ในยุคนี้ที่อุปกรณ์เก็บข้อมูลแบบออฟไลน์หาซื้อได้ง่ายหลายช่องทางจะหาซื้อแฟลชไดร์ฟราคาดีก็ง่าย กำเงินไปร้อยสองร้อยบาทตรงเข้าร้านคอมใกล้บ้านก็ซื้อมาเซฟงานได้แล้ว ยิ่งยุคนี้เทคโนโลยีการบันทึกข้อมูลก็ล้ำสมัยขึ้นเรื่อยๆ จึงมีแฟลชไดร์ฟความจุตั้งแต่ 8GB ไปจนหลัก TB วางขายกันอย่างแพร่หลาย ซึ่งปัจจุบันก็จะมีแบรนด์ชั้นนำอย่าง Lexar, Kingston, SanDisk ให้เลือกซื้อกัน
แต่หลายคนคงสงสัยว่าจะซื้อของชิ้นนี้ไว้ทำไมในเมื่อมีวิธีเซฟข้อมูลให้เลือกตั้งมากมาย? ถ้าเอาเรื่องใกล้ตัวอย่างการฟอร์แมตคอมลง Windows ใหม่ ก็ต้องเขียนไฟล์ระบบปฏิบัติการลงแฟลชไดร์ฟเอาไว้ล้างเครื่องอย่างแน่นอน หรือถ้าเป็นสายท่องเที่ยวถ่ายภาพอัดคลิปไว้มากมายแล้วหน่วยความจำในมือถือเต็ม แทนที่จะอัปโหลดขึ้น Cloud ให้เปลืองแพ็คเกจโรมมิ่งหรือรอไปต่อ Wi-Fi ซึ่งไม่รู้ว่าจะได้ใช้เมื่อไหร่ สู้หาแฟลชไดร์ฟ USB-C ความจุราว 128~256GB สักอันติดกระเป๋าเอาไว้แล้วย้ายไฟล์ไปเก็บไว้ในนั้นแทนแล้วค่อยถ่ายภาพต่อยังไงก็สะดวกกว่าแน่นอน
แฟลชไดร์ฟราคาดีสเปคน่าใช้เลือกอย่างไร?
- แฟลชไดร์ฟสำหรับติดตั้ง Windows 11 แนะนำความจุ 8GB ขึ้นไป จะเป็น USB 2.0 หรือ 3.0 ก็ได้
- ปัจจุบันแฟลไดร์ฟราคาถูกมาก ความจุ 64GB สามารถหาซื้อได้ในราคา 150~200 บาทเท่านั้น
- แฟลชไดร์ฟในปัจจุบันมีทั้งแบบพอร์ตเดียวเป็น USB-A หรือ USB-C หรือรวมทั้งสองหัวไว้ด้วยกัน เรียกว่า Dual Drive หรือ Dual USB
- จากข้อก่อน Dual Drive จะมีราคาค่อนข้างสูงเพราะต้องดีไซน์ติดตั้งพอร์ตไว้สองฝั่ง แต่ก็ต่อได้หลากหลายอุปกรณ์ ไม่ว่าจะสมาร์ทโฟนหรือโน๊ตบุ๊คก็ได้
- แอปฯ ในสมาร์ทโฟนหลายรุ่นรองรับการต่อแฟลชไดร์ฟเหมือนโน๊ตบุ๊ค สั่งย้ายไฟล์มาแล้วเอาไปต่อคอมใช้งานต่อได้ทันที
- ถ้าจะต่อคอมอย่างเดียวอาจซื้อแฟลชไดร์ฟพอร์ต USB-A อย่างเดียวก็ได้ แต่ถ้าต่อสมาร์ทโฟนด้วยแนะนำซื้อแบบ USB-C จะดีกว่า
5 แฟลชไดร์ฟราคาดี สเปคแรงโอนไฟล์เร็วทันใจ!
- Lexar JumpDrive Dual Drive D400 256GB (830 บาท)
- SanDisk Ultra Dual Drive Go 256GB (880 บาท)
- SanDisk Ultra Dual Drive Go USB-C 512GB (1,590 บาท)
- Kingston DataTraveler Max USB 3.2 Gen 2 Type-A 256GB (1,990 บาท)
- Kingston DataTraveler MAX USB Type-C 256GB (2,190 บาท)
1. Lexar JumpDrive Dual Drive D400 256GB (830 บาท)
Capacity | 256GB |
Interface | USB-A กับ USB-C เวอร์ชั่น 3.1 |
Transfer Speed | 130MB/s |
Compatibility | Windows macOS Android iPhone 15 Series |
Price (บาท) | 830 (Lexar Shopee Mall) |
Lexar JumpDrive Dual Drive D400 256GB เป็นแฟลชไดร์ฟราคาไม่แพงมากแต่สเปคสมตัว มีความจุสูงเหมาะจะพกคู่กับสมาร์ทโฟนเป็นอย่างมาก เวลาถ่ายภาพหรือวิดีโอแล้วก็ถ่ายโอนไฟล์ออกมาเก็บในไดรฟ์นี้แล้วไปต่อพีซีได้ทันที เหมาะกับคนถ่ายภาพและวิดีโอในสมาร์ทโฟนแล้วจะโอนไฟล์ออกไปตัดต่อต่อในพีซีก็สะดวกมาก ไม่ต้องพึ่งอุปกรณ์อย่างตัวแปลงหรือ USB-C Multiport adapter ก็ได้ ถ้าใครชอบเที่ยวถ่ายภาพกับคลิปทำคอนเทนต์บ่อยๆ ขอแนะนำให้ซื้อเผื่อไว้สัก 1~2 อัน ก็ไม่ต้องเสียเงินเพิ่มความจุสมาร์ทโฟนแล้ว
ข้อดี
- มีพอร์ต USB-A กับ USB-C ให้ต่อทั้งสองฝั่ง ใช้กับสมาร์ทโฟนและพีซีได้
- มีความเร็ว 130MB/s ถ่ายโอนไฟล์ได้รวดเร็ว
- เข้ารหัส 256-bit AES Encryption ไว้ มีความปลอดภัยไม่โดนเจาะระบบง่าย
- มีหูห้อยพวงกุญแจในตัว สามารถห้อยเก็บไว้กับกุญแจได้
- รองรับระบบปฏิบัติการ Windows, macOS
ข้อสังเกต
- มีความจุสูงสุด 256GB เท่านั้น ถ้ามี 512GB เป็นอีกตัวเลือกก็จะดีมาก
2. SanDisk Ultra Dual Drive Go 256GB (890 บาท)
Capacity | 256GB |
Interface | USB-A กับ USB-C เวอร์ชั่น 3.2 Gen 1 |
Transfer Speed | 400MB/s |
Compatibility | Windows 10 macOS 10.9 Android 11 iOS 10 |
Price (บาท) | 890 (IT City) |
ถ้าหาแฟลชไดร์ฟราคาดีโอนไฟล์เร็วไว้ใช้แนะนำ SanDisk Ultra Dual Drive Go 256GB เพราะความจุ 256GB มีความเร็วถ่ายโอนไฟล์ 400MB/s ทำให้โอนไฟล์วิดีโอขนาดใหญ่ได้รวดเร็วและต่อกับอุปกรณ์ได้หลากหลายระบบปฏิบัติการ รองรับทั้ง Android, iOS, macOS และ Windows ครบเครื่อง มีแอปฯ SanDisk Memory Zone ให้โหลดไปติดตั้งในมือถือไว้โอนไฟล์ได้ง่ายและรวดเร็ว เหมาะกับคนถ่ายคลิปทำคอนเทนต์อย่างแน่นอน
