หลังจาก Mechanical Keyboard กลายเป็นเกมมิ่งคีย์บอร์ดยอดนิยมของเกมเมอร์ส่วนใหญ่ไปแล้ว ในตอนนี้ Magnetic Switch คีย์บอร์ดก็เริ่มได้รับความนิยมในหมู่เกมเมอร์สาย FPS มากขึ้นเรื่อยๆ เพราะควบคุมตัวละครได้รวดเร็ว ขยับตัวละครหลบไปมาได้ว่องไวด้วยฟีเจอร์ใหม่อย่าง Snap Tap โดยเฉพาะจังหวะหลบอยู่มุมตึกแล้วขยับตัวออกมาเล็กน้อยเพื่อยิงฉวยจังหวะ ทำให้ผู้พัฒนาเกมบางเกมต้องแบนฟีเจอร์ทิ้งเพื่อความยุติธรรมของเกมเมอร์ทุกคนไปโดยปริยาย
หลักการทำงานของสวิตช์แม่เหล็กจะต่างจากสวิตช์ทั่วไปตรงที่ไม่ต้องปล่อยให้ปุ่มคีย์บอร์ดถอยกลับไปจนสุดให้เข้าระยะ Reset การทำงานของปุ่ม แต่ปล่อยออกมาส่วนเดียวแล้วกดปุ่มสวนกลับไปให้ทำงานได้ทันที ปรับระยะกดแล้วทำงาน (Actuation Point) ให้ตื้นขึ้นหรือลึกลงไปได้ตามแต่ถนัด บางครั้งแตะหน้าปุ่มเบาๆ ก็ทำงานแล้ว นอกจากใช้เล่นเกมแล้วก็ยังใช้พิมพ์งานได้ดีไม่แพ้คีย์บอร์ดแมคคานิคอลที่นิยมใช้งานในปัจจุบันเลย
จุดขายหลักอย่างฟีเจอร์ Snap Tap คือการทำงานตามปุ่มล่าสุดที่กดแต่ยังล็อคการทำงานของปุ่มก่อนที่กดค้างเอาไว้ด้วย กล่าวคือ ถ้ากด A เพื่อเคลื่อนตัวละครหลบไปทางซ้ายมือค้างไว้ พอกดปุ่ม D ตัวละครจะขยับออกมาทางขวาทันทีจนปล่อยปุ่ม D ตัวละครก็เดินหลบไปทางซ้ายต่อทันทีโดยไม่ต้องกดใหม่อีกครั้งแบบ Mechanical Keyboard ทำให้เกมเมอร์และนักแข่งได้เปรียบยิ่งขึ้น และเฟิร์มแวร์ยุคใหม่ๆ ก็ยังใส่คำสั่งเพิ่มเข้าไปให้การกดปุ่มหนึ่งครั้งทำงานถึง 4 คำสั่งในเวลาเดียวกัน เหมือนฝังระบบมาโครไว้ให้ในตัว และยังทำผ่านซอฟท์แวร์บนอินเทอร์เน็ตได้จึงไม่ต้องดาวน์โหลดโปรแกรมมาติดตั้งให้วุ่นวาย
Magnetic Switch คีย์บอร์ดทำไมน่าใช้กันนะ?
- ฟีเจอร์ Snap Tap กำลังได้รับความนิยมในหมู่นักกีฬาอีสปอร์ต เพราะเพิ่มความได้เปรียบเวลาเล่นเกม FPS ให้ขยับตัวละครทำจังหวะยิงปะทะได้ดีขึ้น
- บางเกมถ้าเกมเมอร์ใช้ฟีเจอร์ Snap Tap อาจโดนแบนได้เพราะมองเป็นการเอาเปรียบผู้อื่น
- หลักการทำงานของคีย์บอร์ดกลุ่มนี้จะใช้หลักการ Hall Effect ใช้แม่เหล็กเหนี่ยวนำการทำงาน
- จุดแข็งของ Magnetic Keyboard คือปรับ Actuation Point กล่าวคือแก้ระยะกดให้ตื้นขึ้นหรือลึกลงไปได้ตามสะดวก
- นอกจากฟังก์ชั่น ข้อดีของสวิตช์แม่เหล็กแบบนี้จะมีอายุการใช้งานยาวนานกว่าปุ่มแบบธรรมดามาก ซึ่งทางผู้ผลิตเคลมว่ากดใช้งานได้ราว 100 ล้านครั้ง
8 Magnetic Switch คีย์บอร์ดน่าใช้ ลากหัวอย่างคม ดีไซน์สวยไม่เหมือนใคร!
- MADLIONS MAD60 Flagship (1,890 บาท)
- MelGeek Made68 PRO (5,490 บาท)
- DrunkDeer A75 (5,590 บาท)
- Wooting 60HE+ (6,066 บาท)
- Pulsar PCMK 2 HE TKL (6,590 บาท)
- SteelSeries Apex Pro (6,990 บาท)
- Corsair K70 MAX (7,965 บาท)
- Razer Huntsman V3 Pro (8,990 บาท)
1. MADLIONS MAD60 Flagship (1,890 บาท)
| Size & Switch & Connectivity | ขนาด 60% จำนวน 61 ปุ่ม Magnetic Amber Pro (CIPO) USB-C |
| Features | Snap Tap, SOCD, NKRO |
| Actuation Point & Polling Rate | ต่ำสุด 0.04 mm. Polling Rate 8,000Hz |
| Software | Web Driver Firmware |
| Price | 1,890 บาท (Big Pengiun Shopee) |
นอกจากกระแสช่วงเปิดตัวจะแรงด้วยสเปคเกินตัวแล้วยังเป็น Magnetic Switch คีย์บอร์ดราคาถูกสุดในตอนนี้ด้วยอย่าง MADLIONS MAD60 Flagship สวิตช์ Magnetic Amber Pro (CIPO) กับโครงคีย์บอร์ดขนาด 60% ตัดปุ่มเกินจำเป็นต่อการเล่นเกมทิ้งทั้งหมด เหลือแต่ปุ่มชุดหลักเท่านั้น ทำให้เกมเมอร์สามารถลากเมาส์มาได้ไกลยิ่งขึ้นและรองรับ SOCD, Snap Tap ให้เกมเมอร์ใช้เล่นเกมยิงได้พลิ้วไหวยิ่งกว่าเดิม เวลาตั้งค่าสามารถปรับฟังก์ชั่นตั้ง Actuation Point ให้แต่ละปุ่มได้บนหน้าเว็บไซต์เฉพาะของ MADLIONS โดยตรง ถ้าใครอยากลองใช้คีย์บอร์ดแบบนี้ดูจะเริ่มจากตัวนี้ก็ได้
ข้อดี
- เป็น Magnetic Switch คีย์บอร์ดที่ราคาถูกสุด ณ ตอนนี้ หาซื้อได้ไม่ยากมาก
- ปุ่มเป็น Hot Swap ถอดเปลี่ยนสวิตช์ตัวอื่นใช้ได้ตามสะดวก
- ตั้งค่าและแฟลชเฟิร์มแวร์ได้ผ่านทางเว็บไดร์เวอร์ ไม่ต้องติดตั้งซอฟท์แวร์เพิ่ม
- ค่า Polling Rate สูงถึง 8,000Hz กดแล้วตอบสนองได้รวดเร็ว
ข้อสังเกต
- เมื่อซื้อมาควรอัปเดตเฟิร์มแวร์ให้เป็นเวอร์ชั่นปัจจุบันให้ใช้ SOCD, Snap-Tap ได้ดีขึ้น
- แต่ละรุ่นจะติดตั้งสวิตช์แตกต่างกัน จึงมีคาร์แรคเตอร์เวลาใช้ต่างกัน
2. MelGeek Made68 PRO (5,490 บาท)
| Size & Switch & Connectivity | ขนาด 68% จำนวน 68 ปุ่ม TTC KOM Switch USB-C |
| Features | Snap Tap, SOCD, Rapid Trigger, Zero Dead Zone, NKRO, 4-in-1 Action Key |
| Actuation Point & Polling Rate | 0.1~4 mm. Polling Rate 8,000Hz |
| Software | MelGeek Hive |
| Price | 5,490 บาท (Big Pengiun Shopee) |
MelGeek Made68 PRO นอกจากเป็น Magnetic Switch คีย์บอร์ดขวัญใจเกมเมอร์สาย FPS ให้ฟีเจอร์มาครบทั้ง Snap Tap, SOCD แล้ว ผู้พัฒนายังใส่ฟีเจอร์ 4-in-1 Action Key กดปุ่มครั้งเดียวทำ 4 คำสั่งพร้อมกันเหมือนตั้งมาโครเอาไว้ เวลาเล่นหรือแข่งก็จะได้เปรียบกว่าคนอื่นพอควร ตั้งค่าในโปรแกรม MelGeek Hive ได้ จึงแก้คำสั่งให้เข้ามือได้ตลอดเวลาไม่ต้องไล่แก้บนหน้าเว็บแบบคีย์บอร์ดตัวอื่น นอกจากฟังก์ชั่นแล้วดีไซน์ยังดีเพราะทางบริษัททำกรอบเหนือคีย์บอร์ดเป็นไฟ Lightbox ถอดเปลี่ยนเพลตด้านหลังและเปลี่ยนแถบอลูมิเนียมกรอบข้างทั้งสองฝั่งให้เหมาะกับสไตล์ของเราได้ด้วย เป็นทั้งเกมมิ่งเกียร์และของแต่งโต๊ะคอมได้ในเวลาเดียวกัน
ข้อดี
- ให้ฟีเจอร์ยอดนิยมอย่าง Snap Tap, Zero Dead Zone, Rapid Trigger มาให้ใช้
- มี 4-in-1 Action key ตั้งค่าให้กด 1 ปุ่ม แล้วทำ 4 คำสั่งได้เหมือนมาโคร
- ติดตั้งซอฟท์แวร์ MelGeek Hive เพื่อตั้งค่าคีย์บอร์ดได้
- ซื้ออุปกรณ์เสริมอย่างเพลตโลหะหรือฝาใสด้านหลังมาตกแต่งได้ตามชอบ
- คีย์บอร์ดเป็น Hot Swap ถอดเปลี่ยนสวิตช์เป็นแบบอื่นได้ตามต้องการ
ข้อสังเกต
- ราคาสูงขึ้นมาระดับ Custom Mechanical Keyboard หลายรุ่นในปัจจุบันแล้ว
3. DrunkDeer A75 (5,590 บาท)
| Size & Switch & Connectivity | ขนาด 75% จำนวน 82 ปุ่ม Magnetic Switch USB-C |
| Features | Snap Tap, SOCD, Rapid Trigger, NKRO, Knob |
| Actuation Point & Polling Rate | 0.2~3.8 mm. Polling Rate 1,000Hz |
| Software | Web Driver Firmware |
| Price | 5,590 บาท (Big Pengiun Shopee) |
นอกจากคีย์บอร์ดจุดกระแสอย่าง Wooting ซึ่งนอกจากรอสั่งของนานและราคาก็สูงด้วย จะมีเจ้า DrunkDeer A75 ตัวนี้เป็นคู่เทียบที่น่าสนใจไม่แพ้กัน ทั้งมีของให้ซื้อได้ทุกเมื่อและใช้งานดี ตั้งค่าผ่าน Web Driver Firmware ได้เหมือนกันแถมมี Snap Tap, SOCD, Rapid Trigger มาให้ครบเครื่องแล้ว ยังมีลูกบิด (Knob) เอาไว้ปรับเพิ่มลดหรือปิดเสียงลำโพงได้สะดวก มี Hotkeys ให้ใช้ตั้งค่าตัวเครื่องได้ด้วย แถมขนาดคีย์บอร์ดก็เป็น 75% นอกจากใช้เล่นเกมแล้วถ้าจะซื้อไปใช้ทำงานก็ดีไม่แพ้กัน ซื้อครั้งเดียวคุ้มค่าแน่นอน
ข้อดี
- ติดลูกบิด (Knob) มาให้ใช้เพิ่มลดหรือปิดเสียงลำโพงได้
- เป็นคีย์บอร์ด 75% ขนาดใหญ่กำลังดีมีปุ่มใช้งานครบถ้วน
- ใส่ฟีเจอร์ Snap Tap, SOCD, Rapid Trigger มาให้พร้อมใช้งาน
- ตั้งค่าคีย์บอร์ดด้วย Web Driver Firmware ได้ ไม่ต้องโหลดโปรแกรมมาติดตั้งเพิ่ม
- ปุ่ม F1~F12 มี Hotkeys ติดมาให้ใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้น
- เป็นคีย์บอร์ด Hot Swap ถอดเปลี่ยนสวิตช์แม่เหล็กตัวอื่นได้
ข้อสังเกต
- ค่า Polling Rate 1,000Hz เท่านั้น น้อยกว่า Magnetic Switch คีย์บอร์ดตัวอื่น
4. Wooting 60HE+ (6,066 บาท)
| Size & Switch & Connectivity | ขนาด 60% จำนวน 61 ปุ่ม Lekker L60 Switch USB-C |
| Features | Snap Tap, SOCD, Rapid Trigger, NKRO |
| Actuation Point & Polling Rate | 0.1~4.4 mm. Polling Rate 1,000Hz |
| Software | Wootility |
| Price | 6,066 บาท (Wooting) |
Wooting 60HE+ Magnetic Switch คีย์บอร์ดรุ่นขวัญใจเกมเมอร์ ด้วยขนาด 60% เล็กกะทัดรัดประหยัดพื้นที่ มีฟังก์ชั่นต่างๆ ติดมาครบทั้ง Snap Tap และ Rapid Trigger ก็มีและยังตั้งค่าผ่านโปรแกรม Wootility ตั้งระยะกดได้ว่าจะให้ตื้นหรือลึกเท่าไหร่ก็ได้ ตอบโจทย์เกมเมอร์สาย FPS แอบมุมตึกยิงศัตรูแน่นอน ถ้าจะซื้อไปทำงานก็ดี ใช้งานได้ทั้ง Windows และ macOS แถมสวิตช์ยังเป็นแบบ Silent เสียงไม่ดังรบกวนผู้อื่นแน่นอน นอกจากนี้ยังตั้งค่าและเลเยอร์ของปุ่มต่างๆ ผ่านซอฟท์แวร์ Wootility ได้ เรียกว่าครบเครื่องในตัวเดียว
ข้อดี
- ตั้งค่าปรับแต่งระยะทำงาน, คำสั่งของแต่ละปุ่มในแต่ละเลเยอร์ผ่านซอฟท์แวร์ Wootility ได้
- สวิตช์เป็นแบบ Silent กดแล้วเสียงไม่ดังรบกวนหูเวลาเล่นเกม
- ปรับระยะ Actuation Point ได้กว้างตั้งแต่ 0.1~4.4 mm. ทำให้ตั้งระยะกดได้ละเอียด
- ใช้งานได้ทุกระบบปฏิบัติการทั้ง Windows, macOS ก็ได้
- เลือกซื้อหน้าเว็บไซต์ Wooting สามารถปรับแต่งคีย์แคปได้
ข้อสังเกต
- ต้องสั่งตรงจากเว็บไซต์ของผู้ผลิตและอาจมีภาษีนำเข้าสินค้าเพิ่ม
5. Pulsar PCMK 2 HE TKL (6,590 บาท)
| Size & Switch & Connectivity | ขนาด TKL จำนวน 87 ปุ่ม Pulsar Linear Magnetic Switch USB-C |
| Features | Snap Tap, SOCD, Rapid Trigger, Anti-Ghosting |
| Actuation Point & Polling Rate | 0.1~4 mm. Polling Rate 8,000Hz |
| Software | Bibimbap Web Drivers |
| Price | 6,590 บาท (Pulsar Gaming Shopee Mall) |
นอกจากเมาส์เกมมิ่งแล้ว เกมมิ่งเกียร์จากแดนโสมใต้อย่าง Pulsar ก็มีคีย์บอร์ด Pulsar PCMK 2 HE TKL ไว้ตอบโจทย์เกมเมอร์ที่อยากได้ Magnetic Switch คีย์บอร์ดเอาไว้ Snap Tap คู่ต่อสู้เช่นกัน และยังดีไซน์เป็นไซซ์แบบ TKL ตัดแป้น Numpad ทิ้ง จึงลากเมาส์ได้สะดวกไม่ติดกรอบข้าง แถมมีไฟ RGB 16.8 ล้านสี ปรับเอฟเฟคแสงได้ 44 แบบ รองรับสวิตช์แม่เหล็กทั้ง N-S Pole จึงใช้สวิตช์แม่เหล็กได้ทุกแบบแถมตั้งค่าคีย์บอร์ดได้ด้วย Bibimbap Web Drivers ทำผ่านหน้าเว็บไซต์ได้ทันทีไม่ต้องโหลดมาติดตั้งในเครื่องและใช้งานกับพีซี Windows หรือ macOS ได้หมด ถ้าใครอยากได้ขนาด TKL แนะนำให้ดูตัวนี้เอาไว้ใช้น่าจะตอบโจทย์มาก
ข้อดี
- ตัวปุ่มดีไซน์ให้กดได้มากถึง 150 ล้านครั้ง มีความแข็งแรงทนทานมาก
- ถอดสวิตช์แบบ Hot Swap รองรับสวิตช์แม่เหล็กทั้ง N-S Pole Magnet ได้ทุกแบบ
- ใช้งานได้ทุกระบบปฏิบัติการทั้ง Windows และ macOS
- ตั้งค่าคีย์บอร์ดด้วย Bibimbap Web Drivers ได้ทันที
- เสริมโฟมและยางรองซับเสียงเอาไว้ในตัวหลายชั้น ได้เสียงพิมพ์ดี
ข้อสังเกต
- ถ้าต้องการตั้งคำสั่งหรือระยะกดใหม่ ต้องเปิดทำผ่านเว็บไซต์เสมอ ทำในเครื่องโดยตรงไม่ได้
6. SteelSeries Apex Pro (6,990 บาท)
| Size & Switch & Connectivity | Full size keyboard 104 ปุ่ม OmniPoint 2.0 Adjustable HyperMagnetic Switches USB-C USB-A Passthrough |
| Features | Snap Tap, SOCD, Rapid Trigger, 2-in-1 Action Keys |
| Actuation Point & Polling Rate | 0.1~4.0 mm. Polling Rate 1,000Hz |
| Software | SteelSeries Engine |
| Price | 6,990 บาท (BaNANA) |
ถ้าหา Magnetic Switch คีย์บอร์ดจากแบรนด์เกมมิ่งเกียร์แบรนด์หลักให้เข้ากับอุปกรณ์ชิ้นอื่น จะมี SteelSeries Apex Pro ให้ใช้ มีฟีเจอร์สำคัญมาครบทั้ง Snap Tap, Rapid Trigger เสริมด้วย 2-in-1 Action Keys ตั้งคำสั่งให้หนึ่งปุ่มทำงาน 2 แบบ ต่างกันตามระยะกดลงน้ำหนัก ถ้ากดครึ่งเดียวก็ให้เดินแต่ถ้ากดเลยระยะลงไปจนสุดปุ่มก็เปลี่ยนเป็นวิ่งแทน ตั้งค่าใน SteelSeries Engine ร่วมกับเกมมิ่งเกียร์ชิ้นอื่นในเครือได้ และยังติดส่วนเสริมอื่นๆ มาให้ไม่ว่าจะแท่นวางข้อมือแม่เหล็กดูดติดกับเฟรมโลหะของตัวคีย์บอร์ดได้ ติดพอร์ต USB-A Passthrough มาให้เผื่อต่อแฟลชไดร์ฟโอนไฟล์ได้เหมือนเกมมิ่งคีย์บอร์ดจากแบรนด์ชั้นนำหลายเจ้า ติดหน้าจอ OLED Smart Display เอาไว้ดูการแจ้งเตือนหรือตั้งค่าปุ่มแบบเร่งด่วนได้ทันทีแบบเดียวกับ SteelSeries Apex รุ่นอื่น หากใครใช้เกมมิ่งเกียร์ของแบรนด์นี้อยู่แล้วอยากเปลี่ยนคีย์บอร์ดก็ซื้อรุ่นนี้ไปใช้ได้เลย
ข้อดี
- ตั้งค่าใช้งานได้สะดวกร่วมกับเกมมิ่งเกียร์ชิ้นอื่นได้ในโปรแกรม SteelSeries Engine
- ใช้งานได้หลากหลายแพลตฟอร์ม ทั้ง Windows, macOS, Xbox, PlayStation
- มีพอร์ต USB-A Passthrough เอาไว้ต่ออุปกรณ์หรือแฟลชไดร์ฟใช้งานได้
- มีแถบที่วางข้อมือแม่เหล็กแถมมาให้วางข้อมือใช้งานได้สะดวก
- ติดตั้งหน้าจอ OLED Smart Display มาให้ตั้งค่าและดูการแจ้งเตือนได้ง่าย
- โครงคีย์บอร์ดเป็นอลูมิเนียมเกรดอากาศยาน มีความแข็งแรงทนทานมาก
- มีฟีเจอร์ 2-in-1 Action Key ตั้งค่าระยะกดของปุ่มให้มี 2 คำสั่งได้
ข้อสังเกต
- สวิตช์ Omnipoint 2.0 จะติดตั้งไว้เฉพาะปุ่มชุดหลักเท่าคีย์บอร์ด 60% เท่านั้น
- เป็นคีย์บอร์ด Full size เกมเมอร์บางคนอาจใช้เล่นเกมไม่ถนัดนัก
7. Corsair K70 MAX (7,965 บาท)
| Size & Switch & Connectivity | Full size keyboard 104 ปุ่ม Corsair MGX Switches USB-A 3.1 |
| Features | FlashTap (Snap Tap), SOCD, Rapid Trigger, NKRO, Anti-Ghosting, Win Lock, Volume Roller |
| Actuation Point & Polling Rate | 0.1~4.0 mm. Polling Rate 8,000Hz |
| Software | Corsair iCUE |
| Price | 7,965 บาท (Hardware Corner Shopee) |
แบรนด์เรือธงด้านเกมมิ่งเกียร์อย่าง Corsair ก็มี Magnetic Switch คีย์บอร์ดรุ่น Corsair K70 MAX เปิดตัวมาให้เกมเมอร์ได้ซื้อไปใช้ ถ้าใครเคยใช้ซีรี่ย์ K70 มาก่อน หน้าตาจะคล้ายเดิมไม่ว่าจะเป็น Full size ติดแถบที่วางข้อมือแม่เหล็กมาให้และ Multimedia key ติดมามุมบนขวาเช่นเดิม ติด Tournament switch มาให้สับเปิดโหมดการแข่งขัน Esport ตัดไฟ RGB และ Macro เกินจำเป็นออกไป ใส่หน่วยความจำ 8MB มาในตัวเพื่อเซฟโปรไฟล์ของคีย์บอร์ดได้โดยทำผ่านโปรแกรม Corsair iCUE และถอดสาย USB แยกเอาไปใช้งานนอกบ้านได้และไม่ลืมปุ่ม Win Lock เช่นกัน
จุดอัปเกรดจาก Corsair K70 Series รุ่นก่อน คือสวิตช์ถูกเปลี่ยนเป็น Corsair MGX Switchs เป็นสวิตช์แม่เหล็กแทนสวิตช์ Mechanical แบบเก่าแล้ว จึงมีฟีเจอร์แบบเดียวกับ Magnetic Switch คีย์บอร์ดรุ่นอื่นๆ ทั้ง Snap Tap ที่ทางบริษัทเรียกว่า FlashTap, Rapid Trigger รวมทั้ง Anti-Ghosting ก็มีเช่นกัน ดังนั้นถ้าอยากเปลี่ยนคีย์บอร์ดให้เหมาะกับการเล่นเกม FPS มากขึ้นและยังใช้ Corsair iCUE ได้เช่นเดิมก็แนะนำให้ดูรุ่นนี้เอาไว้เป็นตัวเลือกแรกๆ จะดีสุด
ข้อดี
- ติดอุปกรณ์เสริมมาให้หลายชิ้น ทั้งที่พักข้อมือ, ชุด Multimedia Key และปุ่มปรับไฟ RGB
- มีปุ่ม Win Lock ป้องกันการเผลอกดโดนปุ่ม Windows เวลาเล่นเกม
- ติดฟีเจอร์ใช้งานมาครบทั้ง FlashTap (Snap Tap), SOCD, Rapid Trigger ครบถ้วน
- ตั้งค่าปุ่มและฟังก์ชั่นได้ในโปรแกรม Corsair iCUE ร่วมกับเกมมิ่งเกียร์ชิ้นอื่นในเครือ
- บอดี้ของคีย์บอร์ดเป็นอลูมิเนียมเสริมโฟมยางลดเสียงรบกวนเอาไว้ภายใน
- ติดหน่วยความจำขนาด 8MB มาให้ บันทึกโปรไฟล์ปุ่มและไฟ RGB ได้ 50 โปรไฟล์
- มี Tournament switch ติดมาให้ ถ้าสับสวิตช์แล้วจะปิดมาโครและไฟ RGB ให้เหมาะกับการแข่งขัน
- สาย USB-C to A ในกล่องเป็นสายถัก ถอดแยกจากคีย์บอร์ดได้
ข้อสังเกต
- ราคาสูงพอสมควรถ้าเทียบกับ Magnetic Switch คีย์บอร์ดตัวอื่นในปัจจุบัน
- คีย์บอร์ดเป็นขนาด Full Size ใหญ่กว่าเกมมิ่งคีย์บอร์ดรุ่นอื่น อาจลากเมาส์ติดข้างแป้นได้
8. Razer Huntsman V3 Pro (8,990 บาท)
| Size & Switch & Connectivity | ขนาด TKL จำนวน 84 ปุ่ม Razer Analog Optical Switch Gen-2 USB-C |
| Features | Snap Tap, SOCD, Rapid Trigger, NKRO, Anti-Ghosting, Quick Onboard Adjustment, Multimedia Key, On the Fly Programmable Macro |
| Actuation Point & Polling Rate | 0.1~4.0 mm. Polling Rate 1,000Hz |
| Software | Razer Synapse |
| Price | 8,990 บาท (Razer Shopee Mall) |
ถ้าพูดถึงเกมมิ่งเกียร์ก็ต้องมีแบรนด์งูเขียวอย่าง Razer รวมอยู่ด้วยและทางบริษัทก็พัฒนาสวิตช์ประเภทนี้มาสักพักแแล้วจนปัจจุบันก็มี Razer Huntsman V3 Pro ที่ยกข้อดีของคีย์บอร์ด Razer รุ่นอื่นๆ มาใส่ทั้งบันทึกมาโครระหว่างเล่นได้, ตั้งค่าบันทึกโปรไฟล์ได้ 6 แบบและกดเปลี่ยนระหว่างเล่นได้ทันที, มี Anti-Ghosting และ NKRO ติดมา รวมทั้ง Multimedia Key เอาไว้กดเล่นเปลี่ยนเพลงได้ตามต้องการแถมมีขนาดเพียง TKL ใหญ่กำลังพอดีให้เกมเมอร์ใช้เล่นเกมได้และปุ่มฟังก์ชั่นใช้ทำงานติดมาครบถ้วน ลากเมาส์ไม่ติดข้างแป้นคีย์บอร์ดด้วย
ส่วนของ Razer Analog Optical Switch Gen-2 ตัวนี้ถูกปรับแต่งเพิ่มจากรุ่นก่อนหน้าให้ตอบสนองเร็วขึ้นและทนทานกว่าเดิม จึงกดเล่นและควบคุมตัวละครได้ดีกว่าและตั้งระยะกดตั้งแต่ 0.1~4.0 mm. ใน Razer Synapse ร่วมกับเกมมิ่งเกียร์ชิ้นอื่นในเครือได้ มีฟีเจอร์ครบทั้ง Rapid Trigger, Snap Tap ให้ใช้ รวมทั้งฟังก์ชั่น NKRO และ Anti-Ghosting ก็มีมาให้ครบ แม้ราคาจะสูงสักหน่อยแต่ก็น่าใช้มากเช่นกัน
ข้อดี
- ติดตั้ง Multimedia Key มาให้ หมุนเร่งลดเสียงหรือกดหยุดเพลงได้ง่าย
- สาย USB-C ถอดแยกจากคีย์บอร์ดได้ จึงพกไปใช้งานหรือถอดไปทำความสะอาดสะดวก
- มีฟีเจอร์เอื้อการเล่นเกมหลายอย่างทั้ง NKRO, Anti-Ghosting, Rapid Trigger และ Snap Tap
- บันทึกคำสั่ง Macro ได้ทันทีระหว่างใช้งาน เอาไว้เรียกใช้ในอนาคตได้
- ติดตั้ง Hotkeys มาให้ตั้งแต่ F6~F12 ให้กดเรียกใช้งานได้สะดวกรวดเร็ว
- มีปุ่ม Gaming Mode ให้เปิดใช้งานเวลาต้องการเล่นเกมได้ ป้องกันปุ่มที่ไม่ใช้ทำงานผิดเวลา
ข้อสังเกต
- ราคาสูงสุดในกลุ่ม Magnetic Switch คีย์บอร์ดทำให้หลายคนตัดสินใจซื้อได้ค่อนข้างยาก
- ค่า Polling Rate เพียง 1,000Hz เท่านั้น ถ้าเทียบกับรุ่นอื่นยังอยู่ในระดับทั่วไป
สรุปสเปค 8 Magnetic Switch คีย์บอร์ดน่าใช้ ถูกใจเกมเมอร์ ใช้ทำงานก็เวิร์ค!
Magnetic Switch คีย์บอร์ดเรียกว่าเกิดมาเพื่อเกมเมอร์สาย FPS และเกมแข่งรถโดยเฉพาะ ด้วยปุ่มที่ปรับระยะการกดได้และตอบสนองรวดเร็ว จึงได้เปรียบกว่าคีย์บอร์ดธรรมดามากและมีตัวเลือกหลากหลายตั้งแต่ราคาประหยัดไม่กี่พันจนเกือบหมื่นอัดฟีเจอร์มาให้เต็มตัวจากแบรนด์เกมมิ่งเกียร์ชั้นนำก็มีให้เลือก ถ้าใช้คีย์บอร์ดแมคคานิคอลแบบมาตรฐานมาระดับหนึ่งแล้วอยากให้ควบคุมตัวละครได้ดีขึ้น จะลองซื้อมาใช้สักตัวก็น่าสนใจ และข้อดีของปุ่มแบบแม่เหล็กเหนี่ยวนำต้องยกให้ความแข็งแรงทนทานว่ากดใช้งานได้มากถึง 100 ล้านครั้ง จ่ายครั้งเดียวใช้ได้นานหลายปีแน่นอน
Photo Credits : Pulsar, MelGeek
บทความที่เกี่ยวข้อง
