Intel 13th Gen ได้รับการพัฒนาใหม่อย่างเต็มที่ Intel Thread Director ทำงานได้เยี่ยมขึ้น
ซีพียูของทาง Intel ปัจจุบันนี้ได้พัฒนามาจนถึง Intel 13th Gen ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรม Hybrid Core รุ่นพัฒนาต่อจาก Intel 12th Gen สถาปัตยกรรม Alder Lake ซีพียูรุ่นใหม่นี้ได้รับการปรับปรุงหลายอย่างไม่ว่าจะ Intel Thread Director ที่จัดการงานได้ต่อเนื่องชาญฉลาด, เพิ่มจำนวน E-Core ช่วยให้ประหยัดพลังงานยิ่งขึ้น เมื่อรวมกับ P-Core แล้วก็มีคอร์เธรดให้ใช้งานมหาศาลทีเดียว
เมื่อชิ้นส่วนฮาร์ดแวร์ถูกพัฒนาให้ดีขึ้น ก็ทำให้ประสบการณ์ใช้งานดีขึ้นมากจนรู้สึกได้ ไม่ว่าจะทำงานครีเอเตอร์หรือเล่นเกม ซีพียู Intel รุ่นใหม่นี้ก็ทำงานได้ดี เสถียร ให้เจ้าของผู้เลือกใช้ซีพียู Intel สร้างผลงานใหม่ได้อย่างเต็มที่
Intel 13th Gen ต่อยอดความสำเร็จของ Intel 12th Gen เสริมฟีเจอร์ใหม่และ Intel Thread Director ที่ชาญฉลาดขึ้น
จุดแข็งใหม่ที่ Intel 13th Gen ได้รับการพัฒนาให้ดีกว่า Intel 12th Gen มีหลายรายการ โดยสถาปัตยกรรมแบบ Hybrid Core นี้มี P-Core สำหรับทำงานหลักและ E-Core สำหรับทำงานรองและเน้นการประหยัดพลังงานเป็นหลักและมี Intel Thread Director รุ่นปรับปรุงใหม่ให้ทำงานได้ดียิ่งขึ้น จัดการคอร์ให้เข้ากับงานยิ่งกว่า Intel 12th Gen ที่ผ่านมา เกมเมอร์และครีเอเตอร์จึงทำสิ่งที่ต้องการได้โดยไม่มีสะดุด
ข้อดีถัดมาคือ ทาง Intel เพิ่ม E-Core เข้ามาเป็น 2 เท่า เริ่มจาก Intel Core i5 ขึ้นไป ช่วยให้ประหยัดพลังงานและเสริมประสิทธิภาพให้ดีขึ้น โดยการใช้งานแบบ Single-Thread ทำงานได้ดีและฉลาดกว่าเดิม 15% ส่วน Multi-Thread ดีกว่าเดิม 41% ทีเดียว ส่วนการจัดการพลังงานก็ทำได้ดีกว่า Intel 12th Gen ถึง 4 เท่า
ยิ่งไปกว่านั้น Intel 13th Gen ยังมีคอร์เธรดให้ใช้งานมากสุด 24 คอร์ 32 เธรด เร่งความเร็วได้สูงสุด 5.8GHz โดยมีให้เลือก 2 รุ่นสำหรับเดสก์ท็อปพีซี ได้แก่รหัส Intel Core i9-13900K มี 24 คอร์ 32 เธรด แยกเป็น 8 P-Core และ 16 E-Core มีความเร็ว 3.0~5.8GHz ค่า TDP 125 วัตต์ ติดตั้งกราฟิคการ์ดออนบอร์ดรุ่น Intel UHD Graphics 770 มาให้ใช้งานด้วย แต่ถ้าใครต้องการคอร์ซีพียูอย่างเดียว ก็มี Intel Core i9-13900KF ให้เลือก ซึ่งรุ่นไม่มีการ์ดจอติดตั้งมาให้ คอร์ใช้งานจะทรงพลังยิ่งขึ้น
หากผู้ใช้คนไหนชื่นชอบการรีดประสิทธิภาพของซีพียูให้ไปถึงขีดสุด ทาง Intel ก็มีซอฟท์แวร์ Intel Extreme Tuning Utility, Intel Speed Optimizer เสริมเข้ามาให้เจ้าของซีพียูสามารถโอเวอร์คล็อกเพิ่มประสิทธิภาพของซีพียูให้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ผู้ใช้ยังรีดประสิทธิภาพของแรมให้สูงขึ้นด้วยเทคโนโลยี Extreme Memory Profile 3.0 (XMP) ให้รีดพลังของแรม DDR4, DDR5 ให้ทำงานได้ดีกว่าเดิมโดยกดเพียงคลิ๊กเดียวเท่านั้น
เชิงเทคนิคแล้ว Intel Raptor Lake เพิ่ม L2, L3 Cache Memory ให้เยอะขึ้น ช่วยให้ซีพียูมีหน่วยความจำภายในให้ดึงใช้งานเยอะขึ้น เวลาโปรแกรมไหนเรียกใช้ก็เรียกใช้งานได้รวดเร็วทันใจ นอกจากนี้ทางบริษัทยังอัพเกรดเพิ่มเลน PCIe 4.0 ให้มากขึ้นเป็น 20 เลน (PCIe 4.0 x20) และเสริม PCIe 5.0 รุ่นใหม่เข้ามาอีก 16 เลน (PCIe 5.0 x16) ให้ทันสมัย รองรับอุปกรณ์เชื่อมต่อรุ่นใหม่ๆ ให้รับส่งข้อมูลได้เร็วยิ่งขึ้น ดังนั้น Intel 13th Gen นั้นไม่ใช่แค่เปลี่ยนตัวเลขอย่างเดียว แต่ได้ฟีเจอร์ล้ำสมัยเสริมเข้ามาอีกมากมาย
ทดลองใช้ Intel 13th Gen ใช้งานจริง เร็วลื่นไหลไม่มีปัญหา ตอบโจทย์ผู้ใช้ทุกคนแน่นอน!
จากที่นำ Intel 13th Gen อย่าง Intel Core i5-13600K ที่ได้รับมาทดสอบไปใช้งานจริงทั้งทำงานและใช้เพื่อความบันเทิง โดยผู้เขียนได้ทดลองเปิดเบราเซอร์ทำงาน, เปิดดู Timeline ของคลิปในโปรแกรม Premier Pro, ดูหนังและนั่งพูดคุยกับเพื่อนในห้อง Discord ไปพร้อมกันก็ทำได้ลื่นไหลมาก เพราะจำนวนคอร์ในตัวซีพียู Intel Raptor Lake มีให้ใช้เยอะและ Intel Thread Director จัดการงานได้อย่างเหมาะสม ทำให้ P-Core เข้ามาจัดการกับโปรแกรมใหญ่อย่าง Premier Pro แล้วงานเล็กอย่างการติดต่อสื่อสารทำได้ดีต่อเนื่องมาก เมื่อจับคู่กับชิ้นส่วนคอมจากบริษัทชั้นนำอย่าง ASUS ด้วยก็ช่วยให้ซีพียูนี้รีดประสิทธิภาพของมันออกมาได้อย่างเต็มที่
ฟีเจอร์ใน Intel 13th Gen ที่ออกแบบมาเพื่อใช้ทำงานตัดต่อและวิดีโออย่าง Intel Quick Sync Video นั้น เป็นชุดคำสั่ง Media Processing ในกราฟิคการ์ด intel Graphics ให้เข้ารหัสวิดีโอได้รวดเร็วและตอน Preview คลิปจะสามารถเล่นภาพได้ไหลลื่นรวดเร็ว ซึ่งโปรแกรมชั้นนำที่รองรับฟีเจอร์นี้แล้ว ได้แก่ Adobe Premier Pro, DaVinci Resolve, Magix Vegas Pro, Handbrake, VLC Media Player ฯลฯ ซึ่งถ้าใครใช้โปรแกรมเหล่านี้อยู่ก็ได้ใช้ฟีเจอร์ดังกล่าวอย่างเต็มที่
จากในภาพ จะเห็นว่าแค่ Intel Core i5-13600K ก็ได้จำนวนคอร์มาถึง 14 คอร์ 20 เธรดแล้ว และเมื่อได้ Intel Thread Director มาช่วยจัดการโอนถ่ายโปรแกรมข้ามไปมาระหว่าง P-Core และ E-Core ได้เป็นอย่างดี สามารถรันโปรแกรมเล็กใหญ่หลายโปรแกรมได้พร้อมกันแบบไม่มีอาการหน่วงช้าเลย ต้องถือว่าซีพียู Intel 13th Gen และระบบ Intel Thread Director สามารถรันงานได้เป็นอย่างดี ตอบสนองรวดเร็วทันใจมาก จัดว่าดีกว่า Intel รุ่นก่อนหน้าอย่างชัดเจน
ด้านการเปิด Preview คลิปในโปรแกรม Adobe Premier Pro เมื่อเปิด Intel Quick Sync Video แล้วให้ตัวโปรแกรมรันคลิปเพื่อดูตัวอย่างจนจบแล้ว ภาพที่ได้มีความต่อเนื่องเหมือนดูคลิปตัวอย่างที่เรนเดอร์จนเสร็จพร้อมอัพโหลดจริง ดังนั้นครีเอเตอร์ที่ต้องทำงานตัดต่อคลิปต่างๆ ก็สามารถทำงานได้เป็นอย่างดี ยิ่งใครเน้นตัดต่อคลิป Highliight ของเกมหรือถ่าย Vlog เป็นหลักก็เริ่มต้นแค่ Intel Core i5-13600K ก็ทำงานได้ดีมากแล้ว
วิธีการเปิดใช้ฟีเจอร์ Intel Quick Sync Video ต้องเริ่มเปิดใน BIOS โดยเข้าหัวข้อ iGPU ซึ่งอยู่ในหมวด Advance > iGPU Multi Monitor แล้วเลือก Enable และ Primary Graphics ให้เลือก UHD หรือ Int.Graphics แล้วกด F10 เพื่อ Save&Exit ก็ใช้งาน Intel Quick Sync Video ทำงานได้เลย หากให้ง่ายกว่านั้นแนะนำให้ใช้คำสั่ง Search ในระบบ BIOS แล้วเปิดตั้งค่าจะง่ายกว่ามาก
เมื่อเล่นเกม Cyberpunk 2077 แบบปรับกราฟิคสูงสุดทั้งหมดบนหน้าจอความละเอียด QHD และเปิดโปรแกรมต่างๆ เอาไว้ ได้แก่ Discord, Microsoft Edge ฯลฯ ซีพียู Intel Core i5-13600K ก็เล่นได้อย่างลื่นไหลและซีพียูทำงานสูงสุดราว 48~52% เท่านั้น ไม่มีอาการเฟรมเรทตกหรือกระตุกแม้แต่นิดเดียว สังเกตได้จาก Frametime ลื่นไหลต่อเนื่อง ต้องถือว่าตัวซีพียูนั้นสามารถทำงานได้เป็นอย่างดี หากใครต้องการประกอบเกมมิ่งพีซีไว้เล่นเกมสักเครื่องแล้วอยากได้ซีพียู Intel 13th Gen ก็ซื้อแค่ Intel Core i5-13600K ไปใช้ก็เล่นได้ลื่นเหลือเฟือแล้ว
หากผู้ใช้คนไหนคิดจะหาซื้อโน๊ตบุ๊คซีพียู Intel 13th Gen หรือประกอบเกมมิ่งพีซีด้วยซีพียูนี้แล้วกำลังตัดสินใจอยู่ว่าจะซื้อซีพียูรุ่นไหนมาใช้งานดีถึงจะตอบโจทย์รูปแบบการใช้งานของตัวเองล่ะก็ ผู้เขียนขอแยกกลุ่มตามรุ่นซีพียูดังนี้
- Intel Core i9 – มี Intel Core i9-13900K แบบ 24 คอร์ 32 เธรด (8P+16E) ความเร็วสูงสุด 5.8GHz ให้เลือกซื้อ เป็นรุ่นสูงสุดในปัจจุบัน พร้อมใช้ทำงานได้ทุกรูปแบบตั้งแต่ทำงาน, เปิดดูความบันเทิง, เล่นเกมหรือเอาไว้ทำงานหนัก รัน Simulation ทางการแพทย์และฟิสิกส์ได้ดีมาก มีค่า TDP 125 วัตต์ แต่มี E-Core ให้เป็น 2 เท่าของ P-Core เพื่อรองรับงานต่างๆ ได้มากยิ่งขึ้นและลดการใช้พลังงานไฟฟ้าลงไประดับหนึ่งด้วย
- Intel Core i7 – มี Intel Core i7-13700K แบบ 16 คอร์ 24 เธรด (8P+8E) ความเร็วสูงสุด 5.4GHz ให้เลือกซื้อ เพิ่มจำนวน P-Core เข้ามาอีก 2 คอร์ ให้ใช้ทำงานกราฟิค, โมเดล 3D และรัน Simulation ด้านแพทย์หรือฟิสิกส์ได้ดี จับคู่กับการ์ดจอเกมมิ่งหรือสายทำงานอย่าง Quadro ก็ได้ ถ้าเป็นเกมเมอร์จะซื้อเอาไว้เล่นเกม Livestream และตัดต่อคลิปก็เป็นตัวเลือกที่ดี มีค่า TDP 125 วัตต์
- Intel Core i5 – มี Intel Core i5-13600K แบบ 14 คอร์ 20 เธรด (6P+8E) ความเร็วสูงสุด 5.1GHz ให้เลือกซื้อ จำนวนคอร์เธรดและความเร็วสูงพอใช้ทำงานต่างๆ ในชีวิตประจำวันและเล่นเกมได้สบายๆ สามารถจับคู่กับการ์ดจอแยกได้ทุกรุ่น มีค่า TDP 125 วัตต์
โดยสรุปแล้ว Intel 13th Gen เป็นซีพียูรุ่นใหม่ประสิทธิภาพสูงมากและระบบ Intel Thread Director ก็จัดสรรงานต่างๆ ไปยัง P-Core และ E-Core ได้อย่างชาญฉลาด แค่ Intel Core i5-13600K ก็ทรงพลังพอรับมือโปรแกรมใหญ่ต่างๆ ได้เป็นอย่างดี แถมโปรแกรมเบื้องหลังก็ยังทำงานได้อย่างต่อเนื่อง ไม่มีอาการหน่วงช้าให้เห็นเลย ดังนั้นถ้าใครอยากได้ประกอบพีซีหรือหาโน๊ตบุ๊คเครื่องใหม่มาใช้งานก็แนะนำให้ดูซีพียู Intel รุ่นใหม่นี้ได้เลย มั่นใจว่านี่คือซีพียูที่ดีที่สุด ณ ตอนนี้อย่างแน่นอน