ASUS ROG Zephyrus G14 GA403UV เกมมิ่งตัวบางแอบแรง หยิบไปไหนก็ดูดีไม่มีใครเกิน!!
ASUS ROG Zephyrus G14 GA403UV เป็นหนึ่งในสามหัวหอกเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คจากทาง ASUS ผู้คงรูปลักษณ์เรียบหรูผู้ดี ขณะที่อีกสองพี่น้องเป็นเกมมิ่งตัวแรงทรงพลังขวัญใจเกมเมอร์ปรับสุดทุกเกม ROG Zephyrus G14 จึงเหมาะกับพนักงานออฟฟิศผู้รักในการเล่นเกมและครีเอเตอร์ปั้นงานกราฟิค 3D เสียมากกว่า ซึ่งโมเดลปี 2024 ก็ยังคงความเรียบหรู พกพาสะดวกด้วยบอดี้บางเพียง 1.59 ซม. กับน้ำหนัก 1.5 กก. บอดี้อลูมิเนียม CNC สีขาว จะหยิบออกมาใช้ตอนไหนก็เสริมภาพลักษณ์ให้เจ้าของเป็นคนดูดีมีระดับ แต่ก็แทรกความซุกซนด้วยแถบไฟ LED สีขาวเล่นเอฟเฟคได้อย่าง “Slash Lighting” พาดเฉียงด้านหลังเครื่องไว้ได้อย่างลงตัว
แม้จะว่าดูดีอย่างไร แต่ใต้ชุดสูทสีขาวของ ROG Zephyrus G14 ก็ยังร้ายกาจเช่นเดิมด้วยซีพียู AMD Ryzen 9 8945HS พ่วง Ryzen AI ช่วยเร่งประสิทธิภาพให้ดีขึ้น จับคู่ NVIDIA GeForce RTX 40 Series สุดทรงพลัง ให้เล่นเกมฟอร์มใหญ่และทำงานกราฟิคได้ยอดเยี่ยม ระบายความร้อนได้เย็นสบายด้วยชุดพัดลม Tri-Fan ผสาน ROG Intelligtent Cooling ระบายความร้อนด้วยโลหะเหลว (Liquid Metal) จาก Themal Grizzly ทำให้ทำงานเต็มกำลังแล้วเครื่องยังไม่ร้อนมาก ได้หน้าจอ ROG Nebula display พาเนล OLED ขอบเขตสีกว้าง 100% DCI-P3 พร้อมการันตีว่าสีเที่ยงตรงด้วย PANTONE แถมรองรับการแสดงผล Dolby Vision HDR เหมาะสมทุกการใช้งาน
ลูกเล่นประจำรุ่นก็มีติดมาให้ครบเครื่องเช่นเดิม ไม่ว่าจะปุ่มมาโคร M1~M4 เอาไว้เซ็ตคีย์ลัดใช้งานได้ตามต้องการไม่ว่าจะทำงานหรือเล่นเกมก็ใช้ได้ ติดกล้องสแกนใบหน้าอินฟาเรดไว้ปลดล็อคตัวเครื่องร่วมกับระบบ Windows Hello และลำโพง 6 ตัว เนื้อเสียงดีเกินตัวเบสแน่นคมชัด ทำให้ฟังเพลงได้อรรถรสและเล่นเกมได้เยี่ยมยอดแถมพอร์ตยังได้มาเพียงพอต่อการใช้งานทั้ง MicroSD Card Reader, USB-C Full Function รวมไปถึง HDMI ก็ยังมีให้ใช้ ถือว่าครบถ้วนกระบวนความดีมากรุ่นหนึ่ง
NBS Verdicts
ถ้าต้องการโน๊ตบุ๊คซึ่งมีภาพลักษณ์เรียบหรูดูดีตอนทำงานแต่ก็ทรงพลังพอทำงานกราฟิค 3D ได้สบายๆ แถมเล่นเกมชั้นนำได้ไม่แพ้เกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่น ASUS ROG Zephyrus G14 GA403UV จะเป็นตัวเลือกที่ดีมาก ทั้งน้ำหนักเบา 1.5 กก. ไล่เลี่ยกับโน๊ตบุ๊คทั่วไปในปัจจุบัน แถมได้พอร์ต USB-C DisplayPort กับ Full Function รวมถึงพอร์ตมาตรฐานต่างๆ ครบถ้วน ในบอดี้สีขาวเรียบหรูติดไฟ Slash Lighting ไว้ดูการแจ้งเตือนและเล่นเอฟเฟคต่างๆ เพิ่มความสวยโดดเด่นยิ่งขึ้น
สเปคของ ASUS ROG Zephyrus G14 GA403UV ก็ครบเครื่องทั้งซีพียู AMD Ryzen 9 8945HS ทุกรุ่น จะต่างกันก็แค่จีพียู NVIDIA GeForce RTX 40 Series ซึ่งรุ่นเริ่มต้นจะได้ GeForce RTX 4050 และเพิ่มเงินอีก 3,000 บาท จะอัปเกรดเป็น GeForce RTX 4060 ให้เล่นเกมและทำงานได้ดีขึ้นกว่าเดิม แสดงผลขึ้นหน้าจอพาเนล OLED ขอบเขตสี 100% DCI-P3 เคลมความเที่ยงตรงสี Delta-E <1 แล้วได้บริษัทชั้นนำของโลกอย่าง PANTONE การันตีว่าสีสันเที่ยงตรงแม่นยำ ได้รับการรับรอง VESA DisplayHDR True Black 500 ว่าสีดำของหน้าจอนี้ดำสนิทแน่นอน นอกจากคนทำงานและเกมเมอร์แล้วครีเอเตอร์และช่างภาพคนไหนจะต้องหิ้วโน๊ตบุ๊คติดตัวไปหน้างานเป็นประจำน่าจะถูกใจ เพราะเอาภาพจากกล้องเข้าคอมผ่านพอร์ต MicroSD Card ได้รวดเร็วทันใจ
เรื่องข้อสังเกตเป็นเรื่องรายละเอียดของตัวเครื่อง เริ่มจากอัปเกรดเพิ่ม M.2 NVMe SSD ได้เพียงช่องเดียว เพราะใช้พื้นที่ว่างไปติดตั้งพัดลมโบลวเวอร์เพิ่มเป็นระบบ Tri-Fan อีกตัว ทำให้มีแต่ SSD ตัวหลักและ M.2 Wi-Fi อย่างละช่อง อย่างมากคือเพิ่มความจุเป็น SSD 2TB เท่านั้น แถมทางบริษัททำตัวเครื่องมาสวยชวนให้อยากเป็นเจ้าของขนาดนี้แต่กลับติดสติกเกอร์ต่างๆ ไว้บนแท่นวางข้อมือฝั่งซ้ายตามปกติ ถ้าหากย้ายไปติดใต้ตัวเครื่องถัดลงมาจากช่องนำอากาศเข้าจะดูดีมีระดับขึ้นมาก นอกจากนี้ยังเอาไฟแสดงสถานะตัวเครื่องไปไว้ใต้กรอบหน้าจอด้านหลังเครื่องจึงดูสถานะการทำงานได้ไม่สะดวก หากให้ดีคิดว่าทางบริษัทน่าจะทำบอดี้บางส่วนเป็นกึ่งโปร่งใสแล้วสอดหลอด LED ไว้ให้เรืองแสงออกมาจากขอบหน้าเครื่องจะดูดีมีระดับกว่านี้มาก
ข้อดีของ ASUS ROG Zephyrus G14 GA403UV
- ติดตั้งซีพียู AMD Ryzen 9 8945HS มาทุกรุ่นย่อย มีกำลังประมวลผลสูงและทรงพลัง
- หน้าจอ 2.8K พาเนล OLED มีขอบเขตสี 100% DCI-P3 ได้ PANTONE การันตีสีสันเที่ยงตรง
- ได้การันตี VESA DisplayHDR True Black 500 ว่าสีดำบนหน้าจอแสดงผลได้ดำสนิทจริง
- รองรับ Dolby Vision HDR, NVIDIA G-SYNC ให้ไดนามิคสีสวยทั้งตอนทำงานและเล่นเกม
- ใช้ชุดระบายความร้อน Tri-Fan ร่วมกับโลหะเหลว ช่วยระบายความร้อนได้ดีต่อเนื่อง
- ได้พอร์ต MicroSD Card Reader โอนไฟล์จากการ์ดเข้าเครื่องได้รวดเร็วไม่ต้องแปลง
- ได้พอร์ต USB-C 3.2 Full Function ต่อหน้าจอแยกและชาร์จแบตเตอรี่ได้ในตัว
- ต่อหน้าจอได้ 3 จอ ด้วย USB-C Full Function, USB-C DisplayPort และ HDMI
- มีลำโพง Dolby Atmos รวม 6 ตัว ได้เสียงดังมีมิติ ใช้ดูหนังฟังเพลงหรือเล่นเกมได้เยี่ยม
- น้ำหนักเพียง 1.5 กก. เท่ากับโน๊ตบุ๊คทำงานทั่วไป พกง่ายใส่กระเป๋าโน๊ตบุ๊คสะดวก
- มีปุ่มมาโคร M1~M4 ติดตั้งมาให้ ตั้งค่าใช้งานร่วมกับโปรแกรมต่างๆ ได้ตามสะดวก
- กดปุ่ม Fn+Win สั่งล็อคการทำงานปุ่ม Windows ได้ทันที ป้องกันการกดผิดได้
- เอฟเฟคไฟ Slash Lightning ดูมีเอกลักษณ์และใช้ดูแจ้งเตือนต่างๆ บนตัวเครื่องได้
- เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้เร็วและเสถียรผ่านทาง Wi-Fi 6E รองรับ Bluetooth 5.3
- สแกนหน้าปลดล็อคเครื่องได้ด้วยกล้อง IR Camera ร่วมกับ Windows Hello
- ติดตั้งชิป Microsoft Pluton มารักษาความปลอดภัยระดับ Hardware ได้ดีมาก
ข้อสังเกตของ ASUS ROG Zephyrus G14 GA403UV
- ควรย้ายสติกเกอร์ทั้งหมดบนแท่นวางข้อมือไปติดด้านใต้ตัวเครื่องเพื่อความสวยงาม
- ไฟแสดงสถานะถูกซ่อนอยู่ขอบหลังเครื่อง ควรย้ายมาเป็นไฟเรืองขอบหน้าเครื่องมากกว่า
- แบตเตอรี่มีความจุเพียง 73Wh ตามขนาดตัวเคตรื่อง ทำให้ใช้งานได้ราว 4 ชั่วโมงเท่านั้น
รีวิว ASUS ROG Zephyrus G14 GA403UV
- Specification
- Hardware & Design
- Screen & Speaker
- Keyboard & Touchpad
- Connector, Thin & Weight
- Inside&Upgrade
- Performance & Software
- Battery & Heat & Noise
- User Experience
- Conclusion & Award
Specification
ASUS ROG Zephyrus G14 GA403UV เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คสวยเรียบหรูซ่อนแรงจาก ASUS ณ ตอนนี้อัปเดตสเปคใหม่ให้น่าใช้ยิ่งขึ้น ได้ซีพียู AMD Ryzen 8000 Series รุ่นล่าสุดพร้อมจีพียู NVIDIA GeForce RTX 40 Series และหน้าจอ OLED ขอบเขตสีกว้างให้เกมเมอร์เล่นเกมได้สบาย ครีเอเตอร์ทำงานก็ไหลลื่นขึ้น โดยมีให้เลือก 2 รุ่นย่อยแชร์สเปคร่วมกันแทบทั้งหมดต่างกันเพียงจีพียู โดยมีรายละเอียดรุ่นดังนี้
รุ่นและสเปค | ASUS ROG Zephyrus G14 GA403UU | ASUS ROG Zephyrus G14 GA403UV (เครื่องรีวิว) |
CPU | AMD Ryzen 9 8945HS แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 4.0~5.2GHz | AMD Ryzen 9 8945HS แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 4.0~5.2GHz |
GPU | NVIDIA GeForce RTX 4050 แรม 6GB GDDR6 TGP 90W | NVIDIA GeForce RTX 4060 แรม 6GB GDDR6 TGP 90W |
SSD | M.2 NVMe 1TB อินเตอร์เฟส PCIe 4.0 | M.2 NVMe 1TB อินเตอร์เฟส PCIe 4.0 |
RAM | 16GB LPDDR5X บัส 6400 MHz | 16GB LPDDR5X บัส 6400 MHz |
Display | ROG Nebula Display ขนาด 14 นิ้ว ความละเอียด 3K (2880*1800) พาเนล OLED Refresh Rate 120Hz NVIDIA G-SYNC NVIDIA Advanced Optimus Dolby Vision HDR 100% DCI-P3 Delta-E <1 PANTONE Validated VESA DisplayHDR True Black 500 | ROG Nebula Display ขนาด 14 นิ้ว ความละเอียด 3K (2880*1800) พาเนล OLED Refresh Rate 120Hz NVIDIA G-SYNC NVIDIA Advanced Optimus Dolby Vision HDR 100% DCI-P3 Delta-E <1 PANTONE Validated VESA DisplayHDR True Black 500 |
Software | Windows 11 Home | Windows 11 Home |
Connectivity | USB-A 3.2*2 USB-C 3.2 DisplayPort*1 USB-C 4.0 Full Function*1 MicroSD Card Reader*1 HDMI 2.1*1 Audio combo*1 Wi-Fi 6E Bluetooth 5.3 | USB-A 3.2*2 USB-C 3.2 DisplayPort*1 USB-C 4.0 Full Function*1 MicroSD Card Reader*1 HDMI 2.1*1 Audio combo*1 Wi-Fi 6E Bluetooth 5.3 |
Weight | 1.5 กก. | 1.5 กก. |
Price | 57,990 | 60,990 |
Hardware & Design
นับจาก ROG Zephyrus รุ่นแรกเป็นต้นมาจนถึง ASUS ROG Zephyrus G14 GA403UV ก็ยังรักษาดีไซน์สวยหรูมีระดับเอาไว้ดังเดิมจนรุ่นปัจจุบัน ได้บอดี้แทบทุกส่วนเป็นสีขาวสะอาดตัดกับกรอบหน้าจอและช่องระบายความร้อนใต้เครื่องแถบเล็กสีดำ ได้ลุคสวยเรียบหรูจะมัดใจใครหลายๆ คนได้ไม่ยาก จะขัดกันแค่ตรงแท่นวางข้อมือซ้ายจะมีสติกเกอร์ 5 ชิ้น ติดเอาไว้ดูไม่ค่อยเข้ากับบอดี้สีขาวปลอด จนคิดว่า ASUS น่าจะย้ายมันไปติดไว้ส่วนฝาด้านใต้เครื่องข้างสติกเกอร์คุณสมบัติจะดูดีมีระดับขึ้นหลายเท่า
ถ้ามองข้ามจุดสังเกตแรกไป จะเห็นว่า ROG Zephyrus G14 จะบางเพียง 1.59 ซม. ทำขอบเครื่องส่วนหน้าจอและตัวเครื่องให้เฉียงเข้าหากันเป็นเครื่องหมายน้อยกว่า (<) และบาลานซ์น้ำหนักได้ดี จึงใช้นิ้วเดียวกางหน้าจอเปิดได้ง่ายและกว้างราว 120 องศา ทำให้วางบนพื้นโต๊ะหรือขึ้นแท่นวางโน๊ตบุ๊คแล้วปรับองศาหน้าจอให้เข้ามุมสายตาได้สะดวก ดูหน้าจอได้ง่ายทุกสถานการณ์
จุดต่างจากโมเดลก่อนๆ คือฝาหลังตัวเครื่องถูกเปลี่ยนจากไฟ LED 1,449 ดวง “AniMe Matrix” เป็นแถบสีเงินมีไฟวิ่งหลอด LED คาดเฉียงในชื่อ “Slash Lighting” แทน เปลี่ยนเอฟเฟคได้ในโปรแกรม Armoury Crate มุมซ้ายล่างมีกรอบเพลตโลโก้ ROG ลงปีก่อตั้งแผนกเอาไว้ ดูแล้วสะอาดตาดูดีในเวลาเดียวกัน
พลิกขึ้นมาเล็กน้อยจะเห็นขอบใต้หน้าจอเขียนชื่อซีรี่ส์ “Zephyrus” พร้อมไฟ LED แสดงสถานะตัวเครื่อง 3 ดวงติดไว้ แต่อยู่ส่วนขอบล่างด้านหลังทำให้มองเห็นเวลาพับหน้าจอเท่านั้น หาก ASUS ทำบอดี้ขอบหน้าเครื่องส่วนหนึ่งเป็นกึ่งโปร่งแสงแล้วสอดไฟ LED ไว้แสดงสถานะการทำงานแทนจะทำให้มันดูสวยล้ำสมัยขึ้นและใช้งานได้จริงยิ่งขึ้นด้วย
กรอบด้านใต้เครื่องจะแบ่งพื้นที่ให้ช่องนำลมเข้ามากเป็นพิเศษ กินพื้นที่เกือบ 70% จากทั้งหมดแล้วแยกเป็น 2 แถวบนล่าง ส่วนช่องสีดำบนสุดจะเป็นช่องระบายลมออกจากตัวเครื่อง คั่นด้วยแถบยางกันลื่นช่วยยกเครื่องขึ้นลดโอกาสเกิดรอยขนแมวและมีอีกเส้นยาวตรงแถบด้านล่างเสมอลำโพงด้วย ใช้น็อตหัวดาว (Trox) ล็อคฝาใต้เครื่องไว้ทั้งหมด 11 ดอก จากภาพจะนับได้ 9 ดอกเพราะซ่อนไว้ใต้จุกยางสีดำตรงช่องระบายลมออก 2 ดอกนั่นเอง
Screen & Speaker
หน้าจอ ROG Nebula Display ขนาด 14 นิ้ว ของ ASUS ROG Zephyrus G14 GA403UV ถูกอัปเกรดจากรุ่นก่อนให้ดีขึ้นแบบก้าวกระโดด เปลี่ยนจากพาเนล IPS เป็น OLED เพิ่มความละเอียดจาก WQXGA (2560*1600) เป็น 3K (2880*1800) ได้ค่า Refresh Rate 120Hz ขอบเขตสีกว้าง 100% DCI-P3 ค่าความเที่ยงตรงสี Delta-E <1 ได้ PANTONE ช่วยการันตีความเที่ยงตรง ควบคู่กับ VESA DisplayHDR True Black 500 รับรองว่าสีดำของจอ Zephyrus G14 โมเดลนี้ดำสนิทแน่นอน รองรับ Dolby Vision HDR และ NVIDIA G-SYNC ครบถ้วน จึงเหมาะจะใช้งานทุกแบบไม่ว่าจะทำงานหรือบันเทิงก็ดี
บานหน้าจอถูกรีดให้เล็กลงมาก สังเกตว่าจขอบข้างหน้าจอทั้งสองฝั่งบางจนแทบจะติดขอบเครื่องแล้วและขอบบนถึงจะหนากว่าแต่ก็ไม่มากเพื่อติดตั้งกล้องอินฟาเรด IR Camera เอาไว้สแกนใบหน้าปลดล็อคเครื่องร่วมกับระบบ Windows Hello และไมโครโฟนอีกชุด ขอบล่างสกรีนคำว่า ROG Zephyrus เอาไว้
พาเนล OLED เองก็มีมุมการมองเห็นกว้าง 178 องศา จะมองจากมุมไหนก็ไม่เกิดเงาทาบบนจอ แต่จอเป็นกระจกทำให้บางมุมอาจสะท้อนแสงได้บ้าง เมื่อทดสอบด้วย DisplayCal 3 กับเครื่อง Colorchecker ของ Calibrite ปรับหน้าจอสว่าง 100% วัดได้ 408.2 cd/m2 ส่วนค่าขอบเขตสีจริงของหน้าจอ (Gamut coverage) ได้ 100% sRGB, 94.3% Adobe RGB, 100% DCI-P3 และขอบเขตสีโดยรวม (Gamut volume) อยู่ที่ 169.7% sRGB, 116.9% Adobe RGB, 120.2% DCI-P3 ค่าความเที่ยงตรงสีหรือ Delta-E เฉลี่ย 0.07~2.13 จะใช้มันเล่นเกมหรือทำงานครีเอเตอร์ก็ทำได้เยี่ยม แถมปรับค่า Refresh Rate ได้แบบ Dynamic เลือกค่า Refresh Rate อัตโนมัติระหว่าง 60 หรือ 120Hz ได้ใน Advanced display อีกด้วย
ข้อดีของหน้าจอแบบมีความสว่างมากเป็นพิเศษอย่าง ASUS ROG Zephyrus G14 GA403UV จะเห็นได้ชัดเวลาต้องเร่งความสว่างสู้แดดส่องกระทบหน้าจอในสถานการณ์ต่างๆ ทำให้มองเห็นจอได้ชัดเจน จากการใช้งานจริงแนะนำให้เพิ่มไป 70~80% ก็สว่างมากแล้วและไม่แนะนำให้ปรับสว่าง 100% ติดต่อเป็นเวลานานเพราะพาเนล OLED อาจเกิดอาการ Burn-in ได้ ถ้าใช้งานในออฟฟิศแนะนำเปิดเพียง 40~50% ก็สว่างมากแล้ว
ลำโพง 6 ตัวของ ASUS ROG Zephyrus G14 GA403UV จะแบ่งเป็นชุด Woofer ด้านใต้เครื่องสองฝั่งกับคู่บนอีกชุด รองรับเสียงแบบ Dolby Atmos เมื่อปรับเสียงดัง 100% จะดังราว 80dB แบ่งฝั่งเสียงเวลาเล่นเกมได้ดีแยกทิศทางศัตรูได้ง่ายมาก และโดดเด่นเป็นพิเศษเวลาฟังเพลงเพราะนอกจากได้เสียงเครื่องดนตรีกับนักร้องใสเคลียร์ฟังชัดเจน มีเสียงเบสซัพพอร์ตพร้อมแรงปะทะเล็กน้อยทำให้ฟังเพลงได้สนุกทุกแนวจนไม่ต้องต่อลำโพงแยกก็ได้ ยกเว้นต้องการเสียงเบสมากขึ้นจะต่อลำโพงแยกเพิ่มก็ได้
Keyboard & Touchpad
คีย์บอร์ดของ ASUS ROG Zephyrus G14 GA403UV เป็นแบบ Tenkeyless เพิ่มปุ่มมาโคร M1~M4 มาให้ส่วนเหนือปุ่ม F1~F4 ตั้งคีย์ลัดได้ในโปรแกรม Armoury Crate เพียงกดปุ่ม M4 ก็เรียกขึ้นมาใช้ได้ ปุ่ม Power เป็นทรงหกเหลี่ยมปิดกระจก Premium Glass แยกออกจากปุ่มชุดหลักทำให้พิมพ์งานได้สะดวกไม่พลาดไป Shut down เครื่องโดยไม่ตั้งใจ คีย์ลัดต่างๆ แทรกเอาไว้กับปุ่มต่างๆ บนคีย์บอร์ดครบถ้วนทั้งปุ่ม Page Up, Page Down, Home, End อยู่กับปุ่มลูกศรครบถ้วนและมีปุ่ม Delete อยู่ตรงมุมขวาบน
จุดต่างจากคีย์บอร์ดทั่วไป คือ ระยะปุ่ม Esc กับปุ่ม F1 จะห่างกันเล็กน้อยทำให้คนพิมพ์สัมผัสแยกทั้งคู่ออกจากกันได้ในทันที แต่ลดขนาดของปุ่ม Grave Accent (~) ลงเหลือครึ่งเดียว อาจไม่คุ้นมือคนไทยที่ใช้ปุ่มนี้เปลี่ยนภาษาเป็นประจำแต่ก็ทำความคุ้นเคยได้ง่าย นอกจากนี้คีย์บอร์ดของ ROG Zephyrus G14 GA403UV ก็มีระยะเท่าคีย์บอร์ดแยกทำให้พิมพ์ใช้งานและเล่นเกมได้โดยไม่ต้องละสายตามาดู เอาความคุ้นเคยจากคีย์บอร์ดเกมมิ่งทั่วไปมาใช้ได้ทันที
นอกจากพิมพ์ง่ายแล้ว ยังมีไฟ LED Backlit “AURA SYNC” เอกลักษณ์เฉพาะของ ASUS ROG Series ซึ่ง Zephyrus G14 GA403UV ก็เลือกปรับเอฟเฟคแสงและสีสันได้ในโปรแกรม Armoury Crate เช่นกัน แต่เลือกสีหรือเอฟเฟคแสงได้ครั้งละแบบเท่านั้น ไม่ได้เป็นแบบ Per-Key เหมือนตระกูล ROG Strix เลือกความสว่างได้ 3 ระดับ เวลาทำงานหรือเล่นเกมในที่แสงน้อยก็ดูปุ่มต่างๆ ได้สะดวก
คีย์ลัดบริเวณปุ่ม F1~F12 จะมีคีย์ลัดใช้งานผสมกันทั้งฟังก์ชั่นทำงานและเกมมิ่ง มีคำสั่งให้กดใช้งานทุกปุ่มรวมถึง M1~M4 อีกด้วย โดยมีคำสั่งดังนี้
- F1 – ปิดเสียงลำโพง
- F2~F3 – ลดหรือเพิ่มความสว่างไฟ AURA SYNC
- F4 – ปรับเอฟเฟคไฟ AURA SYNC
- F5 – เปลี่ยนโหมดตัวเครื่องระหว่าง Power Saving, Balanced, Performance, Turbo
- F6 – เรียกโปรแกรม Snipping Tool
- F7~F8 – ลดหรือเพิ่มความสว่างหน้าจอ
- F9 – ปุ่ม Project ตั้งค่าหน้าจอหลักและเสริม
- F10 – ปิดหรือเปิดการทำงานทัชแพด
- F11 – Sleep Mode
- F12 – Airplane Mode
- M1~M2 – ลดหรือเพิ่มเสียงลำโพง
- M3 – ปิดหรือเปิดไมโครโฟน
- M4 – เรียกโปรแกรม Armoury Crate
- Fn+Win – Windows Lock ล็อคไม่ให้เปิดหน้าต่าง Start Menu
นับว่า ASUS ROG Zephyrus G14 GA403UV มีคีย์ลัดให้ใช้รอบด้านทั้งทำงานและเล่นเกม สามารถกดใช้งานได้ง่าย แถมยังมีปุ่ม Windows Lock ตรงปุ่ม Windows เพียงกด Fn+Win ก็ล็อคไม่ให้ปุ่มนี้ทำงานเวลาพลาดไปโดนตอนเล่นเกม และหวังว่า ASUS จะทำปุ่มนี้เป็นปุ่มมาตรฐานสำหรับเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คทุกรุ่นจากทางแบรนด์จะดีมาก
แป้นทัชแพดของ ROG Zephyrus G14 ปี 2024 นี้จะมีขนาดใหญ่ขึ้น ยืดขอบบนไปถึงคีย์บอร์ดและขอบล่างติดขอบเครื่องทำให้วางมือแล้วสันมือและนิ้วโป้งทาบบนแป้นอย่างเลี่ยงไม่ได้ แต่ถ้าไม่ใช้งานก็กด Fn+F10 เพื่อปิดใช้งานชั่วคราวได้ สามารถวาดนิ้วใช้ Gesture Control ของ Windows 11 ได้ครบถ้วน ซึ่งข้อดีของแป้นทัชแพดใหญ่ทำให้ลากเคอร์เซอร์ได้สะดวกจากขอบหน้าจอฝั่งหนึ่งสู่อีกฝั่งได้ในครั้งเดียว ไม่ต้องลากสองสามครั้งให้วุ่นวาย
Connector, Thin & Weight
พอร์ตของ ASUS ROG Zephyrus G14 GA403UV จะติดอยู่ริมฝั่งซ้ายและขวาเท่านั้น เว้นพื้นที่ด้านหลังให้เป็นช่องระบายความร้อนและติดโลโก้ซ่อนเอาไว้คู่กับไฟแสดงสถานะการทำงานเท่านั้น โดยพอร์ตทั้ง 3 ด้านได้แก่
- พอร์ตฝั่งซ้ายจากซ้ายมือ – ช่องเชื่อมต่ออแดปเตอร์ AC, HDMI 2.1, USB-C 4.0 Full Function, USB-A 3.2, Audio combo
- พอร์ตฝั่งขวาจากซ้ายมือ – MicroSD Card Reader, USB-A 3.2, USB-C 3.2 DisplayPort
- การเชื่อมต่อไร้สาย – Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.3
นับจากประเภทและปริมาณพอร์ตรอบตัว ROG Zephyrus G14 โมเดลปีนี้ก็ให้มาครบเครื่องพอใช้งานแและไม่ตัด MicroSD Card Reader ออกไป ทำให้ครีเอเตอร์โอนไฟล์เข้าออกเครื่องได้สะดวก แถมยังชาร์จแบตเตอรี่ผ่านพอร์ต USB-C 4.0 ด้วยอแดปเตอร์ GaN 100W ได้ ก็ช่วยลดปริมาณของในกระเป๋าให้น้อยลงเวลาต้องพกเครื่องไปทำงานนอกสถานที่ก็กะทัดรัดทำงานสะดวก
น้ำหนักตัวเครื่อง ทาง ASUS เคลมไว้บนหน้าสเปค 1.5 กก. พอชั่งแล้วหนักเพียง 1.47 กก. ถือว่าตรงและยังเบากว่าในหน้าสเปคเล็กน้อยด้วยซ้ำ พอรวมอแดปเตอร์ประจำตัวเข้าไปอีก 542 กรัมก็หนักเพียง 2.02 กก. รวมแล้วถือว่าเบาเท่าโน๊ตบุ๊คทำงานทั่วไปและเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คทุกรุ่นในปัจจุบัน หากคนทำงานคนไหนคิดอยากลงทุนซื้อโน๊ตบุ๊คเกมมิ่งไว้ใช้งานรอบด้านทั้งทำงานและเล่นเกมก็อยากแนะนำให้ดู Zephyrus G14 รุ่นนี้ไว้ได้เลย
อุปกรณ์เสริมน่ามีติดกระเป๋า ก็หนีไม่พ้นอแดปเตอร์ GaN กำลังชาร์จ 100 วัตต์กับสาย USB-C สักเส้นเอาไว้ชาร์จเครื่องเวลาพกคอมไปทำงานและเอาอแดปเตอร์ประจำตัวไว้กับโต๊ะคอมได้เลย และอาจพกหน้าจอพกพาเสริมไปอีกสักอันก็ยังไม่กินพื้นที่ในกระเป๋ามาก
Inside&Upgrade
ถ้าจะเปิดฝาอัปเกรด ASUS ROG Zephyrus G14 GA403UV จะต้องใช้ไขควงพร้อมน็อตหัวดาว (Trox) ขันน็อตทุกตัวทั้งบนฝาหลังและใต้จุกยางรวม 11 ดอกออกก่อน ถึงจะเอาการ์ดแข็งกรีดร่องรอบตัวเปิดฝาใต้เครื่องได้ แนะนำให้เริ่มจากช่องลำโพงสักฝั่งแล้วไล่ไปจนสุดทุกด้านจะเปิดฝาได้ง่ายขึ้น
อย่างไรก็ตาม อินเตอร์เฟสต่างๆ บนเมนบอร์ดของ ASUS ROG Zephyrus G14 GA403UV ก็มีค่อนข้างจำกัดมาก จะเห็นเพียงหัวอินเตอร์เฟส PCIe 4.0 สำหรับต่อ M.2 NVMe SSD กับ M.2 Wi-Fi อีกอย่างละช่องเท่านั้น ไม่มีหัว RAM SO-DIMM ติดตั้งมาให้เพราะใช้พื้นที่ติดตั้งพัดลมโบลวเวอร์เล็กไปแล้ว แรมจึงกลายเป็นแบบ Onboard แทน ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องเปิดฝาอัปเกรดก็ได้ ยกเว้นว่า SSD ภายในเสียจนเปิดไม่ได้หรือความเร็วของมันยังไม่สาแก่ใจค่อยเปลี่ยนก็ได้
Performance & Software
ASUS ติดตั้งซีพียู AMD Ryzen 9 8945HS แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 4.0~5.2GHz เป็นซีพียูหลักของ ROG Zeyphyrus G14 โมเดลปี 2024 นี้ทุกรุ่น ใช้รหัสพัฒนา Hawk Point สถาปัตยกรรม Zen 4 ผลิตโดย TSMC ขนาดทรานซิสเตอร์ 4 นาโนเมตร ค่า TDP 35~54 วัตต์ มีจีพียู AMD Radeon 780M แบบ 12 คอร์ ติดมาให้ใช้เวลาตัดเข้าโหมดประหยัดพลังงาน มี RAM Onboard ความจุ 16GB LPDDR5X บัส 6400MHz ติดมาให้ใช้
โมเดล Zephyrus G14 GA403UV จะได้จีพียู NVIDIA GeForce RTX 4060 แรม 8GB GDDR6 ค่า TDP 90 วัตต์ มี CUDA Cores 3,072 Unified รองรับ NVIDIA Dynamic Boost ใช้ AI จัดการกำลังการทำงานระหว่างซีพียูและจีพียูได้อย่างเหมาะสม รองรับชุดคำสั่งหลากหลาย ได้แก่ DirectX 12, Resizable BAR, OpenCL, OpenGL 4.6, CUDA, DirectCompute, DirectML, Ray Tracing และ PhysX จึงใช้ทำงานและเล่นเกมได้เป็นอย่างดี
ชิ้นส่วนภายในเครื่องเมื่อเช็คด้วย Device Manager ก็น่าประทับใจ มีชิปรักษาความปลอดภัยรัดกุมกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป มีทั้ง TPM 2.0 เป็นพื้นฐานคู่กับ AMD PSP 11.0 และชิป Microsoft Pluton ช่วยรักษาความปลอดภัยระดับ Hardware เสริมเข้ามาในตัว เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตด้วย Wi-Fi 6E ด้วยชิป M.2 Wi-Fi รุ่น MediaTek Filogic 330 MT7922 แบนด์วิธ 160MHz รองรับเทคโนโลยี MU-MIMO ความเร็วรับส่งข้อมูลสูงสุด (Data Throughput) 1.9Gbps จัดว่าเร็วจัดจ้าน ดาวน์โหลดและอัปโหลดข้อมูลได้รวดเร็ว
M.2 NVMe SSD ความจุ 1TB เป็นรุ่น WD PC SN560 อินเทอร์เฟสเป็น PCIe 4.0 x4 เมื่อทดสอบด้วย CrystalDiskMark 8 จะเห็นว่าความเร็วรับส่งข้อมูลค่อนข้างดี ได้ Sequential Read 5,019.26 MB/s และ Sequential Write 3,557.45 MB/s ส่วน RND4K ได้ Read 602.19 MB/s และ Write 455.17 MB/s นับว่าเร็วพอเปิดโปรแกรมและเกมต่างๆ ขึ้นมาใช้งานได้ทันใจ
ถ้าอยากอัปเกรดเพิ่มความเร็วหรือความจุให้ดีขึ้น แนะนำให้ซื้อ Solidigm P44 Pro, ADATA Legend 900 หรือไปจบกับ WD Black SN850X ความจุ 1~2TB มาเปลี่ยนกับ SSD ตัวนี้ จะทำความเร็วอ่านเขียนข้อมูลได้เต็มกำลังของ PCIe 4.0 อย่างแน่นอน
ในฐานะเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค ถือว่า ASUS ROG Zephyrus G14 GA403UV ก็ทำผลงานได้ดี ทำคะแนนเฉลี่ยจากโปรแกรม 3DMark Time Spy ได้ 9,359 คะแนน แยกเป็น CPU score 10,516 คะแนน และ Graphics score อีก 9,181 คะแนน ในระดับนี้สามารถเล่นเกมบนจอ 1440p ได้อย่างแน่นอนด้วยพลังของตัวการ์ดจอเองหรือเสริมด้วย NVIDIA DLSS ก็ยิ่งดี
ถ้านำมาเล่นเกมชั้นนำในปัจจุบันบนจอความละเอียด 3K จะทำเฟรมเรทได้ดีระดับหนึ่ง ปรับกราฟิคสูงสุดยังได้เฟรมเรทลื่นไหลไม่เกิดอาการช้าหรือหน่วง สังเกตว่าเฟรมเรทเฉลี่ย ทำได้ช่วง 41~54 Fps ถือว่าเล่นได้โดยไม่ต้องพึ่งเทคโนโลยี Upscalling ก็ได้ แต่ Red Dead Redemption II ซึ่งกินพลังประมวลผลเยอะอยู่เป็นทุนเดิมอยู่ พอปรับกราฟิคสูงสุดโดยไม่ใช้ตัวช่วยจะทำเฟรมเรทเฉลี่ยอยู่ในระดับเล่นได้เฉลี่ย 25 Fps เฟรมภาพจะช้าเหมือนดูภาพยนตร์มากกว่าจะเล่นเกมและถ้าเจอฉากหิมะ, ฝุ่นหรือระเบิดซึ่งต้องใช้พลังประมวลผลฟิสิกส์หนักๆ จะทำให้เฟรมเรทลดลงมา
ถ้าเสริมด้วย NVIDIA DLSS หรือ AMD FSR ระดับ Quality จะเห็นว่าเฟรมเรทเฉลี่ยของแต่ละเกมสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด หลายๆ เกมจะดันเฟรมเรทเฉลี่ยไปแตะระดับ 60 Fps แต่ Red Dead Redemption II และ Cyberpunk 2077 จะดึงเฟรมเรทเฉลี่ยขึ้นมาได้ระดับเกิน 30 Fps เท่านั้น และเฟรมเรทเวลาเจอฉากแสง, ฝุ่นหรือหิมะเยอะๆ จะทำให้เฟรมเรทลดลงแต่ภาพยังต่อเนื่องอยู่เช่นเดิม
กรณีต้องการเล่นเกมบน ASUS ROG Zephyrus G14 GA403UV ได้ภาพไหลลื่นสวยงามแนะนำให้ต่อหน้าจอแยกความละเอียด 1080p จะเล่นเกมได้ลื่นไหลโดยไม่ต้องพึ่งเทคโนโลยี Upscalling ถ้าเป็นจอ 1440p ก็ยังปรับรายละเอียด Texture ต่างๆ อยู่ในระดับสูงสุดได้ แต่แนะนำให้ลดรายละเอียดต่างๆ อย่าง Shadow, Global illumination, Water Quality ฯลฯ ซึ่งเป็นตัวการกินกำลังประมวลผลลงมาอยู่ในระดับ Medium แล้วเสริมด้วย NVIDIA DLSS เข้าไปจะเร่งเฟรมเรทได้ดีขึ้น
นอกจากเล่นเกมก็รันงานหนักได้ทุกแบบ ซึ่งคะแนนจาก PCMark 10 โปรแกรมทดสอบประสิทธิภาพการทำงาน จำลองรูปแบบการทำงานเอกสาร, ประชุมออนไลน์และงานครีเอเตอร์ ตัดต่อวิดีโอและปั้นโมเดล 3D ทำได้น่าประทับใจด้วยคะแนนเฉลี่ย 6,9,64 คะแนน เอาอยู่ทุกงานและจะแสดงพลังได้ดีกับงานครีเอทีฟ ตัดต่อวิดีโอ, แต่งภาพ, ทำโมเดล 3D เพราะมีจีพียู NVIDIA GeForce RTX 4060 และ CUDA Cores ช่วยให้เรนเดอร์งานได้รวดเร็ว
ถ้าใครต้องทำงาน 3D Graphics เป็นประจำ ASUS ROG Zephyrus G14 GA403UV ก็สามารถเรนเดอร์และพรีวิวโมเดลได้ดีมาก เมื่อทดสอบด้วยโปรแกรมตระกูล CINEBENCH ทั้ง 3 เวอร์ชั่นก็ทำคะแนนได้ดีมากจนไม่ควรมองข้าม โดยผลคะแนนแต่ละการทดสอบเป็นดังนี้
- 2024 – ใช้ทดสอบประสิทธิภาพของซีพียูกับจีพียูอย่างหนักพร้อมกัน ได้ GPU 9,849 pts, CPU (Multi-Core) 919 pts และ CPU (Single Core) 101 pts
- R23 – ใช้ทดสอบพลังประมวลผลของซีพียูเป็นหลัก มีความละเอียดและแม่นยำสูง ได้คะแนน Multi Core 16,369 pts และ Single Core อีก 1,784 pts
- R20 – ใช้ทดสอบกำลังประมวลผลของซีพียูเป็นหลัก ได้คะแนน CPU 4,620 pts
ผลคะแนนจากการทดสอบทั้งหมดของ ASUS ROG Zephyrus G14 GA403UV ถือว่าทรงพลังไม่ต้องสงสัย โดยเฉพาะกำลังประมวลผลของ AMD Ryzen 9 8945HS ตอนรัน R23 ทำได้ระดับ 16,369 คะแนนก็การันตีได้เลยว่ามันใช้ปั้นโมเดลด้วยโปรแกรม Blender ใส่รายละเอียดต่างๆ เข้าไปได้เยอะหรือจะตัดต่อคลิปวิดีโอ 4K ก็ประมวลผลเสร็จได้เร็วทันใจ เหมาะกับครีเอเตอร์และวิศวกรที่ต้องพกเครื่องไปพบลูกค้าและปรับแต่งงานตามบรีฟหน้างานได้สบายๆ
Blender CPU Blender GPU
หากใครใช้ Blender ทำงานเป็นประจำแล้วสนใจ Zephyrus G14 GA403UV อยู่ จะซื้อมาทำงานก็ไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน จากการทดสอบเรนเดอร์ด้วย Blender Benchmark ว่าคอมพิวเตอร์เครื่องนั้นสามารถเรนเดอร์โมเดลได้กี่ sample ต่อนาที ก็ทำผลงานได้น่าประทับใจ ไม่ว่าจะซีพียูก็สามารถเรนเดอร์ได้เกือบร้อยโมเดลและยังดึงพลังจีพียูออกมาได้ดี ซึ่งได้ผลทดสอบดังนี้
การทดสอบและ จำนวน sample (ยิ่งมากยิ่งดี) | Blender CPU | Blender GPU |
monster | 98.7 | 1634 |
junkshop | 65.8 | 900 |
classroom | 54 | 865 |
เวลาตั้งค่าดึงประสิทธิภาพของ ASUS ROG Zephyrus G14 GA403UV ให้ทำงานได้เต็มที่และปรับแต่งไฟ Slash Lighting รวมถึงเซ็ตปุ่มมาโคร M1~M4 จะทำได้ด้วยโปรแกรม Armoury Crate ซึ่งติดตั้งมาคู่กับเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คของ ASUS ทุกรุ่นอยู่แล้ว แถมยังใช้อัปเดตเฟิร์มแวร์ให้ชิ้นส่วนต่างๆ ภายในเครื่องเป็นเวอร์ชั่นล่าสุดเสมอได้ด้วย แนะนำให้เปิดเช็คเป็นระยะๆ เดือนละครั้งก็เพียงพอ
Battery & Heat & Noise
แบตเตอรี่ภายใน ASUS ROG Zephyrus G14 GA403UV เป็นแบบลิเธียมโพลีเมอร์ (Li-Polymer) ความจุ 73Wh วัดเป็น Typical Capacity ได้ 4,720mAh และ Rated Capacity อยู่ 4,580mAh ซึ่งจุไล่เลี่ยกับ ASUS Zenbook Series หลายๆ รุ่นในปัจจุบัน แต่ในกรณีเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คถือว่าน้อยไปบ้าง หากเพิ่มความจุไประดับ 75~80Wh ได้จะดีมาก
ระยะเวลาใช้งานเมื่อตั้งความสว่างหน้าจอ 50% และปรับเสียงลำโพงเหลือ 10% ตั้งให้ตัวเครื่องอยู่ใน Whisper Mode แล้วเปิด Microsoft Edge ดูคลิปใน YouTube นาน 30 นาที จะเห็นว่าระยะเวลาใช้งานนานสุดของ ROG Zephyrus G14 โมเดลปี 2024 จะใช้งานได้นาน 3 ชั่วโมง 56 นาที ถือว่าใช้งานได้นานพอจะจบการประชุมหรือเลคเชอร์ใหญ่ๆ ได้ก่อนเครื่องดับ
แม้ระยะเวลาใช้งานจะสั้นกว่ารุ่นก่อนก็จริงแต่ก็ยังพอมีวิธีแก้อยู่หลายแบบ ไม่ว่าจะพกอแดปเตอร์ GaN 100W เอาไว้หรือจะชาร์จผ่านพาวเวอร์แบงค์ก็เลือกได้ตามสะดวก แม้เทียบกับโมเดลปีก่อนจะได้ระยะเวลาใช้งานสั้นกว่ามากก็จริง อาจเพราะซีพียูและ BIOS ยังค่อนข้างใหม่อยู่ต้องรอการอัปเดตจากผู้ผลิตในภายหลัง น่าจะเพิ่มระยะเวลาให้ใช้งานได้นานกว่านี้อย่างแน่นอน
สิ่งที่ต่างจากรุ่นก่อน คือ ROG Zephyrus G14 โมเดลปีนี้เปลี่ยนจากชุดระบายความร้อนแบบ Vapor Chamber มาใช้ฮีตไปป์พร้อมพัดลมโบลวเวอร์ Tri-Fan อย่าง ROG Intelligent Cooling แทนแล้ว ซึ่งนอกจากระบายความร้อนได้ดีไม่แพ้กัน ยังให้บริการแบบ Onsite service ได้ ไม่ต้องยกเครื่องกลับไปศูนย์บริการให้วุ่นวาย ในระบบจะมีฮีตไปป์ 4 เส้น แบ่งเป็นเส้นคู่พาดข้าม CPU, GPU มีเส้นฝั่งซ้ายแบบตัว C ขนานกับฮีตไปป์อีกเส้นซึ่งยื่นออกมาเล็กน้อย
ฮีตไปป์ทั้งหมดจะพาดติดกันเพื่อส่งต่อความร้อนไปยังเส้นหลักคู่แล้วนำความร้อนออกไปยังซิ้งค์เหนือพัดลมโบลวเวอร์แล้วระบายความร้อนออกตรงแผงดำด้านใต้และหลังเครื่อง ส่วนพัดลมเล็กตัวที่ 3 จะช่วยเป่าระบายความร้อนเข้าไปยังชิปเซ็ตโดยตรง ซึ่งตอนใช้งานจริงแถบคีย์บอร์ดจะค่อนข้างเย็นแล้วไปอุ่นตรงส่วนเหนือคีย์บอร์ดเป็นหลัก
ภายใน ASUS Armoury Crate จะเห็นว่าอุณหภูมิของซีพียูจะขึ้นไปสูงสุด 89 องศาเซลเซียส ส่วนจีพียูขึ้นไปสูงสุดแค่ 60 องศาเซลเซียส แม้จะตั้ง GPU Mode เป็น Ultimate และใช้โหมด Turbo อยู่ก็ยังระบายความร้อนได้ค่อนข้างดี ดังนั้นจะใช้ทำงานหรือเล่นเกมก็ไม่มีปัญหา
User Experience
ถึงจะถูกจัดกลุ่มให้เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค แต่ ASUS ROG Zephyrus G14 GA403UV ก็ฉีกภาพจำว่ามันจะต้องหนาและหนักพกลำบากได้อย่างสวยงาม เริ่มจากดีไซน์เรียบง่ายใช้สีขาวปลอด ดูเรียบง่ายมีระดับพกไปใช้งานได้ทุกโอกาสตั้งแต่เอาเข้าประชุม, วางทำงานในออฟฟิศและหยิบกลับมาตั้งโต๊ะเกมมิ่งในห้องส่วนตัวก็สะดวกสบาย ตัวเครื่องเป็นอลูมิเนียม CNC เก็บงานมาสวยเรียบร้อยหรูหราจนคนใกล้ตัวผู้เขียนถึงกับลังเลว่าจะย้ายกลับมาใช้ Windows 11 เพราะถูกใจโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้ดีไหมทีเดียว นับว่ารูปลักษณ์สวยงามไร้ข้อกังขาแน่นอน
จุดแข็งถัดมา คือน้ำหนัก 1.5 กก. และเครื่องบาง 1.59 ซม. เทียบกับเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คซึ่งหนัก 2.3~2.5 กก. แล้วทำเอาคิดว่าพกโน๊ตบุ๊คบางเบาเครื่องประจำมาใช้งานด้วยซ้ำ แต่พลังการประมวลผลของเจ้า Zephyrus G14 ถือว่าดีคนละมิติ จะใช้แต่งภาพปริมาณมากๆ ประกอบรีวิว, ตัดต่อวิดีโอหรือเขียนบทความก็ทำได้รวดเร็ว จึงมั่นใจว่ามันทำได้ทุกงานหนักเบาเท่าไหร่ก็ได้ แถมจอก็แสดงผลสีได้ 100% DCI-P3 มี PANTONE Validated แล้ว ก็เหมาะกับช่างกล้องให้เอาภาพและวิดีโอโอนเข้าคอมผ่าน MicroSD Card Reader เอางานมาทำต่อได้ทันทีไม่มีเสียจังหวะใดๆ
แต่ถึงแบตเตอรี่ 73Wh จะใช้งานได้นานสุดร่วม 4 ชั่วโมงก็จริงแต่ก็ไม่น่ากังวลเท่าไหร่ เพราะได้พอร์ต USB-C 4.0 Full Function เอาไว้ชาร์จแบตเตอรี่และต่อหน้าจอแยกได้ ขอแค่มีอแดปเตอร์ GaN หรือพาวเวอร์แบงค์กำลังชาร์จ 100 วัตต์ติดกระเป๋าเอาไว้ก็ตัดกังวลเรื่องนี้ได้ แต่จริงๆ แล้วก็หวังให้ทาง AMD และ ASUS ปรับแต่งเฟิร์มแวร์และชุดคำสั่งภายในชิปเซ็ตให้จัดการพลังงานจากแบตเตอรี่ให้ดีขึ้นอีกนิด ให้อยู่ได้ราว 6~8 ชั่วโมงจะใช้งานได้สะดวกใจกว่านี้มาก
ด้านของการเล่นเกม ASUS ROG Zephyrus G14 GA403UV จะเล่นบนหน้าจอความละเอียด 3K ประจำตัวก็ได้ ซึ่งเกมชั้นนำทั่วไปปรับกราฟิคสูงสุดจะทำเฟรมเรทเฉลี่ยได้ 60 Fps หรือมากกว่านั้นได้โดยไม่ต้องพึ่ง NVIDIA DLSS หรือ AMD FSR เลยแม้แต่น้อย แต่ให้ดีแนะนำลดกราฟิคเกินจำเป็นอย่างแสง, เงา, น้ำ ฯลฯ ลงไปอยู่ระดับกลางจะดันเฟรมเรทได้สูงขึ้นหรือเปิด Upscalling ระดับ Quality เอาไว้ก็ดี หรือถ้าอยากปรับกราฟิคสูงสุดทุกอย่างแนะนำให้ต่อหน้าจอแยก Full HD มี NVIDIA G-SYNC ผ่านพอร์ต HDMI แทนจะทำเฟรมเรทได้สูงกว่า
ถึงจะดีเท่าไหร่ แต่สิ่งที่อยากให้ ASUS จัดการ คือย้ายเหล่าสติกเกอร์ทั้งหมดบนแท่นวางข้อมือไปติดด้านใต้เครื่องปล่อยให้บอดี้ส่วนบนไม่มีอะไรติดอยู่จะดูดีขึ้นมาก และอยากให้เพิ่มอินเตอร์เฟส PCIe 4.0 เข้ามาให้ใส่ M.2 NVMe SSD ได้ 2 ช่องซ้อนกัน เผื่อผู้ใช้บางคนต้องการเพิ่มไดรฟ์เอาไว้ติดตั้งเกมหรือใส่สไลด์นำเสนองานทิ้งไว้ในเครื่องจะได้เก็บข้อมูลได้สะดวกไม่ต้องพก External SSD เพิ่ม แม้เครื่องจะหนาขึ้นสัก 2-3 มม. ก็ไม่มีปัญหา ยังพกพาง่ายเช่นเดิม
Conclusion & Award
ASUS ROG Zephyrus G14 GA403UV เป็นการพบกันครึ่งทางระหว่างเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คสเปคดี เล่นเกมก็ลื่นทำงานก็ไหล ประมวลผลกราฟิคหนักๆ ได้กับโน๊ตบุ๊คบางเบาพกง่ายดีไซน์สวยมีระดับได้อย่างลงตัว หยิบออกมาทำงานแล้วดูดีระดับพรีเมี่ยมทุกสถานการณ์ เอากลับบ้านมาเล่นเกมโปรดได้สบายๆ ทุกเกม แถม ASUS ก็จัดสเปคมาเหมือนกันทั้งหมด ต่างกันเพียงจีพียูเท่านั้นว่าจะเอารุ่นเริ่มต้นจีพียู GeForce RTX 4050 หรือเพิ่มอีก 3,000 บาทไปเอารุ่น GeForce RTX 4060 ก็น่าสนใจเหมือนกัน ถ้าใครมีแผนเปลี่ยนโน๊ตบุ๊คอยู่แล้ว จะเก็บรุ่นนี้เอาไว้เป็นอีกตัวเลือกก็ไม่ผิดหวังแน่นอน
Award
Best Design
ความน่าประทับใจ คือ ASUS ROG Zephyrus G14 ก็ยังคงมาตรฐานเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คดีไซน์สวยเรียบง่ายเอาไว้ได้เหนียวแน่น จะหยิบไปทำงานก็สวยหรูดูดีหรือเล่นเกมก็น่าประทับใจทุกโอกาส
Best Mobility
น้ำหนักของ ROG Zephyrus G14 เบาเพียง 1.5 กก. แทบไม่ต่างกับโน๊ตบุ๊คบางเบาทั่วไป หากใครต้องพกคอมไปทำงานหรือพบลูกค้าเป็นประจำก็สบาย แถมชาร์จผ่านพอร์ต USB-C ได้ ช่วยให้กระเป๋าเบาสบายไหล่ขึ้นมาก