Lenovo Yoga 7i โน๊ตบุ๊ค 2-in-1 เพื่อครีเอเตอร์จอ OLED พับจอได้ พลัง Intel Core Ultra แบตอึด ทัชสกรีน ปากาสไตลัส จบได้ทั้งงานและบันเทิง
Lenovo Yoga 7i 2-in-1 โน๊ตบุ๊คทำงานและพกพา จอสัมผัส 14″ ในแบบ OLED สวยคม ปรับพับหน้าจอได้ 4 แบบ ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ด้วย AI เพิ่มพลังการสร้างสรรค์งานได้อย่างที่จินตนาการได้มากขึ้น บนซีพียู Intel Core Ultra ให้ประสิทธิภาพควบคู่ไปกับการจัดการพลังงานที่ดี ระบบเสียง Dolby Atmos® เพิ่มอรรถรสในการดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมสนุก มีระบบตัดเสียงรบกวนทั้งลำโพงและไมค์ด้วย AI ดีไซน์บอดี้ที่ดูพรีเมียม งานประกอบแน่น เพื่อให้สอดคล้องกับการใช้งานในโหมดต่างๆ ซึ่งรวมถึงการเป็นแท็ปเล็ต กับฟีเจอร์ที่ทาง Lenovo จัดลงมาไว้ให้กับผู้ใช้มากมาย อย่างเช่น หน้าจอทัชสกรีน มีปากกาสไตลัส สำหรับการจดบันทึกและวาดภาพ ซอฟต์แวร์ปรับแต่งการใช้งาน กล้องแบบ IR Camera รองรับการสแกนใบหน้าเข้าระบบ จอภาพที่มีสีสันสดใส ขอบเขตสีกว้าง เหมาะกับงานออกแบบในปัจจุบัน แบตอึดสะใจสายพกพา อีกทั้งน้ำหนักยังจัดว่าพกพาสะดวก และยังสามารถหาอแดปเตอร์ชาร์จ USB-C แบบแยก 65W มาใช้ร่วมกันได้อีกด้วย มาพร้อมการการันตีด้วย Intel EVO โดยมี Windows 11 Home และ MS Office Home & Student 2021 ในตัว ให้การรับประกัน 3 ปี Premium Care เป็นแบบ Onsite ซึ่งรวมถึง Accidental Damage Protection ซึ่งเป็นการรับประกันอุบัติเหตุอีกด้วย สนนราคา 42,990 บาท
Lenovo Yoga 7i 2-in-1 โน๊ตบุ๊ค 2024
- Specification
- Hardware & Design
- Screen & Speaker
- Keyboard & Touchpad
- Connector, Thin & Weight
- Performance & Software
- Battery & Heat & Noise
- User Experience
- Conclusion & Award
จุดเด่น
- ให้ซีพียูตัวแรง Intel Core Ultra 7 155H มี NPU ในตัว
- กราฟิก Intel Arc ตอบโจทย์การเล่นเกมได้ นอกเหนือจากทำงาน
- พับหน้าจอได้หลายรูปแบบ เพื่อการใช้งานที่มากขึ้น
- ระบบเสียง Dolby Atmos รองรับด้านความบันเทิงได้ดี
- มาพร้อม Lenovo Pen และมีเมาส์ไร้สายมาด้วย
- ทัชสกรีนแม่น ตอบสนองได้ดี
- คีย์บอร์ดมาพร้อมไฟ Backlit สีขาว มองปุ่มเห็นชัด
- มี Windows 11 และ MS Office มาพร้อมใช้งาน
- จอ OLED สีสันสดใส ให้ขอบเขตสีที่กว้าง
- งานประกอบแน่น จับถือได้อย่างมั่นใจ
- แบตอึดทนทานใช้ได้นาน 10 ชั่วโมงในการทดสอบ
- บานพับแข็งแรง ปรับพับได้แน่นหนา
- มีพอร์ต Thunderbolt 4 จำนวน 2 พอร์ต
- กล้องเว็บแคมรองรับการสแกนใบหน้าเข้าเครื่องผ่าน Windows Hello
- ให้ระบบ Storage เป็น SSD PCIe 4.0 ความเร็วสูง
ข้อสังเกต
- การจะใช้งานให้ได้เต็มที่มากขึ้นต้องอัพเดตไดรเวอร์ให้ครบถ้วน
- ถ้ามีเพิ่มสแกนลายนิ้วมือมาด้วยก็จะเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน
- ปุ่ม Arrow Down/Up ยังเป็นแบบครึ่งปุ่ม
Specification
| Description | |
| โปรเซสเซอร์ | Intel® Core™ Ultra 7 155H |
| หน่วยความจำ | LPDDR5 16GB |
| ระบบปฏิบัติการ | Windows 11 Pro |
| การ์ดแสดงผล | Intel® Arc™ graphics |
| พื้นที่เก็บข้อมูล | PCIe SSD Gen 4 1TB |
| แบตเตอรี่ | 71WHr |
| ระบบเสียง/ลำโพง | 2W จำนวน 2 ตัว พร้อมระบบเสียง Dolby Atmos® |
| กล้อง | FHD IR RGB 1080p พร้อมชัตเตอร์ปิดเพื่อความเป็นส่วนตัว |
| พอร์ตเชื่อมต่อ | USB-A 3.2 Gen 1 2 x USB-C (Thunderbolt™ 4.0 / USB 3.2 Gen 2 / DP 1.4a / PD 3.0) HDMI 2.1 TMDS ตัวอ่านการ์ด Micro SD (UHS-1 (104) PCIe Gen 1) หูฟัง / ไมค์แบบคอมโบ |
| การเชื่อมต่อไร้สาย | 2 x 2 Intel® WiFi 6E* (802.11 ax) BlueTooth® 5.2 |
| จอภาพ | OLED WUXGA (1920 x 1200) ขนาด 14 นิ้ว, อัตราส่วนภาพ 16:10, 60Hz, 400 นิต, DCI-P3 100%, Dolby Vision®, กระจกระบบมัลติทัช 10 จุด |
| มิติ | 16.64 มม. x 317.72 มม. x 222.13 มม |
| น้าหนัก | รุ่นจอ OLED: เริ่มต้นที่ 1.49 กก. |
| ปากกา | Active Pen |
| สี | Tidal Teal |
| ซอฟต์แวร์ | Dolby® Access Lenovo Vantage McAfee® LiveSafe™ (เวอร์ชันทดลองใช้) Microsoft 365 (รุ่นทดลองใช้) Windows 11 |
| ราคา | 42,990 บาท |
ข้อมูลเพิ่มเติม: Lenovo
Hardware & Design
Lenovo ยังคงภาพลักษณ์ของความเรียบง่าย แต่แฝงด้วยความยืดหยุ่นในการใช้งานบนโน๊ตบุ๊ค Yoga series ไว้อย่างชัดเจน กับจุดเด่นที่บานพับขนาดใหญ่ สไตล์เกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค เพื่อให้รองรับกับการใช้ในโหมดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Tent, Stand หรือ Tablet ก็ตาม โดยใช้โทนสีเดียวทั้งบอดี้ ในโทนเขียว เฉดน้ำเงินและมีความเข้มของสีเทาอยู่ด้วยเรียกว่า Tidal Teal เป็นโทนสีที่อยู่บนโน๊ตบุ๊คในหลายๆ รุ่นของทาง Lenovo โดยที่ Cover จัดว่าทำได้แน่น และพื้นผิวที่จับกระชับมือ
ด้วยบานพับที่แข็งแรง เพื่อให้รับแรงเมื่อปรับพับหน้าจอได้ดี ไม่โยกสั่นได้ง่าย เมื่อวางใช้งานบนโต๊ะทำงาน ด้านท้ายมีความหนา เพราะเป็นจุดหมุนและรับน้ำหนัก ลดมิติให้บางลง ไล่ไปจนถึงแถบด้านหน้า จุดบางสุดเพียง 1.6cm โดยประมาณ โทนสีเป็นแบบเดียวกันทั้งภายนอกและภายใน
บอดี้ภายในเป็นโทนสีเดียวกัน งานประกอบแน่นและแข็งแรงแบบเดียวกับ Cover จุดวางมือไม่ได้เป็นแบบซอฟท์ทัช แต่ให้สัมผัสที่น่าใช้ รวมถึงให้ความทนทานพอสมควร เนื่องจากรับหน้าที่ในการสัมผัสกับพื้นโต๊ะ เมื่อใช้ในรูปแบบของ Stand Mode นั่นเอง
บนฝาปิดที่ดูเรียบง่าย แต่ก็มีโลโก้ YOGA โดดเด่นสะดุดตา อยู่บริเวณมุมบนด้านซ้ายของตัวเครื่อง
อีกจุดหนึ่งจะเป็นโลโก้ Lenovo บนพื้นแถบสีขาว ใกล้กับบานพับ ดูสวยงามลงตัว เวลาที่เปิดฝาโน๊ตบุ๊คขึ้นเพื่อเริ่มใช้งาน
ด้วยความที่เป็นโน๊ตบุ๊คแบบ Convertible พับจอได้ ก็ทำให้การกางหน้าจอ 180 องศาแบบนี้เป็นเรื่องง่าย ช่วยให้การแบ่งปันหน้าจอ ในการแนะนำ พรีเซนท์งาน ให้กับผู้ชมฝั่งตรงข้ามเห็นภาพไปพร้อมๆ กัน ก็สะดวก
ในเรื่องของมิติต้องบอกว่า Yoga 7i 2-in-1 รุ่นนี้ ทำออกมาได้ลงตัว ทั้งความบางของตัวเครื่อง และความแข็งแรง ได้อย่างสมดุล โดยไม่ต้องตัดส่วนสำคัญในการใช้งานไปมากมายนัก เช่น พอร์ตต่อพ่วงและรูปแบบการจับถือ ยังคงสะดวกและแข็งแรง อุ่นใจได้
อแดปเตอร์ที่จัดเตรียมมาให้บน Lenovo Yoga เป็นแบบ 65W ขนาดกระทัดรัด พร้อมสายต่อแบบยาง ความยาว 2 เมตร สามารถยืดระยะในการต่อจากปลั๊กผนังหรือปลั๊กรางได้มากทีเดียว
คีย์บอร์ดชุดปุ่มมาในเลย์เอาท์ของโน๊ตบุ๊ค 13.3″ และ 14″ แบบ Tenkeyless กับปุ่มที่เป็นเอกลักษณ์ของทางค่าย ซึ่งไม่ได้ออกแบบมาเป็นปุ่มสี่เหลี่ยมแบบ Chiclet เดิมๆ แต่มีความโค้งด้านล่าง เพื่อให้การพิมพ์สัมผัสแม่นยำขึ้น และเว้าลงเป็นเล็กน้อย พร้อมกับพื้นผิวที่ให้สัมผัส ปุ่มไม่ขึ้นเงาง่าย นับว่าเป็นเรื่องที่ดีของคนที่มักจะทานอาหารไปพร้อมๆ กับการทำงาน
ความโดดเด่นของ Lenovo Yoga 7i ในแบบ 2-in-1 อยู่ที่การใช้ได้หลายรูปแบบ ที่นอกเหนือจากการเป็นโน๊ตบุ๊คพื้นฐาน เพราะยังปรับโหมดใช้งานได้ทั้ง Tent mode, Stand และ Tablet mode โดยใช้ร่วมกับปากกา Lenovo Digital Pen จะใช้จดงาน บันทึกข้อมูลเร่งด่วนหรือวาดภาพในงานออกแบบ ก็ยังตอบโจทย์ได้ดี
ด้านใต้เครื่องดูเรียบง่าย แบบเดียวกับ Lenovo Yoga Book 9i ที่เราได้เคยทดสอบไปก่อนหน้านี้ มีช่องดูดลมเย็นเข้าไปในระบบ เป็นช่องขนาดใหญ่ และมีตะแกรงด้านในช่วยในการกรองฝุ่น
Screen & Speaker
Lenovo Yoga 7i 2-in-1 เป็นโน๊ตบุ๊คที่มาพร้อมจอภาพที่ใช้พาแนล OLED พื้นที่แสดงผล 14″ ในแบบทัชสกรีน รองรับการมัลติทัชได้ถึง 10 จุด ความละเอียด Full-HD 1920×1200 อัตรารีเฟรชเรต 60Hz กับความสว่างที่มากถึง 400nits และให้ความแม่นยำ รวมถึงขอบเขตสี ที่ใช้ร่วมกับงานด้านภาพได้ดีพอสมควร รวมถึงยังรองรับความบันเทิงได้อย่างเต็มอิ่ม โดยเฉพาะการชมภาพยนตร์และการเล่นเกม
กรอบด้านหน้าเป็นแบบ Glossy ที่มีความเงา แต่เคลือบลดแสงสะท้อน เพื่อให้มองเห็นได้ชัด และไม่เป็นรอยนิ้วมือได้ง่าย จากการใช้งานจอสัมผัส ด้านบนเป็นส่วนของกล้องเว็บแคม ที่ยื่นออกมาเล็กน้อย เปิดเพื่อกางฝาพับได้ง่ายขึ้น
การปรับมุมของจอและบานพับมีความแข็งแรง แม้ว่าจะกางในแบบที่มากกว่า 130 องศา ก็ยังไม่ทำให้ตัวเครื่องลอยขึ้นมา รักษาสมดุลได้ดี เพื่อให้คุณปรับใช้ในโอกาสต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น จะนั่งหรือยืน อยากจะปรับมุมมองก็ทำได้ทันที
อย่างที่ได้กล่าวไปในตอนต้น Lenovo ให้ความสำคัญกับจุดที่เป็นบานพับอย่างมาก เนื่องจากมีบทบาทต่อการใช้งานในหลายๆ ด้าน ความแข็งแรง มั่นคง และโน๊ตบุ๊ครุ่นนี้ ยังผ่านการทดสอบกาง พับ ปิดฝาหลายรอบ ผู้ใช้จึงมั่นใจได้ในเรื่องระยะเวลาในการทำงาน
ขอบจอภาพทั้ง 3 ด้าน บางเฉียบ เพื่อให้พื้นที่ใช้งานกว้างขึ้น ส่วนขอบด้านใต้จะเป็นแถบสีดำหนาขึ้นเล็กน้อย เพื่อให้จับถือได้สะดวก เมื่อใช้งานในโหมด Tablet
ขอบด้านข้างของจอทำออกมาได้ค่อนข้างบาง และมีเป็นกระจกที่มีความทนทาน รองรับการใช้งานแบบทัชสกรีน และใช้ร่วมกับปากกา Lenovo Pen ในการวาด เขียนและบันทึกได้แบบไม่ต้องกังวลว่าจะเป็นรอย
กล้องเว็บแคมที่ติดตั้งมาบน Lenovo Yoga 7i 2-in-1 รุ่นนี้ เป็นแบบ IR Camera ความละเอียด Full-HD คมชัด เหมาะกับการสนทนาออนไลน์ ประชุม ให้รายละเอียดที่ชัดเจน รองรับการล็อคอินเข้าสู่ระบบ ด้วยการสแกนใบหน้า และยังให้ความเป็นส่วนตัวด้วยม่านชัตเตอร์ ปิดแบบ Manual เมื่อไม่ใช้งาน
ลำโพงย้ายมาจากด้านใต้ของเครื่อง มาวางด้านข้างแบบเดียวกับ IdeaPad และ Flex เพื่อให้มิติเสียงที่ชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงที่ใช้งานในโหมด Stand และ Tablet เสียงที่ได้ยังคงชัดเจน
มิติเสียงเป็นเอกลักษณ์กับระบบเสียง Dolby Vision Atmos ที่เป็นระบบเสียงที่ให้คุณภาพเสียงในแบบ Surround sound มีความสมจริง แยกตำแหน่งเสียงได้ดี จึงเหมาะทั้งการชมภาพยนตร์ ที่ให้อารมณ์ในการรับชมเหมือนอยู่ในโรงหนัง ความรู้สึกในการฟัง แม้จะเป็นลำโพงบนโน๊ตบุ๊ค แต่ก็ยังรู้สึกถึงทิศทางการเคลื่อนไหวในแต่ละจุดผ่านไปมาได้อย่างชัดเจน
คุณภาพเสียงเน้นไปทั้งแน่น เพราะสไตล์ที่หนักไปทางการชมภาพยนตร์และทำงานเป็นส่วนใหญ่ เสียงกลางชัด มิติในการฟังแยกซ้าย-ขวาชัดเจน เก็บรายละเอียดได้ดี โดยเฉพาะการดูหนังที่มีเอฟเฟคจัดๆ เช่นฉากโจมตีในทะเลทรายของเหล่าดิเซปติคอน ระเบิดและชิ้นส่วนที่กระจัดกระจาย แรงกระแทกของคลื่นทะเล เมื่อยานเอเลี่ยนในเรื่องแบตเทิลชิปถูกถล่ม เช่นเดียวกับดนตรีประกอบฉากใน Lord of The Ring ประโคมขึ้นมา ให้ฟิลลิ่งในการฟังที่อบอุ่นทีเดียว
ส่วนในการฟังเพลง สไตล์ป๊อปร็อค ยังคงให้เสียงที่โดดเด่น เช่นเดียวกับแนวแจ๊ส ชูเสียงของแซกโซโฟนและนักร้องได้น่าประทับใจ แม้จะไม่ได้ออกมาเนียนหรือสเตจเสียงที่กว้าง แต่ก็ทำให้คุณอิ่มเอมใจได้ไม่น้อย
ปากกา Lenovo Pen เป็นสไตลัสที่จัดมาให้พร้อมกับ Lenovo Yoga 7i 2-in-1 รุ่นนี้ เพื่อให้การใช้งานสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ขนาดค่อนข้างกระทัดรัด เหมาะกับคนที่มือไม่ใหญ่มาก เพราะทำให้การจับถือหรือวางมือเพื่อวาดเขียนให้ถนัด ต้องปรับตัวพอสมควร ให้แรงกดได้ถึง 4096 ระดับ พร้อมปุ่มกดเลือก เขียนและลบมาให้ในตัวตามรูปแบบของสไตลัสทั่วไป
หรือจะใช้แทนเมาส์ก็ทำได้คล่องตัวไม่แพ้กัน ถ้าคุณใช้จนถนัดมือ ก็ถือว่าเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้การทำงานไวขึ้น โดยเฉพาะการทำพรีเซนเทชั่น การเขียนและนำเสนองานแบบด่วนๆ ใช้ได้สะดวกกว่าเมาส์ อีกทั้งไม่ต้องหาพื้นที่วางหรือใช้ทัชแพดให้เมื่อย การกดน้ำหนักเพื่อวาดเกือบจะสวยเนียน แต่การจรดปลายปากกา และความแม่นยำในการลากเส้น อยู่ในเกณฑ์ที่ดี สามารถลากเส้นและวางมือบนหน้าจอได้ มีหน่วงนิดหน่อยบางจังหวะ ตามสไตล์ของอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับบลูทูธ ใช้งานจริงได้ หรือในงานเขียนบนโปรแกรมออกแบบต่างๆ ก็ง่าย
ในด้านของคุณภาพการแสดงผลบนหน้าจอ Gamut Coverage ทำได้ระดับ 100% sRGB และ 100% DCI-P3 เช่นกัน รวมถึง AdobeRGB ที่ได้เกือบ 100% แสดงให้เห็นถึงพื้นที่ของสีที่ครอบคลุมพื้นที่แสดงผลเกือบทั้งหมดบนหน้าจอ ส่วน Gamut Volume ก็ทำให้เห็นได้ชัดว่า ผู้ใช้สามารถนำไปทำงานด้านภาพและวีดีโอได้อย่างเต็มที่ ตอบโจทย์การใช้งานซอฟต์แวร์ของเหล่าครีเอเตอร์ได้ไม่ยาก เช่นเดียวกับ Delta-E ที่ให้ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 0.10 เท่านั้น จึงวางใจได้ในแง่ของงานที่ต้องการความแม่นยำและคุณภาพของสีในการแสดงผล เรียกว่าตรงตามคอนเซปต์กลุ่มผู้ใช้บนโน๊ตบุ๊ครุ่นนี้
และค่าความสว่างสูงสุดจากการปรับ Brightness ที่ได้ในการทดสอบ อยู่ที่ราวๆ 360cd/m2 ซึ่งอาจจะน้อยกว่า Lenovo Yoga Book 9i ที่เคยได้ทดสอบอยู่บ้างเล็กน้อย แต่ก็จัดว่าสูงพอที่จะสู้แสงในการใช้งานนอกอาคารได้ไม่ยาก หรือคนที่ต้องไปเจอกับสภาพพื้นที่ทำงานที่มีแสงรบกวนเยอะ เช่นในฮอลล์จัดงาน นั่งในพื้นที่โล่ง หรือมีแสงสะท้อนของอาคารเข้ามาบ้าง Lenovo Yoga 7i รุ่นนี้ยังให้ภาพได้อย่างชัดเจน หรืออย่างน้อยปรับแค่40-50% ก็ให้ความสว่างที่เด่นชัดมากแล้ว
Keyboard & Touchpad
คีย์บอร์ดบน Lenovo Yoga 7i 2-in-1 รุ่นนี้ มาในแบบพิมพ์นิยมอย่างที่ได้พบบนโน๊ตบุ๊คในซีรีส์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Lenovo IdeaPad หรือ Thinkpad เป็นต้น จุดเด่นคือ ปุ่มที่มีความกว้าง เพิ่มพื้นที่ด้านล่างของปุ่มให้ใหญ่ขึ้น ทำให้การกดมีความแม่นยำ ความทนทานทำให้ผู้ใช้มั่นใจ ไม่ยุบยวบ และมีแรงต้านนิดๆ เพื่อให้มีระยะการกดที่สนุกมือ มีฟอนต์ขนาดใหญ่ TH-EN มองเห็นได้ชัดเจน ให้ปุ่มที่เป็นฮอตคีย์ และฟังก์ชั่นต่างๆ มาอย่างครบครัน
แต่ด้วยพื้นที่จำกัด ปุ่ม Arrow Up/ Down ก็เลยต้องลดขนาดลงเป็นแบบครึ่งปุ่ม ซึ่งเป็นรูปแบบที่หลายค่ายใช้กันอยู่ แต่ที่เพิ่มเติมเข้ามาคือ Copilot ที่อยู่ด้านข้าง Alt ขวา สำหรับเรียกใช้งาน AI มาด้วยเลย
โดยแถบด้านบน นอกจากจะเป็นปุ่ม Fn ใช้ฟังก์ชั่นในการทำงาน ก็ยังมี Insert, จับภาพหน้าจอ และปุ่ม Delete อยู่มุมขวาสุด ซึ่งค่อนข้างจะใช้งานง่าย และจดจำได้ง่ายอีกด้วย
รายละเอียดฟังก์ชั่นการใช้งานของฮออตคีย์
- F1 – ปิดเสียง
- F2 – ลดเสียง
- F3 – เพิ่มเสียง
- F4 – ปิดไมโครโฟน
- F5 – ลดแสงหน้าจอ
- F6 – เพิ่มแสงหน้าจอ
- F7 – ส่งสัญญาณไปจอนอก
- F8 – Flight mode
- F9 – ตั้งค่าระบบ
- F10 – ล็อคระบบ
- F11 – แสดงโปรแกรมทั้งหมดบนหน้าจอ
- F12 – เครื่องคิดเลข
นอกจากนี้ยังมีแสงไฟ Backlit สีขาว ซึ่งส่วนตัวค่อนข้างชอบกับสไตล์ของทาง Lenovo นี้ คือออกแบบและทำปุ่มมาได้ลงตัว แสงไฟลอดทะลุทุกคีย์ และมีแสงที่คม ทำให้ดูง่าย ไม่แฉกหรือกระจายออกมาสวยงาม สามารถปรับระดับแสงได้ถึง 3 ระดับ เพิ่ม-ลดให้อยู่ในระดับที่พอดีกับช่วงเวลานั้นๆ นอกจากนี้ยังปิดเมื่อไม่จำเป็นได้อีกด้วย เพื่อประหยัดแบตเตอรี่กรณีที่อยู่ในบริเวณแสงมากพอ สามารถปรับได้ที่ปุ่ม Spacebar ด้านล่าง จะมีโลโก้แสงไฟให้เห็นเด่นชัด
เป็นแบบมาตรฐานพื้นที่ไม่ได้กว้างมาก ตามระยะของโน๊ตบุ๊ค 13.3″-14″ แต่ก็ใช้งานได้สะดวก รองรับ Multi-Gesture Control รองรับ Windows 11 ได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ 2 นิ้วหรือ 3 นิ้วในการลาก ปาดหรือเรียกใช้ฟังก์ชั่นตามพื้นฐาน ไม่ว่าจะเป็น การใช้ 2 นิ้วย่อ-ขยาย หรือ 3 นิ้วในการปาดเพื่อเรียกดูทุกโปรแกรมบนหน้าจอ ค่อนข้างที่จะลื่นไหล ปุ่มกดคลิ๊กซ้าย-ขวาซ่อนอยู่บริเวณส่วนล่างของทัชแพด
และที่สะดุดตานั่นคือ โลโก้ Intel evo ที่โชว์อยู่บริเวณที่วางมือด้านซ้ายของตัวเครื่อง เป็นเครื่องการันตีได้ถึงโน๊ตบุ๊คที่ผ่านการ Certified อันเข้มงวดของทาง Intel โดยจะต้องมีคุณสมบัติเฉพาะไม่ว่าจะเป็น ซีพียูระดับ Intel Core Ultra, มีแบตเตอรี่ให้ใช้งานได้ยาวนานกว่า 9 ชั่วโมง ขอบจอที่บางและน้ำหนักเบา ติดตั้งพอร์ต USB-C ในแบบ Thunderbolt4 รองรับการสแกนใบหน้าและลายนิ้วมือ สนับสนุน Fast Charger และมี AI เช่นเดียวกับการเชื่อมต่อไร้สาย WiFi 6E เป็นต้น
เรียกว่าใครที่เลือกใช้โน๊ตบุ๊คที่ผ่านเงื่อนไข Intel evo มั่นใจได้ว่าคุณจะได้รับประสบการณ์ใช้งานที่มีประสิทธิภาพ และทำให้การใช้ในชีวิตประจำวันสะดวกสบายมากขึ้น
Connector, Thin & Weight
พอร์ตและการเชื่อมต่อบน Lenovo Yoga 7i 2-in-1 แม้จะบาง กระทัดรัด แต่ก็เต็มไปด้วยพอร์ตที่รองรับการใช้งานกับอุปกรณ์ที่ทันสมัยต่างๆ อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น USB-C Thunderbolt4 หรือ HDMI และจัดวางทางด้านซ้ายและขวาตามพื้นฐาน แต่จะมีในส่วนของทางด้านซ้ายเยอะกว่า เพื่อความสะดวกในการใช้งาน
ทางด้านซ้ายมือของผู้ใช้ประกอบด้วย Thunderbolt4 ซึ่งรองรับทั้งการโอนถ่ายข้อมูล ชาร์จไว และต่อจอ DP แสดงผลได้อีกด้วย
- 2 x USB-C (Thunderbolt™ 4.0 / USB 3.2 Gen 2 / DP 1.4a / PD 3.0)
- HDMI 2.1 TMDS สำหรับต่อจอนอกรองรับความละเอียดระดับ 4K
- 3.5mm แจ๊คสำหรับหูฟังและไมโครโฟน
ส่วนทางด้านขวามือจะเป็นพอร์ต USB Type-A และมี Media Card Reader มาให้ และใกล้กันเป็นปุ่มเพาเวอร์ สำหรับเปิดการใช้งาน
- USB 3.2 Gen1 ให้ความเร็วในการถ่ายโอน 5Gbps เน้นการต่อพ่วงอุปกรณ์ เช่น แฟลชไดรฟ์ ตัวรับสัญญาณหรือพรินเตอร์ และอื่นๆ
- microSD Card Reader สำหรับคนที่ต้องทำงานร่วมกับงานภาพ วีดีโอ ไปจนถึงการใช้ร่วมกับมีเดียการ์ดที่อยู่บนสมาร์ทโฟน แท็ปเล็ตได้อีกด้วย
ส่วนตัวมองว่าค่อนข้างให้มาครบ และพร้อมสำหรับใช้ในงานทั่วไปในปัจจุบัน แต่ถ้าอยากให้มีเพิ่ม ก็น่าจะเป็น SD Card Reader เพราะใช้ร่วมกับอุปกรณ์ได้หลากหลายกว่า และถ้าจะใช้กับ microSD ก็แค่ใส่ตัวแปลงเพิ่มไปเท่านั้น รวมถึงถ้ามี USB Type-A เพิ่มอีกพอร์ตก็จะดีไม่น้อย แม้ว่าทุกวันนี้ USB-C ก็สามารถใช้ร่วมกับตัวแปลงอื่นๆ เพิ่มเติมได้มากมายก็ตาม
ด้วยความเป็นโน๊ตบุ๊คในแบบ 2-in-1 หรือ Convertible laptop ซึ่งจะต้องมีโหมดการทำงานแบบ Tablet มาใช้ด้วย ความแข็งแรงและมิติก็อาจจะหนากว่ากลุ่มของโน๊ตบุ๊ค Thin & Light อยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้ห่างกันมากนัก จุดที่บางสุดอยู่ที่ราว 1.6cm เท่านั้น เมื่อปิด Cover ลงมา ซึ่งเทียบเท่ากับโน๊ตบุ๊คทำงานในปัจจุบัน แต่ก็ถือว่าทำให้เวลาใช้โหมดแท็ปเล็ตก็จับได้ถนัดมือ และยังไม่เปลืองพื้นที่ในกระเป๋าเป้ มีพื้นที่มากพอสำหรับใส่อุปกรณ์เสริมลงในกระเป๋าได้สบาย
น้ำหนักอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน เพราะจากที่ได้ลองชั่งน้ำหนัก เฉพาะตัวเครื่องของ Lenovo Yoga 7i อยู่ที่ราว 1.49Kg. ตรงกับที่เคลมเอาไว้บนเว็บไซต์สำหรับรุ่นที่เป็นจอ OLED แต่ถ้าเป็น IPS จะเบาลงกว่านี้เล็กน้อย
และเมื่อรวมกับอแดปเตอร์ชาร์จไฟขนาด 65W กับสายชาร์จที่ให้มายาวพิเศษ รวมแล้วอยู่ที่ 1.76Kg. เท่านั้น เพิ่มมาจากตัวเครื่องไม่มาก ช่วยให้คนที่จำเป็นจะต้องพกสายชาร์จไปทำงานด้วย หรือจะต้องเดินทางไปทำงานนอกบ้านบ่อยๆ เช่น ฝ่ายขาย พรีเซนท์งานหรือไปออกบูธ และเหล่ายูทูปเบอร์ สามารถพกพาไปได้ แม้จะต้องนั่งรถสลับกับการเดินบ้างก็ตาม
Performance & Software
ตรวจเช็คเบื้องต้นกับซีพียูที่ติดตั้งมาบนโน๊ตบุ๊ครุ่นนี้ Intel Core Ultra 7 155H ซึ่งเป็นซีพียูใหม่ล่าสุดของทาง Intel ภายใต้ชื่อของ Meteor Lake ทำงานในแบบ 8 Core-P, 6 Core-E และ 2 LPE-core โดยมีถึง 22 Thread รองรับงานมัลติทาส์กกิ้งได้อย่างเต็มที่ มีค่าการใช้พลังงานน้อย ทำให้แบตอึดใช้งานได้นาน ความร้อนต่ำ และยังมี L3-cache มากถึง 24MB ด้วยกัน จัดว่าเยอะมากๆ ในกลุ่มของซีพียูโมบายเช่นนี้
ส่วนแรมติดตั้งมาในแบบ LPDDR5 6200 ของทาง Micron เป็นแบบติดมากับเมนบอร์ด ให้มาถึง 16GB ด้วยกัน สามารถรองรับแอพพลิเคชั่นในปัจจุบันได้ไม่ยาก จากเท่าที่ได้ลองทดสอบ แม้จะรับโหลดหนักๆ เช่น เปิดเว็บเบราว์เซอร์พร้อมกันจำนวนมาก หรือการลากไฟล์ขนาดใหญ่มาเปิดใช้อย่างต่อเนื่อง ยังสามารถรับไหว
การทดสอบเบื้องต้นด้วย CPUz เรื่องของตัวเลขทำได้ค่อนข้างดี แม้จะยังเป็นรองซีพียูตัวทดสอบเทียบอย่าง Intel Core i7 10700 แต่นั่นเป็นซีพียูเดสก์ทอปที่มีค่า TDP ค่อนข้างสูง และสัญญาณนาฬิกาไม่ธรรมดา ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจกับผลคะแนนที่เป็นรองอยู่บ้าง ต้องไปชมผลการทดสอบอื่นๆ เพิ่มเติม
ระบบ Storage ที่ติดตั้งมาใน Lenovo Yoga 7i 2-in-1 รุ่นนี้ ถือว่าน่าสนใจ เพราะเป็น PCIe 4.0 x4 จากทาง Samsung ความจุ 1TB ที่ให้ประสิทธิภาพในการทำงานที่ดีทีเดียว ในโมเดล PM9A1 จากการทดสอบด้วย CrystalDiskMark จะเห็นได้ความตัวเลขของ Sequential score ในส่วนของ Read ไปได้กว่า 6100MB/s และ Write ไปเกือบ 5000MB/s ทีเดียว ซึ่งเป็นตัวช่วยที่ดีในการทำงาน เปิดไฟล์ เปิดโปรแกรม และโอนถ่ายข้อมูล รวมถึงการเปิดไฟล์ขนาดใหญ่ อย่างไฟล์ภาพและกราฟิกความละเอียดสูงได้เป็นอย่างดี Lenovo จัดมาให้แบบไม่มีกั๊กในส่วนนี้
ทดสอบความสามารถโดยรวมในงานต่างๆ ผ่านทาง PCMark10 งานด้านแอพพลิเคชั่นและการจัดการซอฟต์แวร์สำนักงานตัวเลขออกมาน่าประทับใจ เพราะไปได้กว่า 11,000 คะแนน ส่วนด้าน Digital Content Creation ก็เป็นส่วนสำคัญในการทำงานปัจจุบัน ก็ทำคะแนนไปเกือบแตะ 9,000 ซึ่งพูดได้เลยว่าตัวเลขเกินคาด เพราะก่อนหน้านี้เราทดสอบกับ Core Ultra 7 แต่เป็น U series ก็ถือว่าทำได้ค่อนข้างดีแล้ว แต่ตัวเลขที่ได้บน H series ดูจะพลิกโฉมการทำงานบนซีพียูโมบายเช่นนี้ได้อย่างชัดเจน เนื่องจากส่วนใหญ่ที่เราทดสอบจะอยู่ที่ราว 6,000-8,000 คะแนนเท่านั้น
มาอีกหนึ่งการทดสอบสุดโหดไม่แพ้กัน กับงานด้านโมชั่นกราฟิกที่เรนเดอร์โมเดลงาน 3D ที่บางทีอาจจะดูหนักเกินไปสำหรับโน๊ตบุ๊ค แต่ในปัจจุบันส่วนใหญ่ก็รันไปได้จนจบ จะช้าหรือเร็ว ก็ขึ้นอยู่กับระบบที่ใช้สำหรับ CINEBench ในภาพรวมของ Lenovo Yoga 7i รุ่นนี้ ทำได้น่าสนใจ รันได้จนจบแม้จะเป็น R24 ตัวล่าสุดและผลงานที่ออกมา ก็จัดว่าประสิทธิภาพไม่เบา กับตัวเลขในหลายส่วน แซงหน้าซีพียูในระดับเดียวกันอย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังมีในส่วนของ AI ที่เข้ามาช่วยจัดการเรื่องระบบพลังงาน และสัญญาณนาฬิกาให้สอดคล้องกับการทำงาน จึงทำให้ตัวเลขที่ได้เปรียบเทียบกับซีพียู Core i7 รุ่นเก่าๆ จะเห็นชัดว่า Intel Core Ultra นำไปได้ขาดลอย และบางส่วนยังไปเบียดบี้กับซีพียูรุ่นใหญ่ในกลุ่ม Desktop PC ได้อีกด้วย แต่อย่างไรก็ดีโน๊ตบุ๊คยังคงเหมาะกับงานพรีวิวหรือโมเดลขนาดเล็ก ถ้าเป็นงานสเกลใหญ่การใช้พีซีตั้งโต๊ะน่าจะตรงกับจุดประสงค์ของงานมากกว่า
การทดสอบเรนเดอร์ 3D เช่นเดียวกัน ซึ่งอาศัยพลังของซีพียูเป็นหลัก ซึ่งผลทดสอบที่ได้อยู่ในระดับที่ดี เมื่อเทียบกับกลุ่มโน๊ตบุ๊คในระดับเดียวกันกับตัวเลขที่ทำได้ถึง 3,678,154 Ray/s
เช่นเดียวกับการทดสอบ V-Ray กับตัวเลขที่ทดสอบทั้ง CPU และ GPU ในการทำงาน ซึ่งก็ดูเหมือนว่าซีพียูก็ยังคงรับบทหนักในงานด้านกราฟิกสามมิตินี้เช่นเคย รันได้จนจบและ Score ก็ให้ผลมาค่อนข้างดีทีเดียว ถ้าเทียบกับโน๊ตบุ๊คที่ใช้ซีพียูใน Gen11 หรือ Gen12 H series ที่เราเคยได้ทดสอบก่อนหน้านี้
ในการทดสอบด้านเกม 3 มิติกับโปรแกรม 3DMark กับกราฟิก Intel Arc ประสิทธิภาพไม่ธรรมดา ที่มีมาในตัวซีพียู Intel Core Ultra ก็สามารถจัดการได้อยู่หมัด รันได้ครบทุกรายการ ไม่ว่าจะเป็น Time Spy และ Fire Strike ซึ่งรวมถึงในโหมด Extreme อีกด้วย กับการทดสอบบนความละเอียด 1200p ตาม Resolution ของหน้าจอ ตัวเลขแซงหน้าผลที่ได้จาก Intel Graphic บนซีพียู Intel Core Ultra 7 U series ไปพอสมควร โดยเฉพาะ Fire Strike Extreme ทำคะแนนได้ดีกว่า 10-15% เลยทีเดียว ในการเล่นเกมยังคงวางใจได้
มาที่การเล่นเกมจริงจังกันบ้าง สำหรับกราฟิก Intel Arc ที่ติดตั้งมาในซีพียู Intel Core Ultra 7-155H นี้ ต้องถือเป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์แกร่งในแง่ของความแรงที่ถอดมาจากการ์ดจอแยก Intel Arc ที่มีจำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน มีความโดดเด่นทั้งในแง่ของฟีเจอร์ด้านมัลติมีเดีย และการทำงานด้านสามมิติ รวมถึงการเล่นเกมด้วยเช่นกัน จากการทดสอบของทีมงาน เกมพื้นฐานทั่วไป ที่ไม่ได้ใช้พลังของกราฟิกหนักมากๆ ส่วนใหญ่จะเล่นได้เกือบทั้งหมด และภาพก็ยังจัดว่าสวยทีเดียว แต่อาจจะต้องแลกมากับการปรับจูนในส่วนของ Detail เกมอยู่บ้าง ไม่ว่าจะเป็นฟีเจอร์ AA, Render scale หรือความสวยงามบางอย่าง อาจจะต้องลดทอนไปบ้าง เพื่อให้ภาพที่ไหลลื่นและดูสวยงามไปพร้อมๆ กัน
ตัวอย่างแรกทดสอบด้วยเกม PUBG การปรับแต่งอยู่ที่ระดับ Low และ Medium โดยลด Render scale ที่มีผลต่อการสร้างภาพระยะไกลให้ชัดเจนน้อยลง แต่ได้ความลื่นที่มากขึ้น เล่นบนโหมด 1200p ภาพที่ได้บน Low settings ทำได้ระดับ 60fps. แต่เฉลี่ยแบบนิ่งๆ ประมาณ 45-52fps. ซึ่งก็ถือว่าให้เฟรมที่ลื่นมากพอสำหรับการเล่นและจัดการศัตรูได้แบบไม่กระตุกให้เสียอารมณ์ ส่วน Medium พอเล่นได้ แต่บางจังหวะก็มีเฟรมสะดุดไปบ้าง ต้องไปปรับบางส่วนชดเชย
อีกเกมหนึ่งก็น่าสนใจนั่นคือ Spider-Man Remastered เกมนี้เล่นได้ในโหมด Low settings และแทบไม่ต้องปรับแต่งอะไรมาก เพราะภาพที่ได้มีความสวยงาม เนื่องจากตัวเกมเรนเดอร์กราฟิกต่างๆ ออกมาได้ดี ช่วงจังหวะที่โหนไปมานั้น ยังทำได้ดีบนโหมด 1200p แต่ถ้าในช่วงที่อยู่ในอาคาร และมีการโจมตี เอฟเฟกต์โดยรอบเคลื่อนไหวเยอะ ก็มีอาการกระตุกได้เช่นเดียวกัน แต่เฟรมเรตก็เฉลี่ยอยู่ที่ 30fps.++ ก็ยังจัดว่าเล่นได้ แม้จะยังไม่ได้ตั้งค่าอื่นๆ เพิ่มขึ้นก็ตาม
ส่วนถ้าเป็นเกมแนว MOBA อย่าง DOTA2 ก็ยังเล่นได้ลื่นปรับกลางๆ ก็สนุกได้เฟรมยังคงลื่นไหล เช่นเดียวกับเกม Casual อื่นๆ ที่ไม่ได้ใช้สเปคมากมายนัก ก็สนุกได้ในช่วงพักผ่อน แบบไม่ต้องกังวลเรื่องการใช้สเปคมากมายนัก
ด้วยการทำงานของระบบเพื่อให้เกิดความครบสมบูรณ์ ก็ต้องมีเรื่องของ NPU และการใช้งานที่เรียกว่า Intel AI Boost มาพูดถึงด้วย โดยเฉพาะการทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์ที่รองรับ อย่างเช่น Fimora AI Video Editor ที่ช่วยให้การเรนเดอร์ ตัดภาพ เพิ่มเอฟเฟกต์ หรือการตัดพื้นหลังทำได้อย่างรวดเร็ว และเพิ่มในส่วนของรายละเอียดภาพจากสคริปต์หรือการถอดสคริปต์ทำได้ง่ายกว่าเดิม จากตัวอย่างที่เราจัดเรียงฟุตเทจแบบง่ายๆ และลากเอฟเฟกต์มาใส่ รวมถึงการเพิ่มซูเปอร์ต่างๆ ลงไป ใช้เวลาเรนเดอร์ไม่นาน เราก็ได้วีดีโอสั้นๆ ที่ทำได้เองในไม่กี่นาทีเท่านั้น
หรือว่าจะเป็นการสร้างสคริปต์หรือ Prompt จาก Copilot แล้วนำมาสร้างเป็นภาพของอาหารเช้าบน AI Generative อย่าง FreePik ก็ทำได้อย่างรวดเร็ว ช่วยคุณสร้างภาพแบบมืออาชีพได้ในไม่กี่ขั้นตอนอีกด้วย
Battery & Heat & Noise
ใครที่ชอบการพกพาที่สะดวก ใช้งานได้ยาวๆ แบบที่ไม่ต้องคิดเรื่องพกพาที่ชาร์จมากนัก เพราะจากการทดสอบโน๊ตบุ๊ค Lenovo Yoga 7i 2-in-1 รุ่นนี้ มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 71WHr กับสปเคประมาณนี้ ค่าเฉลี่ยอย่างน้อย 8-9 ชั่วโมงต่อการชาร์จ ในการทดสอบของเรากับการสตรีมวีดีโอ บนความละเอียด Full-HD ความสว่าง 20% และเสียง 15-20% บนสภาวะในห้องทำงานที่มีความสว่างพอสมควร และอุณหภูมิห้องประมาณ 25 องศาเซลเซียส เมื่อทดสอบไปได้ประมาณ 10 นาทีระดับแบตโดยรวมแจ้งบนโปรแกรมสามารถใช้ได้อีกกว่า 10 ชั่วโมงด้วยกัน แต่จะนิ่งๆ เมื่อการทดสอบเลยไปกว่า 15-20 นาที จะรายงานว่าใช้ได้ประมาณ 10 ชั่วโมง ก็ถือว่าเป็นระดับการจัดการแบตที่ทำได้ดี และสมกับการผ่านเงื่อนไข Intel evo อีกด้วย
จากการทดสอบความเร็วในการชาร์จแบตเตอรี่ในช่วงสแตนบาย คือไม่ได้ชัตดาวน์ระบบ แต่เปิดหน้าจอ ปิดเสียงและการเชื่อมต่อ ผลที่ได้คือ ระบบชาร์จไปได้ 34% ในเวลา 30 นาที ซึ่งถ้าหากปิดเครื่องชาร์จก็จะยิ่งชาร์จได้เร็วมากขึ้น แต่เท่านี้ก็นำไปใช้งานได้หลายชั่วโมงแล้ว
อุณหภูมิในการทำงานแทบไม่ต้องกังวลโดยเฉพาะคนที่ต้องทำงานอย่างต่อเนื่อง ยิ่งอยู่ในพื้นที่หรือห้องที่มีการควบคุมอุณหภูมิหรือเครื่องปรับอากาศอยู่แล้ว สามารถรันโปรแกรมได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยระบบการทำงานที่เรียกว่า Speed Shift Technology นั้นจะช่วยควบคุมเรื่องของไฟเลี้ยงและความเร็วของซีพียูให้เป็นไปตามรูปแบบการใช้งานช่วงนั้นๆ ซึ่งจะเหนือกว่าการทำงานของ Intel SpeedStep เดิม ตัวซีพียูจะทำหน้าที่ในการตอบสนองระดับการทำงานต่างๆ ด้วยตัวเองแทนที่ระบบปฏิบัติการหรือซอฟต์แวร์ นอกจากจะทำให้ประสิทธิภาพสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เพื่อให้ทันต่อความต้องการของแอพพลิเคชั่นแล้ว ก็ยังลงมาในจุดที่ต่ำสุด เมื่อไม่มีโหลด หรือมีค่าการใช้พลังงานสูงเกินระดับ ดังนั้นจึงเห็นได้ว่า แม้ในช่วงแรกที่รันโปรแกรม CPU Burner แล้วความร้อนจะกระโดดขึ้นไปสูง แต่ก็เป็นแค่ช่วงสั้นๆ ไม่กี่วินาที จากนั้นระบบก็จะดรอปลงมา และคงสถานะของโหลดให้เหมาะสม ไม่ทำให้ซีพียูร้อนเกินไปหรือไม่ลดประสิทธิภาพให้ลงจนระบบทำงานช้า เรียกว่ามีการให้สมดุลที่ดี โดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ราวๆ 71-75 องศาเซลเซียส ก็เรียกว่าทาง Lenovo เอง ก็จัดเตรียมชุดระบายความร้อนมาได้ดีเช่นเดียวกัน
User Experience
ก็จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คในกลุ่ม Convertible หรือ 2-in-1 ที่สามารถพับจอเพื่อใช้งานในโหมดต่างๆ ได้ดีอีกรุ่นหนึ่งสำหรับ Lenovo Yoga 7i 2-in-1 รุ่นนี้ หลังจากที่เราได้ตื่นตาตื่นใจกับการทดสอบ Lenovo Yoga Book 9i ไปก่อนหน้านี้ ซึ่งความพิเศษของจอ OLED แบบคู่ สร้างความประทับใจในการใช้งานได้ดี แต่นั้นก็เป็นโน๊ตบุ๊คในกลุ่มพรีเมียมเฉพาะ ซึ่งบางท่านอาจจะไม่ได้สะดวกในการพกพาหรือมีค่าใช้จ่ายที่อาจจะเพิ่มสูงขึ้น แต่สำหรับ Yoga 7i นี้ต้องถือว่า จับต้องง่าย ดูเป็นกันเอง และมีความพิเศษในแง่ของการใช้งานในโหมดต่างๆ ได้คล่องตัวมากกว่า ไม่ว่าจะเป็น Tent mode, Stand หรือ Tablet mode ต่างให้การใช้งานที่ง่ายและรวดเร็ว เข้ากับสถานการณ์ได้ดี
กับฟีเจอร์ที่ให้มา ก็เรียกว่าครบครัน การใช้ก็ดูคล่องตัว ทั้งการทำงานและความบันเทิง ซึ่งดูสอดคล้องกันไปหมด โดยเฉพาะการทัชสกรีนที่แม่นยำ ตอบสนองไว เลือกอินพุตได้หลายแบบ ทั้งการใช้คีย์บอร์ด ที่ทำมาให้ผู้ใช้ใช้อย่างจริงจัง กดสนุกและยังมีไฟ Backlit ให้ใช้งาน ปุ่มฮออตคีย์มีให้ใช้ครบ และยังจะมีปากกา Lenovo Pen มาให้ใช้อีก วาดก็ง่าย เขียน จดบันทึกก็ทำได้ทันที ไม่ต้องยุ่งยาก ยิ่งการเป็น Multi-Gesture ก็ยิ่งทำให้การใช้งานแทบจะไร้รอยต่อ จะสลับใช้คีย์บอร์ด เมาส์ ทัชสกรีน และสไตลัสก็ไหลลื่น
ประสิทธิภาพแทบจะไร้ข้อกังขากับความสามารถของ Intel Core Ultra ที่จับคู่กันมากับ Intel Arc กราฟิกตัวเก่งของค่าย จะเป็นในเรื่องของงานซอฟต์แวร์ต่างๆ สามารถรันได้อย่างลื่นไหล หรือจะเป็นการแปลงไฟล์หรือเรนเดอร์วีดีโอก็ลื่นไหลได้ดี โดยเฉพาะ SSD ที่จัดแบบตัวแรงมาให้แล้ว ช่วยงานด้านข้อมูลจำนวนมากและการเปิดไฟล์ หรือเปิดเข้าสู่โปรแกรมก็ทำได้รวดเร็วอีกด้วย
ระบบเสียงจัดมาเต็มอิ่มและยิงเข้าตัวผู้ใช้โดยตรง เมื่อผสมกับระบบเสียง Dolby Atmos ก็ยิ่งเต็มอิ่มจุใจ เล่นหนัง ฟังเพลง เล่นเกมก็สนุกสนานได้โดยไม่ต้องใช้หูฟังเพิ่ม จอสีสดใสได้เป็นจอ OLED ก็ยิ่งทำให้ใช้งานได้หลากหลายกว่าเดิม สีสันจัดจ้านและยังได้ขอบเขตสีที่กว้างอีกด้วย หลายอย่างมองว่าให้มาดีแล้ว แต่ก็เพิ่มเติมบางส่วนมาให้ เพื่อการใช้งานที่ครบเครื่องมากยิ่งขึ้น
Conclusion & Award
Lenovo Yoga 7i 2-in-1 เป็นโน๊ตบุ๊คที่ช่วยคุณสร้างสรรค์งานและเพิ่มความสะดวกในการใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างเต็มที่ การปรับ พับ หมุนให้เข้ากับการใช้งาน เป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของโน๊ตบุ๊ครุ่นนี้กับลูกเล่นและฟีเจอร์ที่มีให้ Intel Core Ultra 7 แรม 16GB ได้จอ OLED เป็นแบบทัชสกรีน และ SSD 1TB ความเร็วสูง แบตอึดใช้นาน 10 ชั่วโมง ลำโพงเสียงจัดจ้าน พอร์ต Thunderbolt 4 รวมถึงแพลตฟอร์ม Intel evo ที่มีมาเป็นแบบคู่ เมื่อเทียบกับราคา 42,990 บาท ก็แทบจะหาตัวเทียบได้ยากในท้องตลาด ได้การรับประกัน 3 ปี Premium Care เป็นแบบ Onsite ซึ่งรวมถึง Accidental Damage Protection ซึ่งเป็นการรับประกันอุบัติเหตุอีกด้วย
ด้วยขุมพลังที่ให้มา บวกกับการอินพุตข้อมูลได้หลายทาง เป็นตัวช่วยในการสร้างสรรค์ผลงานให้กับเหล่าครีเอเตอร์ได้ดี ในการเขียนหรือบันทึกสิ่งที่คิดเอาไว้ หรือใช้เป็นข้อมูลในการทำผลงานออกมาให้เป็นรูปธรรมได้รวดเร็ว และยังมี AI มาในตัวอีกด้วย จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับนำไปใช้งานด้านนี้โดยเฉพาะ รางวัลนี้จึงดูสอดคล้องเหมาะสม
นอกเหนือจากในเรื่องของความสวยงามและรูปลักษณ์ ที่ทาง Lenovo ทำออกมาได้ดีบนโน๊ตบุ๊ค Yoga 7i รุ่นนี้ ยังมีในเรื่องการใช้งาน ปรับพับจอได้ 360 องศา มีความหลากหลายในการใช้งาน ยังมีขอบจอที่บางและแข็งแรง น้ำหนักค่อนข้างเบา และวัสดุที่จับถือได้สะดวก ซึ่งการออกแบบให้รายละเอียดได้ดี เข้ากันได้ทั้งเรื่องของภาพลักษณ์และการใช้งานอีกด้วย
