
หลายคนที่ใช้ Windows 11 อยู่ อาจสังเกตว่าเครื่องบางช่วงเหมือนช้าลง เปิดไฟล์ช้า ค้นหาไฟล์นาน ทั้งที่สเปกไม่ได้แย่อะไร บางครั้งสาเหตุไม่ได้มาจากฮาร์ดแวร์ แต่เกิดจากฟีเจอร์บางอย่างในระบบที่เปิดมาจากโรงงานแล้วกินทรัพยากรทั้ง CPU และ RAM แบบเนียน ๆ โดยเฉพาะเครื่องเก่าหรือโน้ตบุ๊กระดับเริ่มต้น
ในบทความนี้เราจะพาไปรู้จักฟีเจอร์สำคัญ 2 ตัวที่มีผลกับความเร็วของ Windows 11 และวิธีปิดแบบปลอดภัย รวมถึงข้อควรระวังก่อนแก้ไขรีจิสทรี
ฟีเจอร์แรก: Auto Folder Discovery ทำ File Explorer ช้าลงเวลามีไฟล์เยอะ
หนึ่งในสิ่งที่ทำให้ File Explorer บน Windows 11 ช้าลง คือระบบ Auto Folder Discovery หรือฟีเจอร์ที่ช่วย Windows วิเคราะห์โฟลเดอร์ว่ามีไฟล์อะไรอยู่บ้าง เพื่อจัดหมวดหมู่และแสดงผลให้เหมาะสม เช่น รูปภาพ เอกสาร หรือวิดีโอ
ปัญหาคือ ถ้าโฟลเดอร์นั้นมีไฟล์จำนวนมากเป็นร้อยหรือเป็นพันไฟล์ Windows จะต้อง “ประมวลผล” ทุกครั้งที่เปิดโฟลเดอร์นั้น ทำให้ File Explorer หน่วง เปิดช้า และกินทรัพยากรเครื่องโดยเฉพาะ CPU และ RAM
ฟีเจอร์นี้มีประโยชน์สำหรับโฟลเดอร์รูปภาพหรือวิดีโอ แต่ผู้ใช้ส่วนใหญ่เปิดไฟล์งานทั่วไป ไม่ได้ต้องการการจัดหมวดหมู่แบบอัตโนมัติ
ดังนั้น การปิดฟีเจอร์นี้จะช่วยให้เปิดโฟลเดอร์เร็วขึ้น โดยเฉพาะคนที่มีโฟลเดอร์เก็บไฟล์งานจำนวนมาก เช่น ไฟล์โปรเจกต์ โปรแกรม ดาวน์โหลด หรือคลังภาพเกม Mod
ฟีเจอร์สอง: Windows Start Menu Search ที่ชอบค้น Bing ก่อน Local
หลายคนอาจเคยพิมพ์ชื่อโปรแกรมหรือไฟล์ใน Start Menu แล้วรู้สึกว่า “ทำไมมันค้นช้า” ทั้งที่อยู่ในเครื่องแท้ ๆ
นั่นเพราะ Windows 11 เปิดให้ระบบค้นหาออนไลน์ผ่าน Bing แบบ Default แล้วดึงผลลัพธ์จากอินเทอร์เน็ตมาแสดงด้วย ซึ่งต้องใช้เน็ตและเวลา รวมถึง CPU เพื่อประมวลผล
แทนที่จะค้นหาไฟล์ในเครื่องก่อน ระบบกลับไปถาม Bing ก่อน จึงทำให้คนที่อยากแค่เปิดแอปในเครื่องต้องรอแบบงง ๆ
การปิดฟีเจอร์ “Online Search จาก Bing” จะช่วยให้ Start Menu ค้นหาไฟล์หรือโปรแกรมในเครื่องได้เร็วขึ้นทันที
วิธีปิดฟีเจอร์เหล่านี้ (ต้องใช้ Registry Editor)
หมายเหตุสำคัญ: การแก้ไข Registry ต้องทำด้วยความระมัดระวัง ควร Backup ก่อนทุกครั้ง หากผิดพลาดอาจทำให้ระบบทำงานผิดปกติ
การปิด Auto Folder Discovery
- กด Start แล้วพิมพ์
regeditเพื่อเปิด Registry Editor - ไปที่คีย์ดังนี้:
HKEY_CURRENT_USER\Software\Classes\Local Settings\Software\Microsoft\Windows\Shell - คลิกขวา > New > String Value
- ตั้งชื่อว่า
FolderTypeและตั้งค่าค่าเป็นNotSpecified - รีสตาร์ตเครื่อง
การปิด Bing Search ใน Start Menu
- เปิด
regedit - ไปที่:
HKEY_CURRENT_USER\Software\Policies\Microsoft\Windows\Explorer
(ถ้าไม่มีโฟลเดอร์นี้ ให้สร้างขึ้นมาเอง) - New > DWORD (32-bit) Value
- ตั้งชื่อ
DisableSearchBoxSuggestions - ตั้งค่าเป็น
1 - รีสตาร์ตเครื่อง
ใครบ้างที่ควรปิดฟีเจอร์เหล่านี้
การปิดฟีเจอร์เหล่านี้เหมาะมากกับผู้ใช้กลุ่มต่อไปนี้:
- ใช้โน้ตบุ๊กหรือพีซีเก่า
- ใช้ CPU รุ่นเก่า หรือ RAM 8GB หรือน้อยกว่า
- เปิดโฟลเดอร์ที่มีไฟล์เยอะบ่อย ๆ
- รำคาญเวลาค้นหาใน Start Menu แล้วช้า
สำหรับเครื่องแรงจริง ๆ อาจไม่ได้เห็นความต่างมาก แต่สำหรับคนที่ต้องการความลื่นและลดการกินทรัพยากรแล้วถือว่าคุ้มค่าแบบไม่ต้องลงโปรแกรมเพิ่ม
สรุป
Windows 11 ถึงจะมีอัปเดตอยู่เรื่อย ๆ แต่ก็ยังมีฟีเจอร์บางอย่างที่กินทรัพยากรแบบไม่รู้ตัว โดยเฉพาะคนที่ทำงานกับไฟล์ปริมาณมาก หรือพีซีไม่แรง
ฟีเจอร์ที่แนะนำให้ปิดเพื่อเพิ่มความเร็วคือ:
- Auto Folder Discovery ใน File Explorer
- การค้นหาออนไลน์ผ่าน Bing จาก Start Menu
การปิดสองอย่างนี้ช่วยให้ Windows ทำงานเร็วขึ้น เปิดไฟล์ไวขึ้น และลดอาการหน่วงโดยเฉพาะเครื่องเก่า
หากคุณต้องการประสิทธิภาพสูงสุด และไม่ใช้ฟีเจอร์เหล่านี้อยู่แล้ว การปิดคือทางเลือกที่ตอบโจทย์ที่สุด
ที่มา: Neowin





