
ไมโครซอฟท์ (Microsoft) ได้เผยแพร่บทความช่วยเหลือล่าสุดในหัวข้อ KB5070538 ชื่อว่า “Understanding driver updates” เพื่ออธิบายให้ผู้ใช้เข้าใจมากขึ้นว่าเหตุใด Windows บางครั้งถึงติดตั้งไดรเวอร์ที่ดูเหมือนซ้ำกัน หรือบางครั้งเป็นไดรเวอร์ที่มีวันที่เก่ากว่าที่คาดไว้ ซึ่งเป็นประเด็นที่ผู้ใช้จำนวนมากสงสัยกันมานาน
เข้าใจระบบอัปเดตไดรเวอร์ของ Windows
ในบทความดังกล่าว Microsoft ได้อธิบายพื้นฐานเกี่ยวกับไดรเวอร์ว่า มันคือซอฟต์แวร์ที่ทำหน้าที่เป็น “ตัวกลาง” ระหว่างฮาร์ดแวร์กับระบบปฏิบัติการ เพื่อให้ส่วนประกอบต่าง ๆ เช่น การ์ดจอ ชิปเสียง หรืออุปกรณ์ต่อพ่วง สามารถทำงานได้อย่างถูกต้องและเต็มประสิทธิภาพ
Windows มีหลายช่องทางสำหรับติดตั้งหรืออัปเดตไดรเวอร์ เช่น ผ่าน Windows Update, จากเว็บไซต์ของผู้ผลิตอุปกรณ์ (OEM), หรือจากไดรเวอร์ที่มาพร้อมตัวติดตั้งระบบ ซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้ทั่วไปเกิดความสับสน โดยเฉพาะในช่วงที่มีการอัปเกรดจาก Windows 10 ไปยัง Windows 11 ที่ผู้ใช้เริ่มเห็นการอัปเดตไดรเวอร์ถี่ขึ้น
ทำไมไดรเวอร์บางตัวถึงมีชื่อแปลกหรือไม่เหมือนกัน
Microsoft อธิบายว่า ไดรเวอร์รุ่นเก่าจะมีรูปแบบการตั้งชื่อแบบ “Publisher name – Device class – Version number” เช่น Intel – System – 1.2.3.4 ซึ่งต่างจากไดรเวอร์รุ่นใหม่ที่มีระบบชื่ออัตโนมัติแบบใหม่ตามมาตรฐานล่าสุดของ Windows Update ดังนั้นหากผู้ใช้เห็นชื่อแปลก ๆ หรือไม่เหมือนกับเดิม ก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ
ไดรเวอร์เก่า ไม่ได้หมายถึง “ล้าสมัย”
หนึ่งในประเด็นที่ผู้ใช้เข้าใจผิดกันบ่อยคือ “Windows Update ติดตั้งไดรเวอร์เก่า” โดย Microsoft ชี้แจงว่า วันที่ของไดรเวอร์นั้น ไม่ใช่ปัจจัยบ่งชี้ว่าไดรเวอร์นั้นล้าสมัยหรือไม่
วันที่ที่แสดงในคุณสมบัติของไดรเวอร์ (Driver Date) ถูกกำหนดโดยผู้ผลิต ไม่ได้มีผลต่อระบบเลือกติดตั้งแต่อย่างใด สิ่งที่ Windows ใช้พิจารณาจริง ๆ คือ “ไดรเวอร์ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับอุปกรณ์นั้น” ตามเกณฑ์ที่ผู้ผลิตอุปกรณ์ตั้งไว้ เช่น ความเข้ากันได้ ประสิทธิภาพ หรือการรับรองจาก Microsoft
กล่าวคือ ถึงแม้วันที่จะเก่า แต่ถ้าเป็นเวอร์ชันที่เสถียรและได้รับการรับรองจากผู้ผลิต มันก็อาจถูกเลือกให้ติดตั้งแทนเวอร์ชันใหม่ที่ยังไม่ผ่านการทดสอบเต็มรูปแบบ
ทำไมถึงมีไดรเวอร์ซ้ำกันหลายตัว
Microsoft ยังตอบคำถามยอดนิยมอีกข้อว่า ทำไมผู้ใช้บางคนถึงพบว่า Windows ติดตั้งไดรเวอร์ที่ชื่อหรือเวอร์ชันคล้ายกันหลายตัว ซึ่งดูเหมือนจะซ้ำกัน
คำตอบคือ อุปกรณ์บางอย่างมีการแยกฟังก์ชันออกเป็นหลายส่วน เพื่อให้จัดการประสิทธิภาพได้ดีขึ้น เช่น การ์ดจออาจมีไดรเวอร์หลักสำหรับกราฟิก และอีกตัวสำหรับการประมวลผลวิดีโอหรือเสียงในตัว ดังนั้น Windows จึงต้องติดตั้งหลายตัวพร้อมกัน แม้ชื่อหรือหมายเลขเวอร์ชันจะดูซ้ำกันก็ตาม
นอกจากนี้ ผู้ผลิตบางรายอาจใช้ระบบหมายเลขเวอร์ชันที่ไม่เป็นไปตามลำดับตัวเลขทั่วไป (เช่น 100 > 101) ซึ่งทำให้ดูเหมือน “เวอร์ชันเก่า” ทั้งที่จริงแล้วเป็นรุ่นใหม่กว่า Windows เองเข้าใจโครงสร้างนี้และจะติดตั้งเฉพาะไดรเวอร์ที่เหมาะสมกับอุปกรณ์เท่านั้น
สรุป
บทความใหม่ของ Microsoft นี้ถือเป็นแนวทางสำคัญสำหรับผู้ใช้ทั่วไป โดยเฉพาะในยุคที่ผู้ใช้กำลังอัปเกรดสู่ Windows 11 และพบปัญหาเกี่ยวกับไดรเวอร์บ่อยครั้ง ข้อสรุปหลักคือ:
- วันที่ของไดรเวอร์ ไม่ใช่ตัวชี้วัดความใหม่หรือเก่า
- Windows Update จะเลือกติดตั้ง เวอร์ชันที่เหมาะสมที่สุด ตามข้อมูลจากผู้ผลิต
- ไดรเวอร์ที่ดูเหมือน “ซ้ำกัน” อาจเป็นการแยกฟังก์ชันภายในอุปกรณ์เพื่อประสิทธิภาพที่ดีกว่า
ดังนั้น หากเห็น Windows ติดตั้งไดรเวอร์หลายตัว หรือเจอไดรเวอร์ที่วันที่เก่ากว่าคาดไว้ ก็ไม่จำเป็นต้องตกใจ เพราะ Microsoft ยืนยันว่า ระบบรู้ดีว่าอุปกรณ์ของคุณต้องใช้ไดรเวอร์ตัวไหนจึงจะทำงานได้ดีที่สุด
ที่มา: Neowin





