Connect with us

Hi, what are you looking for?

CONTENT

ไขข้อสงสัย CPU และ GPU มีปัญหาเรื่องคอขวดจริงหรือไม่

ปัญหาโลกแตกที่มีหลายคนเถียงกันว่า CPU และ GPU มีปัญหาเรื่องคอขวดหรือ Bottleneck ในบทความนี้จะมาไขปัญหาดังกล่าวให้ทุกคนได้รู้กัน

ไขข้อสงสัย CPU และ GPU กับปัญหาเรื่องคอขวด
ไขข้อสงสัย CPU และ GPU กับปัญหาเรื่องคอขวด

ปัญหาเรื่องขอควดของ CPU และ GPU ได้รับการถกเถียงกันมาอย่างยาวนานว่าจริงๆ แล้วเราๆ ท่านๆ กำลังประสบปัญหาแบบนี้อยู่หรือไม่ซึ่งหลายๆ ท่านอาจจะคิดแตกต่างกันไป แต่เราจะขอบอกท่าน ณ ตอนนี้เลยว่าหากท่านเข้าใจว่าปัญหาเรื่องขอควดของ CPU และ GPU นั้นมีอยู่จริงนั่นหมายความว่าท่านเข้าใจถูกต้องแล้ว

อย่างไรก็ตามแต่แล้วนั้นปัญหาเรื่องขอควดของ CPU และ GPU นี้สามารถที่จะทำการแก้ไขและจัดการได้ ทว่าก่อนที่เราจะไปถึงจุดนั้น เราควรจะมาเรียนรู้กันก่อนว่าปัญหาเรื่องขอควดของ CPU และ GPU นั้นจริงๆ แล้วมันมีสาเหตุมาจากอะไรก่อนที่เราจะได้เข้าสู่การแก้ไขที่เหมาะสมและสามารถแก้ไขได้อย่างถูกต้องอย่างที่ควรจะเป็น

Advertisement

ก่อนที่คุณจะไปจัดการปัญหาเรื่องขอควดของ CPU และ GPU นี้นั้นเราอยากขอใก้คุณกลับไปอ่าน 11 ข้อแตกต่างของ CPU และ GPU ที่ทุกคนควรรู้ ก่อนเพื่อทำความเข้าใจอย่างจริงจังว่า CPU และ GPU นั้นจริงๆ แล้วมันต่างกันอย่างไร หากคุณพร้อมแล้วนั้นก็ไปติดตามวิธีการแก้ไขปัญหาเรื่องขอควดของ CPU และ GPU กันต่อในบทความนี้กันได้เลย



ข้อเท็จจริงของต้นเหตุปัญหาขอควดระหว่าง CPU และ GPU

CPU and GPU bottlenecking 001

ปัญหาคอขวดของ CPU และ GPU อาจสร้างความเจ็บปวดอย่างมากเพราะไม่ว่าฮาร์ดแวร์จะแรงมากแค่ไหนแต่ปัญหาคอขวดนั้นก็สามารถที่จะเกิดขึ้นกับคุณได้ ความรู้สึกที่คุณตื่นเต้นที่จะได้เล่นเกมใหม่ล่าสุดแต่กลับพบว่ามันทำงานได้ไม่ดีเท่าที่ควรบนพีซีของคุณทั้งๆ ที่คุณใช้ GPU แรงๆ อย่าง RTX 3080 ซึ่งคุณคิดว่าแรงแล้ว ทว่าคุณใช้ CPU AMD 3600X ที่มีอายุ 4 ปีมาแล้วคู่กัน คุณอาจจะไม่รู้เลยว่าสิ่งนี้กำลังทำให้ RTX 3080 ของคุณช้าลงจนคุณยอมรับไม่ได้ นี่คือสิ่งที่เราเรียกว่าคอขวดและเราจะอธิบายทุกสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับคอขวดของ CPU และ GPU ให้คุณได้ทราบกัน

