GEFORCE RTX ชิปกราฟิกพลัง AI ที่เป็นได้มากกว่าการ์ดประมวลผลภาพที่คุณเคยรู้จัก

หลังจากที่ทาง NVIDIA Corporation ได้ประกาศอัปเดทเทคโนโลยีและความร่วมมือกับนักพัฒนาและพาร์ทเนอร์หลากหลายสาขาในงาน CES 2024 ที่ผ่านมา วันนี้ บริษัท เอ็นวิเดีย (ประเทศไทย) จำกัด ได้เชิญสื่อมวลชนไทยเข้าร่วมงาน GeForce Press Gathering 2024 เพื่อเน้นย้ำความเป็นผู้นำของอุตสาหกรรมกราฟิกประมวลผล AI บนเครื่องพีซีทั้งบนแพล็ตฟอร์มแล็ปท็อปและเดสก์ท็อป พร้อมไขข้อกังวลเเรื่องขีดจำกัดของภาษาไทยในการใช้พัฒนาเกมและแอปพลิเคชั่นเพื่อสนับสนุนการใช้งานภายในประเทศ.

ภายในงานมีการจัดแสดงแล็ปท็อป GEFORCE RTX^TM ใหม่จากแบรนด์พาร์ทเนอร์อย่าง ROG Strix SCAR 18, Legion 9, และ MSI Titan 18 ที่พร้อมให้ทดสอบแอปพลิเคชั่นใหม่อย่าง Chat With RTX, Stable Diffusion, หรือเกมเบล็อกบาสเตอร์ที่ใช้ทรัพยากรกราฟิกสูงอย่าง Cyberpunk 2077 และ Alan Wake 2 นอกจากนี้ยังมีโปรเจ็คเกม “One Day” ที่สร้างและพัฒนาโดยกลุ่มนักศึกษาสาขาวิชาเกมและสื่อเชิงโต้ตอบ คณะเทคโนโลยีสารสนเทศและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ที่จัดแสดงให้สื่อมวลชนได้ทดลองเล่นเพิ่มเติมบนแล็ปท็อป GEFORCE RTX^TM 40 ซีรีส์อีกด้วย

เซอร์ไพรซ์พิเศษเพิ่มเติมสำหรับงานนี้คือการจัดแสดง GEFORCE RTX^TM 4080 Super Founder Edition* ที่เปิดให้จัดวางจำหน่ายพร้อมกันทั่วโลกในเวลา 21.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ในราคาเริ่มต้นที่ 42,900 บาท ด้วยการเพิ่ม Shader Cores, RT Cores, และ Tensor Cores บนสถาปัตยกรรม Ada Lovelace ทำให้สามารถแสดงผล full ray-traced บนความละเอียด 4K ได้อย่างลื่นไหล

ข้อมูลจำเพาะโดยสังเขป

อ้างอิง: GeForce RTX 4080 SUPER และ RTX 4080 Graphics Cards | NVIDIA

สรุปหัวข้อสำคัญของการสาธิตโปรแกรมบน GEFORCE RTX^TM สำหรับสื่อมวลชน ดังนี้

Chat with RTX เป็นหนึ่งในการพัฒนา Generative AI ให้เป็นแชทบอทผู้ช่วยสำหรับผู้ที่เป็นเจ้าของ GEFORCE RTX^TM GPUs ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการพัฒนาและทดสอบเบต้าภายในบริษัท NVIDIA อย่างไรก็ตามภายในงาน Press Gathering ครั้งนี้ประเทศไทยได้รับการอนุญาตเป็นกรณีพิเศษในการให้จัดแสดงความสามารถของ Chat with RTX ให้สื่อมวลชนไทยได้ทดสอบ
หลักการทำงานของแชทบอท AI นี้คือการเชื่อมโยงกับโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM – Large Language Model) เข้ากับเนื้อหาเฉพาะของผู้ใช้ เพื่อวิเคราะห์และประมวลผลข้อมูลที่ผู้ใช้ต้องการผ่าน chatbot ซึ่งข้อมูลที่ใส่เข้าไปในระบบอาจเป็นไฟล์เอกสารที่มีในรูปแบบ text, pdf, doc/docx, xml หรือ URL ของวิดีโอบน YouTube การประมวลผลทั้งหมดของ Chat with RTX ทำงานบนคอมพิวเตอร์วินโดว์ RTX หรือเวิร์คสเตชั่นของผู้ใช้ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วและปลอดภัย โดยไม่ต้องกังวลเรื่องข้อมูลที่อาจรั่วไหลผ่านระบบออนไลน์ที่มีความปลอดภัยข้อมูลต่ำ

Stable Diffusion เป็นแอปพลิเคชั่นตัวอย่างที่แสดงการทำงานของ text-to-image บน GEFORCE RTX^TM GPU ได้อย่างรวดเร็วด้วยการประมวลผลของ AI บน Tensor Cores โดยไม่ผ่านระบบออนไลน์ ผู้ใช้สามารถป้อนคำสั่งเป็นข้อความเพื่อให้ AI วิเคราะห์และแสดงผลภาพบนเครื่องได้ในไม่กี่วินาที โดยมีการทดสอบแล้วว่าการทำงานบน GPU สามารถแสดงผลได้เร็วกว่าการใช้ CPU หลายเท่าตัว โมเดลนี้เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ในการเรียนรู้เชิงลึก (Deep learning model) ที่ใกล้ตัวผู้ใช้มากขึ้นและจะเป็นประโยชน์ในการนำไปใช้เชิงสร้างสรรค์ [คลิปตัวอย่าง Stable Diffusion บน RTX GPUs]
เพิ่มเติมตัวอย่าง คำสั่ง prompt ว่า “An adorable robot pet, cute, big eyes, cuddly, happy, prototype, rendered image, glowing accents, shiny, reflective floor, glass, joyful, bangkok street” ซึ่งรูปที่ generate จากการใช้ GPU ประมวลผลในเวลา 3.7 วินาที คือภาพที่แสดงทางด้านขวานี้

Ray Tracing, DLSS, DLAA เทคโนโลยีที่ใช้ AI เป็นตัวช่วยประมวลผลภาพบนเกม AAA ที่ให้กราฟิกสวยสมจริง ซึ่งปัจจุบัน NVIDIA มีเกม RTX และแอปครีเอทีฟมากกว่า 500 รายการที่ใช้เทคโนโลยีส่งเสริมภาพกราฟิกเพื่อให้ GeForce เกมเมอร์ได้เสพประสบกาณ์เกมที่เหนือกว่า และได้รับอรรถรสในการเล่นเกมขั้นสูงสุด RTX เกมที่ประกาศล่าสุดรวมถึง Horizon Forbidden West Complete Edition, Pax Dei, Diablo IV, TEKKEN 8, และอื่นๆ.

NVIDIA ACE หรือ Avatar Cloud Engine ใหม่นี้ช่วยให้นักพัฒนาสร้าง avatars ที่สามารถปฏิสัมพันธ์โต้ตอบได้โดยใช้ AI models เช่น NVIDIA Audio2Face (A2F) ที่สามารถสร้างอนิเมชันใบหน้าที่แสดงอารมณ์มาจากแหล่งข้อมูลเสียง, และ NVIDIA Riva ซึ่งเป็น Automatic Speech Recognition (ASR), สำหรับสร้างแอปพลิเคชันที่สามารถปรับแต่งเสียงและแปลภาษาได้หลายภาษาโดยใช้ generative AI

RTX GPU กับนวัตกรรม AI ในประเทศไทย เดิมทีการมีภาษาเฉพาะในการสื่อสารอาจเป็นอุปสรรคในการพัฒนาเทคโนโลยีหลายด้านที่ใช้ภาษาสากลเป็นภาษาหลัก แต่ปัจจุบันการเทรนปัญญาประดิษฐ์ทำให้เราก้าวข้ามข้อจำกัดดังกล่าวไปได้อย่างมีนัยสำคัญ ยกตัวอย่างเช่น การมีระบบตอบรับอัตโนมัติภาษาไทยที่ใช้คำสั่งเสียงในการส่งต่อสายไปยังปลายทางที่ถูกต้อง (Speech Recognition) หรือการพิมพ์โดยใช้เสียงคำสั่งเสียงภาษาไทยเปลี่ยนเป็นข้อความในแชทแอปพลิเคชั่นชั้นนำต่างๆ แทนการพิมพ์จริงทีละตัวอักษร (Speech to Tech) เป็นต้น การพัฒนาและเทรนปัญญาประดิษฐ์ให้จดจำคำสั่งและถอดรหัสในการตอบสนองได้อย่างรวดเร็วและถูกต้องนั้นต้องอาศัยการประมวลผลด้วย GPU เป็นสำคัญ

ข้างต้นเป็นเพียงตัวอย่างบางส่วนของการพัฒนาชิปกราฟิก RTX โดย NVIDIA เพื่อตอบโจทย์การใช้งานโดยทั่วไปของตลาดคอนซูเมอร์ ซึ่งยังมีอีกหลากหลายแอปพลิเคชั่นที่เป็นข้อได้เปรียบของการเลือกใช้ RTX ชิปประมวลผล AI เพื่อเกมเมอร์ ครีเอเตอร์ และทุกๆ คน

Quotable:
“Generative AI เป็นการเปลี่ยนแปลงของแพลตฟอร์มที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ของคอมพิวเตอร์ และการกระโดดเข้าไปสู่ระดับเมนสตรีมที่เข้าถึงได้ง่ายกำลังเปลี่ยนแปลงโลกของเกม, การสร้างสรรค์, การพัฒนา, ตลอดจนการผลิตอย่างรวดเร็ว แอปพลิเคชันที่ทรงประสิทธิภาพในยุคนี้จำเป็นต้องใช้การประมวลผลจำนวนมหาศาลซึ่งมีเพียง GPU เท่านั้นที่สามารถตอบสนองและส่งมอบผลลัพธ์ได้ และด้วย RTX AI พีซีและเวิร์คสเตชั่นมากกว่า 100 ล้านเครื่อง, RTX จึงเป็นฐานใหญ่สำหรับนักพัฒนา AI”
กล่าวโดย เจนเซ็น หวง (Jensen Huang), ผู้ก่อตั้งและประธานบริหาร บริษัท NVIDIA

สนใจอัปเดทข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: https://www.nvidia.com/th-th/geforce
NVIDIA AI แอปพลิเคชั่นอื่นๆ ที่น่าสนใจ: NVIDIA Canvas | NVIDIA Broadcast: เสียงและวิดีโอที่ขับเคลื่อนด้วย AI