โดดเด่นด้วยดีไซน์สุดลักชูสไตล์นาฬิกาหรู
จัดเต็มทั้งรุ่น realme 12Pro+ 5G และ realme 12+ 5G เปิดราคาเริ่มต้นที่ 9,999 บาท
realme (เรียลมี) แบรนด์สมาร์ตโฟนเพื่อคนรุ่นใหม่ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก เปิดตัวสมาร์ตโฟนใหม่ล่าสุดตระกูล Number Series ที่ทุกคนรอคอยกับ “realme 12Pro+ 5G และ realme 12+ 5G” โดยทั้งสองรุ่นผสานเทคโนโลยีการถ่ายภาพระดับแฟล็กชิปเข้ากับการออกแบบตัวเครื่องที่หรูหรา พร้อมประสิทธิภาพการใช้งานที่เหนือกว่าทุกแบรนด์ในระดับราคาเดียวกัน ชูไฮไลต์รุ่น realme 12Pro+ 5G ที่มาพร้อมเทคโนโลยีกล้องซูมเพอริสโคปครั้งแรกและหนึ่งเดียวในเซกเมนต์ และ realme 12+ 5G ที่รองรับเทคโนโลยี OIS ครั้งแรกและหนึ่งเดียวในเซกเมนต์ เพื่อก้าวข้ามขีดจำกัดของสมาร์ตโฟนระดับกลางสู่การเป็น Portrait Master อย่างสมบูรณ์แบบ พร้อมเปิดให้เป็นเจ้าของล่วงหน้าวันที่ 21 มีนาคม โดยเปิดราคาจำหน่ายในไทยเริ่มต้นที่ 9,999 บาท
realme 12Pro+ 5G
สัมผัสเทคโนโลยีซูมเพอริสโคป (Periscope Telephoto) ครั้งแรกและหนึ่งเดียวในเซกเมนต์
ยกระดับการถ่ายภาพและวิดีโอสู่มาตรฐานระดับเรือธงด้วยเลนส์ซูมเพอริสโคป โดยเป็นเลนส์ที่ใหญ่ที่สุดในกลุ่มเดียวกัน โดดเด่นด้วยเซนเซอร์ OmniVision OV64B ขนาด 1/2 นิ้วซึ่งใช้เทคโนโลยีฟิวชั่นพิกเซล 4 in 1 มอบประสิทธิภาพการซูม 3 เท่าแบบ Optical Zoom และซูมอินเซนเซอร์ 6 เท่า (ISZ) โดยชูพลังซูมสูงสุด SuperZoom 120 เท่า ตอบโจทย์สายถ่ายภาพบุคคลที่ชื่นชอบการซูมระยะ 3 เท่าเพื่อสร้างความชัดตื้นที่สวยงามเป็นธรรมชาติ สามารถจับภาพบุคคลและวัตถุได้อย่างโดดเด่นยิ่งขึ้นและเบลอพื้นหลังได้สมจริงราวกับงานภาพยนตร์
ฟิลเตอร์พิเศษด้วยแรงบันดาลใจจากผลงานระดับรางวัลออสการ์
นอกจากเอฟเฟกต์ภาพแนว Street photography ที่ realme เชี่ยวชาญมาอย่างยาวนาน ครั้งนี้ realme 12Pro+ 5G ก้าวล้ำไปอีกขั้น ด้วยร่วมมือกับช่างถ่ายภาพยนตร์ระดับออสการ์ Claudio Miranda (เคลาดิโอ มิแรนด้า) ในการสร้างสรรค์ฟิลเตอร์สีชุดพิเศษให้สวยงามตามโทนภาพยนตร์ที่ได้รับรางวัลมาทั้ง 3 เรื่อง ได้แก่ Journey Filter แรงบันดาลใจจากเรื่อง “Life of Pi” Memory Filter แรงบันดาลใจจากเรื่อง “The Curious Case of Benjamin Button” และ Maverick Filter แรงบันดาลใจจากเรื่อง “Top Gun: Maverick” เพื่อให้คุณสร้างสรรค์ภาพถ่ายใน Mood & Tone แบบภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดได้อย่างง่ายดาย!
ดีไซน์พรีเมียมจากการคอลแลป realme Design Studio x Ollivier Savéo
realme ยังร่วมมือกับ Ollivier Savéo (โอลิวิเยร์ ซาเวโอ) ผู้ผลิตนาฬิกาหรูชั้นนำของฝรั่งเศสซึ่งเคยฝากผลงานการคอลแลปกับแบรนด์นาฬิกาหรูของสวิสทั้ง Rolex, Roger Dolby, Piaget, Breitling และ Quentin โดยนำแรงบันดาลใจดังกล่าวมาใช้ในการออกแบบ โดดเด่นด้วยดีไซน์การล้อมโมดุลกล้องด้วยกรอบ Golden Fluted Bezel ที่ผลิตขึ้นอย่างประณีตโดยใช้เครื่องตัด CNC พร้อมด้วยเส้นโลหะที่สร้างขึ้นอย่างแม่นยำกว่า 300 เส้น กระบวนการนี้ทำให้ได้พื้นผิวที่สวยงามดั่งนาฬิกาหรูแบบ 360° พร้อมแผงหน้าปัด Sunburst ที่ใช้การขัดเงาแบบกลมมากกว่า 500 ดวง เพื่อสร้างพื้นผิวยูวีไล่ระดับแสงอันน่าหลงใหลและเปี่ยมชีวิตชีวา หุ้มฝาหลังด้วยหนังวีแกนระดับพรีเมียม ตกแต่งด้วยตะเข็บการเย็บแบบ 3D Jubilee Bracelet ที่ผสานรูปทรงสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนให้ตะเข็บมีรูปลักษณ์แบบเมทัลลิกที่ซับซ้อนสวยงาม
realme 12Pro+ 5G นำเสนอ 2 โทนสีทั้ง Submarine Blue สะท้อนความสง่างามอันเงียบสงบ และสี Navigator Beige สื่อถึงความประณีต ด้วยตัวเครื่องที่บางเฉียบ 8.75 มม. และน้ำหนักเพียง 196 กรัม เรียกได้ว่าเป็นสมาร์ตโฟนที่เบาที่สุดที่มาพร้อมกับเลนส์ Periscope
ตอบโจทย์การใช้งานและประสบการณ์การรับชมคอนเทนต์ระดับเรือธง
มอบจอแสดงผล OLED ขอบโค้งขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด 2412*1080 FHD+ ด้วย Refresh rate 120Hz และขอบเขตสีสูงสุดกว่า 1.07 พันล้านสี พร้อมลำโพงคู่พร้อมระบบเสียง Dolby Atmos เพื่อประสบการณ์การรับชมคอนเทนต์ที่ดีที่สุด เหนือกว่าด้วยเทคโนโลยีปรับแต่งภาพด้วย Pro-XDR และประสิทธิภาพการหรี่แสง PWM ความถี่สูง 2160Hz นอกจากนี้ ยังผ่านการรับรองมาตรฐาน TÜV Rheinland Strobe-free Certification และ TÜV Rheinland Low Blue Light Certification ซึ่งรับรองว่าหน้าจอได้รับการออกแบบมาเพื่อยกระดับความสบายตาและการปกป้องดวงตาของผู้ใช้งานได้สูงสุด
เร็วแรงเต็มสปีดด้วยชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 7s Gen 2
ติดตั้งหน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 7s Gen 2 บนสถาปัตยกรรมระดับ 4 นาโนเมตรเพื่อการทำงานขั้นสูง ผ่านการปรับจูนการรับสัญญาณเครือข่ายทั้งสองช่องทางเพื่อช่วยเพิ่มความเร็วและความเสถียรของการเชื่อมต่อทั้ง Wi-Fi และ 5G นอกจากนี้ ยังมาพร้อมระบบชาร์จเร็ว SUPERVOOC 67W ช่วยให้คุณชาร์จแบตเตอรี่ 5,000 mAh เต็ม 100% ในเวลา 48 นาที มอบพื้นที่จัดเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ (ROM) สูงสุดถึง 512GB และเทคโนโลยี Dynamic RAM สูงสุด 12+12GB
ราคาและการจำหน่าย
realme 12Pro+ 5G มีให้เลือกทั้งสี Submarine Blue และสี Navigator Beige โดยรุ่นความจุ 12/512GB ราคา 16,999 บาท และรุ่นความจุ 8/256GB ราคา 13,999 บาท โดยสามารถพรีออเดอร์ได้ตามช่องทางดังนี้
- ช่องทางเครือข่าย AIS, TRUE และ DTAC ตั้งแต่วันที่ 21 – 28 มีนาคม รุ่นความจุ 8/256 ราคาเริ่มต้นเพียง 8,699 บาทและรุ่นความจุ 12/512GB ราคาเริ่มต้น 11,699 บาท พร้อมรับส่วนลดวันรับเครื่องสูงสุด 1,500 บาทและของแถมอีกมากมาย
- ช่องทาง COM7, IT City, TG, Jaymart, Stamp และ Maxlink ตั้งแต่วันที่ 21-28 มีนาคม รุ่นความจุ 12/512GB รับส่วนลด 1,000 บาท และรุ่นความจุ 8/256GB รับส่วนลด 500 บาท
- ช่องทางอีคอมเมิร์ช ตั้งแต่วันที่ 21-26 มีนาคม พิเศษ! กับ Shopee Exclusive (เฉพาะรุ่นความจุ 12/512GB เท่านั้น) ในราคาเพียง 15,999 บาท และรุ่นความจุ 8/256GB ราคาเพียง 12,999 บาท และช่องทาง Lazada สำหรับรุ่นความจุ 8/256GB ราคาเพียง 12,999 บาท และช่องทาง Tiktok Shop ในรุ่นความจุ 8/256GB ราคาเพียง 12,999 บาท พร้อมรับของแถมอีกมากมายในทุกแพลตฟอร์ม
- ช่องทางการสั่งซื้อ realme 12Pro+ 5G (12/512GB) Shopee Exclusive : https://bit.ly/3T0ZZMY
- ช่องทางการสั่งซื้อ realme 12Pro+ 5G (8/256GB) Shopee : https://bit.ly/49YMFzn
- ช่องทางการสั่งซื้อ realme 12Pro+ 5G (8/256GB) Lazada : https://bit.ly/3wJLKok
- ช่องทางการสั่งซื้อ realme 12Pro+ 5G (8/256GB) Tiktok : https://shop.tiktok.com/view/product/1730039165278783513?region=TH&locale=en
- ช่องทาง realme Brand Shop ตั้งแต่วันที่ 21-28 มีนาคม วันรับเครื่องรับส่วนลดเพิ่มสูงสุด 1,000 บาท พร้อมของแถมอีกมากมาย และสามารถเป็นเจ้าของได้พร้อมกันทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 29 มีนาคม เป็นต้นไป ผ่านช่องทางดังกล่าวรวมถึงตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ
realme 12+ 5G
กล้องถ่ายภาพบุคคลที่ดีที่สุดในระดับราคาเดียวกัน ความละเอียด 50MP พร้อม Sony OIS
ด้วยเซนเซอร์ SONY LYT-600 ขนาด 1/1.95” พร้อมรูรับแสง f/1.88 จึงเป็นกล้องหลักที่สมบูรณ์แบบสำหรับถ่ายภาพที่ชัดเจนจากทุกระยะ ด้วยทางยาวโฟกัสเทียบเท่า 26 มม. พร้อมคุณสมบัติการซูม 2X In-Sensor โดยไม่ทำให้คุณภาพของภาพถ่ายลดลง นอกจากนี้ยังชูไฮไลท์กับการเป็นสมาร์ตโฟนรุ่นแรกและรุ่นเดียวในระดับราคาเดียวกัน ที่มาพร้อมกับการรองรับเทคโนโลยีกันสั่น OIS โดยมาพร้อมกับการกันสั่นระบบ SuperOIS ซึ่งจะเปิดช่องให้เลนส์สามารถย้ายกลับไปยังตำแหน่งเดิมระหว่างเฟรมได้อย่างรวดเร็วกว่าด้วยเวลาในการรีเซ็ตเฟรมเพียง 8 มิลลิวินาที เร็วกว่า OIS ทั่วไปถึง 40% ช่วยให้สามารถถ่ายภาพการเล่นกีฬาและสถานการณ์ที่ดำเนินไปอย่างรวดเร็วได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ ยังมาพร้อมฟิลเตอร์สีพิเศษจากช่างถ่ายภาพรางวัลออสการ์ Claudio Miranda และอัลกอริธึมการสร้างโบเก้แบบภาพยนตร์ที่สวยามเป็นธรรมชาติเช่นเดียวกับรุ่น 12Pro+ 5G
มอบประสบการณ์ใช้งานที่ทรงพลังที่สุด ด้วยชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 7050 5G
หน่วยประมวลผลระดับ 6 นาโนเมตรรุ่น MediaTek Dimensity 7050 5G แบบ 8 แกน ทำงานร่วมกับการ์ดจอรุ่น Mali-G68 GPU ช่วยเสริมความสามารถในการประมวลผลภาพได้อย่างราบลื่น ทั้งยังได้รับการปรับปรุงเรื่องการรับสัญญาณด้วยเทคโนโลยี Smart 5G โดยผู้ใช้สามารถสลับระหว่างเครือข่าย 4G/5G ซึ่งช่วยประหยัดพลังงานได้มากถึง 30% และช่วยให้ผู้ใช้มั่นใจในการเชื่อมต่อที่เสถียรและต่อเนื่องยิ่งขึ้น
หรูหราบางเบาด้วยดีไซน์ที่มีแรงบันดาลใจจากนาฬิกาหรู
realme 12+ 5G ยังคงใช้ดีไซน์ระดับพรีเมียมเหมือนรุ่นใหญ่อย่าง realme 12Pro+ 5G จากการคอลแลปกับนักออกแบบชื่อก้อง Ollivier Savéo (โอลิวิเยร์ ซาเวโอ) ทำให้ฝาหลังของ realme 12+ 5G สืบทอดความงามจากรุ่นพี่ในแทบทุกรายละเอียด ทั้งหน้าปัดโมดุลกล้องสไตล์ Sunburst ที่ได้รับการขัดเงาและซึ่งไล่ระดับแสงได้อย่างงดงาม การหุ้มหนังวีแกนระดับพรีเมียมโดยใช้กระบวนการเย็บแบบไร้รอยต่อพร้อมการตกแต่งด้วยตะเข็บ 3D Jubilee Bracelet ช่วยให้ดีไซน์โดยรวมมีความเป็นหนึ่งเดียวกันมากขึ้น นำเสนอ 2 โทนสีพรีเมียมทั้ง Pioneer Green และ Navigator Beige
ประสิทธิภาพที่คุ้มค่าสูงสุดในทุกองค์ประกอบ
realme 12+ 5G ใช้จอแสดงผล AMOLED ระดับ 16.7 ล้านสี ขนาด 6.67 นิ้ว บนความละเอียด FHD+ 2400*1080 และลื่นไหลเป็นพิเศษด้วย Refresh rate 120Hz พร้อมฟังก์ชันการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอและลำโพงสเตอริโอคู่คุณภาพสูง พร้อมกับการเป็นสมาร์ตโฟนเพียงรุ่นเดียวในระดับราคาเดียวกันที่มาพร้อมเทคโนโลยี Wet finger Touch ที่สามารถที่จะสัมผัสและใช้งานหน้าจอแม้นิ้วมือจะเปียก นอกจากนี้ ยังมอบการใช้งานที่ยาวนานตลอดวันด้วยแบตเตอรี่ขนาดยักษ์ 5000mAh และระบบการชาร์จ SUPERVOOC 67W และฟังก์ชันอีกมากมายที่จะมอบประสบการณ์การใช้สมาร์ตโฟนที่ลื่นไหลและคุ้มค่าในทุก ๆ ฟีเจอร์
ราคาและการจำหน่าย
realme 12+ 5G มีให้เลือกทั้งสี Pioneer Green และสี Navigator Beige รุ่นความจุ 8/256GB ราคา 9,999 บาท โดยสามารถพรีออเดอร์ได้ตามช่องทางดังนี้
- ช่องทางเครือข่าย AIS, TRUE และ DTAC ตั้งแต่วันที่ 21 – 28 มีนาคม ในราคาเริ่มต้นเพียง 5,199 บาท วันรับเครื่องรับส่วนลดเพิ่มสูงสุด 500 บาทและของแถมอีกมากมาย
- ช่องทาง COM7, IT City, TG, Jaymart, Stamp และ Maxlink ตั้งแต่วันที่ 21-28 มีนาคม รับส่วนลด 500 บาท
- ช่องทางอีคอมเมิร์ช ตั้งแต่วันที่ 21-26 มีนาคม ผ่านช่องทาง Shopee รุ่นความจุ 8/256GB ราคาพิเศษเพียง 8,999 บาท และช่องทาง Lazada สำหรับรุ่นความจุ 8/256GB ราคาพิเศษเพียง 8,999 บาท และช่องทาง Tiktok Shop ในรุ่นความจุ 8/256GB ราคาเพียง 8,999 บาท พร้อมรับส่วนลดอีกมากมายในทุกแพลตฟอร์ม
- ช่องทางการสั่งซื้อ realme 12+ 5G (8/256GB) Shopee : https://bit.ly/3wFiT4p
- ช่องทางการสั่งซื้อ realme 12+ 5G (8/256GB) Lazada : https://bit.ly/49A0N2c
- ช่องทางการสั่งซื้อ realme 12+ 5G (8/256GB) Tiktok : https://shop.tiktok.com/view/product/1730039124995835929?region=TH&locale=en
- ช่องทาง realme Brand Shop ตั้งแต่วันที่ 21-28 มีนาคม รับส่วนลด 500 บาท พร้อมของแถมอีกมากมาย สามารถเป็นเจ้าของได้พร้อมกันทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 29 มีนาคมเป็นต้นไป ผ่านช่องทางดังกล่าวรวมถึงตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ
นอกจากนี้ เรียลมียังได้ร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นำเสนอ realme Portrait of Thailand Soft Power โชว์อัตลักษณ์ความเป็นไทย โดยได้ คุณนัท นิสามณี เป็นตัวแทนคนรุ่นใหม่ในการพาชมและเก็บโมเม้นความงดงามตามสถานที่และกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อร่วมผลักดันวัฒนธรรมและเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใครผ่านเทคโนโลยีการถ่ายภาพอันล้ำหน้าจาก realme 12Pro+ 5G
และยังเปิดตัวแคมเปญสุดพิเศษ “Make it real” The hidden gems casting project โดยได้ร่วมมือกับผู้จัดการนักแสดงชื่อดังอย่างคุณ เกล้า น้ำพราว เปิดหานักแสดงหน้าใหม่มาประดับวงการ ซึ่งจะเฟ้นหาเหล่าวัยรุ่นผ่านทางช่องทางออนไลน์และตามมหาวิทยาลัยต่าง ๆ พร้อมทั้งร่วมทำกิจกรรมต่าง ๆ โดยผู้ที่ชนะเลิศจะได้เข้าสู่สังกัดนักแสดงของคุณน้ำพราว พร้อมมีโอกาสได้เฉิดฉายในวงการบันเทิงต่อไป โดยในแคมเปญนี้ เรียลมีต้องการที่จะเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้แสดงออกถึงศักยภาพของตนเอง พร้อมทั้งเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้ความฝันของคนรุ่นใหม่เป็นจริงตามสโลแกน “Make it real” อย่างแท้จริง