ข้อดี
- ใช้งานได้หลายระบบปฏิบัติการไม่ว่าจะ Windows, macOS, iOS, Android
- ถ่ายโอนข้อมูลเข้าออกไดรฟ์ได้เร็ว 400MB/s
- ติดตั้งพอร์ต USB-A, USB-C มาให้ใช้กับอุปกรณ์ได้หลากหลายแบบ
- มีแอปฯ SanDisk Memory Zone ไว้แบ็คอัพภาพและวิดีโอจากมือถือได้ง่าย
ข้อสังเกต
- รุ่น 32~64GB จะมีความเร็วเพียง 150MB/s ถ้าใช้กับสมาร์ทโฟน แนะนำความจุ 128GB ขึ้นไป
3. SanDisk Ultra Dual Drive Go USB-C 512GB (1,590 บาท)
Capacity | 512GB |
Interface | USB-A กับ USB-C เวอร์ชั่น 3.2 Gen 1 |
Transfer Speed | 150MB/s |
Compatibility | Windows 10 macOS 10.9 Android 11 iOS 10 |
Price (บาท) | 1,590 (IT City) |
ถ้าแฟลชไดร์ฟในข้อก่อนยังจุไม่พอใจก็มี SanDisk Ultra Dual Drive Go USB-C 512GB ให้เลือก ดีกับช่างภาพและวิดีโอที่ถ่ายภาพและวิดีโอมาก ซึ่งมันสามารถเก็บภาพความละเอียด 12 ล้านพิกเซลได้กว่า 4 แสนภาพ, วิดีโอความละเอียด 1080p ยาว 2,688 นาที ถ้าถ่ายความละเอียด 4K ก็ได้ถึง 1,042 นาที หรือราว 18 ชม. ต่อเนื่องและโอนไฟล์ผ่านแอปฯ SanDisk Memory Zone ได้ง่ายๆ แต่เสียดายว่ามีความเร็วเพียง 150MB/s แต่ก็ยังถ่ายโอนไฟล์ได้เร็วพอควร
ข้อดี
- มีความจุมากถึง 512GB หรือเลือกรุ่น 1TB ก็ได้ แต่ราคาจะเพิ่มขึ้นระดับหนึ่ง
- มีแอปฯ SanDisk Memory Zone ไว้ใช้แบ็คอัพไฟล์ภาพกับวิดีโอได้สะดวก
- รองรับอุปกรณ์หลากหลาย ใช้ได้ทุกระบบปฏิบัติการยอดนิยมในปัจจุบัน
- ได้ประกันหลังการขายของ Synnex 5 ปี มีปัญหาสามารถเคลมได้ง่ายและเร็ว
ข้อสังเกต
- มีความเร็วถ่ายโอนข้อมูลเพียง 150MB/s ผิดกับรุ่น 256GB ซึ่งเร็วถึง 400MB/s
4. Kingston DataTraveler Max USB 3.2 Gen 2 Type-A 256GB (1,990 บาท)
Capacity | 256GB |
Interface | USB-A 3.2 Gen 2 |
Transfer Speed | Read 1,000MB/s Write 900MB/s |
Compatibility | Windows 10 macOS 10.14 Linux ChromeOS |
Price (บาท) | 1,990 (Kingston Shopee Mall) |
ถ้าไฟล์งานใหญ่และเยอะ ต้องการแฟลชไดร์ฟราคาสมเหตุผลดีไซน์ป้องกันพอร์ต USB-A ได้ Kingston DataTraveler Max USB 3.2 Gen 2 Type-A 256GB เป็นตัวเลือกที่ดี เพราะทางบริษัทออกแบบให้ตัวปลอกสามารถสไลด์หัวพอร์ต USB-A 3.2 Gen 2 เข้ามาซ่อนไว้ด้านในได้ ป้องกันเวลาทำตกแล้วพอร์ตบิ่นเสียหายได้ มีความเร็วอ่านข้อมูลสูงถึง 1,000MB/s ไม่น้อยหน้า External SSD แน่นอน แถมรองรับทุกระบบปฏิบัติการ จึงโอนไฟล์ไปมาได้ง่ายไม่มีปัญหาแต่ถ้าจะต่อสมาร์ทโฟนก็ต้องหาตัวแปลง USB-A to USB-C มาเผื่อเอาไว้จะใช้ได้สะดวกขึ้น
ข้อดี
- มีความเร็วอ่านข้อมูลสูงถึง 1,000MB/s และเขียนได้ไว 900MB/s ถ่ายโอนไฟล์ขนาดใหญ่ได้เร็ว
- มีความจุ 512GB, 1TB ให้เลือกซื้อได้ตามต้องการ
- ใช้งานได้หลากหลายระบบปฏิบัติการทั้ง Windows, macOS, Linux
- ดีไซน์สไลด์พอร์ตเข้าออกจากกรอบแฟลชไดร์ฟ ลดโอกาสทำไดรฟ์ตกแล้วพอร์ตเสีย
- มีช่องห้อยพวงกุญแจ เก็บสะดวกป้องกันการทำหล่นหายได้
ข้อสังเกต
- ถ้าต่อสมาร์ทโฟนต้องใช้ตัวแปลงเป็นพอร์ต USB-C ถึงจะใช้ได้
5. Kingston DataTraveler MAX USB Type-C 256GB (2,190 บาท)
Capacity | 256GB |
Interface | USB-C 3.2 Gen 2 |
Transfer Speed | Read 1,000MB/s Write 900MB/s |
Compatibility | Windows 10 macOS 10.14 Linux ChromeOS |
Price (บาท) | 2,190 (Kingston Shopee Mall) |
ถ้าแฟลชไดร์ฟราคาดีของ Kingston ในข้อก่อนยังไม่ตอบโจทย์เพราะจะเผื่อเอาไว้ต่อสมาร์ทโฟนด้วย ก็มี Kingston DataTraveler MAX USB Type-C 256GB ซึ่งคุณสมบัติเหมือนกันแทบทั้งหมดแต่เปลี่ยนพอร์ตเป็น USB-C แทน จึงโอนภาพกับวิดีโอเข้าแฟลชไดรฟ์และต่อคอมใช้ทำงานได้ทันที เหมาะกับผู้ใช้ทุกแบบไม่ว่าจะเอาไว้เซฟงานในออฟฟิศหรือเผื่อเอาไว้โอนไฟล์เวลาไปเที่ยวก็ดีเช่นกัน แต่ราคาจะแพงกว่ารุ่น USB-A ข้างบน 200 บาท ทุกความจุ แต่ในแง่ความสะดวกก็ถือว่าน่าสนใจและมีความจุ 512GB, 1TB ให้เลือกซื้อได้ด้วย
ข้อดี
- พอร์ตเป็น USB-C ต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ ในยุคปัจจุบันได้แน่นอน
- สไลด์พอร์ตเก็บได้ ป้องกันการตกแล้วพอร์ตบิ่นหรือเสียหาย
- รองรับระบบปฏิบัติการฝั่งพีซีครบถ้วนและต่อสมาร์ทโฟนได้
ข้อสังเกต
- เทียบกับรุ่น USB-A ราคาจะเพิ่มขึ้นราว 200 บาท/ความจุ
สรุปสเปค 5 แฟลชไดร์ฟราคาดี โอนไฟล์เร็วทันใจ ต่อมือถือก็ได้เข้าคอมก็ง่าย!
มาถึงยุคนี้แล้วแฟลชไดร์ฟราคาก็ไม่แพงเหมือนในอดีตอีกต่อไป ยิ่งถ้าต้องการซื้อเอาไว้เซฟงานเล็กน้อยหรือใช้ลง Windows ใหม่ ราคาก็แค่ร้อยสองร้อยบาทเท่านั้น แต่ถ้าซื้อไว้ทำงานในยุคนี้ก็ขอแนะนำให้ดูรุ่นที่เป็นพอร์ต USB-C เอาไว้ก็จะดี เพราะโน๊ตบุ๊คหรือสมาร์ทโฟนก็ต้องมีพอร์ตนี้อย่างน้อย 1 ช่องขึ้นไปแน่นอน เวลาโอนไฟล์ออกไปทำงานก็จะง่ายขึ้นไม่ต้องมีอุปกรณ์เสริมหลายๆ ชิ้นให้วุ่นวายแล้วเสี่ยงของหายด้วย
ว่าด้วยเรื่องแฟลชไดร์ฟราคาต่างกันแล้วมีข้อดีอย่างไร ต้องเริ่มจากความจุกี่ GB ถึงจะพอใช้? ถ้าอิงจากความจุที่มีขายอยู่ก็เริ่มจาก 16GB/32GB สำหรับใช้งานทั่วไป เช่นเซฟไฟล์เอกสารเล็กน้อยหรือเอาไว้ฟอร์แมตเป็นไดรฟ์ติดตั้ง Windows ก็ว่ากันไป หรือขึ้นไป 64GB อาจจะเอาไว้เป็นไดร์ฟเก็บไฟล์งานสำคัญต่างๆ ส่วน 128GB ขึ้นไปจะเหมาะกับสายคอนเทนต์ พกคู่กับสมาร์ทโฟนเอาไว้เป็นหน่วยความจำสำรองกรณีพื้นที่ในเครื่องเต็มก็โอนไฟล์ออกมาก่อนก็ถ่ายงานต่อได้เลย ไม่ต้องเพิ่มเงินไปซื้อรุ่นความจูสูงโดยไม่จำเป็น
FAQ
1. ในเมื่อแฟลไดร์ฟรองรรับระบบปฏิบัติการ Windows กับ macOS แล้ว ควรฟอร์แมต File system ให้เป็นแบบไหนถึงจะใช้ได้สะดวก?
ตอบ ถ้าต้องใช้แฟลชไดร์ฟกับคอมพิวเตอร์ระบบปฏิบัติการ Windows และ macOS สลับกันไปมา ควรฟอร์แมต File system เป็น exFAT จะใช้งานได้ทั้งสองระบบ
2. แฟลชไดร์ฟเกิดขึ้นเมื่อไหร่?
ตอบ ราวปี 1999 โดยต้นกำเนิดมี 2 ทาง คือ มาจากบริษัทเทคโนโลยี M-Systems ของอิสราเอล ผลิตสิ่งที่เรียกว่า DiskOnKey ขึ้นมาในปี 1999 ฝ่าย Phison ของไต้หวันเคลมว่าทางบริษัทก็ผลิตได้เมื่อปี 1999 เช่นกัน
3. แฟลชไดร์ฟชิ้นแรกมีความจุเท่าไหร่?
ตอบ มีขนาดเพียง 8MB แต่ถ้าเทียบกับสื่อบันทึกข้อมูลอย่าง Floppy Disk ซึ่งมีความจุ 1.44MB ก็ถือว่ามีความจุมากพอควร
4. แฟลชไดร์ฟในปัจจุบันมีความจุมากสุดกี่ TB?
ตอบ ปัจจุบันมีความจุสูงสุด 2TB
5. ควรซื้อแฟลชไดร์ฟแบบ USB 2.0 หรือไม่ หรือซื้อ 3.0 เลยดีกว่า?
ตอบ แฟลชไดร์ฟ USB 2.0 ก็ยังน่าใช้เช่นกันเพราะราคาไม่แพงมาก ยิ่งถ้าซื้อมาทำเป็นไดร์ฟลง Windows หรือ Security key เพื่อรักษาความปลอดภัยให้โน๊ตบุ๊คของเราก็ได้