Connect with us

Hi, what are you looking for?

รีวิว Huawei

รีวิว HUAWEI MatePad 11.5 PaperMatte Edition เป็นได้มากกว่าแล็ปท็อปด้วยปากกาและคีย์บอร์ดสุดเจ๋ง หน้าจอเหมือนกระดาษใช้งานดีไม่แพ้ใคร!

บอกลาแสงจ้าด้วยหน้าจอ PaperMatte Display บน HUAWEI MatePad 11.5 PaperMatte Edition ได้รับ 3 การรับรองสถาบันชั้นนำจาก SGS Low Visual Fatigue Premium Performance Certification, TUV Rheinland Low Blue Light (Hardware Solution) Certification และ TUV Rheinland Reflection Free Certification มั่นใจว่าปลอดภัยจากแสงสะท้อนสู่ดวงตาบนหน้าจอขนาด 11.5 นิ้ว พร้อมอัตรารีเฟรชสูงสุด 120Hz ในอัตราส่วน 3:2 พร้อมใช้งานด้านออฟฟิศผ่าน HUAWEI Notes และ WPS ควบคู่กับคีย์บอร์ดและปากกา M-Pencil รุ่นที่ 2

HUAWEI MatePad 11.5 PaperMatte Edition

ถ้า HUAWEI MatePad Air คือแท็ปเล็ตสเปคแรงทรงพลัง HUAWEI MatePad 11.5 PaperMatte Edition ก็เป็นรุ่นน้องราคาคุ้มสเปคดี ได้หน้าจอใหญ่ 11.5 นิ้ว เทคโนโลยีปิดหน้าจอแบบ PaperMatte ให้สัมผัสเหมือนฟิล์มกระดาษแล้วยังได้รับรองว่าเป็นจอถนอมสายตาจากสถาบันชั้นนำมากมาย ได้แก่ SGS Low Visual Fatigue Premium Performance Certification, TUV Rheinland Low Blue Light (Hardware Solution) Certification และ TUV Rheinland Reflection Free Certification แสดงผลได้ลื่นไหลด้วยค่า Refresh Rate 120Hz ได้สีสันสวยงาม นั่งอ่านข้อมูลเอกสารต่างๆ ต่อเนื่องหลายชั่วโมงก็สบายตา แถมใช้ปากกา HUAWEI M-Pencil 2 จดสิ่งต่างๆ ได้ดีเหมือนจรดปากกาลงบนแผ่นกระดาษจริงๆ เขียนได้สัมผัสดีถูกใจสายจดแน่นอน แถมยังใช้กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซลถ่ายภาพประกอบการจดบันทึกได้ง่ายด้วย

อุปกรณ์เสริมของ HUAWEI MatePad 11.5 PaperMatte Edition ก็ได้มาครบเครื่องไม่แพ้กับรุ่นใหญ่เลย มันได้ Smart Keyboard พร้อมเคสเอาไว้พิมพ์ใช้งานในโหมดแล็ปท็อปหรือถอดมาใช้ไร้สายก็ได้ มีปากกา HUAWEI M-Pencil 2 เอาไว้เขียนจดได้ลื่นไหลเช่นกัน แต่วิธีการชาร์จจะต้องต่ออแดปเตอร์ชาร์จปากกาแยกผ่านสาย USB-C แทนการแปะชาร์จด้านข้างเครื่องแบบ MatePad Air แต่ในแบตเตอรี่ของมันก็สามารถใช้จดวาดสิ่งต่างๆ ได้นานแถมสายก็ไม่ยาวรุงรัง สามารถรวบสายเก็บเอาไว้ในซองเก็บเอกสารในกระเป๋าได้แล้วหยิบมาชาร์จในยามจำเป็นและยังเขียนตอนชาร์จได้ เผื่อกรณีแบตเตอรี่ปากกาจะหมดแล้วยังไม่จบเลคเชอร์ก็ยังจดต่อได้สบายๆ

Advertisement
HUAWEI MatePad 11.5 PaperMatte Edition

NBS Verdicts

HUAWEI MatePad 11.5 PaperMatte Edition

ถ้าโจทย์การใช้งานคือการจดและพิมพ์งานเป็นหลัก เสพย์ความบันเทิงดูสตรีมมิ่งและคลิปต่างๆ เป็นหลัก HUAWEI MatePad 11.5 PaperMatte Edition นับเป็นตัวเลือกที่ดีและราคาก็ไม่แพงมาก ถ้าสั่งซื้อช่วง Pre-order ทั้งได้อุปกรณ์ครบเครื่องพร้อมส่วนลดกับราคาพิเศษพร้อมผ่อนชำระ 0% x 10 เดือนได้ด้วย หากใครกำลังอยากได้ Tablet ใหม่อยู่แล้ว ก็อยากแนะนำให้ดูรุ่นนี้เอาไว้เชื่อว่าไม่ผิดหวังแน่นอน

ข้อดีแรกอยู่ในชื่อของ Tablet รุ่นนี้แล้ว ด้วยหน้าจอขนาด 11.5 นิ้ว แบบ PaperMatte ซึ่งแสดงสีสันบนหน้าจอได้สวยคมชัดและถนอมสายตา การันตีจากสถาบันชั้นนำทั้ง SGS และ TUV Rheinland ครบถ้วน เวลาใช้งานก็ดูคอนเทนต์ได้สะดวกสายตาไม่ล้าง่ายแม้แต่น้อย เวลาใช้ปากกา M-Pencil 2 เขียนบนจอก็ได้สัมผัสเหมือนจรดปากกาลงกระดาษไม่มีผิดแถมยังชาร์จไปเขียนไปได้ไม่ขาดตอนเวลาเจอคลาสเรียนหรือประชุมยาวๆ ได้โดยไม่ต้องกลุ้มหรือจะต่อชาร์จจาก PowerBank แล้วเขียนไปก็ใช้ได้ตามสะดวก แถมคีย์บอร์ดก็ถอดใช้งานไร้สายได้ เวลาโต๊ะมีขนาดเล็กไม่สะดวกใช้ในโหมดแล็ปท็อปก็ถอดแยกออกมาใช้งานได้เลย

อย่างไรก็ตาม จุดสังเกตของ HUAWEI MatePad 11.5 PaperMatte Edition ยังคงเหมือนกับรุ่น MatePad Air ตรงปุ่ม ข, ช, บ, ล มีขนาดเล็กกว่าปุ่มอื่นมากจนพิมพ์ไม่สะดวก เพราะพยัญชนะทั้ง 4 ตัวเป็นส่วนประกอบสำคัญในคำไทยส่วนใหญ่แล้วต้องใช้เวลาปรับตัวมาก สันนิษฐานว่าอิงจากเลย์เอ้าท์คีย์บอร์ดจีน Dayi ซึ่ง 4 ปุ่มนั้นจะไม่ค่อยได้ใช้งานจึงตัดขนาดให้เล็กลงได้ ซึ่งตรงกันข้ามกับแบบไทยโดยสิ้นเชิง ดังนั้นถ้าทาง HUAWEI ทำขนาดของทุกปุ่มให้ใหญ่เสมอกันน่าจะพิมพ์งานได้สะดวกขึ้น

ข้อดีของ HUAWEI MatePad 11.5 PaperMatte Edition

  1. ชิปเซ็ตได้ Qualcomm Snapdragon 7 Gen 1 ประสิทธิภาพดี ใช้งานทั่วไปได้ลื่นไหล
  2. หน้าจอ HUAWEI PaperMatte แสดงผลได้ดี สีสันคมชัดและถนอมสายตา ใช้นานๆ แล้วตาไม่ล้า
  3. หน้าจอ PaperMatte เหมือนฟิล์มกระดาษ เขียนได้สะดวกได้สัมผัสยอดเยี่ยม
  4. แอปฯ HUAWEI Notes สามารถจดและวาดสิ่งต่างๆ ลงไปได้สะดวก มีฟังก์ชั่นใช้งานเยอะ
  5. ตัวเคสของแท็ปเล็ตมีขาตั้งให้วางในแนวตั้งและนอนได้สะดวก
  6. คีย์บอร์ดใช้งานได้ 2 โหมด จะเชื่อมต่อเป็นโหมดแล็ปท็อปหรือไร้สายก็ได้
  7. ปากกา HUAWEI M-Pencil 2 สามารถชาร์จและเขียนไปพร้อมๆ กันได้
  8. กล้องหน้ามีฟังก์ชั่น FollowCam แพนภาพให้ผู้ใช้อยู่ตรงกลางเฟรมได้อย่างรวดเร็ว
  9. เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้รวดเร็วและเสถียรผ่านทาง Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax
  10. แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน สแตนด์บายได้หลายวันและรองรับชาร์จไว 22.5 วัตต์

ข้อสังเกตของ HUAWEI MatePad 11.5 PaperMatte Edition

  1. วิธีการชาร์จปากกา M-Pencil ต้องต่อสายชาร์จแยกเท่านั้น ติดข้างตัวเครื่องไม่ได้
  2. ปุ่มสำคัญบนคีย์บอร์ด ได้แก่ ข, ช, บ, ล มีขนาดเล็ก กว่าปุ่มอื่น ต้องใช้เวลาปรับตัวมากกว่าปกติ

รีวิว HUAWEI MatePad 11.5 PaperMatte Edition

Specification

HUAWEI MatePad 11.5 PaperMatte Edition

HUAWEI MatePad 11.5 PaperMatte Edition แม้จะเป็นรุ่นราคาหมื่นต้นแต่สเปคจัดว่าดีน่าใช้งานมาก แถมได้หน้าจอใหญ่แบบ PaperMatte ทำให้เขียนจดลงบนหน้าจอได้ดีแถมสเปคก็ไล่เลี่ยกับ MatePad Air พอควร ส่วนรายละเอียดสเปคจะเป็นดังนี้

DisplayHUAWEI PaperMatte Display
11.5″ (2200*1440) พาเนล IPS
Refresh Rate 120Hz
CPU
&
GPU
Qualcom Snapdragon 7 Gen 1

Adreno 644
Operating systemHarmonyOS 3.1
MemoryROM 256GB

RAM 8GB
Cameraกล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล
กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล
Battery & Charging7700mAh
รองรับการชาร์จเร็ว 22.5 วัตต์
ConnectivityUSB-C 2.0
Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax
Bluetooth 5.2
Speaker
&
Microphone
Microphone 2 ตัว

ลำโพง HUAWEI Histen 8.1 มีลำโพง 4 ตัว
Weight499 กรัม
Price14,990 บาท

สั่งจองล่วงหน้าได้ตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2567 ผ่าน HUAWEI Shopee Mall รับของสมนาคุณมูลค่า 11,360 บาท ได้แก่ HUAWEI Smart Keyboard, HUAWEI M-Pencil, Fortable Storage Box และ Tote Bag เฉพาะ 150 คำสั่งซื้อแรก

ใช้โค้ด HUAW115PM รับส่วนลด 300 บาท พร้อมผ่อน 0% x 10 เดือน

คลิ๊กสั่งซื้อที่ Lazada: https://bit.ly/3wWpcR7

Design

HUAWEI MatePad 11.5 PaperMatte Edition

ดีไซน์ของ HUAWEI MatePad 11.5 PaperMatte Edition หากเทียบกับรุ่นสเปคแรงอย่าง HUAWEI MatePad Air แล้ว จะเหมือนกันจนแทบแยกไม่ออกถ้าไม่สังเกตหน้าจอแบบ PaperMatte ว่าเหมือนฟิล์มด้าน เพราะขนาดของขอบหน้าจอก็หนาและติดกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซลเอาไว้ตรงขอบบนเหนือหน้าจอให้เน้นใช้งานในแนวนอนเหมือนกัน ถ้าใส่เคสเอาไว้ก็กางขาตั้งออกมาวางใช้งานในแนวนอนดูคอนเทนต์ได้สะดวกมาก สีของตัวเครื่องจะเป็นเทาควันบุหรี่ตัดกับกรอบหน้าจอสีดำดูหรูหราพอควร ส่วนวิธีดูแลรักษาจะต้องใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ที่แถมมาในกล่องเช็ดทำความสะอาดหน้าจอ ไม่แนะนำให้ใช้ผ้าธรรมดาเช็ดเพราะบานหน้าจออาจเสียหายหรือเสื่อมสภาพได้

HUAWEI MatePad 11.5 PaperMatte Edition

เคสเฉพาะของ MatePad 11.5 PaperMatte Edition จะเป็นหนังสีดำตัดช่องตรงพอร์ตรอบตัวทั้งรูไมค์, ลำโพง, พอร์ตและกล้องด้านหลัง ช่วยปกป้องตัวเครื่องได้ยอดเยี่ยม สังเกตว่าขอบล่างถัดลงมาจากขาตั้งจะมีขอบพลาสติกซึ่งเป็นแถบแม่เหล็กไว้ยีดคีย์บอร์ดเข้ากับเคสได้พอดีและกางขาตั้งออกมาเชื่อมต่อกับ Connector ของคีย์บอร์ดใช้งานในโหมดแล็ปท็อปได้ทันที

HUAWEI MatePad 11.5 PaperMatte Edition

ขาตั้งเคส MatePad 11.5 PaperMatte Edition จะกางออกมาทำมุมราว 120 องศา สามารถวางใช้บนโต๊ะทำงานได้สะดวก ดูหน้าจอทำงานเสพย์คอนเทนต์ได้ง่ายมากแต่บางครั้งเวลาตั้งบนโต๊ะที่เตี้ยกว่าเก้าอี้ของผู้ใช้มากๆ อาจจะมองไม่สะดวก แต่ความแข็งแรงนับว่าดีมากไม่มีอาการสั่นกระพือแม้แต่น้อย ใช้งานได้สบายใจแน่นอน

HUAWEI MatePad 11.5 PaperMatte Edition

ตัวเครื่องด้านหลังสีเทาควันบุหรี่ของ MatePad 11.5 PaperMatte Edition จะมีแค่โลโก้ HUAWEI อยู่ตรงกลางกับกล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซลมุมบนขวาเท่านั้น เมื่อหยิบขึ้นมาใช้งานจะดูเรียบง่ายไม่มีลวดลายแต่งเติมอะไร ดูสวยเรียบหรูทีเดียว แต่ถ้าใส่เคสเมื่อไหร่ โลโก้ HUAWEI จะย้ายไปอยู่มุมบนซ้ายมือของฝาหลังแทนและเป็นแบบปั๊มจมเอาไว้บนตัวเคส ดูเหมือนเครื่องหนังราคาแพงยิ่งขึ้น

HUAWEIPaperMatteDSC00064 Medium

น้ำหนักของ MatePad 11.5 PaperMatte Edition จากหน้าสเปคเฉพาะตัวคีย์บอร์ดเคลมเอาไว้ 499 กรัมเมื่อชั่งดูแล้วจะมีน้ำหนักเพิ่มเพียงเล็กน้อยเป็น 500 กรัมเท่านั้น ถือว่าตรงตามสเปคไม่มีผิด ถ้ารวมเคสคีย์บอร์ดอีก 455 กรัมแล้วจะหนัก 955 กรัม เพิ่มสายชาร์จและปากกาอีก 25 กรัมจะหนัก 981 กรัม เทียบแล้วถือว่าเท่ากับโน๊ตบุ๊คบางเบาพิเศษที่เริ่มต้นที่ 990 กรัม หากต้องการพกเพียง MatePad ก็ใส่กระเป๋าสะพายข้างหยิบไปทำงานและเข้าเรียนได้ ใส่กระเป๋าเป้คู่กับโน๊ตบุ๊คก็พกได้สบายๆ

Keyboard & M-Pencil

HUAWEI MatePad 11.5 PaperMatte Edition

HUAWEI Smart Keyboard ที่เป็นอุปกรณ์เสริมของ MatePad 11.5 PaperMatte Edition จะเป็นรุ่นเดียวกับที่แถมมากับรุ่น MatePad Air หากซื้อแยกจะมีราคา 3,990 บาท ทำมาเป็นสีดำสกรีนตัวอักษรไทยเอาไว้ตามปุ่มต่างๆ ครบถ้วน มีคีย์ลัดใช้งานประจำอย่าง Home, End, Page Up, Page Down อยู่กับปุ่มลูกศรและเซ็ตคำสั่งใช้งานกับ Tablet ไว้ตรงปุ่มลข 1~7 กับตัว “ข” พร้อมใช้งาน มีมาร์กกิ้งวางนิ้วตรงปุ่ม F, J ครบถ้วน สามารถวางมือพิมพ์งานได้สะดวกมาก

สัมผัสการพิมพ์ของปุ่มคีย์บอร์ดระยะ 1.5 มม. ถือว่าปุ่มค่อนข้างเตี้ยแต่สัมผัสแน่นและตอบสนองดีพอควร สามารถพิมพ์งานต่อเนื่องได้ไม่มีปัญหา แต่ปุ่ม ข, ช, บ, ล จะมีขนาดเล็กลงเพียงครึ่งเดียวแล้วทั้ง 4 ปุ่มนี้เป็นตัวอักษรไทยใช้งานบ่อยด้วย ทำให้ตอนเริ่มใช้งานแรกๆ ต้องปรับตัวพอควรถึงจะใช้งานได้สะดวก

HUAWEI MatePad 11.5 PaperMatte Edition

ฟังก์ชั่นบน HUAWEI Smart Keyboard บนบรรทัดตัวเลข 1~7 และตัว “ข” จะเป็นคำสั่งใช้งานทั่วไปในหน้า Quick settings ซึ่งต้องลากนิ้วจากขอบหน้าจอส่วนบนลงมา ถ้าใครไม่อยากละมือจากคีย์บอร์ดก็กดคีย์ลัดตรงนี้ได้เลย โดยมีคำสั่งดังนี้

  • 1-2 : ลดหรือเพิ่มความสว่างหน้าจอ
  • 4-6 : ปิด, ลดหรือเพิ่มเสียงลำโพง
  • : ล็อคหน้าจอแท็ปเล็ต
  • ข : ปุ่มบันทึกภาพหน้าจอ

ด้านคีย์ลัดบนคีย์บอร์ดจะแยกเป็น 2 กลุ่ม คือใช้ปุ่ม Fn และปุ่มกรอบสี่เหลี่ยมสี่ช่องจะเรียกใช้ฟังก์ชั่นได้หลากหลายแบบ โดยทาง HUAWEI ก็ทำหน้าอธิบายวิธีการใช้งานเอาไว้ หากใครสนใจสามารถเปิดดูข้อมูลได้ที่นี่

HUAWEI MatePad 11.5 PaperMatte Edition

ปากกา HUAWEI M-Pencil 2 รุ่นสำหรับ HUAWEI MatePad 11.5 PaperMatte Edition จะเหมือนกับรุ่นใน MatePad Air แต่จะมีสายชาร์จแม่เหล็กหัว USB-C แถมมาอีกเส้นเพื่อจับคู่และชาร์จไฟให้ใช้งานได้ สัมผัสตอนใช้งานถือว่าทำได้ดี ตอบสนองเร็วเหมือนใช้ปากกาเขียนลงบนกระดาษตามปกติ ยิ่งใช้กับแอปฯ HUAWEI Notes ก็สามารถจดได้ดีให้สีปรับความหนาของเส้นได้ง่ายขึ้น แถมยังต่อชาร์จปากกาแล้วเขียนไปพร้อมกันได้ด้วย

HUAWEI MatePad 11.5 PaperMatte Edition

วิธีจับคู่ปากกากับ MatePad 11.5 PaperMatte Edition ให้ต่อสายชาร์จเข้ากับตัวเครื่องแล้วหยิบปากกามาดูดติดตรงกลางตัวด้ามตามภาพ แล้วไฟ LED ตรงส่วนโค้งของแท่นชาร์จจะสว่างขึ้นมา บนจอจะมีหน้าต่างจับคู่ให้กดเชื่อมต่อแล้วเริ่มใช้งานได้เลย ถ้าไฟ LED เป็นสีแดงแสดงว่าแบตเตอรี่ในปากกายังไม่เต็ม ถ้าเป็นสีเขียวแสดงว่าชาร์จเต็มแล้ว เมื่อจับคู่เสร็จก็ใช้งานแบบไร้สายได้เลยหรือจะต่อชาร์จไปใช้ไปก็ได้

Connectivity

HUAWEIPaperMatteDSC00069 Medium

พอร์ตเชื่อมต่อและปุ่มรอบตัว MatePad 11.5 PaperMatte Edition จะติดอยู่ตามขอบทั้ง 4 ด้าน หากวางในแนวนอนจะมีดังนี้

  • ขอบบน : ปุ่ม Volume และรูไมโครโฟน
  • ด้านใต้ : Connector สำหรับเชื่อมต่อ Smart Keyboard
  • ฝั่งซ้าย : ปุ่ม Power และลำโพง 2 ดอก
  • ฝั่งขวา : พอร์ต USB-C 2.0 และลำโพง 2 ดอก
  • การเชื่อมต่อไร้สาย : Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.2

ถือว่าพอร์ตเชื่อมต่อและปุ่มใช้งานบนตัวเครื่องมีให้ค่อนข้างครบเครื่อง สามารถควบคุมใช้งานได้ง่ายและถ้าใส่เข้ากับเคสและคีย์บอร์ดของมันก็เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ดีไม่แพ้กับแล็ปท็อปเลย แถมได้เปรียบตรงน้ำหนักเบากว่าและเขียนจดสิ่งต่างๆ ลงบนหน้าจอได้ง่าย หากใครเข้าประชุมและเลคเชอร์บ่อยๆ จะตอบโจทย์แน่นอน

ถ้ามีส่วนที่อัปเกรดเพิ่มแล้วทำให้ MatePad 11.5 น่าใช้ยิ่งขึ้นก็อยากให้อัปเกรดพอร์ต USB-C 3.2 แล้วเพิ่มฟังก์ชั่นต่อหน้าจอ USB-C ได้ จะใช้งานในโหมด Desktop ได้ นอกจากใช้ทำงานแทนโน๊ตบุ๊คได้ระดับหนึ่งแล้ว ยังใช้ต่อจอแยกหรือใช้กับ USB-C Multiport Adapter ต่ออุปกรณ์เสริมได้สะดวกขึ้นมาก

Performance

HUAWEI MatePad 11.5 PaperMatte Edition

ชิปเซ็ตของ HUAWEI MatePad 11.5 PaperMatte Edition เป็น Qualcom Snapdragon 7 Gen 1 แบบ 8 คอร์ ดีไซน์ 2 คลัสเตอร์แยกเป็นคอร์ประสิทธิภาพสูงกับประหยัดพลังงานอย่างละ 4 คอร์ มีจีพียู Adreno 644 ในตัวสำหรับเรนเดอร์กราฟิค เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตด้วยชิป Qualcomm FastConnect 6700 รองรับ Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2

หน่วยความจำติดตั้งเป็น RAM 8GB กับ ROM 256GB รันระบบปฏิบัติการ HarmonyOS 3.1 พัฒนาจาก Android 12 แม้จะไม่สามารถใช้งาน Google Mobile Service (GMS) ได้ แต่ก็ทดแทนด้วย HUAWEI Appgallery แทน ซึ่งปัจจุบันก็มีแอปฯ ใช้งานในชีวิตประจำวันให้โหลดค่อนข้างครบถ้วนทั้งด้านการเงิน, การงานและความบันเทิงอย่าง Ebook ก็มีให้โหลดไปใช้ได้

HUAWEI MatePad 11.5 PaperMatte Edition

ยิ่งใครชอบดูซีรี่ส์ผ่านบริการสตรีมมิ่งชั้นนำก็ดูบนความละเอียดสูงระดับ HD ได้แน่นอน เพราะแอปฯ DRM Info ขึ้นว่า HUAWEI MatePad 11.5 PaperMatte Edition ได้ Widevine Security ระดับ L1 เมื่อเปิดดูวิดีโอผ่านสตรีมมิ่งอย่าง Bilibili ก็ปรับความละเอียดสูงดูได้เลย

HUAWEI MatePad 11.5 PaperMatte Edition

ชิป Qualcomm FastConnect 6700 ซึ่ง HUAWEI ปรับแต่งให้รองรับ Wi-Fi 6 ก็เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้รวดเร็ว เมื่อทดสอบกับเราเตอร์แพ็คเกจอินเทอร์เน็ตความเร็ว 500/500 Mbps ของ AIS แล้วทดสอบด้วยแอปฯ Ookla แล้ว MatePad 11.5 PaperMatte Edition ทำความเร็วได้ 704/427 Mbps สามารถเปิดเว็บ, ทำงานและดูสตรีมมิ่งได้สบายๆ

HUAWEI MatePad 11.5 PaperMatte Edition

ในแง่กำลังทำงานของชิป Qualcomm Snapdragon 7 Gen 1 เมื่อทดสอบด้วย Geekbench 5 เพื่อดูกำลังประมวลผลของซีพียูแบบ Single-core และ Multi-core ว่ารองรับงานบีบอัดไฟล์, ประมวลผลภาพ, Machine learning และคำนวนทางฟิสิกส์ได้ดีหรือไม่ หลังจากทดสอบแล้วจะได้คะแนน Single-core อยู่ 806 คะแนน และ Multi-core อีก 2,594 คะแนน เทียบแล้วไล่เลี่ยกับสมาร์ทโฟนระดับหมื่นต้นหลายๆ รุ่นในปัจจุบัน ใช้เปิดแอปฯ ได้รวดเร็วและเสถียรดี

เมื่อทดสอบด้วย 3DMark Sling Shot แอปฯ ทดสอบประสิทธิภาพตัวชิปเซ็ตในสมาร์ทโฟนและแท็ปเล็ตกับชิปเซ็ตของ iPhone รุ่นก่อนว่าเทียบได้กับรุ่นใด ส่วนเวอร์ชั่น Extreme จะเทียบกับสมาร์ทโฟนและแท็ปเล็ต Android ยุคใหม่ว่าอยู่ระดับใด โดยได้ผลลัพธ์ดังนี้

  • 3DMark Sling Shot : 6,868 คะแนน เทียบแล้วดีกว่า Apple A14 Bionic ราว 84%
  • 3DMark Sling Shot Extreme : 5,635 คะแนน ประสิทธิภาพเทียบ Dimensity 1000+ 5G

ด้าน 3DMark Wild Life จะทดสอบพลังการประมวผลกราฟิคด้วย Vulkan API แล้วนำผลคะแนนไปเทียบกับสมาร์ทโฟนและโน๊ตบุ๊คทั้งหมด ถ้าเป็น Extreme จะทดสอบบนความละเอียด 4K ซึ่งกินทรัพยากรตัวเครื่องมากขึ้นเพื่อประเมินว่าอุปกรณ์ชิ้นนั้นสามารถเรนเดอร์กราฟิคในเกมยุคใหม่ได้ดีระดับใด ซึ่งทาง 3DMark อธิบายเอาไว้ว่ามันจะกินทรัพยากรตัวเครื่องหนักเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว โดยจะได้คะแนนดังนี้

  • 3DMark Wild Life : 3,162 คะแนน เฟรมเรทเฉลี่ย 18.94 Fps
  • 3DMark Wild Life Extreme : 833 คะแนน เฟรมเรทเฉลี่ย 4.99 Fps

จากผลคะแนนทั้งหมด จะเห็นว่าตัว HUAWEI MatePad 11.5 PaperMatte Edition ก็ใช้งานได้ดีพอควร แม้ชิป Snapdragon 7 Gen 1 จะมีรุ่นใหม่ออกมา 2 รุ่นแล้วก็จริง แต่ในแง่การใช้ทำงานเอกสารและจดบันทึกการประชุมถือว่ายังทำหน้าที่ได้ดีและพอเล่นเกมยอดนิยมต่างๆ ในปัจจุบันได้แน่นอน

User Experience

HUAWEI MatePad 11.5 PaperMatte Edition

ข้อดีของ HUAWEI MatePad 11.5 PaperMatte Edition คือประสิทธิภาพของมันเมื่อจับคู่กับ Smart Keyboard และ M-Pencil 2 แล้วทำงานได้ดีไม่แพ้แล็ปท็อปทั่วไปหากเน้นใช้ทำงานผ่านเบราเซอร์ผสมกับการจดบันทึกงานต่างๆ ที่ทำได้น่าประทับใจ จะวางตั้งกับโต๊ะแล้วพิมพ์ด้วยคีย์บอร์ดทำงานก็สะดวก ถ้ามีพื้นที่จำกัดหรือพิมพ์ตามปกติไม่สะดวกก็ถอดแยกออกมาใช้ก็ได้ ถ้าจะเน้นข้อความส่วนไหนก็เอาปากกามาเขียนต่อได้ทันที ถ้าใครเข้าประชุมและเลคเชอร์งานรับรองได้ใช้ M-Pencil 2 บ่อยแน่นอน ตอนลองใช้งานแล้วอุปกรณ์เสริมทั้งสองชิ้นนี้ก็ทำงานได้ดีไม่ผิดหวังไม่ต่างกับการใช้ปากกาเขียนตามปกติและจอ PaperMatte ก็ได้สัมผัสคล้ายกระดาษแค่ลื่นกว่านิดหน่อยทำให้ตอนเซ็นเอกสารหรือเขียนเร็วๆ แล้วลายเส้นไม่มีเพี้ยนเลย ยิ่งใช้คู่กับ HUAWEI Notes แล้วนับว่าจดง่ายเปลี่ยนเส้นเน้นข้อความได้ดีมาก

สิ่งที่ชอบมากของ MatePad 11.5 PaperMatte Edition ก็หนีไม่พ้นหน้าจอที่เหมือนติดฟิล์มด้านมาจากโรงงาน ซึ่งต่างจากการติดฟิล์มเพิ่มเองแล้วทำให้สีสันหม่นลงเล็กน้อยแล้วบางครั้งอาจจะเห็นจุดรุ้งขึ้นมารบกวนสายตาบ้าง แต่หน้าจอ PaperMatte ไม่มีปัญหาข้างต้นเลยแถมยังแสดงสีสันได้สวยงามไม่แพ้หน้าจอปกติ แค่ภาพจะไม่ใสมากเท่ากับจอกระจกเท่านั้น กลับกันหน้าจอด้านพร้อมฟีเจอร์ถนอมสายตานี้ดีกับคนรักการอ่านเป็นพิเศษทั้งแสงสะท้อนน้อยดูแล้วสบายตากว่าจอปกติเปิดโหมดถนอมสายตาเสียอีก เพราะมันไม่มีแสงสะท้อนจากหลอดนีออนหรือแดดมากวนสายตาและไม่เกิดจุดรุ้งขึ้นมา เพียงปรับความสว่างให้พอดีก็พอแล้ว พอเปิดโหมด Eye Comfort แล้วจอจะปรับเป็นโทนเหลืองซีเปียเหมือนกระดาษ Green Read ทำให้นั่งโฟกัสอยู่กับเนื้อหาได้ดีมาก เวลาถือมือเดียวก็กางขาตั้งเคสออกมาหนีบเอาไว้ก็ทำให้จับเครื่องได้มั่นคงขึ้นพอควร

HUAWEI MatePad 11.5 PaperMatte Edition

เรื่องจุดสังเกตของ MatePad 11.5 PaperMatte Edition จะมีอยู่ 2 เรื่อง คือ ปุ่ม ข, บ, ช, ล บนคีย์บอร์ดกลายเป็นปุ่มขนาดเล็กเพียงครึ่งเดียวแล้วทั้ง 4 ปุ่มก็เป็นตัวอักษรสำคัญในภาษาไทย เวลาเริ่มใช้มันทำงานแรกๆ ต้องปรับตัวพอสมควรถึงจะพิมพ์ได้ง่ายขึ้น ซึ่งผู้เขียนหวังว่าทาง HUAWEI จะดีไซน์คีย์บอร์ดใหม่ให้ทุกปุ่มมีขนาดเท่ากัน อาจจะลดขนาดของ Modifier อย่าง Backspace และปุ่ม Backslash (\) ให้เล็กลงแทนจะใช้งานได้ง่ายมาก อีกอย่างคือการชาร์จและจับคู่ปากกา M-Pencil 2 เข้ากับ Tablet นี้ ต้องใช้สายเฉพาะที่แถมมากับปากกาเท่านั้น ถ้าต้องประชุมหรือเข้าเลคเชอร์ยาวหลายชั่วโมงต้องมีสายชาร์จติดกระเป๋าเอาไว้เสมอ ซึ่งถ้าใช้โดยไม่ระวังอาจทำให้สายขาดหรือหายได้ ทางที่ดีแนะนำให้หากระเป๋าผ้าใบเล็กมาใส่สายเส้นนี้เอาไว้จะดีกว่า

ถ้าเทียบกับ HUAWEI MatePad Air ซึ่งชิปเซ็ตเป็นระดับอดีตเรือธง, มีแบตเตอรี่เยอะกว่า 600mAh, ใส่ SIM 4G LTE ได้, หน้าจอมีความละเอียดเพิ่มจาก 2.2K เป็น 2.8K แบบ Adaptive Refresh Rate ตั้งแต่ 30~144Hz แล้วต้องจ่ายเพิ่ม 8,000 บาทนั้น ถ้าผู้อ่านต้องการชิปเซ็ตแรงทรงพลังเอาไว้เล่นเกมหรือตัดต่อวิดีโอ ฝั่ง MatePad Air จะดูมีภาษีดีกว่า กลับกันหากโจทย์การใช้งานมีแค่ใช้ทำงานเอกสารแทนโน๊ตบุ๊คบ้าง, ดูหนังฟังเพลงและอ่านหนังสือเป็นหลัก ก็ไม่จำเป็นนักเพราะตัวชิปเซ็ต Snapdragon 7 Gen 1 เองก็แรงพอรันแอปฯ ในยุคปัจจุบันได้แล้ว แถมได้หน้าจอ PaperMatte ไว้อ่านคอนเทนต์ได้สบายตากว่าแถมราคาก็ประหยัดกว่ามาก เหมาะกับผู้ใช้ทั่วไปอย่างไม่ต้องสงสัย

Conclusion

HUAWEI MatePad 11.5 PaperMatte Edition

ด้วยฟีเจอร์และสเปคของ HUAWEI MatePad 11.5 PaperMatte Edition นับเป็นตัวเลือกน่าสนใจเพื่อคนทำงานเอกสาร เข้าประชุมและจดบันทึกโดยเฉพาะนักเรียนนักศึกษาไปจนเลขานุการบริษัทที่ต้องจ้องหน้าจอต่อเนื่องทั้งวัน ปกติแล้วตามักจะล้าง่ายแต่ด้วยจอ PaperMatte ซึ่งตัดแสงสะท้อนไม่มีจุดรุ้งเหมือนการติดฟิล์มด้าน แล้วถ้าเปิดโหมดถนอมสายตาเพิ่มเมื่อไหร่ก็ใช้งานมันได้ทั้งวัน ประกอบกับคีย์บอร์ดก็ทดแทนแล็ปท็อปได้และเมื่อใช้ปากกา M-Pencil 2 เมื่อไหร่ ก็ช่วยให้จดความคิดต่างๆ ลงไปได้ตามต้องการอีก ถือว่าใช้งานได้ยืดหยุ่นกว่าโน๊ตบุ๊คพอควรซึ่งถ้าซื้อมาใช้คู่กับพีซีที่ออฟฟิศหรือมีเอาไว้พกไปทำงานก็สะดวกใช่ย่อย

ถ้าใครคิดว่าจะซื้อ MatePad 11.5 PaperMatte Edition มาใช้ ก็แนะนำให้ตัดสินใจซื้อตั้งแต่เริ่ม Pre-order ไปเลย เพราะจะได้เคส Smart Keyboard พร้อม M-Pencil 2 และของสมนาคุณอีกด้วย และถ้าใครกำลังกังวลว่า HUAWEI ไม่สามารถใช้งาน GMS ได้ก็ตัดเรื่องนี้ได้เลยเพราะ HUAWEI Appgallery เองก็มีแอปฯ ใช้งานในชีวิตประจำวันมากขึ้นกว่าในอดีตมากจนครอบคลุมรูปการทำงานแทบทุกแบบแล้ว ก็ขอแนะนำให้ลองเปิดใจลองซื้อไปใช้งานดูน่าจะประทับใจกว่าที่คิดก็ได้

Click to comment
Advertisement

บทความน่าสนใจ

Accessories review

ถ้าคุณเป็นครีเอเตอร์ Lexar Portable SSD SL400 คือไอเท็มสำคัญควรมีติดกระเป๋า! ในวงการหน่วยความจำแล้ว Lexar ก็เป็นผู้ผลิตหน่วยความจำระดับโลกซึ่งมีสินค้าหลากหลายแบบให้เลือกใช้ เช่น Lexar Portable SSD SL400 สำหรับครีเอเตอร์ยุคใหม่เจ้าของ iPhone 15 Pro และ 16 Pro Series ได้ถ่ายคลิปเก็บไอเดียสร้างสรรค์ไว้ทำงานต่อได้หรือพกคู่มือถือ Android...

Buyer's Guide

ปฏิเสธไม่ได้แล้วว่าตอนนี้เกมมือถือก็ได้รับความนิยมมากไม่แพ้แพลตฟอร์มอื่น แถมยังเล่นได้สะดวกทุกที่ทุกเวลา ยิ่งถ้ามีถุงนิ้วเล่นเกมเอาไว้สวมนิ้วหัวแม่มือสักนิดไม่ให้หน้าจอเปื้อนความมันจากนิ้วแล้วรูดจอได้สะดวกขึ้น ก็เล่นเกมยิงอย่าง PUBG หรือ Call of Duty Mobile ได้ง่าย ถ้ารักเกม RPG อย่าง Genshin Impact ก็เล่นได้อย่างเพลิดเพลินแล้ว แถมราคาก็ไม่แพงแค่หลักสิบถึงร้อยบาทเท่านั้นแต่เพิ่มอรรถรสเวลาเล่นเกมได้หลายเท่าไม่พอ ยังลดรอยนิ้วมือติดบนหน้าจอไม่ต้องมานั่งเช็ดทำความสะอาดภายหลังได้อีกด้วย ว่าด้วยถุงนิ้วเล่นเกมมือถือ ซื้อมาใช้จะดีไหม? ถุงนิ้วสำหรับเล่นเกมดีไซน์ให้ขนาดพอสวมนิ้วหัวแม่มือพอดี ทำให้รูดหน้าจอมือถือได้ลื่นขึ้นแล้วความมันจากนิ้วไม่ติดหน้าจอ ดีไซน์ของถุงนิ้วจะมีทั้งแบบเป็นปลอกสวมนิ้วหัวแม่มือหรือเป็นถุงมือสวมถึงข้อมือให้เลือกตามสะดวก...

Buyer's Guide

หน้าจอคอมในปัจจุบันเริ่มมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ 18.5 นิ้วเมื่อสิบกว่าปีก่อน จนตอนนี้ก็มีจอคอม 32 นิ้ว ทั้งจอคอมทำงานและจอคอมเล่นเกมให้เลือกซื้อมากมายหลายรุ่น แม้บางคนอาจคิดว่ามันมีขนาดใหญ่จนเท่ากับจอทีวีรุ่นเล็กแล้วจะวางบนโต๊ะคอมก็คงใหญ่เกินไป แต่ในความเป็นจริงขนาดของมันก็ใหญ่กว่าจอ 27 นิ้ว ตรงหน้าไปอีกนิดเดียว ทำให้พื้นที่แสดงผลกว้างจนสุดขอบสายตายิ่งขึ้น ถ้าใครเล่นเกมเป็นประจำจะได้เห็นฉากหลังของเกมเต็มสายตาจนดื่มด่ำไปกับบรรยากาศได้เต็มอิ่มยิ่งขึ้น กรณีจอทำงานก็มีพื้นที่แสดงผลกว้างขึ้นทั้งมองเห็นตารางและหน้าเอกสารกว้างขึ้น รวมไปถึง Timeline เวลาตัดต่อคลิปยาวกว่าเดิม ถ้าสังเกตจะเห็นว่าผู้ผลิตหน้าจอแบรนด์ต่างๆ พากันใส่ฟีเจอร์มาให้หน้าจอขนาดนี้มากขึ้นจนกลายเป็นจอพรีเมี่ยมระดับเริ่มต้นกันแล้ว ไม่ว่าจะได้พาเนลคุณภาพขอบเขตสีกว้างใช้ทำงานกราฟิคได้, มีพอร์ต USB-C...

Buyer's Guide

การซื้อลำโพงบลูทูธดีๆ เอาไว้ใช้นอกจากเรื่องความบันเทิง จะต่อโน๊ตบุ๊ค, ทีวีหรือสมาร์ทโฟนใช้ดูหนังฟังเพลงได้หลายสถานการณ์ ทำให้ได้ฟังเสียงเพลงจากลำโพงคุณภาพสูงได้ง่ายๆ บางคนอาจใช้ลำโพงนี้แทนลำโพงคอมธรรมดาไปเลย เวลาจะไปเที่ยวครั้งไหนก็ถอดเอาไปฟังเพลงหรือจะเอาไปซ้อมเต้นหรือเล่นกีฬาก็เหมาะกว่าเปิดเสียงจากลำโพงมือถือให้เสียงอู้อี้ฟังไม่ทั่วถึงอย่างแน่นอน แล้วตอนนี้ก็หาซื้อได้ง่ายไม่ว่าจะเดินไปเลือกลองฟังรุ่นที่สนใจหน้าร้านค้าชั้นนำเลยหรือจะสั่งออนไลน์มาส่งถึงบ้านก็ง่ายเช่นกัน แถมปัจจุบันนี้แบรนด์ชั้นนำเจ้าต่างๆ ก็เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอย่างมากมาย ทำให้คนรักเสียงเพลงมีตัวเลือกมากกว่าในอดีต ว่าด้วยลำโพงบลูทูธ ดูสเปคและเลือกอย่างไรดี? การเลือกลำโพงสักตัวไม่แนะนำให้ซื้อตามคำบอกเล่าปากต่อปากนัก แนะนำให้ไปลองฟังเองก่อน ลำโพงบลูทูธหลายตัวมักมีแอปฯ สำหรับตั้งค่าและอัปเดตเฟิร์มแวร์ให้โหลดมาติดตั้งในสมาร์ทโฟน ไม่ควรเปิดลำโพงเสียงดังสุดต่อเนื่องนานหลายชั่วโมง เพราะดอกลำโพงจะเสียหายได้ ลำโพงบลูทูธบางรุ่นสามารถใช้เป็นแบตสำรองใช้ชาร์จมือถือในยามจำเป็นได้ 7 ลำโพงบลูทูธน่าใช้ พกก็ง่ายแต่งห้องก็สวย Tribit...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก