (320 MHz, 4096-QAM) รองรับ Bluetooth 5.4 ในตัว เป็นเทคโนโลยีล่าสุดสำหรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบไร้สายได้

ความเร็วจากการทดสอบกับเว็บไซต์ Speedtest by Ookla โดยตั้งเครื่องห่างจากจุดกระจายสัญญาณ 10 เมตร คั่นด้วยประตูไม้อัด 1 บาน ทำความเร็ว Download 830.05 Mbps และ Upload 827.78 Mbps ค่า Ping 8ms, Download Latency 13ms, Upload Latency 9ms เหมาะกับการใช้งานทุกรูปแบบไม่ว่าจะเข้าเว็บไซต์, เล่นเกม, ประชุมงานออนไลน์หรือดูคลิปผ่านแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งต่างๆ ก็เหมาะมาก

Lenovo Legion Pro 7 16IAX10H

M.2 NVMe ในเครื่องเป็น Samsung OEM SSD ซึ่ง Lenovo Legion Pro 7 16IAX10H จะได้ความจุ 1 TB ตั้งต้นมาให้แน่นอน อินเทอร์เฟสเป็น PCIe 4.0 x4 มีจุดเด่นตรงเป็น NVM Express 2.0 ใหม่ มีข้อดีตรงการจัดการจัดการข้อมูลภายในดีขึ้น ผลการทดสอบกับโปรแกรม CrystalDiskMark 8.0.5 แล้วมีความเร็วสูง เขียนอ่านข้อมูลขนาดเล็กใหญ่ได้ดีจึงเหมาะกับงานทุกรูปแบบ สังเกตเรื่องอุณหภูมิของเซนเซอร์ใน CPUID HWMonitor จะเห็นว่าความร้อนสูงสุดของมันยังไม่เกิน 65 องศาเซลเซียส จึงไม่มีปัญหาเรื่องไดรฟ์ร้อนจนเสื่อมสภาพเร็วแน่นอน

ในกรณีนี้ SSD 1 TB ตั้งต้นจากโรงงานมีความเร็วสูงพอจนไม่มีความจำเป็นต้องเปลี่ยนเป็นรุ่นอื่นก็ได้ แต่แนะนำให้ซื้อ SSD 2 TB มาติดเพิ่มเอาไว้เก็บไฟล์งานหรือติดตั้งเกมแทนจะดีกว่า แนะนำเป็น Samsung 990 EVO Plus, ADATA LEGEND 860 หรือ Transcend MTE220S ก็น่าสนใจ

งานหลักของ Lenovo Legion Pro 7 16IAX10H อย่างการเล่นเกมก็ทำคะแนนได้ดีน่าสนใจทีเดียว ถ้าสังเกตผลการทดสอบจะเห็นว่าโน๊ตบุ๊คนี้เหมาะกับการเล่นเกมบนจอความละเอียด 1440p ขึ้นไปมาก และยังเปิด Ray Tracing เสริมก็ไม่มีปัญหาเหมือนกัน โดยผลคะแนนจากโปรแกรม 3DMark แต่ละเวอร์ชั่นจะเป็นดังนี้

  • Fire Strike (จำลองการเล่นเกมชั้นนำบนหน้าจอความละเอียด Full HD ใช้ DirectX 11 API) – คะแนนเฉลี่ย 33,514 คะแนน แยกเป็น Graphics score 47,119 คะแนน, Physics score 49,900 คะแนน, Combined score 9,162 คะแนน
  • Fire Strike Extreme (จำลองการเล่นเกมชั้นนำบนหน้าจอความละเอียด QHD ใช้ DirectX 11 API) – คะแนนเฉลี่ย 21,882 คะแนน แยกเป็น Graphics score 22,305 คะแนน, Physics score 49,643 คะแนน, Combined score 11,048 คะแนน
  • Fire Strike Ultra (จำลองการเล่นเกมชั้นนำบนหน้าจอความละเอียด UHD ใช้ DirectX 11 API) – คะแนนเฉลี่ย 12,143 คะแนน แยกเป็น Graphics score 11,629 คะแนน, Physics score 54,538 คะแนน, Combined score 6,622 คะแนน
  • Time Spy (จำลองการเล่นเกมชั้นนำบนหน้าจอความละเอียด QHD ใช้ DirectX 12 API) – คะแนนเฉลี่ย 18,367 คะแนน แยกเป็น CPU score 17,577 คะแนน Graphics score 18,515 คะแนน
  • Time Spy Extreme (จำลองการเล่นเกมชั้นนำบนหน้าจอความละเอียด UHD ใช้ DirectX 12 API) – คะแนนเฉลี่ย 9,132 คะแนน แยกเป็น CPU score 12,909 คะแนน Graphics score 8,684 คะแนน
  • Solar Bay (ทดสอบการเรนเดอร์ Ray Tracing ว่ารันได้ดีต่อเนื่องหรือไม่ แต่ละ section การทดสอบจะเพิ่มรายละเอียดให้ใช้กำลังจีพียูมากขึ้น) – คะแนนเฉลี่ย 88,077 คะแนน, Graphics test 334.89 FPS / Section 1 ได้ 353.11 FPS / Section 2 ได้ 336.02 FPS / Section 3 ได้ 312.96 FPS
  • Steel Nomad (จำลองการเล่นเกมชั้นนำบนหน้าจอความละเอียด UHD ใช้ DirectX 12 API) – คะแนนเฉลี่ย 4,152 คะแนน ได้ Graphics test 41.53 FPS

นอกจากคะแนนจากโปรแกรมทดสอบจะดี เฟรมเรทของแต่ละเกมก็ทำได้สูงและเล่นได้ไหลลื่นพอควรบนความละเอียด 2560*1600 พิกเซล ถึงไม่ได้ใช้ Upscaling หรือ Frame Generation ช่วยก็ยังใช้แต่กำลังของฮาร์ดแวร์ทำงานแทนได้เช่นกัน สังเกตว่าเฟรมเรทเฉลี่ยหลายเกมจะได้เกินหลักร้อยเฟรมแทบทั้งหมดยกเว้นบางเกมถ้าไม่ได้ Optimize มาให้ดีหรือเน้นพึ่ง NVIDIA DLSS มากเกินไปจะได้เฟรมเรทไม่เกินหรือแตะช่วง 60 FPS เท่านั้น ด้านประสบการณ์การเล่นแต่ละเกมเป็นดังนี้

  • Hogwarts Legacy – หลังจากถูก Optimize มาแล้วเกมก็เล่นได้ดีจนไม่ต้องพึ่ง NVIDIA DLSS ก็ได้ เวลาปะทะศัตรูหรือเดินทางผ่านฉากแล้วเจอฝุ่น, แสงหรือเงาเฟรมเรทก็ยังไม่ตกมาก ถ้าเปิดใช้งานจะได้เฟรมเรทเพิ่มขึ้นจนขยับจากความละเอียด QHD ไป UHD ได้สบายมาก
  • Call of Duty: Modern Warfare II – ถึงจะตั้งค่ากราฟิคสูงสุดก็ยังเล่นได้ดีมากและต่อให้เจอฉากระเบิด, แสงเงาหรือน้ำ เฟรมเรทต่ำสุดก็ยังลดไปอยู่ในระดับพอให้เล่นได้ไหลลื่น ถ้าใช้ NVIDIA DLSS เสริมก็เล่นบนความละเอียด UHD ได้ทันที
  • Monster Hunter Wilds – ถึงจะปรับปรุงตัวเกมมาจนถึง TU3 (Title Update 3) ซึ่งเป็นแพทช์ใหญ่แล้ว ก็ยังต้องพึ่ง NVIDIA DLSS กับ Frame Generation อยู่ดี เวลาเล่นโดยไม่พึ่ง Upscaling นอกจากเฟรมเรทจะหน่วงเป็นระยะๆ จนเสียจังหวะเวลาปะทะมอนสเตอร์หรือเดินฉากแล้ว บางจังหวะภาพเกิดอาการซ้อนหรือเรนเดอร์ผิดจนเสียสวยได้เหมือนกัน
  • God of War – ถึงตั้งค่ากราฟิคสูงสุดภาพก็ยังลื่นไหลต่อเนื่อง ไม่เจออาการเฟรมเรทตกวูบและเข้าปะทะกับศัตรูได้โดยไม่มีปัญหา ถ้าเปิด NVIDIA DLSS เสริมก็เล่นบนจอความละเอียด UHD ได้ทันที
  • Black Myth: Wukong – จำเป็นต้องเปิด NVIDIA DLSS และ Frame Generation ช่วย ถึงจะเล่นได้ดีแล้วไม่เจอปัญหาเฟรมเรทตกหรือหน่วงกะทันหันเวลาปะทะกับศัตรู แนะนำให้เล่นบนความละเอียด QHD เป็นหลักและถ้าต่อหน้าจอความละเอียด UHD แนะนำให้ลดกราฟิคจากระดับ Cinematic เหลือเพียง High หรือ Very High จะดีกว่า
  • Forza Horizon 5 – เล่นได้ไหลลื่นโดยไม่ต้องเปิด NVIDIA DLSS ช่วยแม้แต่น้อย เพราะเฟรมเรทเฉลี่ยขึ้นทะลุไปเกิน 120 FPS ภาพจึงไหลลื่นแล้วและเวลาเจอฝุ่น, น้ำหรือแสงเงาก็ยังเล่นได้ต่อเนื่อง ถ้าใช้ Upscaling เสริมก็เล่นบนหน้าจอ UHD ได้ทันที
  • Cyberpunk 2077 – ถึงสมรรถนะของซีพียูกับจีพียูจะสูง แต่เฟรมเรทก็ยังแค่ใกล้เคียง 60 FPS จึงควรเปิด NVIDIA DLSS Quality ช่วยจะได้เฟรมเรทเฉลี่ยในระดับเล่นได้ลื่นไหล ไม่เจออาการภาพหน่วงหรือเฟรมเรทลดกะทันหันเวลาเดินทางในฉากหรือปะทะศัตรู แนะนำให้เล่นบนความละเอียด QHD และถ้าใช้ Frame Generation จะเล่นบนจอความละเอียด UHD ได้ ถ้าใช้ Multi Frame Generation ก็ใช้ Path Tracing เสริมเพื่อแสงเงาสวยสมจริงยิ่งขึ้นได้อีกต่อ

ถ้าใช้เป็นโน๊ตบุ๊คทำงาน Lenovo Legion Pro 7 16IAX10H ก็เหมาะเหมือนกัน โดยเฉพาะกลุ่มครีเอเตอร์ต้องการซื้อไว้ทำงานตัดต่อวิดีโอหรือเรนเดอร์ 3D CG ก็เหมาะเพราะซีพียู Intel Core Ultra 9 275HX ทำคะแนนกับโปรแกรม CINEBENCH ได้ดีมาก โดยแต่ละเวอร์ชั่นจะได้คะแนนดังนี้

  • 2024 – ใช้ทดสอบประสิทธิภาพของซีพียูกับจีพียูอย่างหนักพร้อมกันโดยใช้เอนจิ้น Redshift สำหรับอุตสาหกรรมภาพยนต์ ได้ CPU (Multi-Core) 2,218 pts และ CPU (Single Core) 137 pts
  • R23 – ใช้ทดสอบพลังประมวลผลของซีพียูเป็นหลัก มีความละเอียดและแม่นยำสูง ได้คะแนน Multi Core 38,157 pts และ Single Core อีก 2,208 pts
  • R20 – ใช้ทดสอบกำลังประมวลผลของซีพียูเป็นหลัก ได้คะแนน CPU 15,524 pts

กรณีใช้ Blender ปั้นโมเดล 3D เป็นประจำก็เหมาะ สังเกตปริมาณ Sample ที่ฮาร์ดแวร์แต่ละชิ้นปั้นได้ใน 1 นาที ถือว่าดีมาก สามารถ Preview และหมุนดูโมเดลได้ลื่นไหลมาก โดยผลการทดสอบแต่ละชิ้นส่วนได้ผลดังนี้

Test / Sample
(ยิ่งมากยิ่งดี)
Intel Core Ultra 9 275HXIntel GraphicsNVIDIA GeForce RTX 5070 Ti
monster2581522,689
junkshop1701011,537
classroom125931,450

คะแนนการทดสอบกับโปรแกรมตระกูล Geekbench ทุกเวอร์ชั่นกับ Lenovo Legion Pro 7 16IAX10H ก็ทำได้ดี เริ่มต้นจากซีพียู Intel Core Ultra 9 275HX ได้คะแนนดังนี้

  • Geekbench 6 – ใช้ทดสอบว่าซีพียูสามารถประสานงานกับหน่วยความจำในเครื่องได้ดีหรือไม่ โดยจำลอง workloads งานประเภทการบีบอัดข้อมูล (data compression), การประมวลผลภาพ (image processing), Machine Learning และ Compile code มาทดสอบ
    • Windows AVX2 (Advanced Vector Extension 2) ชุดคำสั่งเสริมจาก AVX พื้นฐาน ใช้ทดสอบคำนวน vector integer ได้รวดเร็วหรือไม่ ถ้าเป็น Single-Core ทำได้ 3,124 คะแนน และ Multi-Core ได้ 21,213 คะแนน
  • Geekbench ML ทดสอบด้วย ONNX CPU – ใช้ทดสอบว่าฮาร์ดแวร์ชิ้นนั้นสามารถใช้งานโปรแกรม Machine Learning ได้ดีหรือไม่ ในส่วนนี้ทำได้ 6,125 คะแนน
  • Geekbench AI – คำนวณว่าซีพียูสามารถรันการทำงานกับโปรแกรม AI ต่างๆ ได้แม่นยำหรือรวดเร็วหรือไม่ แบ่งเป็น Single Precision เน้นความเที่ยงตรง, Half precision เน้นความเร็วมากขึ้นและลดความแม่นยำลง และ Quantized Score เน้นความเร็วแต่ไม่แม่นยำนัก
    • ONNX ได้คะแนน Single Precision 7,186 คะแนน, Half precision 2,673 คะแนน และ Quantized Score 11,941 คะแนน
    • OpenVINO (CPU) ได้ Single Precision 9,722 คะแนน, Half precision 10,009 คะแนน และ Quantized Score 16,944 คะแนน
    • OpenVINO (NPU) ได้ Single Precision 9,898 คะแนน, Half precision 10,314 คะแนน และ Quantized Score 15,944 คะแนน

ถัดมาเป็นจีพียู Intel Graphics ได้ผลดังนี้

  • Geekbench 6 – ใช้ทดสอบว่าจีพียูสามารถประสานงานกับหน่วยความจำในเครื่องได้ดีหรือไม่ โดยจำลอง workloads งานประเภทการบีบอัดข้อมูล (data compression), การประมวลผลภาพ (image processing), Machine Learning และ Compile code มาทดสอบ
    • OpenCL, Windows AVX2 (Advanced Vector Extension 2) ชุดคำสั่งเสริมจาก AVX พื้นฐาน ใช้ทดสอบ vector integer ด้วย OpenCL framework ทำได้ 19,314 คะแนน
    • Vulkan, Windows AVX2 (Advanced Vector Extension 2) ชุดคำสั่งเสริมจาก AVX พื้นฐาน ใช้ทดสอบคำนวน vector integer ด้วย Vulkan framework ทำได้ 151,291 คะแนน
  • Geekbench ML ทดสอบด้วย ONNX DirectML – ใช้ทดสอบว่าฮาร์ดแวร์ชิ้นนั้นสามารถใช้งานโปรแกรม Machine Learning ได้ดีหรือไม่ ในส่วนนี้ทำได้ 3,632 คะแนน
  • Geekbench AI ทดสอบว่าสามารัน AI ได้ดีหรือไม่
    • ONNX DirectML – Single Precision 4,387 คะแนน, Half precision 6,180 คะแนน และ Quantized Score 2,973 คะแนน
    • OpenVINO – Single Precision 5,697 คะแนน, Half precision 9,125 คะแนน และ Quantized Score 13,577 คะแนน

สุดท้ายการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 5070 Ti ได้ผลคะแนนดังนี้

  • Geekbench 6 – ใช้ทดสอบว่าจีพียูสามารถประสานงานกับหน่วยความจำในเครื่องได้ดีหรือไม่ โดยจำลอง workloads งานประเภทการบีบอัดข้อมูล (data compression), การประมวลผลภาพ (image processing), Machine Learning และ Compile code มาทดสอบ
    • OpenCL, Windows AVX2 (Advanced Vector Extension 2) ชุดคำสั่งเสริมจาก AVX พื้นฐาน ใช้ทดสอบคำนวน vector integer ด้วย OpenCL framework ทำได้ 183,481 คะแนน
    • Vulkan, Windows AVX2 (Advanced Vector Extension 2) ชุดคำสั่งเสริมจาก AVX พื้นฐาน ใช้ทดสอบคำนวน vector integer เป็นหลักด้วย Vulkan framework ทำได้ 19,901 คะแนน
  • Geekbench ML ทดสอบด้วย ONNX DirectML – ใช้ทดสอบว่าฮาร์ดแวร์ชิ้นนั้นสามารถใช้งานโปรแกรม Machine Learning ได้ดีหรือไม่ ในส่วนนี้ทำได้ 20,184 คะแนน
  • Geekbench AI ทดสอบว่าสามารัน AI ได้ดีหรือไม่
    • ONNX DirectML – Single Precision 26,920 คะแนน, Half precision 48,968 คะแนน และ Quantized Score 20,378 คะแนน

จากผลการทดสอบทั้งหมดสรุปได้ว่า Lenovo Legion Pro 7 16IAX10H เหมาะกับการใช้งานทุกรูปแบบ ทั้งใช้เล่นเกมตามปกติก็เหมาะมากเพราะได้ซีพียูประสิทธิภาพสูงของ Intel จับคู่กับการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 50 Series เริ่มต้นจาก RTX 5070 Ti ก็เล่นเกมชั้นนำได้ดีมากด้วย NVIDIA DLSS Upscaling และ Multi Frame Generation สามารถขยับไปเล่นบนความละเอียด UHD ได้สบายมาก ถ้าพร้อมจ่ายเพิ่มก็ขยับเพิ่มรุ่นไปได้จน RTX 5090 ก็ได้

นอกจากเกมและความบันเทิง Lenovo Legion Pro 7 16IAX10H ก็ทรงพลังพอใช้ทำงานได้ทุกแบบไม่ว่าจะทำงานครีเอเตอร์, โปรแกรมมิ่ง, Machine Learning, AI และ STEM ก็ไม่เกี่ยง พื้นฐานของ Legion Pro 7 เองก็ทำได้อยู่แล้ว เจ้าของเพียงหาอุปกรณ์เสริมหรือเพิ่ม SSD อีกสักตัวก็ช่วยได้มาก

Lenovo Legion Pro 7 16IAX10H

ซอฟท์แวร์หลักใน Lenovo Legion Pro 7 16IAX10H จะมี 2 ตัว แยกกันตามจุดประสงค์การใช้งาน เช่น Legion Space จะออกแบบมาเน้นเรื่องการเล่นเกมโดยเฉพาะ ทั้งตั้งค่าไฟ RGB, เปลี่ยนโหมดตัวเครื่อง, เป็นศูนย์รวมเกมทั้งหมดในเครื่อง ฯลฯ ให้เกมเมอร์เปิดใช้งานได้สะดวก

Lenovo Legion Pro 7 16IAX10H

โปรแกรมตัวหลักประจำโน๊ตบุ๊ค Lenovo ทุกรุ่นอย่าง Lenovo Vantage ก็มีเช่นกัน โดยรวมการตั้งค่าโดยละเอียดไว้ ทั้งรูปแบบการแสดงผล, ชาร์จไฟ, เสียง ฯลฯ เอาไว้ทั้งหมด รวมถึงระบบการอัพเดตเฟิร์มแวร์ให้ฮาร์ดแวร์เป็นเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด แนะนำให้เปิดเช็คเดือนละครั้งจะช่วยให้ Lenovo Legion Pro 7 16IAX10H ทำงานได้ดีและเสถียรยิ่งขึ้น


Battery & Heat & Noise

Lenovo Legion Pro 7 16IAX10H

แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนความจุ 99.9Whr ใน Lenovo Legion Pro 7 16IAX10H วัดค่าเป็น Typical capacity 6,437mAh และ Rated capacity 6,314mAh ผลิตโดยบริษัท Zhejiang Sunwoda Electronic Co., Ltd. เป็นความจุสูงสุดซึ่งอนุญาตให้พกขึ้นเครื่องบินได้โดยไม่ต้องขออนุญาตตามกฏของ IATA วางตัวยาวสุดขอบลำโพงฝั่งซ้ายสู่ฝั่งขวาใกล้ไฟ LED Lightbar ขอบด้านหน้าเครื่อง

ระยะเวลาใช้งานจากการทดสอบตามมาตรฐานของทางเว็บไซต์ เริ่มจากลดความสว่างหน้าจอให้เหลือ 50% และเปิดเสียงลำโพงดัง 10% เลือกใช้โหมดประหยัดพลังงานของ Lenovo และดูคลิป YouTube ด้วย Microsoft Edge นาน 30 นาที จะใช้งานได้นาน 5 ชม. 1 นาที พอให้พกเข้าประชุมงานกับลูกค้าไปจนระดับ Town hall ก็ไม่มีปัญหา และชาร์จไฟด้วยอะแดปเตอร์หรือพาวเวอร์แบงค์กำลังไฟ 100W เข้าทาง USB-C Full Function เพื่อยืดระยะเวลาใช้งานออกไปได้ด้วย ในฐานะว่า Legion Pro 7 เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คระดับเรือธงซึ่งปกติมักใช้งานด้วยแบตเตอรี่ได้ราว 3~4 ชม. เท่านั้น เมื่อทำได้เกินกว่ารุ่นอื่นก็ถือเป็นเรื่องดี

Lenovo Legion Pro 7 16IAX10H

ถัดขึ้นไปยังชุดระบายความร้อน Legion Coldfront จะพิเศษกว่า Lenovo Legion รุ่นอื่น เพราะเป็นแบบ Vapor Chamber ซึ่งทางบริษัทเรียกว่า HyperChamber จึงปิดชิปเซ็ตซีพียูกับจีพียูไปทั้งหมดและมีพัดลมระบายความร้อนหลัก 2 ตัว เสริมด้วยตัวเล็กอัดลมเย็นตรงเข้าจีพียูโดยเฉพาะ ถ้าเปิดโหมด Auto เอาไว้ ชิปเซ็ต Lenovo AI Engine+ จะช่วยจัดการปรับรอบพัดลมให้และถ่ายเทกำลังไฟฟ้าให้เหมาะสมเพื่อดึงศักยภาพสูงสุดออกมาโดยอัตโนมัติ

อย่างไรก็ตาม ชิปเซ็ตประสิทธิภาพดีสุดจาก Intel กับ NVIDIA ก็ทำอุณหภูมิได้สูงพอควร แม้บนพื้นผิวจะอยู่ในระดับ 26~36 องศาเซลเซียสก็ตาม แต่ถ้าเลยคีย์บอร์ดขึ้นไปจะมีความร้อนสูงขึ้นเกิน 40 องศาเซลเซียสทันที จึงแนะนำว่าถ้าใช้งาน Lenovo Legion Pro 7 16IAX10H หนักบ่อยๆ ควรหาแท่นวางโน๊ตบุ๊คแบบมีพัดลมระบายความร้อนกำลังสูงอัดลมเข้าระบบเพิ่มก็จะดีมาก ด้านชิ้นส่วนภายในจากโปรแกรม CPUID HWMonitor จะมีอุณหภูมิดังนี้

ชิ้นส่วน / อุณหภูมิ (เซลเซียส)อุณหภูมิต่ำสุดอุณหภูมิสูงสุด
CPU Package44103
CPU P-Cores44102
E-Cores4284
RAM (1)42.548.8
RAM (2)42.344.5
SSD Assembly3941
SSD Controller (Sensor 1)4150
SSD NAND (Sensor 2)3941
GPU Chipset3867
GPU Memory4874

พอทำงานเต็มกำลัง เสียงของพัดลมระบายความร้อน Legion Coldfront ก็ได้ยินเสียงค่อนข้างชัดเจน วัดจากเครื่องวัดเสียงด้านหน้าดังราว 55dB และด้านหลัง 60dB เทียบแล้วก็พอกับเสียงพูดคุยของมนุษย์ตามปกติ ถ้าเปิดใช้งานเต็มกำลังในออฟฟิศหรือห้องส่วนตัวก็ไม่มีปัญหานัก แต่ไม่แนะนำในพื้นที่สาธารณะนัก


User Experience

Lenovo Legion Pro 7 16IAX10H

ถ้ายกยอดเรื่องสเปคของ Lenovo Legion Pro 7 16IAX10H ซึ่งถูกเซ็ตอัพมาให้สมฐานะรุ่นเรือธงแล้ว จุดน่าประทับใจของโน๊ตบุ๊ค Lenovo คือรายละเอียดซึ่งครบเครื่อง ยิ่งถ้าเป็นรุ่นเรือธงยิ่งน่าสนใจ นำสายตาตั้งแต่ไฟ RGB รอบตัวตั้งแต่โลโก้ Legion บนฝาหลัง, ช่องระบายความร้อน, ขอบด้านหน้าและคีย์บอร์ด TrueStrike ซึ่งทำงานร่วมกันได้ลงตัวและเปลี่ยนแสงสีได้ตามโดยตั้งค่าใน Legion Space หรือใช้คีย์ลัดได้ แถมการยิงทรายบนบอดี้อลูมิเนียมก็ทำให้สัมผัสเวลาจับถือหรือวางใช้งานดูพิเศษกว่ารุ่นอื่นเป็นพิเศษ แต่ตัวเครื่องขนาด 16 นิ้ว แม้บางคนจะคิดว่าไล่เลี่ยกับกลุ่ม 15.6 นิ้ว ก็ตาม แต่จากการทดลองใช้งานและพกเครื่องไปกลับออฟฟิศแนะนำให้หากระเป๋าเป้สำหรับโน๊ตบุ๊ค 17.3 นิ้วมาใช้จะดีกว่า เพราะเครื่องค่อนข้างหนาแถมยังมีอะแดปเตอร์ 400W ลูกใหญ่ด้วย ถ้าใช้กระเป๋าทั่วไปอาจใส่ของจำเป็นไปด้วยไม่ได้

เรื่องการเล่นเกมหรือทำงานก็ทำได้ดีมาก ด้วยสเปคของ Lenovo Legion Pro 7 สามารถเล่นเกมชั้นนำบนความละเอียด 1440~2160p ตั้งค่ากราฟิคสูงสุดได้สบายมาก ไม่ต้องห่วงว่าจะเล่นเกมไหนไม่ได้เพราะ NVIDIA ใส่ลูกเล่นเสริมอย่าง NVIDIA DLSS กับ Frame Generation มาแล้วและแก้ทางด้วย NVIDIA Reflex จึงตัดปัญหาเรื่องเฟรมเรทสูงแลก Input Lag ไปได้ทันที ถึงเปิดใช้ 4X Multi Frame Generation ก็ไม่เจอปัญหาว่ากดยิงหรือตีศัตรูแล้วหน่วงสักครั้ง

Lenovo Legion Pro 7 16IAX10H

ใจความสำคัญของ Lenovo Legion Pro 7 16IAX10H ต้องยกให้จอ OLED ซึ่งเด่นเรื่องสีสันสดจัดจ้าน ได้ค่า Refresh Rate สูง มี NVIDIA G-SYNC แล้วยิ่งดึงให้นั่งเล่นเกมและดูคอนเทนต์ไปเรื่อยๆ จนกลับมาใช้หน้าจอ IPS ตามปกติยังมีความรู้สึกว่าสีของพาเนลดูจืดไปนิดหน่อยทีเดียว และทางบริษัทยังเสริมเทคโนโลยีใหม่เข้ามาในพาเนลนี้เพื่อลดอาการจอเบิร์นแล้วทดสอบมาแล้วว่าใช้งานได้ต่อเนื่องไม่มีปัญหาแน่นอน นอกจากนี้ยังต่อหน้าจอแยกเพิ่มได้อีก 3 บาน ด้วย HDMI 2.1, USB-C Full Function และ Thunderbolt 4 (DisplayPort 2.1) ยิ่งได้พื้นที่ Desktop ไว้ใช้งานได้อีกซึ่งมีประโยชน์แน่นอน

สเปคและฟีเจอร์โดยรวมถือว่าลงตัวแล้วแต่ยังมีข้อสังเกตอยู่บ้าง อย่างระบบระบายความร้อน Legion Coldfront เวลาทำงานเต็มกำลังจะดังพอกับเสียงพูดของมนุษย์อย่างเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นแนะนำให้ซื้อแท่นวางโน๊ตบุ๊คแบบมีพัดลมมาเสริมเพื่อให้อากาศเย็นเข้าไปไหลเวียนได้มากขึ้นให้ระบบลดรอบพัดลมและอุณหภูมิลงไปได้อีกระดับหนึ่ง และถ้าใครห่วงเรื่องอุณหภูมิสูงสุดจะร้อนแล้วค้างอยู่อย่างนั้นก็ไม่ต้องกังวล เพราะตอนใช้งานจริงไม่ว่าจะทำงานหรือเล่นเกมมันจะพีคจนเกิน 100 องศาเซลเซียสเพียงไม่นานแล้วลดลงมาอยู่ 80~90 องศาเซลเซียส ในเวลาไม่นานมาก

อย่างไรก็ตามอยากเสนอให้ Lenovo เพิ่มเซนเซอร์สแกนใบหน้าหรือลายนิ้วมือมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานให้ Legion Pro 7 และ Pro 5 ในอนาคต นั่นเพื่อความสะดวกเวลาปลดล็อคเครื่องได้ง่ายและปลอดภัยเวลายืนยันตัวทำธุรกรรมออนไลน์แบบใดก็ตาม อาจจะติดมากับกล้องเว็บแคมหรืออัพเกรดปุ่ม “Legion O” ให้มีฟังก์ชั่นมากขึ้นก็เหมาะทั้งคู่


Conclusion & Award

Lenovo Legion Pro 7 16IAX10H

โดยสรุปแล้ว Lenovo Legion Pro 7 16IAX10H ก็ยังเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คซึ่งน่าใช้มาก มีสเปคดีพอให้เล่นเกมชั้นนำได้สบายหรือใช้ทำงานไหนก็ได้สบายมาก สเปคระดับทดแทนเกมมิ่งพีซีได้สบายแต่ก็ยังไม่เสียความเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คเรื่องพกพาง่าย จึงพกไปทำงานแล้วกลับบ้านมาต่อเกมมิ่งเกียร์เซ็ตเป็นคอมเล่นเกมต่อได้ จึงเหมาะกับคนมีอาศัยอยู่คอนโดมิเนียมหรือหอพักซึ่งห้องมีพื้นที่จำกัดมาก แม้ราคาจะสูงสักนิดแต่ถ้ายอมลงทุนซื้อของดีมาใช้สักครั้งก็จะได้เข้าใจแล้วไม่ผิดหวังแน่นอน

Award

Best Features

ฟีเจอร์ประจำตัว Lenovo Legion Pro 7 16IAX10H นั้นมีให้ใช้เพียบ ไม่ว่าจะชิป AI Engine+ ไว้ปรับเปลี่ยนโหมดการทำงานโดยอัตโนมัติได้, มีพอร์ตเชื่อมต่อครบเครื่อง, ไฟ RGB รอบตัวสวยงาม ฯลฯ สมกับความเป็นโน๊ตบุ๊คระดับเรือธงมาก

Best Performance

สเปคของ Lenovo Legion Pro 7 แม้จะเป็นรุ่นเริ่มต้นก็ครบจบพร้อมใช้เล่นเกมชั้นนำและ Live streaming ไปพร้อมกันได้สบายหรือจะใช้ทำงานใหญ่ก็ไม่มีปัญหา สามารถเหมาครบจบทุกงานได้สบายมาก


Gallery

Click to comment

บทความน่าสนใจ

IT NEWS

ทางการสหรัฐอเมริกาเปิดเผยความสำเร็จในการ ทลายเครือข่ายลักลอบส่งชิป AI รายใหญ่ ซึ่งมีเป้าหมายนำชิปประมวลผล AI ระดับสูงของ NVIDIA อย่าง H100 และ H200 ส่งออกไปยังประเทศจีนอย่างผิดกฎหมาย มูลค่ารวมสูงถึง 160 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 5,600 ล้านบาท (อ้างอิงอัตราแลกเปลี่ยนราว 35 บาทต่อดอลลาร์) คดีนี้สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ชิป...

IT NEWS

ผลทดสอบ Arc B370 บน Furmark 2 ยังไม่แซงรุ่นก่อน ข้อมูลผลทดสอบล่าสุดของ Intel Arc B370 ซึ่งเป็นกราฟิกแบบฝังตัว (iGPU) รุ่นใหม่บนแพลตฟอร์ม Panther Lake ปรากฏขึ้นในฐานข้อมูล Furmark 2 และสร้างความประหลาดใจพอสมควร เนื่องจากตัวเลขที่ออกมายัง ไม่เหนือกว่า iGPU รุ่นก่อนหน้าอย่าง...

IT NEWS

วงการ GPU และซอฟต์แวร์ด้าน AI กำลังจับตามอง NVIDIA หลังจากเปิดตัวอัปเดตครั้งใหญ่ของ CUDA ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์แกนกลางที่ทำให้บริษัทครองความได้เปรียบในตลาด AI มายาวนาน โดยอัปเดตล่าสุดที่เรียกว่า CUDA Tile ถือเป็นการเปลี่ยนแนวคิดด้านโปรแกรมมิงบน GPU ครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่ง และผู้เชี่ยวชาญด้านชิปชื่อดังอย่าง Jim Keller ถึงขั้นมองว่า “นี่อาจเป็นจุดจบของกำแพงผูกขาด CUDA” เลยทีเดียว...

Buyer's Guide

โน๊ตบุ๊ค 2026 ราคาไม่เกิน 30000 บาท เป็นช่วงราคาซึ่งใครหลายๆ คน พร้อมจ่ายและสเปคก็ดีพอให้ใช้ทำงานได้รอบด้าน แถมในระดับราคานี้ก็หาซื้อรุ่นมีการ์ดจอ NVIDIA ติดมาให้ใช้แต่งภาพตัดคลิปสั้นได้แน่นอน แถมจับคู่กับซีพียูจาก AMD หรือ Intel มาด้วย ดังนั้นสมรรถนะจึงดีพอให้ใช้งานได้รอบด้าน ยิ่งถ้ามี RAM, SSD จากเครื่องเก่าแล้วใช้งานร่วมกันได้ก็นำมาใช้งานไปชั่วคราวในช่วงที่ราคาหน่วยความจำราคาทะยานสูงขึ้นเป็นเท่าตัวได้ด้วย อย่างไรก็ตามโน๊ตบุ๊ค 2026 ราคาไม่เกิน...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก