IPASON MaxBook P2 Pro หมัดเด็ดเซ็ตมาตรฐานโน๊ตบุ๊คต่ำหมื่น!
ตลาดโน๊ตบุ๊คราคาประหยัดปี 2022 ที่ผ่านมาเริ่มกลับมามีสีสันเมื่อแบรนด์ผู้ผลิตสินค้าไอทีเริ่มกลับมาจับตลาดนี้มากขึ้น IPASON MaxBook P2 Pro จาก DEVAS IPASON (อดีต Deva’s Natural) ก็เป็นโน๊ตบุ๊คราคาประหยัดรุ่นใหม่ที่ลงสนามมาให้ผู้ใช้ที่อยากได้โน๊ตบุ๊คราคาประหยัดได้ซื้อไปใช้งาน ตอบโจทย์นักเรียนนักศึกษาที่มีงบประมาณจำกัดแต่ต้องการโน๊ตบุ๊คคุณภาพดีระดับหนึ่งเอาไว้ใช้เรียนออนไลน์และทำรายงานส่งอาจารย์สักเครื่องและต้องพกติดตัวใส่กระเป๋าไปไหนมาไหนได้ง่ายด้วย
ซึ่ง IPASON MaxBook P2 Pro ก็ให้สเปคและฟีเจอร์มาค่อนข้างครบพอใช้งานตามโจทย์ข้างต้นได้สบายๆ ซึ่งจุดน่าสนใจของ MaxBook P2 Pro นอกจากชุดแป้น Numpad แล้ว ยังได้จอ 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS กางหน้าจอได้แบนราบ 180 องศาและน้ำหนักเบาเพียง 1.5 กิโลกรัม มีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือติดตั้งมาให้ที่มุมบนซ้ายของทัชแพด เมื่อสแกนลายนิ้วมือเอาไว้แล้ว ตอนจะใช้งานก็แค่แตะให้เซนเซอร์ทำงานก็ปลดล็อคเครื่องได้ทันที ช่วยให้ใช้งานได้สะดวกและปลอดภัยขึ้นและราคาเริ่มต้นไม่เกินหมื่นบาท ก็น่าจะตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้นแน่นอน
NBS Verdicts
IPASON MaxBook P2 Pro เป็นโน๊ตบุ๊คราคาและน้ำหนักเบา เริ่มต้นไม่เกินหมื่นบาทก็ซื้อมาใช้งานได้แล้ว และทีเด็ดของโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้คือได้แรมออนบอร์ดมาจากโรงงาน 16GB LPDDR4 ซึ่งมากเพียงพอใช้เปิดโปรแกรมหรือเบราเซอร์หลายๆ แท็บพร้อมกันได้อย่างแน่นอน และยังได้ M.2 SATA III SSD ติดตั้งมาให้ จึงรันโปรแกรมและเปิดไฟล์ต่างๆ ขึ้นมาทำงานได้รวดเร็ว ส่วนซีพียูแม้จะเป็น Intel Celeron N Series ก็ตาม แต่ประสิทธิภาพของมันก็เทียบชั้น Intel Core i3 Series ช่วง 9~10th Gen ได้ จากที่ทดลองใช้งานมาราวสัปดาห์เศษก็สามารถเปิดเว็บไซต์ทำงาน, อ่านข่าวและแก้ไขเอกสารได้ดีระดับหนึ่งเลย
ฟีเจอร์น่าสนใจของ MaxBook P2 Pro มี 2 จุด ได้แก่ เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่แป้นทัชแพดซึ่งได้ใช้งานบ่อยๆ ในยุคที่ประชาชนยังคงสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันไวรัส COVID-19 อยู่ ก็สแกนลายนิ้วมือเก็บเอาไว้แล้วแตะปลดล็อคใช้ทำงานต่อได้ทันที ซึ่งสะดวกกว่าการพิมพ์รหัสผ่านมาก และหน้าจอยังกางได้แบนราบ 180 องศา ซึ่งกางหน้าจอแล้วปรับให้เข้ามุมสายตาได้ง่ายๆ หรือจะวางราบกับพื้นโต๊ะแล้วกดปุ่มพลิกจอกลับ 180 องศาให้เพื่อนร่วมงานดูก็ได้ จัดว่าสะดวกทีเดียว
อย่างไรก็ตาม จุดสังเกตของ IPASON MaxBook P2 Pro ยังมีอยู่บ้าง ได้แก่วัสดุตัวเครื่องซึ่งเป็นพลาสติกเกรดทั่วไปและปุ่มคีย์บอร์ดเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งถ้าใครพิมพ์สัมผัสได้ก็ไม่มีปัญหานัก หากไม่ถนัดก็ยังเอาสติ๊กเกอร์คีย์บอร์ดที่แถมมาในกล่องติดเพิ่มได้ และไม่มีไฟ LED Backlit ติดตั้งมาให้ จึงทำงานในที่แสงน้อยได้ไม่สะดวกนัก และจุดที่ผู้เขียนกังขาอยู่บ้าง คือ พอร์ต mini HDMI ซึ่งหาสายมาใช้งานได้ค่อนข้างยาก เพราะปกติแล้วผู้ผลิตโน๊ตบุ๊คมักติดตั้งพอร์ตตัวเต็มมาให้ใช้เลย แต่ถ้าทาง IPASON ต้องการย่อพอร์ตให้มีขนาดเล็กก็น่าลดขนาดไปใช้ Micro HDMI ซึ่งใช้ร่วมกับกล้อง Mirrorless ได้เลยยังดีกว่า ดังนั้นถ้าใครจะต่อหน้าจอแยกใช้งาน ผู้เขียนก็แนะนำให้หาซื้อสาย mini HDMI มาสำรองไว้ใช้งานสัก 1-2 เส้น จะดีที่สุด
ข้อดีของ IPASON MaxBook P2 Pro
- ราคาเริ่มต้น 9,580 บาท กับสเปคระดับนี้ถือว่าค่อนข้างถูก ซื้อมาใช้งานได้ไม่เสียดาย
- ตัวเครื่องดีไซน์ให้กางจอได้แบนราบ 180 องศา มีปุ่มพลิกหน้าจอกลับติดมาด้วย
- น้ำหนักตัวเครื่องเบาเพียง 1.5 กิโลกรัม ถือว่าเบามากสำหรับโน๊ตบุ๊ค 15.6 นิ้ว
- มีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือติดตั้งมาให้ ซึ่งโน๊ตบุ๊คราคาไม่เกินหมื่นมักไม่มีฟีเจอร์นี้
- ได้แรมจากโรงงาน 16GB LPDDR4 พอใช้ทำงานต่างๆ ในปัจจุบันนี้ได้เป็นอย่างดี
- หน้าจอมีขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ใช้งานสะดวกมองง่าย
- USB-C รองรับการชาร์จแบบ Power Delivery ใช้ปลั๊ก GaN 65 วัตต์หรืออแดปเตอร์เดิมต่อชาร์จได้หมด
- แบตเตอรี่ใช้งานต่อเนื่องได้นานถึง 12 ชั่วโมง ไม่ต้องกังวลว่าเครื่องจะดับระหว่างวัน
- มีชุด Numpad ติดตั้งมาให้ ไม่ได้ตัดออกไปเหมือนโน๊ตบุ๊ค 15.6 นิ้วบางรุ่นในปัจจุบันนี้
ข้อสังเกตของ IPASON MaxBook P2 Pro
- พอร์ต mini HDMI หาสายค่อนข้างยาก ถ้าป็น Micro HDMI ยังใช้ร่วมกับกล้องได้
- วัสดุตัวเครื่องและแป้นคีย์บอร์ดยังเป็นพลาสติกคุณภาพทั่วไป
- ไม่มีไฟ LED Backlit ติดตั้งมาให้กับคีย์บอร์ด พิมพ์งานในที่แสงน้อยไม่สะดวกนัก
รีวิว IPASON MaxBook P2 Pro
- Specification
- Hardware & Design
- Screen & Speaker
- Keyboard & Touchpad
- Connector / Thin & Weight
- Inside & Upgrade
- Performance & Software
- Battery & Heat & Noise
- User Experience
- Conclusion & Award
Specification
IPASON MaxBook P2 Pro เป็นโน๊ตบุ๊คขนาดจอ 15.6 นิ้ว ราคาไม่เกินหมื่นบาทที่สเปคตอบโจทย์นักเรียนนักศึกษาหรือผู้ที่มีงบประมาณไม่เยอะแต่ต้องการโน๊ตบุ๊คดีๆ เอาไว้ใช้งาน ซึ่งสเปคจะเป็นดังนี้
สเปคของ IPASON MaxBook P2 Pro
- CPU : Intel Celeron N5105 แบบ 4 คอร์ 4 เธรด ความเร็ว 2.0~2.9GHz
- GPU : Intel UHD Graphics
- SSD : แบบ M.2 SATA III SSD ความจุ 256~512GB
- RAM : 16GB LPDDR4
- Display : 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS
- Ports : USB 2.0 x 2, USB-A 3.0 x 1, USB-C Full Function x 1, mini HDMI x 1, Audio combo x 1
- Wireless : Wi-Fi 5 มาตรฐาน 802.11ac รองรับ Bluetooth 5.1
- Webcam : 720p HD Camera
- Software : Windows 11 Home
- Weight : 1.5 กิโลกรัม
- Price : แยกตามความจุ
- SSD 256GB ราคา 9,580 บาท (DEVAS IPASON)
- SSD 512GB ราคา 11,580 บาท (DEVAS IPASON)
Hardware & Design
ดีไซน์ของ IPASON MaxBook P2 Pro จัดว่าดูเรียบง่ายไม่มีลูกเล่นใดๆ เป็นพิเศษ แต่ก็ครบเครื่องระดับหนึ่ง โดยมีสติ๊กเกอร์แสดงชื่อรุ่น Intel Celeron ตรงมุมล่างขวาของที่วางข้อมือ และมุมบนซ้ายสกรีนชื่อรุ่น MaxBook P2 Pro เอาไว้ข้างๆ ไฟ LED แสดงสถานะตัวเครื่อง 3 ดวง มีไฟบอกสถานะการเปิดเครื่อง, แสดงการทำงาน, ไฟ Caps Lock ติดมาให้
บานพับหน้าจอของ MaxBook P2 Pro ดีไซน์ให้ขอบด้านใต้ตัวเครื่องเว้าเข้ามาเล็กน้อย ทำให้กางจอได้แบนราบ 180 องศา โดยตัวก้านบานพับหน้าจอจะล็อคเข้ากับฐานหน้าจอภายในเครื่อง ด้านช่องระบายความร้อนอยู่ส่วนขอบตัวเครื่องเหนือแป้นคีย์บอร์ดโดยฐานบานพับหน้าจอจะปิดช่องระบายความร้อนไว้พอดี จึงซ่อนช่องระบายความร้อนเอาไว้ให้ดูสวยเรียบร้อยดี
ฝาหลังของ IPASON MaxBook P2 Pro จะไม่มีลวดลายหรือดีไซน์อะไรเป็นพิเศษ ยกเว้นโลโก้ IPASON และตัวอักษรจีนสกรีนเอาไว้มุมบนซ้ายเล็กๆ เท่านั้น ดูเรียบง่ายไม่มีลวดลายอะไรเป็นพิเศษไม่สะดุดตานัก
ส่วนด้านใต้ตัวเครื่องจะมีแถบยางกันลื่นติดเอาไว้ส่วนขอบบนตัวเครื่อง 1 เส้นและขอบล่างฝั่งซ้ายและขวาอย่างละเส้นเพื่อป้องกันบอดี้ตัวเครื่องถูกพื้นโต๊ะโดยตรง และมีช่องลำโพง 2 ฝั่งเป็นแถบยาว มีน็อตหัวแฉก Philips Head ทั้งหมด 12 ตัวขันล็อคเครื่องไว้ เป็นน็อตสั้นทั้งหมด 10 ตัว ยกเว้นตัวมุมบนซ้ายและขวาในภาพทั้ง 2 ตัวนี้จะเป็นน็อตยาว ซึ่งแยกกลุ่มขันกลับได้ไม่ยากหากต้องการเปิดฝาอัพเกรด
Screen & Speaker
หน้าจอของ MaxBook P2 Pro มีขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ดีไซน์ขอบหน้าจอฝั่งซ้ายและขวาให้บางเป็นพิเศษไม่ให้ดูเทอะทะและเพิ่มพื้นที่การมองเห็นบนหน้าจอให้มากยิ่งขึ้น ขอบบนหน้าจอมีกล้อง Webcam ความละเอียด HD และไมโครโฟนติดตั้งไว้ส่วนขอบล่างมีโลโก้บริษัทอยู่ แม้โน๊ตบุ๊คนี้ราคาจะไม่แพงนัก แต่ก็แสดงผลได้ดีและมีองศาการมองเห็นกว้าง 178 องศา มองจากมุมก้มหรือเงยก็มองเห็นได้ชัดเจนไม่เกิดเงาหรือสีสันเพี้ยนทาบขึ้นบนหน้าจอ
อย่างไรก็ตามจากการทดสอบด้วยโปรแกรม DisplayCal 3 จะเห็นว่าหน้าจอของ IPASON MaxBook P2 Pro มีค่า Gamut coverage ซึ่งเป็นค่าขอบเขตสีจริงของหน้าจอนี้อยู่ที่ 55.9% sRGB, 39.4% Adobe RGB, 40.6% DCI-P3 ส่วนค่า Gamut volume สำหรับแสดงขอบเขตสีทั้งหมดโดยรวมของจอนี้ วัดค่าได้ 57.2% sRGB, 39.4% Adobe RGB, 40.5% DCI-P3 มีค่าความเที่ยงตรงสี (Delta-E) เฉลี่ยอยู่ที่ 0.14~1.61 จัดว่าสีสันบนจอ MaxBook P2 Pro นั้นแม้ไม่กว้างมากแต่ก็เที่ยงตรงพอเอาไว้แต่งภาพอัพโหลดขึ้นโซเชียลเน็ตเวิร์คหรือประกอบรายงานได้อย่างแน่นอน
ความสว่างของจอ MaxBook P2 Pro เมื่อปรับความสว่าง 100% แล้ว DisplayCal 3 วัดความสว่างได้ 237.10 cd/m2 จากที่ทดลองใช้งานแล้วถ้านั่งทำงานนอกอาคาร เช่นไปนั่งร้านกาแฟควรเปิดความสว่างสูงสุดเพื่อสู้แสงแดดและแสงสะท้อนที่กระทบหน้าจอ แต่ถ้าใช้ในออฟฟิศก็ไม่มีปัญหา สามารถปรับลดลงมาราว 70~80% ก็ยังสว่างพอใช้งานได้ระดับหนึ่ง
เสียงลำโพงของ IPASON MaxBook P2 Pro โดยส่วนตัวของผู้เขียนถือว่าคุณภาพเสียงอยู่ในระดับที่ใช้ประชุมออนไลน์หรือฟัง Podcast ได้ดังชัดเจน โดยเสียงที่วัดด้วยเครื่องวัดเสียงจะดังราว 80dB เมื่อปรับความดังสูงสุด แต่โทนเสียงจะเน้นเสียงแหลมและเสียงนักร้องอย่างเดียว ไม่มีเสียงเบสมาซัพพอร์ตตอนฟังเพลงเลย ดังนั้นแนะนำให้หาลำโพงสักชุดต่อแยกไปเลยจะดูหนังและฟังเพลงได้อรรถรสยิ่งขึ้น
Keyboard & Touchpad
แป้นคีย์บอร์ดของ MaxBook P2 Pro เป็นแป้นคีย์บอร์ด Full-size ทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีปุ่มให้ใช้งานครบถ้วนไม่ว่าจะปุ่มหลักหรือ Function Key ก็ตาม แต่สังเกตว่า IPASON ไม่ได้ย่อขนาดปุ่มลูกศรให้เล็กลงเหมือนโน๊ตบุ๊คทำงานหลายๆ รุ่นในปัจจุบัน โดยผู้ผลิตเลือกลดขนาดปุ่ม Shift ฝั่งขวามือให้เล็กลงเพื่อให้ขนาดปุ่มลูกศรใหญ่เท่าเดิม นอกจากนี้ยังมีชุด Numpad ติดตั้งมาให้กดตัวเลขได้สะดวก ถ้าใครทำงานเกี่ยวกับตัวเลขบ่อยๆ เช่นเป็นแอดมินเพจดูแลขายสินค้าออนไลน์ก็ทำงานได้ง่ายกดตัวเลขได้สะดวกยิ่งขึ้น
Function Hotkey ของ IPASON MaxBook P2 Pro ถือว่ามีมาให้เล็กน้อยและลูกเล่นไม่เยอะเหมือนแบรนด์ชั้นนำหลายๆ รุ่น นอกจาก Hotkey ตรง F1~F12 ก็ไม่มีคีย์ลัดอื่นอย่าง Snipping Tool, Settings ฯลฯ ติดตั้งมาให้เลย ซึ่งถ้าใครกดคีย์ลัด Windows ถนัดมือแล้วก็ไม่มีปัญหา แต่ก็ถือว่าลูกเล่นของคีย์บอร์ดโน๊ตบุ๊คนี้น้อยไปบ้าง ส่วน Function Key พื้นฐานบางส่วนจะถูกเซ็ตรวมเอาไว้กับปุ่มตัวเลขของชุด Numpad ด้วย
ส่วนจุดสังเกตของคีย์บอร์ดนี้ คือ ไม่มีไฟ LED Backlit ถ้าพิมพ์ในที่แสงน้อยถ้าพิมพ์สัมผัสไม่ได้ก็อาจใช้ได้ไม่สะดวกนัก และรุ่นที่ขายในประเทศไทยก็เป็นรุ่นแป้นคีย์บอร์ดภาษาอังกฤษอย่างเดียวไม่ได้สกรีนภาษาไทยติดเอาไว้แต่ทาง DEVAS IPASON ก็แก้ปัญหาโดยจะแถมสติ๊กเกอร์ฟ้อนท์ภาษาไทยให้ผู้ใช้นำไปติดคีย์บอร์ดเพื่อให้ใช้งานได้สะดวกขึ้น
Function Hotkey ของ IPASON MaxBook P2 Pro บริเวณปุ่ม F1~F12 จะมีคีย์ลัดติดตั้งอยู่บางปุ่มเท่านั้น โดยปุ่มที่มี Hotkey ได้แก่
- Esc – ปิด/เปิดทัชแพด
- F1 – ปุ่ม Project ตั้งค่าหน้าจอหลักและจอแยก
- F2~F4 – ปิด, ลด/เพิ่มเสียงลำโพง
- F6~F7 – ลดหรือเพิ่มความสว่างหน้าจอ
- F8~F9 – เล่นเพลงหรือภาพยนต์ก่อนหน้าหรือข้ามไปเพลงถัดไป
- F10 – เล่นหรือหยุดเพลง
- F11 – Airplane Mode
- F12 – พลิกจอกลับ 180 องศา
แม้จะมี Hotkey มาไม่เยอะก็ตาม แต่อย่างน้อยทาง IPASON ก็มีคีย์ลัดที่เอื้อกับดีไซน์เครื่องที่พลิกจอกลับ 180 องศาได้ตรงปุ่ม F12 ติดตั้งมาให้ใช้อยู่ แต่ก็หวังว่าถ้าทางบริษัทจะเปิดตัว MaxBook รุ่นถัดไปก็แนะนำให้เพิ่ม Hotkey อื่นๆ อย่างปุ่มเรียกคำสั่ง Settings, Snipping Tool ฯลฯ เพิ่มเข้ามาจะใช้ทำงานได้สะดวกยิ่งขึ้น
ทัชแพดของ IPASON MaxBook P2 Pro มีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือติดตั้งไว้มุมบนซ้ายของแป้นสามารถนาบนิ้วปลดล็อคเครื่องได้ใช้งานได้ทันที รองรับ Gesture Control ของ Windows และดีไซน์เป็นแบบซ่อนคลิ๊กซ้ายขวา อย่างไรก็ตามจากที่ใช้งานมาต้องถือว่าตัวปุ่มค่อนข้างแข็ง เวลากดคลิ๊กจะไม่สะดวกเท่าแป้นของโน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่นในปัจจุบันนี้ แนะนำให้แตะเคาะบนแป้นตั้งแต่ 1~2 นิ้วเพื่อคลิ๊กซ้าย/ขวาแทนดีกว่า
เวลาพิมพ์งาน สันมือซ้ายจะทาบแป้นทัชแพดเล็กน้อยส่วนมุมบนซ้ายแต่มือขวาจะทาบบนแป้นนี้เต็มๆ และบางครั้งอาจจะมีอาการทัชแพดลั่นบ้าง แต่ถ้าจะใช้เมาส์หรือปิดทัชแพดก็กด Fn+Esc ปิดไปได้เช่นกัน จะได้ใช้งานโดยสะดวก กล่าวคือทัชแพดนี้เป็นแป้นทัชแพดทั่วไปของโน๊ตบุ๊คสายทำงานอายุ 5~6 ปีก่อนหน้านี้ ใช้งานได้ไม่มีปัญหาแต่ก็ไม่มีลูกเล่นโดดเด่นอะไรนัก
Connector / Thin & Weight
พอร์ตของ IPASON MaxBook P2 Pro ถูกติดตั้งเอาไว้ข้างตัวเครื่องสองฝั่ง โดยเป็นพอร์ตพื้นฐานพร้อมใช้งานและมี USB-C อีกด้วย โดยมีพอร์ตดังนี้
- ฝั่งซ้ายจากซ้ายมือ – USB-A 3.0, mini HDMI, USB-C รองรับ Power Delivery
- ฝั่งขวาจากซ้ายมือ – Audio combo, USB 2.0 x 2
- การเชื่อมต่อไร้สาย – Wi-Fi 5 มาตรฐาน 802.11ac รองรับ Bluetooth 5.1
จะเห็นว่า MaxBook P2 Pro นั้นมีพอร์ตจำเป็นใช้งานติดตั้งมาให้ค่อนข้างครบ ยกเว้น SD Card Reader ซึ่งต้องซื้ออุปกรณ์เสริมมาต่อแทน แต่จุดสังเกตหลักคือพอร์ต mini HDMI ซึ่งไม่ได้รับความนิยมนักในปัจจุบันนี้และสายเชื่อมต่อก็หาซื้อได้ค่อนข้างยากอีกด้วย ซึ่งผู้เขียนเห็นว่าทางบริษัทควรให้พอร์ต HDMI ตัวเต็มหรือ Micro HDMI แบบกล้อง Action Camera ไปเลยจะดีกว่า เพราะสายทั้งสองประเภทนี้หาซื้อได้ง่ายกว่ามาก
น้ำหนักตัวเครื่องจากโรงงานของ IPASON เคลมไว้ว่า MaxBook P2 Pro หนัก 1.5 กิโลกรัม พอชั่งด้วยตาชั่งดิจิตอลแล้วจะมีน้ำหนัก 1.57 กิโลกรัม เมื่อรวมอแดปเตอร์น้ำหนัก 206 กรัมเข้าไปแล้ว จะมีน้ำหนัก 1.77 กิโลกรัมเท่านั้น จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊ค 15.6 นิ้วสำหรับใช้งานทั่วไปที่เบามาก สามารถใส่กระเป๋าพกไปไหนมาไหนได้สบายๆ ส่วนอแดปเตอร์ของ MaxBook P2 Pro เป็นหัวชาร์จแบบ USB-C และพับขาปลั๊กเก็บได้เมื่อพกใส่กระเป๋าออกไปธุระนอกบ้าน มีขนาดเล็กพอสมควร ดังนั้นผู้เขียนคิดว่าใช้ปลั๊กเดิมๆ ไปได้เลยไม่ต้องซื้อแบบ GaN เพิ่มก็ได้
Inside & Upgrade
ภายในเครื่องหลังจากขันน็อตทั้ง 12 ดอกออกแล้ว ฝาตัวเครื่องก็สามารถใช้มือเปล่าดึงไล่ตามขอบไปเรื่อยๆ ได้ทันที แต่จะเห็นว่านอกจาก M.2 SATA III SSD แล้ว ชิ้นส่วนทั้งหมดจะเป็นแบบออนบอร์ดทั้งหมดจึงไม่น่าเปิดฝาอัพเกรดนัก ซึ่งส่วนตัวคิดว่าน่าเอาเงินไปซื้อ External Harddisk/SSD มาเซฟงานจะคุ้มค่ากว่า
Performance & Software
IPASON MaxBook P2 Pro ติดตั้งซีพียู Intel Celeron N5105 แบบ 4 คอร์ 4 เธรด ความเร็ว 2.0~2.9GHz เป็นซีพียูสถาปัตยกรรม Jasper Lake ค่า TDP 10 วัตต์ จัดการพลังงานได้เป็นอย่างดีและมีกำลังประมวลผลจัดว่าไล่เลี่ยกับซีพียู Intel Core i3 ช่วง 9th~10th Gen ได้ ซึ่งภาพที่บันทึกจากโปรแกรม CPU-Z มีบั๊กจึงแสดงผลเป็น Celeron N5095 อยู่
เมนบอร์ดของ MaxBook P2 Pro ผลิตโดยทาง IPASON เองและติดตั้งแรมออนบอร์ดมาให้ 16GB LPDDR4 ซึ่งแรมความจุนี้ถือว่ามากพอใช้เปิดเบราเซอร์ทำงานได้ดีระดับหนึ่ง ไม่อึดอัดเกิดอาการหน่วงเพราะแรมไม่พอแน่นอน
ส่วนการ์ดจอออนบอร์ด Intel UHD Graphics ในซีพียู Intel Celeron นั้นถือว่าติดตั้งมาให้ใช้เรนเดอร์แสดงภาพขึ้นหน้าจอ 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD ได้และพอแต่งภาพทำสีได้บ้าง รองรับชุดคำสั่ง OpenCL, OpenGL4.6, DirectCompute, DirectML, Vulkan ด้วย
พาร์ทภายในเครื่องเมื่อเช็คด้วย Device Manager จะเห็นว่า IPASON MaxBook P2 Pro มีเซนนเซอร์สแกนลายนิ้วมือของ FocalTech ติดตั้งมาให้โดยทำงานร่วมกับชิป TPM 2.0 ในตัว ส่วนชิป Wi-Fi PCIe ในเครื่องเป็นแบบบัดกรีติดตั้งมาออนบอร์ด โดยเป็นชิป Intel Wireless-AC 9461 ซึ่งรองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 5 มาตรฐาน 802.11ac รองรับ Bluetooth 5.1 ได้ในตัว ส่วนหน่วยความจำในเครื่องสำหรับโน๊ตบุ๊คราคาประหยัดนี้ยังเป็น M.2 SATA ซึ่งใช้ทำงานได้เร็วและมีน้ำหนักเบากว่าฮาร์ดดิสก์จานหมุนทั่วไปอย่างแน่นอน
ผลการทดสอบความเร็วของ M.2 SATA รุ่น IPASON P100 ความจุ 256GB ภายในเครื่อง มีความเร็ว Sequential Read 550.11 MB/s และ Sequential Write 472.10 MB/s ซึ่งส่วนตัวผู้เขียนคิดว่าความเร็วระดับนี้กับโน๊ตบุ๊ครุ่นเริ่มต้นสำหรับใช้งานทั่วไปจัดว่าไม่แย่นัก จากที่ใช้งานจริงมาแล้วก็สามารถเปิดโปรแกรม, ไฟล์งานต่างๆ ขึ้นมาทำงานได้ค่อนข้างรวดเร็ว
ผลการทดสอบเรนเดอร์ 3D CG ด้วย CINEBENCH R15 ทำคะแนน OpenGL ได้ 31.42 fps และ CPU 298 cb ส่วน CINEBENCH R20 ที่เน้นทดสอบประสิทธิภาพของซีพียูว่าใช้เรนเดอร์ภาพกราฟิคได้ดีระดับใด ซึ่งผลการทดสอบได้ CPU 718 pts เท่านั้น อาจกล่าวได้ว่า IPASON MaxBook P2 Pro อาจจะแค่พอใช้แต่งภาพได้เล็กๆ น้อยๆ ร่วมกับโปรแกรม GIMP หรือ Paint 3D ได้นิดหน่อย
การทดสอบเล่นเกมด้วย 3DMark Time Spy จะเห็นว่าคะแนนเฉลี่ยของ IPASON MaxBook P2 Pro ทำคะแนนจบไปได้ 343 คะแนน แยกเป็น CPU score 1,450 คะแนนและ Graphics score 303 คะแนน ซึ่งผลคะแนนระดับนี้ไม่สามารถเล่นเกมฟอร์มยักษ์ ณ ปัจจุบันนี้ได้อย่างแน่นอน อาจจะเป็นเกม 8-bit หรือเกมบนเว็บเบราเซอร์เพื่อฆ่าเวลาก็ยังพอได้อยู่
ผลการทดสอบด้วย PCMark 10 ได้คะแนนเฉลี่ย 2,326 คะแนน จะเห็นว่า IPASON MaxBook P2 Pro นั้นพอใช้ทำงานออฟฟิศได้ระดับหนึ่งอย่างเช่นประชุมออนไลน์, เปิดเบราเซอร์ท่องเว็บหรือทำงานเอกสารและรายงานได้ระดับหนึ่งแต่ไม่เหมาะกับงานกราฟิคเลยแม้แต่น้อย สังเกตว่าคะแนนส่วนของ Digital Content Creation ทำได้ 1,981 คะแนนเท่านั้น อาจจะพอใช้แต่งภาพได้บ้าง แต่ไม่เหมาะกับงานตัดต่อวิดีโอหรือจำลองโมเดล 3D เลยแม้แต่น้อย
Battery & Heat & Noise
แบตเตอรี่ใน IPASON MaxBook P2 Pro เป็นแบบลิเธียมไอออน มีความจุ Rated Capacity 6,000mAh (45.6Wh) ซึ่งมีความจุค่อนข้างดีระดับหนึ่ง ผลิตโดย SHENZHEN UTILITY ENERGY เป็นบริษัทผู้ผลิตแบตเตอรี่ชั้นนำเจ้าหนึ่งในสาธารณรัฐประชาชนจีน ดังนั้นคุณภาพก็ถือว่าไม่น่ามีปัญหา
จากการทดสอบใช้งานตามมาตรฐานของทางเว็บไซต์ โดยผู้เขียนลดความสว่างหน้าจอต่ำสุด, เปิดเสียงลำโพง 10% ใช้โหมดประหยัดพลังงานของ Windows 11 แล้วใช้ Microsoft Edge ดูคลิป YouTube นาน 30 นาที ได้ผลว่า IPASON MaxBook P2 Pro ใช้งานต่อเนื่องได้นานสุด 12 ชั่วโมงทีเดียว ซึ่งสาเหตุที่ใช้งานได้นานระดับนี้มาจากซีพียู Intel Celeron ซึ่งใช้พลังงานไม่เยอะมากนัก แต่เนื่องจากพาเนลหน้าจอของ MaxBook P2 Pro แค่พอใช้งานได้ระดับหนึ่งแต่พอปรับความสว่างต่ำสุดแล้วจอจะมืดเกินไปทำงานไม่ถนัดนัก ส่วนตัวแนะนำให้ปรับความสว่างไว้ราว 30% จะสว่างพอดีมองเห็นชัดเจนแต่ไม่กินพลังงานแบตเตอรี่มากเกินไป
ด้านระบบระบายความร้อนของ MaxBook P2 Pro เป็นชุดซิ้งค์นำความร้อนซีพียูกับฮีตไปป์ 1 เส้น ลากตรงมายังฮีตซิ้งค์หน้าพัดลม.โบลวเวอร์เพื่อเป่าระบายความร้อนออกไป ซึ่งเสียงพัดลมนั้นเบาแทบไม่ได้ยินตลอดการใช้งาน และ Intel Celeron ก็เป็นซีพียูซีรี่ส์ที่ไม่ก่อความร้อนสูงอยู่แล้ว ดังนั้นชุดระบายความร้อนนี้จัดการความร้อนได้แน่นอน
เมื่อเช็คด้วยโปรแกรม CPUID HWMonitor จะเห็นว่า IPASON MaxBook P2 Pro มีอุณหภูมิเฉลี่ยเพียง 49 องศา โดยความร้อนจะไล่ขึ้นลงระดับ 45~70 องศาเมื่อเปิดโปรแกรมแต่งภาพและโปรแกรมอื่นๆ ที่กินทรัพยากรตัวเครื่องหนักๆ แต่ตอนใช้งานจริงก็ไม่มีปัญหาเรื่องความร้อนเลยแม้แต่นิดเดียว ดังนั้นไม่ต้องกลัวว่าใช้งานต่อเนื่องหลายชั่วโมงแล้วเครื่องจะร้อนเลย
User Experience
หากจำกัดความง่ายๆ IPASON MaxBook P2 Pro เป็นโน๊ตบุ๊ค Budget ราคาไม่เกินหมื่นแต่คุณภาพดีพอสู้โน๊ตบุ๊คราคาหมื่นต้นบางรุ่นได้ ซึ่งข้อดีของ MaxBook P2 Pro ที่เหนือกว่าโน๊ตบุ๊คราคาหมื่นต้นบางรุ่น ต้องยกให้แรม 16GB LPDDR4 ซึ่งถือว่าเยอะกว่าโน๊ตบุ๊คราคาหมื่นบาทหลายๆ รุ่น ณ ตอนนี้ซึ่งแรมมีแค่ 4~8GB เท่านั้น จึงได้เปรียบเวลาเปิดเบราเซอร์หลายๆ แท็บ เครื่องก็ไม่แฮ็งค์จนหยุดทำงานไปก่อน
จุดแข็งนอกจากแรมแล้ว MaxBook P2 Pro ยังใช้งานต่อเนื่องได้นานสุด 12 ชั่วโมง ซึ่งตอนใช้งานจริงก็ทำได้ไล่เลี่ยกับที่ผู้เขียนได้ทดสอบเเอาไว้ ซึ่งผู้เขียนเองได้พกเครื่องไปนั่งทำงานตอบเมล์และพิมพ์งานตามร้านกาแฟ นอกจากน้ำหนักจะไม่หนักเกินไปพกได้ง่าย แบตเตอรี่ก็ไม่หมดระหว่างวันอย่างแน่นอน ดังนั้นถ้าใครต้องพกเครื่องเข้าประชุมหรือใช้เรียนต่อเนื่องหลายชั่วโมงก็ใช้งานได้สบายๆ
แม้จะบอกผู้ใช้ว่าโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้ดีอย่างไร แต่เชื่อว่ามีผู้ใช้บางส่วนน่าจะกังวลว่า Intel Celeron N5105 ที่แม้จะมี 4 คอร์ 4 เธรด แต่เมื่อไม่ได้เป็น Intel Core Series ก็คงจะทำงานได้ไม่ลื่นไหลอย่างแน่นอน ซึ่งความคิดนี้ไม่เป็นจริงเสมอไป เพราะจากการใช้งานจริงในยุคที่มีซีพียู Intel 12th Gen ครองตลาดและยังพอหา Intel 11th Gen ได้ประปราย พลังของ Intel Celeron ใน MaxBook P2 Pro จะรันงาน เปิดโปรแกรมและตอบสนองได้ไล่เลี่ยกับ Intel Core i3~i5 ช่วง Intel 9~10th Gen ซึ่งพลังประมวลผลของคอร์ซีพียูนั้นถือว่าทำงานได้ดีระดับหนึ่ง ดังนั้นการทำงานเอกสารหรือเปิดเบราเซอร์ดูเว็บดูหนังก็ใช้ได้ดีระดับหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม ข้อกังขาของ IPASON MaxBook P2 Pro นอกจากไม่มีไฟ LED Backlit ติดคีย์บอร์ดมาให้ใช้งานและคุณภาพพลาสติกที่ใช้ทำบอดี้ตัวเครื่องเป็นเกรดทั่วไปแล้ว ผู้เขียนไม่เข้าใจว่าทางผู้ผลิตจะติดตั้งพอร์ต mini HDMI ซึ่งหาสายใช้งานได้ยากเพื่ออะไร? ซึ่งขนาดของพอร์ต HDMI มาตรฐานกับไซซ์ mini HDMI ต่างกันไม่มาก หรือถ้าต้องการย่อไซซ์พอร์ตให้เล็กไปเลยจะใส่ MicroHDMI ซึ่งใช้ร่วมกับกล้อง Action Camera มาเลยก็ดูสมเหตุผลกว่าและยังมีพื้นที่ใส่ MicroSD Card Reader เข้าไปได้ด้วย ดังนั้นผู้เขียนคาดหวังว่าทาง IPASON จะพิจารณาปรับเปลี่ยนพอร์ต mini HDMI ในเครื่องรุ่นถัดไปด้วยจะได้น่าใช้ยิ่งขึ้น
Conclusion & Award
IPASON MaxBook P2 Pro เป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานราคาประหยัดไม่ทำร้ายกระเป๋าเงินนัก โดยสเปคเดิมจากโรงงานถือว่าน่าสนใจทีเดียว โดยได้เครื่องใหญ่ 15.6 นิ้ว พร้อม Numpad และเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือมาครบถ้วนพร้อมแรมอีก 16GB LPDDR4 ให้มีพื้นที่สำหรับเปิดโปรแกรมทิ้งเอาไว้ได้เยอะกว่าโน๊ตบุ๊คราคาประหยัดหลายๆ รุ่นในท้องตลาด ณ ปัจจุบันนี้ และแม้จะมีจุดน่าสังเกตประปรายอยู่ แต่เมื่อราคาตั้งเพียง 9,580 บาท ก็ถือว่าไม่น่าเกลียดเลย
โดยส่วนตัว ผู้เขียนมองว่า MaxBook P2 Pro แม้จะเป็นผู้เล่นหน้าใหม่ในตลาดโน๊ตบุ๊คราคาไม่เกินหมื่นบาทก็ตาม แต่พอผู้นำเข้าและให้บริการหลังการขายเป็นทาง DEVAS IPASON ซึ่งเป็นบริษัทของทางโรงงานเอง พอมีปัญหาอะไรก็มีบริษัทคอยซัพพอร์ตให้อุ่นใจไม่เหมือนกับการสั่งโน๊ตบุ๊คจากต่างประเทศมาใช้เองรับผิดชอบเองอย่างแน่นอน
award
best mobility
ตัวเครื่องขนาด 15.6 นิ้วแต่น้ำหนักเบาเพียง 1.5 กิโลกรัมเช่นนี้ ต้องถือว่า IPASON MaxBook P2 Pro นั้นเบาพกง่าย พกใส่กระเป๋าไปไหนมาไหนได้สบายๆ ไม่ลำบากอย่างแน่นอน
Best Value
ราคาของ MaxBook P2 Pro เริ่มต้นเพียง 9,580 บาท ถือว่าถูกมาก ตอบโจทย์ผู้ใช้ที่มีงบประมาณจำกัดได้เป็นอย่างดี ตัดสินใจได้ไม่ยากและยังได้สเปค, พอร์ตค่อนข้างครบเครื่องน่าสนใจ หากใครจะซื้อมาใช้งานก็คุ้มค่าแน่นอน
best battery life
แบตเตอรี่ความจุ 45Wh ที่ติดตั้งมาให้ในเครื่องกับซีพียู Intel Celeron จัดการพลังงานได้ดี ใช้งานได้นานสุด 12 ชั่วโมงทีเดียว หากต้องพกโน๊ตบุ๊คเข้าห้องเรียนหรือประชุมนานๆ ก็ใช้ได้สบายๆ