ปลายปีหาหูฟังเกมมิ่ง 2022 ดีๆ ไว้เล่นเกมใหม่ๆ กันดีกว่า
หูฟังเกมมิ่ง 2022 เป็นเกมมิ่งเกียร์ชิ้นสำคัญอีกอย่างที่เกมเมอร์ทุกคนมองหา โดยเฉพาะสาย FPS นั้นยิ่งต้องใส่ใจกับหูฟังเกมมิ่งเป็นพิเศษ เพราะการได้ยินเสียงแล้วรู้ว่าศัตรูจะมาจากทางไหนก่อนจะได้ตอบสนองได้ทันเวลา และแม้จะไม่ได้เป็นเกมเมอร์สายแข่งขันเต็มตัวก็ตาม แต่เมื่อได้หูฟังดีๆ ไว้ฟังเสียงภายในเกมก็จะช่วยเพิ่มอรรถรสให้ดียิ่งขึ้นทั้งได้ยินเสียงตัวละครคุยกันชัดเจน เสียง BGM ช่วยสร้างบรรยากาศให้เกมเมอร์สนุกกับเกมต่างๆ ยิ่งกว่าเดิมหลายเท่า
ถึงตอนนี้จะมีหูฟังเกมมิ่ง 2022 จากแบรนด์น้องใหม่เปิดตัวมาหลายรุ่นและราคาไม่เกินพันบาทก็ตาม แต่ส่วนตัวผู้เขียนก็ยังสนับสนุนให้เพิ่มเงินอีกนิดแล้วซื้อหูฟังเกมมิ่งจากแบรนด์ชั้นราคาหลักพันบาทต้นๆ จะดีกว่า เพราะนอกจากคุณภาพงานผลิตจะดีกว่าแล้ว ยังได้ฟีเจอร์กับไดรเวอร์คุณภาพซึ่งจูนเสียงมาให้เป็นอย่างดีและไมค์ยังจับเสียงผู้พูดได้ดีอีกด้วย
ฮาวทูเลือกหูฟังเกมมิ่ง 2022 ให้โดนใจ? จะได้โดนใจ!
เกมเมอร์หลายคนเห็นหัวข้อนี้แล้วอาจจะคิดว่า แค่เดินไปร้านคอมพิวเตอร์แล้วตรงไปดูตรงโซนเกมมิ่งเกียร์แล้วดูรุ่นที่อยากได้ก็ซื้อไปเลยก็ได้นี่นา? ซึ่งจะทำเช่นนั้นก็ได้
- เล่นเกมบนแพลตฟอร์มไหน? – นอกจากเกมมิ่งพีซี/โน๊ตบุ๊คแล้ว เกมเมอร์หลายๆ คนก็มีเครื่องเกมคอนโซลอย่าง Nintendo Switch, PlayStation 4 หรือ 5, Xbox One หรือรุ่นใหม่อย่าง Series X|S ด้วย ซึ่งเครื่องคอนโซลเหล่านี้ใช้แจ็คหูฟัง 3.5 มม. เชื่อมต่ออุปกรณ์เป็นหลัก แต่ถ้าผู้ผลิตไม่ได้ออกแบบหูฟังเกมมิ่งรุ่นนั้นๆ ให้ใช้งานกับเครื่องคอนโซลรุ่นนั้นๆ โดยเฉพาะก็อาจจะใช้บางฟีเจอร์ไม่ได้ ดังนั้นตอนเลือกอาจจะดูหน้าสเปคเก็บรายละเอียดเพิ่มว่าหูฟังรุ่นนั้นๆ ผู้ผลิตออกแบบมาใช้งานกับเครื่องคอนโซลได้หรือไม่?
- มีหรือไม่มีสาย? – หูฟังเกมมิ่งนั้น ไม่ว่าจะมีหรือไม่มีสายก็มีข้อดีไปคนละแบบและตอบโจทย์เกมเมอร์ต่างกลุ่มกันไปโดยจุดเด่นและข้อสังเกตของแต่ละแบบจะมีดังนี้
- หูฟังเกมมิ่งแบบมีสาย – ราคาไม่แพง, มีรุ่นให้เลือกมากมายตั้งแต่ราคาถูกหลักร้อยบาทไปจนหลักหมื่น รวมทั้งใช้งานง่ายแค่ต่อสาย USB-A หรือแจ็คหูฟัง 3.5 มม. เข้าคอมพิวเตอร์หรือเครื่องคอนโซลก็ใช้งานได้ทันที แต่จุดควรระวังอย่างแรกคือสายเชื่อมต่อซึ่งจะเปื่อยไปตามการใช้งานและความระมัดระวังของผู้ใช้แต่ละคน นอกจากนี้ยังถอยตัวห่างจากพีซีหรือคอนโซลได้เท่าระยะสายของหูฟังเท่านั้น
- หูฟังเกมมิ่งแบบไร้สาย – จุดแข็งของหูฟังประเภทนี้ คือ มีรูปแบบการเชื่อมต่อให้เลือกทั้ง Bluetooth และ USB 2.4GHz หรืออาจจะมีทั้งสองอย่างในตัวก็ได้ ซึ่งเกมเมอร์หลายๆ คนอาจจะซื้อหูฟังเกมมิ่งไร้สายตัวเดียวต่อคอมพิวเตอร์ด้วย USB 2.4GHz แล้วต่อสมาร์ทโฟนด้วย Bluetooth ก็ลดปริมาณอุปกรณ์ซ้ำซ้อนของตัวเองไปได้เยอะและไม่โดนจำกัดระยะห่างจากตัวเครื่องด้วยระยะสาย และในปัจจุบันนี้ราคาไม่แพงมากแล้ว ราคาแค่หลักพันต้นๆ ก็หาซื้อมาใช้ได้ทันที แต่จุดสังเกตคือหูฟังประเภทนี้เป็นแบบมีแบตเตอรี่ในตัว ใช้งานถึงระดับหนึ่งก็ต้องชาร์จแบตเตอรี่คืน อาจจะใช้สาย USB-C หรือ MicroUSB ก็ตาม และเมื่อใช้งานไปอาจจะ 1-2 ปี เมื่อแบตเตอรี่เสื่อมก็ต้องหาร้านซ่อมเปลี่ยนแบตฯ อีก
- คุณภาพงานประกอบ – จุดสำคัญเวลาจะซื้อหูฟังเกมมิ่ง 2022 เพราะผู้ผลิตแต่ละเจ้าก็เลือกใช้วัสดุมาประกอบไม่เหมือนกัน อาจจะเป็นฟองน้ำหนานุ่มพิเศษหรือแค่เป็นฟองน้ำธรรมดาก็ได้ และควรสังเกตตรงก้านหูฟังให้ดีซึ่งผู้เขียนแนะนำให้ดูและเช็คข้อมูลว่าก้านหูฟังรุ่นนั้นๆ ใช้โครงและก้านเป็นแบบอลูมิเนียมจะได้แข็งแรงไม่หักง่าย ถ้าเป็นพลาสติกเนื้อแข็งพิเศษก็ไม่มีปัญหา ส่วนฟองน้ำรองหูฟังก็ควรดูว่าชอบวัสดุหุ้มแบบไหน อาจเป็นผ้าเพราะระบายอากาศดีหรือจะเป็นหนังเพราะสวยและทนทานก็ได้ ที่สำคัญคือเรื่องน้ำหนักหูฟังรุ่นนั้นๆ ว่าตัวหูฟังเมื่อครอบศีรษะแล้วมันหนักเกินไปหรือไม่โดยให้สวมเอาไว้ราว 2-3 นาที สังเกตว่าเรารู้สึรำคาญมันหรือเปล่า ถ้ารำคาญแสดงว่าหูฟังรุ่นนั้นไม่เหมาะกับเราอย่างแน่นอน
- การป้องกันและตัดเสียงรบกวน – ระบบตัดเสียงรบกวน (ANC – Active Noise Cancelling) เป็นฟีเจอร์สำคัญของหูฟังเกมมิ่ง 2022 อีกอย่างหนึ่งเช่นกัน เพราะเป็นฟีเจอร์สำหรับกั้นเสียงรบกวนจากภายนอกออกไปไม่ให้ปนกับเสียงในเกมจนเกมเมอร์ตัดสินใจผิดพลาดไป ซึ่งฟังก์ชั่นตัดเสียงรบกวนอาจจะมาจากดีไซน์ของตัวหูฟังเองที่ครอบหูและแนบตามแนวศีรษะจนปิดสนิทดีเลยไม่มีเสียงกวน หรือมีเป็นฟีเจอร์ของหูฟังรุ่นนั้นๆ ก็ได้ ทว่าฟังก์ชั่นนี้มักติดมากับหูฟังเกมมิ่งราคาแพงเกือบหมื่นบาทเป็นส่วนใหญ่
- ไมโครโฟน – ไมโครโฟนเป็นอุปกรณ์สื่อสารสำคัญของหูฟังเกมมิ่ง ซึ่งวิธีดูว่าไมค์ของหูฟังรุ่นนั้นๆ จะทำงานได้ดีหรือไม่จะมีจุดพิจารณาหลักๆ 3 อย่าง คือ ไมค์หูฟังมีระบบตัดเสียงรบกวนหรือไม่, มีปุ่ม Mute เอาไว้ปิดเสียงไมค์หรือเปล่า และแนะนำให้ดูไมค์แบบ Boom microphone จะได้เสียงคุณภาพดีขึ้น หรืออาจจะดูฟีเจอร์เด่นของไมค์หูฟังเลยก็ได้ เช่น BLUE VO!CE ของ Logitech เป็นต้น
- การประยุกต์ใช้งาน – การจะซื้อเกมมิ่งเฮดโฟนมาใช้ ผู้เขียนก็เชื่อว่ามีเกมเมอร์หลายคนพกมันติดตัวเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนไว้ฟังเพลงหรือเล่นเกมตอนเดินทางไปไหนมาไหนอย่างแน่นอน ดังนั้นถ้าเลือกรุ่นที่ใช้งานได้รอบด้านไปเลยก็ช่วยลดอุปกรณ์ที่ซ้ำซ้อนในกระเป๋าลงไปได้อีก
สรุปสเปคหูฟังเกมมิ่ง 2022 ทั้ง 7 รุ่น เพื่อเกมเมอร์ทุกคน
สเปคหูฟังเกมมิ่ง 2022 | Driver | Microphone | Connectivity | Platform Software |
ราคา (บาท) |
Razer Kraken V3 X | Razer TriForce 40 มม. 7.1 Ch ตอบสนองความถี่ 12Hz~28kHz |
Razer HyperClear ตอบสนองความถี่ 12Hz~28kHz Unidirectional |
USB-A | Windows PlayStation 4 |
1,590 |
JBL Quantum 100 | JBL QuantumSOUND Signature 40 มม. ตอบสนองความถี่ 20Hz~20kHz |
Boom Microphone | แจ็คหูฟัง 3.5 มม. |
Windows macOS PlayStation 4~5 Xbox ONE หรือ Series X|S Nintendo Switch |
1,590 |
HyperX Cloud Stinger Gaming Headset | HyperX Driver 50 มม. DTS Headphone:X 2.0 |
ไมค์พร้อม Noise Cancellation | แจ็คหูฟัง 3.5 มม. |
Windows macOS PlayStaion Xbox Nintendo Switch |
1,790 |
EPOS Sennheiser GAME ONE | ไดรเวอร์ Dynamic HiFi ตอบสนองความถี่ 15Hz~28kHz |
ไมค์พร้อม Noise Cancellation ตอบสนองความถี่ 50Hz~16kHz |
แจ็คหูฟัง 3.5 มม. |
Windows macOS PlayStaion |
2,890 |
Logitech G Pro Gaming Headset | PRO-G ขนาด 50 มม. 7.1 Ch ตอบสนองความถี่ 20Hz~20kHz |
Boom Microphone Noise Cancelling ตอบสนองความถี่ 100Hz~10kHz |
แจ็คหูฟัง 3.5 มม. USB-DAC |
Windows Smartphone Logitech G HUB |
2,539 |
ASUS ROG Fusion II 300 | ASUS Essense 50 มม. 7.1 Ch ตอบสนองความถี่ 20Hz~40kHz Hi-Res Audio |
AI Beamforming AI-Noise Cancelling ตอบสนองความถี่ 100Hz~10kHz Omnidirectional Teamspeak Certified Discord Certified |
แจ็คหูฟังขนาด 3.5 มม. | Windows macOS PlayStation Nintendo Switch Armoury Crate |
2,990 |
SteelSeries ARCTIS 5 | แม่เหล็กนีโอไดเมียมขนาด 40 มม. ตอบสนองความถี่ 20Hz~22kHz DTS Headphone:X 2.0 |
ClearCast bidirectional ตอบสนองความถี่ 100Hz~10kHz Discord Certified |
แจ็คหูฟัง 3.5 มม. USB-A |
Windows PlayStation Smartphone SteelSeries Engine |
3,290 |
7 หูฟังเกมมิ่ง 2022 เพื่อเกมเมอร์ มีไว้เล่นเกมเพลิน ไมค์เสียงคมน่าจัด!
เกมเมอร์ที่มองหาเกมมิ่งเฮดโฟนอันใหม่มาเล่นเกมอยู่แล้วและอยากจ่ายเงินไม่เกินสามพันบาทแล้วได้ของดีไปเล่นเกมล่ะก็ ผู้เขียนได้เลือกหูฟังเกมมิ่ง 2022 รุ่นน่าสนใจจากแบรนด์ชั้นนำทั้ง 7 รุ่นมาให้เลือกดังนี้
- Razer Kraken V3 X (1,590 บาท)
- JBL Quantum 100 (1,590 บาท)
- HyperX Cloud Stinger Gaming Headset (1,790 บาท)
- EPOS Sennheiser GAME ONE (2,890 บาท)
- Logitech G Pro Gaming Headset (2,539 บาท)
- ASUS ROG Fusion II 300 (2,990 บาท)
- SteelSeries ARCTIS 5 (3,290 บาท)
1. Razer Kraken V3 X (1,590 บาท)
Razer Kraken V3 X เป็นเกมมิ่งเฮดโฟนที่น่าซื้อมาเล่นเกมมาก โดยจุดเด่นของมันนอกจากไฟ RGB ซึ่งตั้งค่าด้วยโปรแกรม Razer Chroma ได้แล้ว ไดรเวอร์ Razer TriForce ขนาด 40 มม. ตัวนี้สามารถจำลองเสียงแบบ 7.1 แชนแนลได้อย่างคมชัด ตอบสนองความถี่ 12Hz~28kHz ติดไมค์ Razer HyperClear รับเสียงหน้าไมค์แบบ Unidirectional ได้อย่างคมชัด ตอบสนองความถี่ 100Hz~10kHz และยังปรับเบนก้านไมค์ให้เข้ามุมปากได้ง่ายๆ และมีปุ่มเปิดปิดไมค์บนตัวหูฟังกับลูกล้อปรับ Volume เสียงติดมาให้ เชื่อมต่อด้วยสาย USB-A เข้ากับ Windows หรือ PlayStation 4 แล้วใช้งานได้ทันที เป็นเกมมิ่งเฮดโฟนรานคาไม่แพงรุ่นแรกที่น่าซื้อมาใช้มาก
สเปคของ Razer Kraken V3 X
- Driver : Razer TriForce 40 มม. เสียง 7.1 Ch ตอบสนองความถี่ 12Hz~28kHz
- Microphone : Razer HyperClear ตอบสนองความถี่ 12Hz~28kHz จับเสียงแบบ Unidirectional
- Connectivity : USB-A
- Platform : Windows, PlayStation 4
- Price : 1,590 บาท (Razer Shopee Mall)
2. JBL Quantum 100 (1,590 บาท)
ผู้เขียนเชื่อว่าเกมเมอร์น่าจะคุ้นหูแบรนด์ JBL เรื่องหูฟังหรือลำโพงสำหรับปาร์ตี้หรือเน้นฟังเพลงเป็นหลัก แต่แบรนด์นี้ก็มีเกมมิ่งเฮดโฟนเช่นกัน โดยรุ่นเริ่มต้นอย่าง JBL Quantum 100 นี้เป็นหูฟังเกมมิ่ง 2022 ที่เกมเมอร์หาซื้อมาใช้ได้ง่าย มีปุ่มคอนโทรล, ไมค์แบบ Boom Microphone ถอดแยกจากตัวเฮดโฟนได้ ติดตั้งไดรเวอร์ JBL QuantumSOUND Signature ขนาด 40 มม. มาให้ ตอบสนองความถี่ 20Hz~20kHz ต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์ไม่ว่าจะ Windows, macOS หรือเครื่องคอนโซลอย่าง PlayStation 4~5, Xbox ONE หรือ Series X|S และ Nintendo Switch ด้วยแจ็คหูฟังขนาด 3.5 มม. เส้นเดียวใช้งานได้ทันที ส่วนตัวผู้เขียนคิดว่าถ้าใครจะซื้อหูฟังตัวเดียวใช้เล่นเกม, ต่อคอมพิวเตอร์หรือมือถือเพื่อฟังเพลงและประชุมงานได้ เนื้อเสียงเบสแน่นอิ่มหูก็แนะนำตัวนี้เลย
สเปคของ JBL Quantum 100
- Driver : JBL QuantumSOUND Signature ขนาด 40 มม. ตอบสนองความถี่ 20Hz~20kHz
- Microphone : Boom Microphone
- Connectivity : แจ็คหูฟังขนาด 3.5 มม.
- Platform : Windows, macOS, PlayStation 4~5, Xbox ONE หรือ Series X|S, Nintendo Switch
- Price : 1,590 บาท (Munkong Shopee Mall)
3. HyperX Cloud Stinger Gaming Headset (1,790 บาท)
HyperX Cloud Stinger Gaming Headset รุ่นนี้เป็นเกมมิ่งเฮดดโฟนรุ่นที่ผู้เขียนแนะนำเป็นพิเศษ เพราะคุณภาพเสียงไมค์ฟังเคลียร์ไม่ทำเสียงผู้พูดเพี้ยน จับเสียงได้ดีและเมื่อดันก้านยกขึ้นจนสุดจะเป็นการกดปิดเสียงไมค์โดยอัตโนมัติและมีระบบ Noise Cancellation ด้วย ส่วนชุดควบคุมที่หูฟังมีรางสไลด์เร่ง/ลดเสียงติดมาให้ ไดรเวอร์ของ HyperX Cloud Stinger สามารถพับราบ 90 องศาระนาบไปกับตัวผู้ใช้ได้ ไดรเวอร์หูฟังมีขนาดใหญ่มากถึง 50 มม. และยังรองรับเสียงแบบ DTS Headphone:X 2.0 ด้วย ทำให้จับทิศทางเสียงได้อย่างแม่นยำยิ่งกว่าเดิม ใช้สายแจ็ค 3.5 มม. เชื่อมต่อเข้ากับ Windows, macOS, PlayStaion, Xbox, Nintendo Switch แล้วเล่นเกมได้เลย จัดเป็นหูฟังเกมมิ่ง 2022 ที่น่าใช้ด้วยคุณภาพและเสียงที่ดีด้วย
สเปคของ HyperX Cloud Stinger Gaming Headset
- Driver : HyperX Driver ขนาด 50 มม. มี DTS Headphone:X 2.0
- Microphone : ไมค์พร้อมระบบ Noise Cancellation ยกก้านขึ้นจะเป็นการ Mute
- Connectivity : แจ็คหูฟังขนาด 3.5 มม.
- Platform : Windows, macOS, PlayStaion, Xbox, Nintendo Switch
- Price : 1,790 บาท (HyperX Shopee Mall)
4. EPOS Sennheiser GAME ONE (2,890 บาท)
ชื่อชั้นของ Sennheiser เป็นหูฟังของคนรักเสียงเพลง แต่แบรนด์ลูกในเครือเพื่อเกมเมอร์อย่าง EPOS Sennheiser GAME ONE รุ่นนี้เป็นหูฟังเกมมิ่ง 2022 ดีไซน์แบบ Open acoustic ให้ระบายอากาศและความร้อนได้ดี ใช้งานได้ทุกแพลตฟอร์มทั้ง Windows, macOS, PlayStation ด้วยสายแจ็ค 3.5 มม. เส้นเดียวเท่านั้น ติดตั้งไดรเวอร์แบบไดนามิคเสียง HiFi ตอบสนองความถี่ 15Hz~28kHz มาให้ใช้ ไมค์มีฟังก์ชั่น Noise Cancelling ติดตั้งมาให้ ตอบสนองความถี่ 50Hz~16kHz มีฟังก์ชั่นพับก้านไมค์เก็บขึ้นแล้วจะ Mute ให้โดยอัตโนมัติ ถ้าหากเกมเมอร์คนไหนต้องการหูฟังเกมมิ่ง 2022 ราคาดีจากแบรนด์คุณภาพเช่น EPOS ก็ซื้อรุ่นนี้ไปใช้ได้เลย
สเปคของ EPOS Sennheiser GAME ONE
- Driver : ไดรเวอร์แบบไดนามิคเสียง HiFi ตอบสนองความถี่ 15Hz~28kHz
- Microphone : Noise Cancelling ตอบสนองความถี่ 50Hz~16kHz ยกก้านขึ้นเป็นการ Mute
- Connectivity : แจ็คหูฟังขนาด 3.5 มม.
- Platform : Windows, macOS, PlayStaion
- Price : 2,890 บาท (EPOS Shopee Mall)
5. Logitech G Pro Gaming Headset (2,539 บาท)
Logitech G Pro Gaming Headset เป็นเกมมิ่งเฮดโฟนระดับ Esport แต่ราคาเข้าถึงง่าย น่าซื้อมาใช้เล่นเกมมาก โดยไดรเวอร์หูฟัง PRO-G ขนาด 50 มม. จำลองเสียงได้ 7.1 แชนแนล ตอบสนองความถี่ 20Hz~20kHz ใช้งานกับโปรแกรม Immerse by Embody เพื่อจัดทิศทางเสียงในเกม FPS ได้อย่างแม่นยำ ติดตั้ง Boom Microphone ขนาด 6 มม. ถอดได้ มีฟังก์ชั่น Noise Cancelling ในตัว รับเสียงแบบ Cardioid ตอบสนองความถี่ 100Hz~10kHz และปรับแต่ง Equalizer และเสียงไมค์ได้โดยโปรแกรม Logitech G HUB โปรแกรมเดียวร่วมกับเกมมิ่งเกียร์ชิ้นอื่นของทางค่ายได้เลย เชื่อมต่อด้วยสายแจ็ค 3.5 มม. หรือ USB-DAC เข้ากับสมาร์ทโฟนหรือ Windows ก็ได้ เป็นหูฟังเกมมิ่ง 2022 รุ่นน่าใช้มากรุ่นหนึ่งซึ่งผู้เขียนแนะนำ
สเปคของ Logitech G Pro Gaming Headset
- Driver : PRO-G ขนาด 50 มม. จำลองเสียง 7.1 Ch ตอบสนองความถี่ 20Hz~20kHz
- Microphone : Noise Cancelling ตอบสนองความถี่ 100Hz~10kHz เป็น Boom Microphone ขนาด 6 มม. ถอดได้
- Connectivity : แจ็คหูฟังขนาด 3.5 มม., USB-DAC
- Platform : Windows, Smartphone ตั้งค่าได้ด้วยโปรแกรม Logitech G HUB
- Price : 2,539 บาท (Logitech Shopee Mall)
6. ASUS ROG Fusion II 300 (2,990 บาท)
แบรนด์เกมมิ่งเกียร์ชั้นนำอย่าง ASUS ก็มีหูฟังเกมมิ่ง 2022 อย่าง ASUS ROG Fusion II 300 รุ่นนี้ที่ได้รับรางวัล reddot winner 2022 ให้เลือก โดยหูฟังนี้ตัวนี้นอกจากไฟ RGB แล้ว ยังมีฟีเจอร์น่าสนใจติดตั้งมาให้เพียบ เริ่มโดยติดตั้งชิป DAC ESS 9280 มาในตัวหูฟัง 4 อัน ให้คุณภาพเสียงดีขึ้นรองรับ Hi-Res Audio จำลองเสียงได้ 7.1 แชนแนลด้วย ASUS Essense driver ขนาด 50 มม. ตอบสนองความถี่ 20Hz~40kHz มีไมค์ Omnidirectional กับฟังก์ชั่น AI-Beamforming พร้อม AI Noise Cancellation ตัดเสียงแทรกเข้าไมค์ได้เป็นอย่างดี ตอบสนองความถี่ 100Hz~10kHz ได้รับการรับรอง Teamspeak Certified, Discord Certified ตัวหูฟังยังมีปุ่มเปิด/ปิดไมโครโฟนและปรับเพิ่มลดเสียงในหูฟังและสั่งเปิดปิดการจำลองเสียง 7.1 แชนแนลได้ในตัว ตั้งค่าไฟ RGB และส่วนต่างๆ ของตัวหูฟังได้ด้วยโปรแกรม Armoury Crate ได้เลย ใช้งานกับ Windows, macOS, PlayStation, Nintendo Switch ได้ทันที หากใครเป็นแฟนคลับ ASUS ตัวนี้เป็นหูฟังเกมมิ่งที่ดีมากรุ่นหนึ่ง
สเปคของ ASUS ROG Fusion II 300
- Driver : ASUS Essense driver ขนาด 50 มม. จำลองเสียง 7.1 Ch ตอบสนองความถี่ 20Hz~40kHz รองรับเสียง Hi-Res Audio
- Microphone : AI Beamforming, AI-Noise Cancelling ตอบสนองความถี่ 100Hz~10kHz เป็น Omnidirectional Microphone ได้รับการรับรอง Teamspeak Certified, Discord Certified
- Connectivity : แจ็คหูฟังขนาด 3.5 มม.
- Platform : Windows, macOS, PlayStation, Nintendo Switch ตั้งค่าได้ด้วยโปรแกรม Armoury Crate
- Price : 2,990 บาท (ROG Shopee Mall)
7. SteelSeries ARCTIS 5 (3,290 บาท)
สุดท้ายเป็น SteelSeries ARCTIS 5 หูฟังเกมมิ่ง 2022 ดีไซน์มินิมอลมีไฟ RGB ติดไมค์แบบสไลด์เก็บเข้าช่องในตัวหูฟังได้ ตัวไมค์ ClearCast แบบ bidirectional รับเสียงได้สองทางตัวนี้ได้รับการรับรอง Discord Certified แล้ว และจุดน่าสนใจของหูฟังตัวนี้คือมีลูกล้อ Dial สำหรับหมุนปรับได้ว่าจะให้เสียงเกมหรือเสียงห้องแชตดังกว่ากันติดมาให้ที่ตัวสายหูฟังด้วย ตอบสนองความถี่ 100Hz~10kHz ส่วนไดรเวอร์หูฟังที่ทำจากแม่เหล็กนีโอไดเมียมขนาด 40 มม. ตอบสนองความถี่ 20Hz~22kHz และแยกแยะทิศทางเสียงได้ดี มี DTS Headphone:X 2.0 ในตัว ใช้สาย USB หรือแจ็คหูฟัง 3.5 มม. ต่อเข้ากับ Windows, PlayStation หรือสมาร์ทโฟนก็ได้และตั้งค่าให้เข้ากับผู้ใช้ด้วยโปรแกรม SteelSeries Engine ได้ทันที เป็นหูฟังเกมมิ่ง 2022 ที่น่าใช้มาก แม้ราคาจะสูงสักนิดแต่ตอบโจทย์ฮาร์ดคอร์เกมเมอร์แน่นอน
สเปคของ SteelSeries ARCTIS 5
- Driver : แม่เหล็กนีโอไดเมียมขนาด 40 มม. ตอบสนองความถี่ 20Hz~22kHz มี DTS Headphone:X 2.0
- Microphone : ClearCast แบบ bidirectional ตอบสนองความถี่ 100Hz~10kHz ได้รับการรับรอง Discord Certified
- Connectivity : แจ็คหูฟังขนาด 3.5 มม., USB-A
- Platform : Windows, PlayStation, สมาร์ทโฟน ตั้งค่าได้ด้วยโปรแกรม SteelSeries Engine
- Price : 3,290 บาท (SteelSeries Shopee Mall)
จะเห็นว่าหูฟังเกมมิ่ง 2022 ในช่วงปลายปี 2022 นี้มีรุ่นน่าใช้ให้เลือกเยอะและเป็นเกมมิ่งเกียร์ที่ลงทุนซื้อรุ่นดีๆ ไว้จะรู้สึกคุ้มที่จ่ายไปอย่างแน่นอน เพราะนอกจากใช้เล่นเกมแล้วยังเอาไว้ดูหนังฟังเพลงได้ และอาจจะพกใส่กระเป๋าเอาไปต่อสมาร์ทโฟนฟังเพลงได้อีกด้วย แต่ผู้เขียนก็ยังเน้นย้ำเหมือนเดิม ว่าถ้าจะซื้อหูฟังใหม่เมื่อไหร่ควรหาโอกาสไปร้านคอมพิวเตอร์แล้วลองสวมดูว่ามันหนักเกินไปไหม และอาจจะขอทางร้านลองฟังเสียงหูฟังด้วยเลยก็ได้ถ้าถูกใจตอบโจทย์ก็ซื้อมาเล่นเกมได้เลย