คำถามที่ว่าคอขวดของ CPU และ GPU มีความแตกต่างหรือไม่ คำตอบนั้นแน่นอนว่ามันมีแน่ๆ อย่างที่เราได้กล่าวไปแล้วในตอนต้น นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมจึงฮาร์ดแวร์ทั้งสองอย่างนี้จึงมีชื่อที่แตกต่างกัน CPU และ GPU มีแนวโน้มที่จะเกิดปัญหาคอขวดในรูปแบบที่แตกต่างกันและภายใต้ภาระงานที่แตกต่างกัน แต่โดยพื้นฐานแล้วทั้งหมดจะเหมือนกัน เราจะอธิบายทุกสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้และการแก้ไขเท่าที่คุณจะสามารถทำได้

เนื่องจาก CPU และ GPU จำนวนมากทำงานได้ดีขึ้นแต่ในรูปแบบที่แตกต่างกันไปตามรุ่นที่ก้าวหน้า ตัวอย่างล่าสุดของเรื่องนี้ก็อย่างเช่น Intel Core i9-14900K จาก Intel ทำงานได้แย่กว่าที่เราคาดหวังจาก CPU รุ่นใหม่เช่นกันเป็นต้น ดังนั้นการใช้หน่วยประมวลผลรุ่นใหม่อยู่ตลอดเวลาอาจจะไม่ใช่วิธีการแก้ไขเรื่องของปัญหาคอขวดระหว่าง CPU กับ GPU ได้ ดังนั้นก่อนอื่นคุณต้องทำความเข้าใจก่อนว่าปัญหาคอขวดที่เกิดจาก CPU หรือคอขวดที่เกิดจาก GPU มีลักษณะเป็นอย่างไร


คอขวดคืออะไร? อธิบายคอขวดของ CPU และคอขวดของ GPU

bottleneck and genetic variation of surviving population

ปัญหาคอขวดของคอมพิวเตอร์พีซีเกิดขึ้นเมื่อส่วนประกอบฮาร์ดแวร์ชิ้นหนึ่ง เช่น CPU, GPU หรือ RAM กลายเป็นปัจจัยจำกัดประสิทธิภาพในระบบ สิ่งนี้นำไปสู่ความไม่มีประสิทธิภาพในการใช้ความสามารถของส่วนประกอบอื่นๆ ขัดขวางประสิทธิภาพโดยรวมตัวอย่างเช่น หากคุณมีการ์ดกราฟิกที่ทรงพลังแต่ CPU รุ่นเก่าที่ไม่แรงมากเพีัยงพอ CPU อาจประสบปัญหาในการตอบสนองความต้องการในการประมวลผลของ GPU ส่งผลให้อัตราเฟรมลดลงและการตอบสนองของระบบโดยรวมลดลงตามไปด้วย

หากพูดง่ายๆ ก็คือปัญหาคอขวดก็เหมือนกับรถติดบนท้องถนน แม้ว่าคุณจะมีรถที่เร็วมาก (GPU) และถนนที่เรียบ (RAM) หากมีปัญหาคอขวด (CPU ช้า) ในระบบ ความเร็วโดยรวมของรถจะถูกจำกัดด้วยส่วนที่ช้าที่สุดของถนน

การระบุและแก้ไขจุดที่ก่อให้เกิดปัญหาคอขวดถือเป็นสิ่งสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพคอมพิวเตอร์พีซี การอัพเกรดส่วนประกอบที่ติดขัดหรือปรับสมดุลฮาร์ดแวร์ของระบบสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพโดยรวมและใช้ประโยชน์จากทรัพยากรที่มีอยู่ได้ดีขึ้น

คอขวดของ CPU

CPU and GPU bottlenecking 002

ปัญหาคอขวดของ CPU เกิดขึ้นเมื่อ CPU ไม่ทรงพลังพอที่จะรองรับปริมาณงานปัจจุบันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ความเร็วในการประมวลผลช้าลงและประสิทธิภาพลดลง สิ่งนี้สามารถเกิดขึ้นได้ในสถานการณ์ต่างๆ เช่น เมื่อใช้งานแอปพลิเคชันหรือเกมที่มีความต้องการสูงซึ่งต้องอาศัยการคำนวณของ CPU อย่างมาก คุณอาจไม่มี CPU ที่ดีที่สุดสำหรับการเล่นเกม แต่คุณต้องเลือกส่วนประกอบอื่นๆ อย่างชาญฉลาดเพื่อไม่ให้ CPU ลดคุณค่าลง

เมื่อ CPU มาถึงความจุดที่จะสามารถทำได้สูงสุดแล้ว มันจะไม่สามารถรองรับความต้องการของส่วนประกอบอื่นๆ เช่น GPU ได้ นั่นทำให้มันส่งผลให้มีการใช้งานฮาร์ดแวร์อื่นๆ ได้น้อยเกินกว่าที่ควรจะเป็น(เช่น GPU ไม่รัน 100% เต็มที่) ซึ่งส่งผลให้ประสิทธิภาพโดยรวมของระบบลดลง

คอขวดของ GPU

CPU and GPU bottlenecking 003

ปัญหาคอขวดของ GPU เกิดขึ้นเมื่อ GPU ไม่ทรงพลังพอที่จะจัดการปริมาณงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ความเร็วในการเรนเดอร์ช้าลงและลดประสิทธิภาพโดยรวมของระบบ สิ่งนี้สามารถเกิดขึ้นได้เมื่อใช้งานแอปพลิเคชั่นที่ต้องการการประมวลผลทางด้านกราฟิกหนักๆ เช่น การเล่นเกมระดับ AAA สมัยใหม่ หรืองานเรนเดอร์ 3D ที่ซับซ้อน หากคุณไม่มี GPU ที่ดีที่สุดสำหรับการเล่นเกม คุณจะต้องระมัดระวังกับสิ่งที่คุณจับคู่กับมันเพื่อไม่ให้ลดคุณค่าของส่วนประกอบอื่นๆ ของคุณ(ในที่นี้ไม่ได้หมายถึง CPU เพียงอย่างเดียวแต่หมายรวมไปถึงหน่วยความจำหรือ RAM และแหล่งเก็บข้อมูลหรือ Storage ที่คุณจับคู่กับฮาร์ดแวร์ในคอมพิวเตอร์ของคุณด้วย)

หาก GPU ถูกใช้งานจนถึงความจุดสูงสุดแล้ว มันก็จะไม่สามารถตอบสนองต่อความต้องการของส่วนประกอบอื่นๆ เช่น CPU ได้ ส่งผลให้มีการใช้งานน้อยเกินไป เป็นผลให้ประสิทธิภาพของระบบถูกจำกัดด้วยความสามารถของ GPU ส่งผลให้อัตราเฟรมลดลงและการประมวลผลกราฟิกช้าลง


เกมไม่ได้ทำให้คุณเกิดปัญหาคอขวด แต่เกี่ยวข้องกับฮาร์ดแวร์

computer harddisk 001

คอขวดไม่ว่าประเภทไหนนั้นจะเน้นไปที่ฮาร์ดแวร์เป็นหลัก ตามที่กล่าวไว้เกมจะเป็นตัวกำหนดว่าฮาร์ดแวร์ใดที่ใช้ในพีซีของคุณและผลกระทบใดบ้าง ไม่ใช่ทุกเกมที่ถูกสร้างขึ้นมาอย่างเท่าเทียมกันและบางเกมจะใช้พลังการประมวลผลมากกว่าเกมอื่นๆ

ด้านล่างนี้คือตัวอย่างเกมที่แบ่งออกเป็น 2 หมวดหมู่ได้แก่ เกมที่ต้องใช้ CPU และเกมที่ต้องใช้ GPU

เกมที่ต้องอาศัย CPU คือเกมที่มักจะมีอัตรา FPS สูงทั้งๆ ที่กราฟิกความละเอียดต่ำ ในบรรดาเกมเหล่านี้ได้แก่

  • CS2
  • Minecraft
  • Civilization V
  • Assassin’s Creed: Mirage

เกมที่แสดงอัตราเฟรมที่สูงกว่าเมื่อจับคู่กับการ์ดกราฟิกระดับไฮเอนด์นั้นเป็นเกมที่ต้องใช้ GPU ต่อไปนี้เป็นเกมบางเกมที่ต้องอาศัย GPU อย่าง

  • Cities: Skylines 2
  • The Witcher 3
  • Metro: Last Light
  • Borderlands 2
  • Dying Light

โดยรวมแล้ว สาเหตุของปัญหาคอขวดของ CPU และ GPU ไม่ได้จำกัดอยู่ที่ส่วนประกอบเท่านั้น นี่คือเหตุผลที่คุณต้องเลือกการตั้งค่าเกมที่เฉพาะเจาะจงอย่างระมัดระวังโดยยึดตามเกมที่คุณมักจะเล่น การเริ่มต้นด้วยสิ่งนี้จะทำให้คุณไม่ต้อง “อัปเกรด” ส่วนประกอบของคุณในเร็วๆ นี้ ดังนั้นจงอย่ากลัวที่จะปรับโหมดการประมวลผลในเกมว่าต้องเป็นระดับสูงสุดตลอดเวลาหากฮาร์ดแวร์ของคุณไม่ได้แรงจนรับรองความสามารถที่จะรันโหมดกราฟิกของเกมที่ระดับสูงสุดได้เป็นอย่างดี


วิธีแก้ไขคอขวดของ CPU และ GPU

ในจุดๆ นี้เราจะขอดำเนินการอธิบายบางอย่างที่สามารถช่วยขจัดหรือบรรเทาปัญหาคอขวดได้ จริงๆ แล้วปัญหาเรื่องคอขวดมีการแก้ไขมากมาย แต่ท้ายที่สุดแล้วคุณอาจต้องอัปเกรดฮาร์ดแวร์เพื่อแก้ไขปัญหาที่กว้างขึ้น อย่างไรก็ตามมีบางสิ่งที่คุณสามารถทำได้ในเกมเพื่อลดปัญหาคอขวด ก่อนอื่นเรามาพูดถึงคอขวดของ CPU กันก่อน

วิธีแก้ไขคอขวดของ CPU

571A0862 Edit

เพื่อแก้ไขปัญหาคอขวดของ CPU สามารถพิจารณาได้หลายวิธีเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของระบบโดยรวม เพื่อแก้ไขปัญหาคอขวดของ CPU และเพิ่มประสิทธิภาพระบบโดยรวมให้พิจารณากลยุทธ์วิธีดังต่อไปนี้

  • อัปเกรด CPU: ขั้นตอนสำคัญคืออัปเกรด CPU ของคุณให้เป็นโปรเซสเซอร์ที่ทรงพลังและเร็วขึ้น CPU ที่มีคอร์เพิ่มเติมและความเร็วสัญญาณนาฬิกาที่สูงขึ้นสามารถจัดการงานการประมวลผลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น บรรเทาปัญหาคอขวดและทำให้การทำงานราบรื่นยิ่งขึ้น
  • จัดการกระบวนการพื้นหลัง: การจัดการกระบวนการพื้นหลังอย่างมีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญ การปิดโปรแกรมที่ไม่จำเป็นซึ่งทำงานในเบื้องหลังจะทำให้ทรัพยากร CPU อันมีค่าว่างสำหรับงานหลัก ป้องกันไม่ให้โปรเซสเซอร์เกิดความเครียดมากเกินไป
  • ปรับซอฟต์แวร์และไดรเวอร์ให้เหมาะสม: การเพิ่มประสิทธิภาพซอฟต์แวร์และการอัปเดตไดรเวอร์ให้ทันสมัยอาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อการใช้งาน CPU การตรวจสอบให้แน่ใจว่าแอปพลิเคชันของคุณทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นเวอร์ชันล่าสุดสามารถช่วยเพิ่มศักยภาพของ CPU ของคุณได้อย่างเต็มที่
  • การโอเวอร์คล็อก: สำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพเป็นพิเศษ การโอเวอร์คล็อก CPU เป็นทางเลือกหนึ่ง โดยมีเงื่อนไขว่าระบบระบายความร้อนของคุณต้องสามารถจัดการกับความร้อนที่ปล่อยออกมาที่เพิ่มขึ้นได้ การโอเวอร์คล็อกจะเพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกาของ CPU ส่งผลให้ประสิทธิภาพดีขึ้น อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญคือต้องรักษาสมดุลเพื่อป้องกันความร้อนสูงเกินไป
  • มัลติเธรด: การใช้แอปพลิเคชันที่รองรับมัลติเธรดนั้นมีข้อดี มัลติเธรดช่วยให้โปรแกรมแบ่งงานออกเป็นส่วนเล็กๆ ซึ่งสามารถประมวลผลพร้อมกันด้วยคอร์ CPU หลายคอร์ ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผลแบบขนานและช่วยลดปัญหาคอขวด

ด้วยการใช้กลยุทธ์เหล่านี้ คุณสามารถจัดการกับปัญหาคอขวดของ CPU และปรับปรุงประสิทธิภาพของระบบของคุณได้ การเพิ่มประสิทธิภาพเหล่านี้ไม่เพียงแต่ปรับปรุงประสิทธิภาพของ CPU เท่านั้น แต่ยังช่วยให้ประสบการณ์การประมวลผลโดยรวมราบรื่นและตอบสนองมากขึ้นอีกด้วย

วิธีแก้ไขคอขวดของ GPU

How to fix a GPU bottleneck

การแก้ไขคอขวดของ GPU เกี่ยวข้องกับกลยุทธ์วิธีต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกราฟิกและทำให้แน่ใจว่า GPU ไม่ได้จำกัดระบบโดยรวม การจัดการกับปัญหาคอขวดของ GPU และการเพิ่มประสิทธิภาพกราฟิกของคุณสามารถทำได้โดยใช้กลยุทธ์วิธีดังต่อไปนี้

  • อัปเกรด GPU ของคุณ: ลองอัปเกรดเป็น GPU ที่ทรงพลังยิ่งขึ้นด้วย VRAM ที่สูงขึ้นและประสิทธิภาพโดยรวมที่ดีขึ้น การอัปเกรดนี้ช่วยให้ GPU ของคุณสามารถรองรับงานกราฟิกที่มีความต้องการมากขึ้น โดยไม่ขัดขวางประสิทธิภาพของส่วนประกอบอื่นๆ
  • ปรับการตั้งค่ากราฟิกในเกม: การลดการตั้งค่ากราฟิกในเกมอาจเป็นวิธีแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพสูง ด้วยการลดความซับซ้อนของการมองเห็น คุณสามารถแบ่งเบาภาระงานของ GPU ได้ ทำให้สามารถเรนเดอร์เฟรมได้เร็วขึ้นและเพิ่มประสิทธิภาพโดยรวมได้อย่างมาก
  • อัปเดตไดรเวอร์ GPU ให้ทันสมัยอยู่เสมอ: การอัปเดตไดรเวอร์ GPU ของคุณเป็นประจำเป็นสิ่งสำคัญ แนวทางปฏิบัตินี้จะเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและรับประกันความเข้ากันได้กับซอฟต์แวร์ล่าสุด ไดรเวอร์เวอร์ชันใหม่มักจะรวมการปรับปรุงประสิทธิภาพและการแก้ไขข้อบกพร่องที่สามารถบรรเทาปัญหาคอขวดได้
  • พิจารณาจอภาพที่มีความละเอียดสูงกว่า: การเลือกใช้จอภาพที่มีความละเอียดสูงกว่าจะมีประโยชน์ เนื่องจากจะทำให้ GPU สามารถใช้ความสามารถได้อย่างเต็มที่ ความละเอียดที่สูงขึ้นจะต้องใช้พลัง GPU มากขึ้นและ GPU ที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นก็สามารถจัดการกับความต้องการที่เพิ่มขึ้นเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ประสิทธิภาพกราฟิกดีขึ้น
  • ใช้เครื่องมือตรวจสอบฮาร์ดแวร์: การใช้เครื่องมือตรวจสอบฮาร์ดแวร์สามารถช่วยในการระบุปัญหาคอขวดของ GPU ด้วยการติดตามการใช้งานและอุณหภูมิของ GPU ในระหว่างเล่นเกมหรืองานที่ต้องใช้กราฟิกสูง คุณสามารถระบุปัญหาด้านประสิทธิภาพและทำการปรับเปลี่ยนการตั้งค่าอย่างมีข้อมูล

ด้วยการใช้กลยุทธ์เหล่านี้ คุณสามารถจัดการกับปัญหาคอขวดของ GPU ได้อย่างมีประสิทธิภาพและรับประกันประสบการณ์กราฟิกที่ราบรื่นและตอบสนองมากขึ้น การเพิ่มประสิทธิภาพเหล่านี้ไม่เพียงแต่ปรับปรุงประสิทธิภาพของ GPU ของคุณเท่านั้น แต่ยังช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการเล่นเกมและกราฟิกโดยรวมอีกด้วย


การจับคู่ CPU และ GPU ที่ดีที่สุดเพื่อป้องกันปัญหาคอขวด

หากคุณต้องการระบบที่ไม่มีโอกาสเกิดปัญหาคอขวด คุณต้องลองใช้ CPU และ GPU เหล่านี้ร่วมกัน

CPUGPU
Core i9-14900KRTX 4090
Core i9-13900KRTX 4080
Ryzen 9 7900XRX 7900XT
Core i7-12700KRTX 3070
Ryzen 5 5600XRTX 3060 Ti

การจับคู่เหล่านี้จะไม่ทำให้คุณเกิดปัญหาคอขวดในส่วนของส่วนประกอบใดส่วนหนึ่งอย่างแน่นอน แต่คุณก็ควรทราบเอาไว้ว่าเมื่อคุณเพิ่มความละเอียด GPU จะอยู่ภายใต้ความเครียดที่มากขึ้น ดังนั้นที่ความละเอียดสูงขึ้น GPU ระดับล่างจะกลายเป็นตัวปัญหาที่ก่อให้เกิดคอขวดขึ้นมาได้


คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับคอขวดของ CPU และ GPU

คอขวดของ CPU และ GPU ที่ยอมรับได้คืออะไร

แม้ว่าปัญหาคอขวดของ CPU และ GPU อาจเป็นปัญหาได้ แต่ปัญหาคอขวดในระดับที่ต่ำมากถือเป็นเรื่องปกติ และนั่นก็ไม่ได้เป็นปัญหามากนัก ตัวอย่างเช่นหากการใช้งาน GPU ของคุณใกล้ถึง 100% แล้ว คุณต้องการให้ CPU ของคุณสูงกว่า 80% มาก เพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องดิ้นรนกับปัญหาคอขวด ซึ่งนั่นจึงเป็นที่มาของการที่เราแนะนำให้คุณจับคู่ CPU และ GPU ที่เหมาะสมกัน

จะคำนวณคอขวดของ CPU และ GPU ได้อย่างไร

คุณสามารถวัดปัญหาคอขวดของ CPU และ GPU ได้โดยใช้เครื่องมือเพื่อตรวจสอบการใช้งานของส่วนประกอบทั้งสองนี้ เครื่องมือเปรียบเทียบเหมาะอย่างยิ่งสำหรับสิ่งนี้และช่วยให้คุณเข้าใจว่าพีซีของคุณทำงานอย่างไรในสถานการณ์ต่างๆ ตรวจสอบวิธีการเปรียบเทียบหน้าพีซีสำหรับเล่นเกมของคุณเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม อีกวิธีหนึ่งคือการใช้เครื่องมือติดตามปัญหาคอขวดออนไลน์เพื่อแสดงให้คุณเห็นว่าส่วนประกอบทั้งสองจะเข้ากันได้อย่างไร นอกจากนี้ยังเหมาะสำหรับเวลาที่คุณวางแผนสร้างใหม่และต้องการดูว่าฮาร์ดแวร์จะทำงานร่วมกันได้ดีหรือไม่


ที่มา : wepc

Click to comment
Advertisement

บทความน่าสนใจ

Special Story

ปีนี้นับเป็นปีที่ซีพียูโน้ตบุ๊กของ AMD มีการเปลี่ยนแปลงแบบเห็นได้ชัด และมีความน่าสนใจในด้านประสิทธิภาพที่สูงขึ้นโดยที่ยังคุมการใช้พลังงานและความร้อนได้ดี ทำให้เราได้เห็นการนำซีพียู AMD ไปใช้ทั้งในโน้ตบุ๊กทำงานทั่วไป เกมมิ่งโน้ตบุ๊กตั้งแต่สเปคระดับเริ่มต้นไปจนถึงระดับท็อป รวมถึงในกลุ่มเครื่องเกมพีซีพกพาด้วย แต่ที่จะเด่นชัดสุดคงหนีไม่พ้นชิปรุ่นใหม่ล่าสุดที่มีโค้ดเนมว่า AMD Strix Point หรือในชื่อที่ใช้จริงนั่นคือ AMD Ryzen AI 300 series นั่นเอง

Special Story

สำหรับการเล่นเกม แน่นอนว่าพลังประมวลผลกราฟิกจาก GPU คือหนึ่งในปัจจัยสำคัญ เพราะจะเป็นสิ่งที่ชี้วัดถึงระดับประสิทธิภาพว่าจะสามารถเรนเดอร์ภาพออกมาได้สวย เฟรมเรตสูง ความหน่วงต่ำขนาดไหน ทำงานร่วมกับ CPU และฮาร์ดแวร์อื่น ๆ ในเครื่อง ซึ่งถ้าทั้งระบบสามารถทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดี ก็จะช่วยยกระดับประสบการณ์การเล่นเกมให้ดีขึ้นไปด้วย นอกจากนี้เหล่าผู้ผลิตเองก็มีเทคโนโลยีที่จะมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับพลังกราฟิก โดยที่ยังลดภาระของฮาร์ดแวร์ลงด้วย หนึ่งในนั้นก็คือ AFMF 2 เทคโนโลยีล่าสุดจาก AMD นั่นเอง

IT NEWS

โมบายล์โปรเซสเซอร์ Intel Core Ultra 200V series มอบประสิทธิภาพการประมวลผลสุดล้ำของ AI พร้อมทำงานสอดประสานและเพิ่มสเกลขุมพลังให้กับเหล่าผู้ผลิตแล็ปท็อปชั้นนำ 5 กันยายน 2567 – Intel เปิดตัวโมบายล์โปรเซสเซอร์ Intel® Core™ Ultra 200V series สุดยอดโปรเซสเซอร์ตระกูล x86 ที่ทรงประสิทธิภาพสูงสุดเท่าที่เคยมีมา นอกจากจะส่งมอบศักยภาพที่เหนือชั้นแล้ว ยังเปี่ยมด้วยขุมพลังของโปรเซสเซอร์...

PC Zone

พบกับสุดยอดโปรแกรม Benchmark ทดสอบความแรงของกราฟิกการ์ดหรือ GPU บนเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณกัน การเปรียบเทียบเป็นส่วนสำคัญของกระบวนการสร้างพีซี เนื่องจากช่วยให้คุณสามารถวัดประสิทธิภาพของส่วนประกอบที่คุณเลือกสำหรับการประกอบได้ การเปรียบเทียบส่วนประกอบต่างๆ ไม่เพียงแต่บอกคุณว่าส่วนประกอบต่างๆ ทำงานได้ดีเพียงใด แต่ยังช่วยให้คุณเข้าใจว่าส่วนประกอบต่างๆ ว่ารับมือกับโหลดได้ดีเพียงใดและส่วนประกอบมีความร้อนสูงเกินไปหรือแสดงความผิดปกติใดๆ เมื่อถูกดันจนถึงขีดจำกัดหรือไม่ กราฟิกการ์ด (GPU) เป็นหนึ่งในองค์ประกอบหลักที่คุณต้องทดสอบควบคู่ไปกับส่วนประกอบที่สำคัญอื่นๆ เพื่อให้แน่ใจว่าทุกอย่างอยู่ในสภาพดีเยี่ยมก่อนที่คุณจะนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน มีเกณฑ์มาตรฐาน GPU มากมาย แต่ไม่ใช่ทั้งหมดจะเหมือนกัน และทั้งหมดจะทดสอบพีซีของคุณแตกต่างออกไป หากคุณสงสัยว่าควรลองใช้เกณฑ์มาตรฐาน GPU...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก