SJCAM C300 กล้องแอ็คชั่น 4K กันสั่น พร้อมลุยทุกที่ แบต 2 ก้อนหน้าจอ Dual screen มุมกว้างสะใจ
SJCAM C300 กล้องแอ็คชั่น ที่มาพร้อมฟังก์ชั่นจุใจ เหมาะกับสายลุย เหล่าเอ็กซ์สตรีม และนักผจญภัยที่ชอบความท้าทาย ด้วยกล้องมุมกว้าง 154 องศา ดีไซน์สวยจับกระชับมือ พร้อมหน้าจอ 1.3″ ในแบบ Dual screen หน้าและหลัง เพิ่มฟังก์ชั่นให้กับการถ่าย ให้ความละเอียดสูงถึง 4K @30 fps. และภาพนิ่งที่ 20 ล้านพิกเซล เปิดโหมดสนุกๆ พร้อมการปรับแต่งได้คล่องตัว รองรับการใช้งานทั้งในรูปแบบของ Pocket ติดตั้งกับหมวกกันน็อค หน้ารถหรือจะเหน็บเข้ากับเสื้อผ้าได้ หรือจะใช้เป็นถือเดินเซลฟี Vlog ก็ได้ กันน้ำลึกได้ถึง 30 เมตร กับการป้องกัน IP68 ให้คุณสามารถเล่นกีฬาทางน้ำได้แบบไม่ต้องกังวล โดยมี Gyro stabilization แบบ 6 แกน ช่วยให้ภาพมีความนิ่งมากขึ้น แบตเตอรี่ 2 ก้อน ใหญ่กว่า C200 รุ่นก่อนหน้านี้ พร้อมแล้วสำหรับทุก Activity มันส์ๆ ของคุณในปี 2023 นี้
SJCAM C300 กล้องแอ็คชั่น
จุดเด่น
- วีดีโอสูงสุด 4K หรือ 2.5K Super View
- แบตเตอรี่ 2 ก้อนสลับใช้
- มี Gyro 6 แกน ลดการสั่น
- มีอุปกรณ์เสริมมาให้เยอะ
- รองรับการใช้งานได้หลายโหมด
- กันน้ำได้ เมื่อใช้ร่วมกับเคสกันน้ำ
- รองรับการถ่ายในที่แสงน้อยได้ดี
- มีเมนูให้ปรับได้เยอะ
ข้อสังเกต
- เสียงจะดรอปลง เมื่อหันไมโครโฟนไปถ่ายอีกด้าน
- จอค่อนข้างเล็กในการปรับใช้เมนู
- ภาพจาก Super View มีขอบโค้งพอสมควร
- มีให้เพียงพอร์ตเดียวเป็น USB-C
Specification
Description | |
Video Resolution | 4K 30FPS 2K 60/30FPS 1080P 120/60/30FPS 720P 120/60/30FPS |
Size of the Picture | 20M, 16M 14M, 12M 10M, 8M 5M, 3M, 2M |
Screen | 1.3″ HD display with touch |
Secondary screen | 1.3″ HD display with touch |
Camera Angle | 154° |
Battery | 2800mAh removable battery |
WiFi | 2.4GHz/5GHz |
Anti Shake | Six-axis gyro image stabilization |
Encoding format | H.264/H.265 |
Light Source Frequency | 50HZ/60HZ |
Video Format | MP4 |
In Advance | support |
Image Format | JPG |
Live Streaming | support |
Remote Control | support |
USB interface | TYPE-C |
Power Input | 5V2A |
Storage Medium | MICRO SD card, maximum support 128G |
Operating temperature | -10 °C~45 °C |
Product Size | 130.0 * 32.0 * 22.2 mm |
ข้อมูลเพิ่มเติม: SJCAM C300
Unbox
SJCAM C300 มาในแพ๊คเกจค่อนข้างกระทัดรัด แต่ก็อยู่ในเกณฑ์ไซส์กล่องของ Action cammera หลายๆ รุ่น กับโทนกล่องสีขาว-ดำ และมีกราฟิกภาพของตัวผลิตภัณฑ์ให้เห็นอย่างชัดเจน แต่ด้านหน้าที่เป็นภาพหลักจะเป็นบอดี้สีดำ แต่ผู้ใช้จะต้องสังเกตสติ๊กเกอร์ด้านข้างด้วย เพราะจะระบุสีมาว่าเป็นรุ่นสีขาวหรือสีดำ
ส่วนด้านหลังกล่องจะมีข้อมูลของ C300 มาให้ในเบื้องต้น และรายละเอียดของอุปกรณ์ภายในกล่องมาให้ทราบ เพื่อให้ผู้ใช้ได้ตรวจสอบว่ามีของมาให้ครบหรือไม่ แต่บอกเลยว่ายัดมาให้มากกว่า 10 ชิ้น เพื่อครอบคลุมการใช้ในหลายรูปแบบ
หน้ากล่องระบุมาเป็น Action Camera และรองรับการถ่ายวีดีโอระดับ 4K ที่ 30fps. อีกด้วย
เมื่อเปิดกล่อง SJCAM C300 ออกมา รุ่นที่เราได้รับมานี้เป็นโทนสีขาวดูน่าใช้งานทีเดียว โดยในชุดจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ ตัวกล้องที่เป็น Pocket และแบตเตอรี่ แต่มีจอมาในตัวด้วย
ส่วนอุปกรณ์เสริมที่มีให้ในกล่องก็ประมาณ 12 ชิ้นด้วยกันคือ ชุดฐานที่ใช้ติดกับยานพาหนะหรือหมวกกันน็อค, Back clip ใช้หนีบกับเสื้อผ้ากระเป๋า, Base mount และตัวยึด, สายชาร์จ USB-C, ผ้าเช็ดทำความสะอาด แถวล่างจะเป็น Back clip ไว้ยึดกับฐาน, เคสกันน้ำ, เมาท์ล็อคกับตัวฐาน ใช้ติดหมวกกันน็อคได้ และสายคล้องคอ รวมถึงสติ๊กเกอร์
สายคล้องคอ ฐานยึดกับตัวกล้อง ติดกับรถยนต์หรือจะใช้กับหมวกกันน็อคก็ได้ และเมาท์ที่ใช้ยึดติดกับฐาน
สายชาร์จ USB-A to USB-C ใช้ในการชาร์จไฟและโอนถ่ายข้อมูลความยาวประมาณ 90cm
และที่ขาดไม่ได้คือ เอกสารแนะนำการใช้งานหรือคู่มือ ที่มีรายละเอียดการใช้งานในเบื้องต้น รวมถึงการใช้งานรีโมทคอนโทรล ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น การเชื่อมต่อ WiFi รวมไปถึงการตั้งค่าเพื่อถ่ายภาพและวีดีโออีกด้วย แนะนำว่าเก็บเอาไว้ให้ดีครับ เพราะช่วยให้ใช้งานง่ายขึ้นเยอะ
นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์เสริมสำหรับให้ใช้งานในโอกาสต่างๆ อีกมากมายเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นบรรดาไม้เซลฟี่ สายห้อยคอ หรือแม้กระทั่งหัวต่อเสริมก็ตาม ชุดหลังๆ ก็จะเป็นส่วนเสริม ที่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเข้ามา แต่ก็ใช้งานได้สะดวกมากยิ่งขึ้น
Design
SJCAM C300 มีให้เลือก 2 โทนสีคือ ขาวกับดำ ซึ่งมีความสวยงามกันคนละแบบ วัสดุเป็นพลาสติกแข็งงานประกอบแน่นพอสมควร ที่สำคัญมิตินั้นจับถนัดมือ แบ่งออกได้เป็น 2 ส่วนคือ ส่วนที่เป็นตัวกล้อง และส่วนที่เป็นแบตเตอรี่ขนาดใหญ่
ส่วนที่เป็นตัวกล้องนี้อยู่ในรูปแบบ Pocket สามารถติดตั้งแบตเตอรี่ พร้อมใช้งานได้เลย มีจอขนาด 1.3″ ในตัว เหมาะกับการพกพา เพราะมีขนาดเล็กแค่ 6.8cm x 3.2cm เท่านั้น
ด้านหลังจะเป็นไมโครโฟนและลำโพง รวมถึงแบตเตอรี่ 1,000mAh สำหรับใช้แบบ Pocket ยังมีแบตใหญ่ 2,800 mAh สำหรับสาย Vlog ได้ยาวๆ อีกด้วย
จุดที่ใช้ถอดแบตเตอรี่ออกมา และพอร์ต USB-C สำหรับชาร์จไฟ ใช้ง่ายครับ มีสายชาร์จมาให้พร้อมใช้
ด้านหลัง Pocket เมื่อแกะออกมาแล้ว จะเป็นลักษณะแบบนี้ ด้านในจะมีช่องใส่ Memory Card รองรับได้สูงสุด 128GB
เปิดและแกะด้านหลังออกมาได้แบบนี้ การติดตั้งก่อนใช้งานผมให้เต็มครับ ไม่ยุ่งยาก เข้าใจง่าย และยังยืดหยุ่นอีกด้วย
หน้าจอขนาด 1.3″ มีความคมชัดสูง แม้จะเล็กไปบ้าง แต่ถ้ามองในแง่ของกล้อง Action camera อื่นๆ ก็ถิอว่าสูสีกัน แต่ย้ำไว้ก่อนว่า SJCAM C300 รุ่นนี้ ให้มาถึง 2 จอด้วยกันนะ สลับไปมาได้อีกด้วย
ชุดแบตเตอรี่ก้อนใหญ่ ที่ใช้ในการจับถือเพื่อ Vlog ได้ ขนาด 2,800 mAh เชื่อมต่อเข้ากับตัว Pocket ได้ผ่านทางช่อง USB-C แต่ต้องถอดแบตก้อนเล็กออกก่อน
พอร์ต USB-C ที่ใช้ต่อเข้ากับตัว Pocket เพื่อใช้งานหน้าจอและกล้องได้
เมื่อใช้งานให้ถอดแบตก้อนเล็ก 1,000mAh ออก แล้วต่อกล้องเข้ากับแบตก้อนใหญ่ จากนั้นสลับมาใช้หน้าจอนี้ได้เลย
เมื่อประกอบเข้ากับแบตก้อนใหญ่ ก็พร้อมใช้งานแบบ Vlog ได้ทันที กล้องหน้าที่เห็นนี้ สามารถสลับใช้งานได้กับกล้องอีกด้าน สำหรับถ่ายเข้าหาตัว หรือจะถ่ายข้างนอกก็สะดวก
Function
ปุ่มกดจะมีอยู่ 2 ส่วน บริเวณด้านล่างใต้จอ และบอกถึงสถานะในการทำงาน และแบตเตอรี่ อย่างเช่น ถ้าแบตเต็มจะเป็นสีฟ้าเข้ม และถ้าใกล้หมดจะเป็นสีแดง
เรื่องลูกเล่นจากฟังก์ชั่น Accessories ที่เค้าให้มา เชื่อว่าน่าจะเป็นที่ถูกใจของหลายคน อย่างเช่น Back clip สะดวกต่อการใช้งาน เหน็บเอาไว้ตรงไหนก็ง่าย สายทำงานหรือขี่จักรยาน หรือไปเดินเที่ยว อยากได้มุมที่แปลกๆ บ้าง ของชิ้นนี้ตอบโจทย์ได้เลย
Waterproof case หรือเคสกันน้ำ ก็เป็นอีกชิ้นที่อยู่ในแพ๊คเกจ ไม่ต้องไปหาซื้อเพิ่ม SJCAM ทำออกมาได้ดี แน่นหนา แต่ก็ต้องดูกันยาวๆ หลังใช้ไปนานๆ จะเป็นอย่างไรบ้าง
แต่ในเบื้องต้น เท่าที่ได้ลองเอาลงไปเล่นน้ำ ในสระว่ายน้ำความลึกประมาณ 1 เมตร เอาไปว่ายน้ำด้วยประมาณ 20 นาที ไม่ได้ดำลงไปลึกมาก แค่พอสนุกๆ ก็เรียกว่าพอเอาไปลุยได้ ภาพยังชัดเจนในระดับหนึ่ง แต่อาจจะต้องเปิด ISO เพิ่มขึ้นอีกหน่อย คนที่ชอบเล่นน้ำ ดำน้ำแบบ Snorkelling บนผิวน้ำ เห็นปลาได้ชัดเจน
จะใช้ในการ Vlog ก็ได้ กับโหมดที่ต่อเข้าแบตเตอรี่ 2,800mAh และเลือกใช้จอหน้าหลังได้ มุมกล้องระยะห่างจากที่ถือค่อนข้างเป็น Wide จึงเก็บมุมหน้าของผู้ใช้ได้ครบ แทบไม่ต้องพึ่งไม่เซลฟี
แต่ยูทูปเบอร์สายท่องเที่ยว น่าจะชอบสิ่งนี้ เพราะมีเมาท์สำหรับติดกับ Base mount ของรถจักรยานยนต์ได้ทันที และยังปรับมุมกล้องในแบบต่างๆ ได้ตามใจชอบ ติดตั้งง่ายใช้งานสะดวก
แต่ถ้าใครชอบแบบติดหมวกกันน็อค ก็แนะนำเลย มีโซลูชั่นให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Mount ในแบบต่างๆ ติดกับ Frame mount หรือ Waterproof mount ก็ได้หมด
สายคอนเสิร์ตหรือชอบมุมมองที่ต่างออกไป ถ่ายให้เห็นมุมสูง สามารถใช้ไม้เซลฟี ประกอบเข้าด้วยกัน ก็พร้อมใช้งานได้ทันที จะปีนป่าย ถ่ายสาวหรือไปล่องเรือ ด้วยสิ่งนี้จะให้คุณได้มุมมองที่ต่างออกไป
Menu
ในการปรับแต่ง SJCAM ให้มาเยอะเหมือนกับเป็นกล้องที่ใช้งานจริงจังรุ่นหนึ่งทีเดียว เมนูให้ใช้งานมีเยอะแยะ โดยจะมี 3 โหมดหลัก Magic Wand, Home และ Settings คุณสามารถแตะเลือกที่หน้าจอในการปรับแต่งทีละส่วนได้
ในหัวข้อ Magic Wand นั้น จะใช้ในการปรับแต่งค่าต่างๆ ในโหมดที่คุณใช้ ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายวีดีโอ หรือถ่ายภาพนิ่งก็ตาม
ตรงกลางที่เป็นปุ่ม Home รูปบ้าน จะเปิดให้คุณเข้าสู่การทำงานต่างๆ เช่น
- Video: ถ่ายวีดีโอทั่วไป
- Still: ถ่ายภาพนิ่ง
- Video Lapse: วีดีโอ Time Lapse
- Slow Rec.: วีดีโอสโลโมชั่น
- Car Mode: วีดีโอแบบ Dashcam
- Live Broadcast: การไลฟ์สตรีม
สุดท้ายคือ Settings mode จะเป็นการตั้งค่าหลักๆ ของตัวเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นภาษา วันเวลา การบันทึกวีดีโอ ระยะการแสดงผลหน้าจอ เสียง Screen saver และการต่อ WiFi
Experience
มาเริ่มกันที่สัมผัสและการจับถือกันก่อนครับ ถ้ามองในแง่ของสัมผัสในการใช้จริงจัง มองว่าในจะใช้ในแบบ Pocket ก็สะดวก ด้วยขนาดที่กระทัดรัด จึงไปได้ในทุกที่ ไม่ว่าจะเป็น ขี่จักรยาน Treking หรือจะดำน้ำตื้น และ Adventure เป็นกล้องติดหมวกก็ทำได้ ด้วยอุปกรณ์เสริมที่มีมาให้ เราสามารถจับถือไปได้ทุกที่ เพียงแต่บางครั้งก็อาจจะต้องต่อเข้ากับไม้เซลฟี่บ้าง เพื่อความถนัดในการเคลื่อนไหว
ส่วนการถ่าย Vlog นั้น ทำได้ดีทีเดียว ในแง่ของการจับถือแทบไม่ต้องต่อไม้เซลฟี่เพื่อยืดระยะ แค่ใช้ชุดแบตเตอรี่ 2,800mAh ที่เป็นมือจับในตัว กับมุมมองของเลนส์ที่เป็นแบบ Wide ก็สามารถเก็บใบหน้าและสิ่งรอบข้างได้ครอบคลุม
อีกทั้งหน้าจอแบบ Dual ที่สามารถสลับการใช้งานได้ ก็ช่วยให้การถ่ายตัวเอง และสิ่งที่โฟกัสด้านหน้าทำได้ง่ายขึ้น แม้ในช่วงแรกอาจจะไม่คุ้นชินบ้าง แต่ใช้ไปสักระยะ ก็จะเริ่มชิน เมื่อเราสามารถประเมินระยะของการถ่ายได้ บางครั้งแทบไม่ต้องมองจอ ก็พอคาดเดาระยะในการยืดมือออกไป
แต่ถ้าอยากได้ระยะที่ยืดออกไป หรือการถือที่ไม่เมื่อยเกินไปนัก การต่อ Pocket เข้ากับไม้เซลฟี่ก็เป็นอีกวิธีที่ง่ายกว่า นั่นก็เพราะคุณไม่ต้องยืดแขนหรือยกไหล่ให้สูงขึ้น ใช้การยืดไม้ออกไปทางด้านข้างจะสบายแขนมากกว่านั้นเอง
น้ำหนักของ SJCAM C300 ค่อนข้างเบาครับ เวลาที่จับถือ จึงทำได้นานและสบายมือมากกว่า แต่นั่นก็ส่งผลต่อการใช้งานด้วย เช่น การติดตั้งบนหมวกกันน็อค ติดบนจักรยานหรือห้อยคอเดินไปถ่ายวีดีโอตามตลาด เพราะเวลาหล่นคุณแทบจะไม่รู้สึกได้เลย ต้องระวังด้วยครับ
หน้าจอให้มาเป็น Dual screen ก็จริง แต่ก็ใช้ได้ทีละจอ และสลับการใช้งาน เมื่อต้องการใช้จอหน้าหรือหลัง แต่นั่นก็เพื่อเป็นการประหยัดพลังงาน ให้ใช้ได้ยาวนานขึ้น ตรงนี้ผู้ใช้อาจจะต้องทำความคุ้นเคย เมื่อต้องถ่าย Vlog สลับถ่ายวิวด้านหน้าไปด้วยกัน
หน้าจอมีขนาดเล็ก 1.3″ เป็นแบบทัชสกรีน แม้คู่แข่งหลายค่ายจะเป็นจอใหญ่ที่กว่า แต่ราคาก็จะสูงกว่า C300 พอสมควร แต่ในแง่ของความคมชัด ทำออกมาได้ดี พอให้เห็นรายละเอียดในส่วนต่างๆ ได้บ้าง และสู้แดดได้ดี ปรับแต่งความสว่างเพิ่มเติมได้ โดยส่วนตัวผมว่ามองได้ชัด แต่ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะหน้าจอมีขนาดเล็กด้วย เลยทำให้ดูแล้วสีสันสดใสมากขึ้น รวมถึงมีฟีเจอร์ในการปรับภาพ เช่น Sharpness, Saturation และ Contrast มีให้ครบ
4K 30fps. 1080p 60fps.
เท่าที่ลองใช้ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายเซลฟี่หรือถ่าย Vlog ด้วยมุมมองที่กว่าง 154 องศา หรือว่าการเป็นกล้องติดหมวก ก็จัดว่าทำได้ดี รายละเอียดค่อนข้างชัดเจน แต่แนะนำว่าหากจะใช้เป็น Car Mode หรือแทนกล้อง Action ที่อยากได้ภาพที่ดูน่าสนใจขึ้น ปรับเป็น 2K หรือ 4K จะให้ผลที่ดีกว่า
ใครที่อยากจะใช้แทนกล้อง Dashcam ในแบบกล้องหน้ารถ สามารถตั้งให้บันทึกวนซ้ำกับการใช้ Loop Record ได้ตั้งแต่ Off 3, 5 และ 10 นาที
แต่ถ้าอยากได้มุมมองที่กว้างพิเศษ เช่น เก็บวิวสถานที่ท่องเที่ยวหรือได้มุมกว้างๆ แบบมีเพื่อนที่มาทำ Activity ร่วมกันหลายคน ก็สามารถตั้งเป็น 2.5K Super View ได้ครับ ภาพจะกว้างเป็นพิเศษ แต่ก็จะตามมาด้วยมุมของภาพที่เกิด Distort อันเป็นเรื่องปกติของ Action camera ในหลายๆ รุ่น
โดยความละเอียดของวีดีโอมีให้เลือกตั้งแต่ 720p 30fps. 1080p ได้สูงสุดถึง 120fps. และ 2K 60fps. เช่นกัน สูงสุด 4K ได้ที่ 30fps.
เรื่องของสีส่วนตัวมองว่าอยู่ที่แสงและความสว่างเป็นหลัก สีที่บางครั้งดูทึมไปบ้าง มีความเข้มของเงาเยอะ และผิดเพี้ยนเล็กๆ น้อยๆ ก็เป็นธรรมดาของกล้องแอ็คชั่นในหลายรุ่น ถ้าเป็นช่วงเวลาที่มีแสงสว่าง ความเข้มแสงที่มาก หรือจะอยู่ในร่มสลับกับแสงภายนอกที่เข้ามาบ้าง ก็ยังถือว่าสีสันยังดูคมชัด ไม่ผิดเพี้ยน อย่างที่ทดสอบนี้ ภาพที่อยู่ในร่มต้นไม้ ก็ยังให้สีของใบหน้าได้ชัดเจน ไม่มืดหรือขาดมิติ
โดยในเรื่องของแสงสามารถชดเชยได้ในระดับหนี่งกับการปรับ ISO Auto, 100, 200,400 และ 3200
และอีกฟีเจอร์หนึ่งของ SJCAM C300 ที่ผมชอบก็คือ เค้ามี มี Motion Detection ด้วย ระบบจะถ่ายภาพ เมื่อมีการเคลื่อนไหวหน้ากล้อง จับการเคลื่อนไหวของเป้าหมาย ตรงนี้เอาไปใช้ประโยชน์ได้เยอะเลย จะใช้แทนกล้องวงจรปิดชั่วคราวก็ยังได้
หรือถ้าใครใช้พีซีแล้วไม่มีกล้องเว็บแคม คุณก็สามารถนำกล้องนี้มาแทนได้เช่นกัน คุณภาพของภาพก็จัดอยู่ในระดับที่ดีอีกด้วย เพราะความละเอียดได้ระดับ 2K และ 4K กับภาพนิ่งที่ 20 ล้านพิกเซล ใช้งานง่ายแค่ต่อเข้ากับพอร์ต USB เปิดโหมดใช้งานเป็นกล้องวีดีโอเท่านั้น
ในแง่ของการใช้พลังงาน เอาเฉพาะการเป็น Pocket กับแบต 1,000mAh ผมว่าก็เพียงพอกับการบันทึกท่องเที่ยวได้ 3-4 ชั่วโมง สลับกับการสแตนบายและถ่ายต่อเนื่องบ้าง แต่จะมากน้อย ก็ขึ้นอยู่กับการเปิดแช่หน้าจอนานแค่ไหน เพราะถ้าเปิดใช้แบบ Car Mode เปิดหน้าจอตลอด และมีการบันทึกวีดีโอวนไป แบตก็จะลดลงไปอีก
ซึ่งหากใครที่ค่อนข้างจะมี Activity เยอะ แนะนำให้ใช้ตัวแบต 2,800mAh ตัวใหญ่ดีกว่า และถ้าให้ง่ายมีไม้เซลฟี่หรือขาตั้งมาช่วย ก็ทำให้การถือการวางสะดวกมากขึ้น และทำให้ใช้งานได้ยาวนานกว่า เหมาะกับสายเดินทาง หรือจะใช้ในการ Broadcast ได้อีกทางหนึ่ง
ส่วนภาพของ SJCAM C300 ขณะที่เดินหรือเคลื่อนไหว ใครที่เป็นสายแอดเวนเจอร์ หรือจะถือเดินนานๆ อาจจะเจอปัญหาความสั่นไหวของภาพ ให้เข้าไปที่ Magic Wand แล้วเลือกที่ Gyro ให้เปิดใช้งานเป็น On จะลดอาการสั่นของภาพไปได้เยอะ ใช้โหมดนี้ได้ในทุุกๆ โอกาส ไม่ว่าจะเป็นถ่าย Vlog, กล้องติดหมวก หรือจะใช้ใน Activity ขณะไปท่องเที่ยว ภาพจะดูสบายตามากขึ้น แต่ไม่รองรับในโหมด 1080p 120fps. กับ 720p 120fps. แค่นั้นครับ
จะมีในเรื่องของความสะดวกและการปรับแต่ง ที่อาจจะลดลงไปบ้าง เนื่องจากเป็น Action camera ที่มาพร้อมทัชสกรีน ที่อาจจะต้องใช้เวลาปรับตัวพอสมควร กับการสัมผัสปัดเลื่อน และแตะเลือก ด้วยพื้นที่ค่อนข้างแคบ บางครั้งก็กดเลย หรือเลื่อนได้ช้า แต่ยังดีที่ปุ่มกดที่มีเพียงปุ่มเดียว ยังพอให้กดยืนยันได้บ้าง
มาดูภาพในช่วงเช้ามืดประมาณตี 5 กันบ้าง แสงน้อยก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการใช้งานมากนัก เรียกว่ายังให้เห็นรายละเอียดของสิ่งต่างๆ ในภาพได้ดีพอสมควร ตรงนี้สามารถปรับ ISO ชดเชยหรือใช้แบบ Auto ได้
นอกจากนี้ถ้าใช้ร่วมกับแบตใหญ่ 2,800mAh และในการ Vlog สังเกตว่าเสียงจะเบาลงพอสมควร เพราะไมโครโฟนจะไปอยู่ด้านหลัง ซึ่งอาจจะต้องหาทางแก้ด้วยการใช้ไมค์แยกมาต่อเพิ่ม ซึ่งมีช่องทางเดียวคือ พอร์ต USB-C เท่านั้น
Conclusion
สำหรับกล้องแอคชั่น SJCAM C300 เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจของค่ายนี้ ที่ต่อเนื่องมาในซีรีส์ C ที่มีทั้ง C100 และ C200 มาในรุ่นนี้ นอกจากจะออกแบบให้มีความกระชับ จับถนัดมือและมีลูกเล่นอย่างจอแบบ Dual screen เพิ่มเข้ามาแล้ว ยังได้ปรับสเปคในหลายส่วนเข้ามาด้วย ทำให้เรื่องของภาพและการปรับแต่งลูกเล่นน่าสนใจมากขึ้น และแบตเตอรี่ก็ใหญ่ขึ้นไปด้วย เอาใจคนใช้งานได้เป็นอย่างดี เรื่องอุปกรณ์เสริม ก็แทบจะไม่ต้องไปหาเพิ่ม เพราะมีมาให้เพียบ เรื่องของภาพความสวยงามคมชัด อยู่ในเกณฑ์ที่ดี ปรับเลือกความละเอียดวีดีโอได้ตามต้องการ ตั้งแต่ 720p ไปจนถึง 4K ให้ใช้งานกันแบบเต็มอิ่ม แบตก็จัดว่าอึดพอควร ถ้าได้การปรับแต่งดี ก็จะยิ่งยืดระยะการใช้ไปได้อีก ส่วนข้อสังเกตบางจุด ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของจอที่เล็กกับการปรับแต่งที่อาจไม่สะดวกสำหรับคนนิ้วใหญ่ รวมถึงไมโครโฟนที่จะหันไปคนละด้านเมื่ออยู่ในโหมด Selfie หรือ Vlog เสียงอาจจะเบาลงบ้าง แต่นั่นก็ยังพอหาทางออกได้ และปรับใช้ไปตามความสะดวกของแต่ละบุคคล สามารถเข้าไปช้อปกันได้แล้วในเวลานี้ SJCAM C300