Acer Aspire Vero Intel Gen 12 รุ่นใหม่ พกง่าย ใช้ดี แบตอึดสุดๆ แถมยังรักษ์โลก ครบเครื่อง!!
แม้โน๊ตบุ๊คจะเป็นสินค้าที่ไม่ได้รักษ์โลกนัก เพราะขั้นตอนการผลิตและวัสดุที่เลือกมาประกอบเครื่องก็ก่อขยะในโลกนี้แล้ว แต่ Acer Aspire Vero Intel Gen 12 นั้นตรงกันข้าม เพราะสินค้าตระกูล Vero จากทาง Acer จะเน้นใช้วัสดุและกรรมวิธีการผลิตที่รักษาสิ่งแวดล้อมยิ่งขึ้น ได้แก่ การใช้พลาสติก PCR (Post-Consumer Recycled Plastic) เป็นส่วนประกอบของตัวเครื่อง ซึ่งผสมรวมกับบอดี้ตัวเครื่อง 30% และคีย์แคปอีก 50% รวมทั้งทัชแพด OceanGlass ที่ทำจากขยะพลาสติกในทะเล ทำให้กระบวนการผลิต Acer Aspire Vero Intel Gen 12 นั้นสร้างขยะน้อยลงยิ่งกว่าเดิม
ถัดมา Acer ยังไม่ทำสีตัวเครื่องเพื่อลดผลกระทบของ VOC (Volatile Organic Compound) หรือสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย ซึ่งถ้าใช้งานตอนอากาศร้อนมากๆ แล้วสีอาจระเหยออกจากตัวเครื่องแล้วส่งผลเสียต่อผู้ใช้และสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ทางบริษัทยังใช้น็อตแบบมาตรฐานซึ่งผู้ใช้สามารถถอดเปิดฝาอัพเกรดเครื่องได้ง่าย นอกจากนี้กล่องบรรจุสินค้าก็ยังนำมารีไซเคิลได้มากกว่า 90% ไม่ว่าจะพับกล่องบรรจุเครื่องเป็นแท่นวางโน๊ตบุ๊ค, กระดาษห่ออแดปเตอร์ที่พับเป็นขาตั้งโน๊ตบุ๊คได้ รวมไปถึงซองใส่โน๊ตบุ๊คก็ผลิตจากโพลีเอสเตอร์รีไซเคิล 100% ทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องเสียเงินซื้ออุปกรณ์เสริมเยอะ ลดปริมาณขยะที่พ่วงมากับผลิตภัณฑ์ลงไปได้
ส่วนของสเปค Acer Aspire Vero Intel Gen 12 ทางบริษัทก็ตั้งใจให้ลูกค้ายังใช้โน๊ตบุ๊คเครื่องนี้ไปอีกหลายๆ ปี ไม่ต้องเปลี่ยนบ่อยๆ เพื่อสร้างขยะ ดังนั้นทางผู้ผลิตจึงใช้น็อตแบบมาตรฐาน ให้เจ้าของเครื่องเปิดฝาอัพเกรดได้ด้วยตัวเองแล้วใส่สเปคและฟีเจอร์จากโรงงานมาให้ตอบโจทย์คนทำงาน ทั้งได้รับการรับรอง Intel Evo, มีพอร์ต Thunderbolt 4, หน้าจอขอบเขตสีกว้าง 100% sRGB เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย Wi-Fi 6E คลื่น 6GHz ซึ่งรับส่งข้อมูลได้เร็วและเสถียร รวมทั้ง Acer VeroSense ซอฟท์แวร์ปรับโหมดการจัดการพลังงานให้ใช้งานได้นานยิ่งขึ้นและยังปลอดภัยเพราะมีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือติดตั้งมาให้อีกด้วย
NBS Verdicts
Acer Aspire Vero Intel Gen 12 เป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานซึ่งดีไซน์เน้นความรักษ์โลกมากยิ่งขึ้น ตั้งแต่วัสดุที่เลือกมาประกอบตัวเครื่องไปจนกล่องสินค้าซึ่งนำมารีไซเคิลได้มากถึง 90% ช่วยลดปริมาณขยะที่เกิดขึ้นทั้งโดยตั้งใจและไม่ตั้งใจ และทางบริษัทยังนำพลาสติก PCR มาผสมกับตัวเครื่อง Aspire Vero เพื่อลดปริมาณการใช้พลาสติกใหม่และการสร้างคาร์บอนไดออกไซด์อีกด้วย ซึ่งถ้าใครต้องการมีส่วนร่วมและช่วยลดขยะบนโลกใบนี้แล้วจะหันมาใช้ Acer Aspire Vero Intel Gen 12 ก็เป็นทางเลือกที่ดีเช่นกัน
ประสิทธิภาพการทำงานก็ดีแบบไม่ต้องกังวล เพราะ Aspire Vero รุ่นนี้ได้รับการรับรอง Intel Evo ช่วยการันตีประสิทธิภาพว่ามันใช้งานต่อเนื่องได้นาน, รองรับการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย Wi-Fi 6 กับพอร์ต Thunderbolt 4 รวมทั้งเปิดเครื่องสแตนบายใช้งานได้เร็วทันใจ ยิ่งไปกว่านั้นทาง Acer ยังติดตั้ง Windows 11 Home พร้อม Microsoft Office Home & Student 2021 มาให้จากโรงงาน เปิดเครื่องมาใช้งานได้ทันทีและยังมีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือติดมาตรงแป้นทัชแพดอีกด้วย ช่วยรักษาความปลอดภัยให้ผู้ใช้อุ่นใจยิ่งขึ้นไม่ต้องกลัวว่าใครจะมาใช้เครื่องของเราโดยพลการอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม จุดสังเกตของ Acer Aspire Vero Intel Gen 12 เครื่องที่ได้รับมารีวิวนั้นใช้แรมเป็นออนบอร์ด ความจุ 16GB DDR4 บัส 3200MHz แต่ไม่มีช่องแรมแบบ SO-DIMM ให้ผู้ใช้ใส่แรมเพิ่มได้ด้วยตัวเองและยังมีช่อง M.2 NVMe SSD เพียงช่องหลักช่องเดียวเท่านั้น ซึ่งถ้าต้องการอัพเกรดหรือถอดเปลี่ยนไดรฟ์เก่าที่เสื่อมสภาพแล้ว ก็ต้องถอดเปลี่ยนกับอันเก่าเท่านั้น แต่ถ้ารุ่นจัดจำหน่ายในประเทศไทยมีช่องแรม SO-DIMM และ M.2 NVMe SSD เพิ่มมาอีกอย่างละช่อง ก็จะดีต่อผู้ใช้เพราะสามารถอัพเกรดให้ตัวเครื่องมีประสิทธิภาพดีขึ้น ไม่ต้องเปลี่ยนเครื่องบ่อยก็ได้
อีกอย่างที่น่ากังขา คือทาง Acer ยังติดตั้งช่องอแดปเตอร์หัวเข็มแบบเก่ามาบนตัวเครื่อง แต่ให้อแดปเตอร์แบบหัว USB-C มาในกล่อง ซึ่งดูขัดกันและคิดว่าทางบริษัทน่าตัดพอร์ตนี้ทิ้งไปหรือให้เป็น Thunderbolt 4 x 2 ช่องไปเลยจะดีกว่า หรือถ้ามองในมุมกลับกัน ทาง Acer อาจจะให้ไว้เพื่อเป็นพอร์ตเสริมเผื่อให้ต่ออแดปเตอร์รุ่นเก่าของทาง Acer ก็เป็นไปได้
ข้อดีของ Acer Aspire Vero Intel Gen 12
- ดีไซน์และบอดี้ตัวเครื่องแข็งแรง ใช้วัสดุรีไซเคิลช่วยลดการสร้างขยะพลาสติก
- สันตัวเครื่องส่วนล่างของหน้าจอดีไซน์ให้ยกตัวเครื่องขึ้น ช่วยให้วางมือพิมพ์งานสะดวก
- บรรจุภัณฑ์เป็นวัสดุรีไซเคิล สามารถประยุกต์เป็นแท่นวางหรือซองใส่โน๊ตบุ๊คได้ทั้งหมด
- ติดตั้ง Windows 11 Home, Microsoft Office Home & Student 2021 มาจากโรงงาน
- มีพอร์ต Thunderbolt 4 ติดตั้งมาให้จากโรงงาน ใช้ต่อหน้าจอหรือชาร์จแบตเตอรี่ก็ได้
- ได้รับการรับรอง Intel Evo การันตีว่าทำงานได้ดีและใช้งานได้นานหลายชั่วโมงแน่นอน
- รองรับการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย Wi-Fi 6E คลื่น 6GHz รับส่งข้อมูลได้เร็วและเสถียร
- หน้าจอขอบเขตสีกว้าง 100% sRGB ใช้แต่งภาพหรือพรู้ฟสีงานอาร์ตได้อย่างแน่นอน
- ติดตั้งซีพียู Intel Core i7-1255U มาให้ ประสิทธิภาพการทำงานและจัดการพลังงานดี
- แบตเตอรี่ใช้งานต่อเนื่องได้นานถึง 12 ชั่วโมง ไม่ต้องกังวลเมื่อไปทำงานนอกสถานที่
- ติดตั้งเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือมาให้ใช้ปลดล็อคเครื่องได้ปลอดภัยและสะดวกขึ้น
- ตัวเครื่องขนาด 15.6 นิ้วแต่น้ำหนักราว 1.4 กิโลกรัมเท่านั้น พกพาสะดวกไม่หนักมาก
ข้อสังเกตของ Acer Aspire Vero Intel Gen 12
- แรมเป็นออนบอร์ดอัพเกรดได้เฉพาะ M.2 NVMe SSD ต้องรอดูโมเดลขายไทยอีกครั้ง
- มีช่องต่ออแดปเตอร์แบบหัวเข็มแถมมาทั้งที่อแดปเตอร์ในกล่องเป็น USB-C หากเป็นไปได้น่าเปลี่ยนช่องอแดปเตอร์แบบเก่าเป็น Thunderbolt 4
รีวิว Acer Aspire Vero Intel Gen 12
- Specification
- Hardware & Design
- Screen & Speaker
- Keyboard & Touchpad
- Connector / Thin & Weight
- Inside & Upgrade
- Performance & Software
- Battery & Heat & Noise
- User Experience
- Conclusion & Award
Specification
Acer Aspire Vero AV15-52-79Z9 เป็นโน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่ในตระกูล Aspire Vero ที่อัพเกรดซีพียูเป็น Intel Gen 12 แล้ว ทำให้ประสิทธิภาพตอนทำงานดีขึ้นแต่ก็ประหยัดพลังงานด้วย จึงสามารถใช้งานต่อเนื่องได้เกิน 10 ชั่วโมงทีเดียว โดยมีรายละเอียดดังนี้
สเปคของ ACER ASPIRE VERO AV15-52-79Z9
- CPU : Intel Core i7-1255U แบบ 10 คอร์ 12 เธรด (2P+8E) ความเร็ว 3.5-4.7GHz
- GPU : Intel Iris Xe Graphics
- SSD : แบบ M.2 NVMe ความจุ 512GB อัพเกรดได้ถึง 1TB
- RAM : 16GB DDR4 บัส 3200 MHz
- Display : 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS
- Ports : USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 x 1 รองรับ Thunderbolt 4, HDMI 2.1 x 1, LAN x 1, Audio combo x 1
- Wireless : Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2
- Webcam : 1080p HD Camera
- Software : Windows 11 Home, Microsoft Office Home & Student 2021
- Weight : 1.76 กิโลกรัม
- Price : 30,990 บาท (ราคากลาง)
สำหรับเครื่องที่ได้รับมารีวิวจะมีรายละเอียดสเปคดังนี้
- CPU : Intel Core i7-1255U แบบ 10 คอร์ 12 เธรด (2P+8E) ความเร็ว 3.5-4.7GHz
- GPU : Intel Iris Xe Graphics
- SSD : แบบ M.2 NVMe ความจุ 512GB อัพเกรดได้ถึง 1TB
- RAM : 16GB DDR4 บัส 3200 MHz
- Display : 14 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ขอบเขตสี 100% sRGB
- Ports : USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 x 1 รองรับ Thunderbolt 4, HDMI 2.1 x 1, LAN x 1, Audio combo x 1
- Wireless : Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2
- Webcam : 1080p HD Camera
- Software : Windows 11 Home, Microsoft Office Home & Student 2021
- Weight : 1.5 กิโลกรัม
Hardware & Design
Acer Aspire Vero Intel Gen 12 รุ่นใหม่ที่นี้ เป็นโน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่ในซีรี่ส์ Vero ซึ่งถ้าใครคุ้นเคยกับ Aspire Vero รุ่นก่อนหน้านี้จะเห็นว่าทาง Acer ไม่ได้ปรับดีไซน์บอดี้มากนัก ยังยึดดีไซน์เป็นแบบมาตรฐาน Clamshell อยู่ แต่จะมีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีน้ำเงินมาเรียน่า บลู เพื่อให้คำนึงถึงมหาสมุทรของโลก, สีเทา คอบเบิลสโตน เกรย์ สื่อถึงความยั่งยืนซึ่งเป็นจุดประสงค์ของโน๊ตบุ๊คตระกูล Aspire Vero เพื่อความยั่งยืนเมื่อเน้นการรีไซเคิลให้มากยิ่งขึ้น และสีดำ สตาร์รี่ แบล็ค เพื่อเตือนใจผู้ใช้ว่าถ้าเราปล่อยให้มลพิษปกคลุมชั้นบรรยากาศจนบดบังดวงดาวเอาไว้จะพลาดอะไรไปมากมายทีเดียว ซึ่งสีดำจะต้องรอทาง Acer ว่าจะนำเข้ามาจำหน่ายเมื่อไหร่ และลูกเล่นของบอดี้ Aspire Vero นั้นจะเป็นแบบเม็ดพลาสติกแทรกอยู่ตามบอดี้และฝาหลังเครื่อง แต่กรอบหน้าจอจะเป็นพลาสติกเนื้อด้านสีดำเพียงส่วนเดียวเท่านั้น
รายละเอียดดีไซน์บนตัวเครื่อง อย่างแรกจะเห็นได้ทันทีว่าทางบริษัทไม่ติดสติ๊กเกอร์บอกสเปคของ Acer Aspire Vero Intel Gen 12 มาเลย แต่ใช้วิธีการเซาะร่องสลักคุณสมบัติเอาไว้ตามส่วนต่างๆ ของตัวเครื่องแทน ได้แก่ โลโก้ Intel Evo ฝั่งซ้ายของที่วางข้อมือ ฝั่งขวามีโลโก้ PCR (Post-Consumer Recycled Plastic) เอาไว้ส่วนบนและริมของทัชแพดด้วย ถัดลงมาที่ขอบเครื่องเซาะร่องสลักเป็นซีรี่ส์ Aspire Vero อีกจุดหนึ่ง ซึ่งผู้เขียนชื่นชอบการทำบอดี้เช่นนี้มาก ไม่ต้องมีสติ๊กเกอร์ติดให้รกเกะกะแต่ก็บอกคุณสมบัติเด่นได้ครบถ้วนแล้ว
ส่วนขอบตัวเครื่องถัดลงมาจากทัชแพดจะถูกเซาะร่องเว้นไว้เล็กน้อยให้จับแล้วกางหน้าจอได้ง่ายยิ่งขึ้นและขอบตัวเครื่องมุมบนขวาใกล้ขาฐานหน้าจอจะมีช่องระบายความร้อนแบบเป่าลมออกขอบตัวเครื่องอยู่อีกหนึ่งช่อง
ด้านขอบล่างของตัวเครื่องจะเห็นว่า Aspire Vero ออกแบบให้ขอบล่างถัดลงมาจากหน้าจอยื่นออกมาพร้อมมีก้านพลาสติกสีฟ้า เมื่อกางหน้าจอแล้วสันเครื่องส่วนนี้จะยกบอดี้ขึ้นเล็กน้อยให้ผู้ใช้สามารถวางมือพิมพ์งานได้สะดวกและถูกหลักสรีระศาสตร์ และมีก้านพลาสติกเอาไว้กันไม่ให้บอดี้สัมผัสกับพื้นโต๊ะโดยตรง ไม่ให้ตัวเครื่องมีรอยขูดและรอยขนแมวติดมา
เมื่อกางหน้าจอแล้ว Acer Aspire Vero Intel Gen 12 จะกางได้กว้างราว 120 องศา สามารถกางให้เข้ากับมุมสายตาของเราได้สะดวก ไม่ว่าจะวางบนโต๊ะทำงานหรือไว้บนแท่นวางโน๊ตบุ๊คก็สามารถปรับให้เข้ากับมุมสายตาของเราได้ง่าย ยิ่งไปกว่านั้นในกล่องบรรจุภัณฑ์ก็มีกระดาษห่ออแดปเตอร์ซึ่งพับเป็นแท่นวางโน๊ตบุ๊คได้ด้วย ซึ่งเมื่อพับแล้วก็ยกตัวเครื่องขึ้นให้พิมพ์งานได้สะดวกยิ่งกว่าเดิม
ฝาหลังของ Acer Aspire Vero Intel Gen 12 จะไม่มีโลโก้หรือลวดลายอะไร ยกเว้นโลโก้ของ Acer ซึ่งสลักเป็นตัวพิมพ์เล็กไว้ตรงขอบบนของฝาหลังเครื่อง ดูแล้วทางบริษัทน่าจะเน้นสีสันฝาหลังตัวเครื่องและเม็ดสีพลาสติก PCR ที่แทรกอยู่ในฝาหลังเป็นหลักเพื่อความโดดเด่นแตกต่าง
ด้านใต้ตัวเครื่อง Acer Aspire Vero Intel Gen 12 จะมียางพลาสติกสีฟ้ารองตัวเครื่องเอาไว้ 4 มุมเพื่อป้องกันบอดี้ตัวเครื่องสัมผัสกับพื้นโต๊ะโดยตรงและยึดตัวฝาใต้เครื่องไว้ด้วยน็อตหัวแฉกแบบมาตรฐาน 11 ดอก มีช่องดึงลมเย็นเข้าไประบายความร้อนตรงกับพัดลมโบลวเวอร์ในเครื่อง และสังเกตจะเห็นว่าทาง Acer จะมีโลโก้บริษัทอยู่ตรงมุมขวาบนและขอบล่างตัวเครื่องเป็นลูกศรพร้อมลูกโลกรีไซเคิลด้วย เพื่อย้ำว่า Acer Aspire Vero นั้นเน้นการรีไซเคิลและรักษาสิ่งแวดล้อมเป็นใจความสำคัญ
ส่วนกล่องบรรจุภัณฑ์ของ Acer Aspire Vero Intel Gen 12 จะนำไปรีไซเคิลใช้เป็นอุปกรณ์ของคอมพิวเตอร์ได้ โดยทางบริษัทก็สกรีนวิธีการพับและใช้งานมาให้ที่ตัวกล่องด้วย โดยกล่องใส่เครื่องและอแดปเตอร์จะพับเป็นแท่นวางโน๊ตบุ๊คได้, กระดาษห่ออแดปเตอร์จะพับเป็นขาตั้งโน๊ตบุ๊ค หรือแม้แต่ซองใส่โน๊ตบุ๊คก็เป็นผ้าโพลีเอสเตอร์ 100% จึงป้องกันตัวเครื่องได้ดีและไม่จำเป็นต้องรีบซื้อซองใส่โน๊ตบุ๊คใหม่ก็ได้
Screen & Speaker
หน้าจอขนาด 14 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ของ Acer Aspire Vero Intel Gen 12 จะเป็นกรอบหน้าจอสีดำและขอบข้างหน้าจอสองฝั่งดีไซน์ให้บางลงเพิ่มพื้นที่การแสดงผล ขอบบนหน้าจอมีกล้อง Webcam ความละเอียด Full HD พร้อม Ace TNR ลด Noise ของกล้องเว็บแคมและไมโครโฟนพร้อมฟีเจอร์ Acer Purified Voice เป็นระบบ AI ลดเสียงรบกวนติดตั้งมาให้
ความละเอียดหน้าจอเมื่อเช็คในส่วนของ Advanced display จะเห็นว่าจอของ Acer Aspire Vero มีความละเอียด Full HD และปรับ Refresh Rate ได้ 2 ระดับ คือ 48Hz หรือ 60Hz ซึ่งการปรับได้สองระดับเช่นนี้จะช่วยประหยัดพลังงานยิ่งขึ้น
ด้านขอบเขตสีเมื่อทดสอบด้วยโปรแกรม DisplayCal 3 แล้ว จะเห็นว่าขอบเขตสีหน้าจอของ Acer Aspire Vero Intel Gen 12 ในส่วนของ Gamut coverage ซึ่งเป็นการตั้งค่าขอบเขตสีจากโรงงานจะมีขอบเขตสีกว้าง 98.3% sRGB, 69.3% Adobe RGB, 72.4% DCI-P3 เมื่อคาลิเบรตจนเสร็จแล้วขอบเขตสีกว้างขึ้นเป็น 102.4% sRGB, 70.6% Adobe RGB, 72.6% DCI-P3 ส่วนค่า Delta-E เฉลี่ยเพียง 0.11~0.81 เท่านั้น เมื่อต่ำกว่า 2 ก็ถือว่าเที่ยงตรงพอใช้แต่งภาพถ่ายบนหน้าจอโน๊ตบุ๊คนี้ได้เลย
ความสว่างหน้าจอตัวโปรแกรม DisplayCal 3 วัดได้ 280.69 cd/m2 จัดว่าสว่างพอสู้แสงแดดได้อย่างแน่นอน หากใครพกเครื่องไปนั่งทำงานที่ร้านกาแฟหรือนั่งทำงานแล้วแสงแดดสะท้อนหน้าจอ ก็ปรับความสว่างสู้แสงแดดได้แต่ถ้านั่งทำงานในห้องอาคารแนะนำให้ปรับความสว่างลงเหลือ 60% ก็เพียงพอแล้ว
ลำโพงของ Acer Aspire Vero Intel Gen 12 จะวางตัวแปลกกว่ารุ่นอื่นเล็กน้อย โดยวางตัวเป็นแนวนอนอยู่ขอบด้านล่างของตัวเครื่องทั้งสองฝั่งแทน ส่วนเนื้อเสียงของลำโพงจะเน้นเสียงเครื่องดนตรีและนักร้องนำเป็นหลัก มีเสียงเบสซัพพอร์ตเล็กน้อยแต่ไม่โดดเด่นและไม่ค่อยมีแรงปะทะเท่าที่ควร หากเอาไว้ดูคลิป YouTube ทั่วไปจัดว่าไม่มีปัญหาแต่ถ้าฟังเพลงแนะนำให้ต่อลำโพงแยกเพื่อให้มีเสียงเบสหนักแน่นขึ้นจะดีกว่า และยิ่งถ้าใครฟังเพลงแนว R&B หรือฮิปฮอปเป็นหลักยิ่งควรต่อลำโพงแยกไปเลยจะดีกว่า
Keyboard & Touchpad
คีย์บอร์ดของ Acer Aspire Vero นั้นจะเป็นคีย์บอร์ดแบบ Tenkeyless พร้อมไฟ LED Backlit สีขาวแบบสว่างรอบปุ่มและลอดตัวอักษรให้พอมองเห็นชัดเจน ซึ่งตัวเครื่องเวอร์ชั่นขายไทยจะมีตัวอักษรไทยสกรีนมาอย่างแน่นอน ดีไซน์แป้นคีย์บอร์ดจะเป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าแล้วรวมเอาปุ่ม Power มาไว้มุมบนขวามือเหนือปุ่ม Backspace เพื่อความสวยงาม แต่การเซ็ตปุ่มเช่นนี้ในช่วงแรกอาจจะเผลอกดผิดได้เนื่องจากจุดนั้นปกติแล้วจะเป็นปุ่ม Delete หากใครเพิ่งเปลี่ยนมาใช้โน๊ตบุ๊คนี้อาจจะต้องปรับตัวสักหน่อย ไม่อย่างนั้นอาจจะกดผิดแล้วกลายเป็นดับเครื่องแทนได้
ปุ่มและคีย์ลัดต่างๆ ของ Acer Aspire Vero Intel Gen 12 จะเซ็ตรวมเอาไว้กับปุ่มต่างๆ ได้แก่ ปุ่มลูกศรที่มีคำสั่ง Home, End, Page Up, Page Down หรือแม้แต่ปุ่ม Delete รวมกับคำสั่ง Insert และ Print Screen ที่กดเรียกแอพฯ Snipping Tool มาใช้งานได้ โดยกดปุ่ม Fn ค้างเอาไว้ก่อนแล้วกดใช้คำสั่งเหล่านี้ได้เลย
หากสังเกตจะเห็นว่าทาง Acer สกรีนปุ่ม R, E แบบพลิกกลับด้านและทำเป็นตัวอักษรสีเหลือง เพื่อสื่อถึงคำว่า “Recycled” เพื่อให้ผู้ใช้ตระหนักถึงการนำขยะหรือสิ่งของต่างๆ กลับมาใช้ใหม่อีกครั้ง เพื่อลดการสร้างขยะโดยไม่จำเป็นนั่นเอง
คำสั่ง Function Hotkey ของ Acer Aspire Vero จะถูกเซ็ตรวมไว้กับปุ่ม F1~F11 แต่สังเกตว่าทางบริษัทปล่อยปุ่ม F12 ว่างเอาไว้ ซึ่งถ้าทาง Acer ปล่อยให้ผู้ใช้สามารถเซ็ตคีย์ลัดให้ปุ่มดังกล่าวได้ตามต้องการน่าจะดีกว่านี้ ส่วนคำสั่งที่ถูกเซ็ตค่ามาจากโรงงานได้แก่
- F1~F3 – ปิด, ลดหรือเพิ่มเสียงลำโพง
- F4 – ปิดหรือเปิดไมโครโฟน
- F5~F6 – ลดหรือเพิ่มความสว่างหน้าจอ
- F7 – ปุ่ม Project ตั้งค่าหน้าจอหลักและเสริม
- F8 – ปุ่ม Log out สั่งล็อคหน้าจอ
- F9 – Airplane Mode
- F10 – ปิดเปิดการทำงานทัชแพด
- F11 – ปุ่มปรับความสว่างของไฟ LED Backlit บนคีย์บอร์ด
ทัชแพดของ Acer Aspire Vero Intel Gen 12 จะมีขนาดไล่เลี่ยกับทัชแพดของโน๊ตบุ๊คทำงานหลายๆ รุ่น ในปัจจุบันนี้ มีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือติดตั้งไว้ตรงมุมบนซ้ายมือและมีโลโก้ PCR อยู่มุมล่างขวาของตัวแป้น ซึ่งการตอบสนองจัดว่าทำงานได้อย่างรวดเร็วและรองรับ Gesture Control ของ Windows 11 ครบถ้วนอีกด้วย แต่เวลาวางมือแล้วสันมือขวาจะพาดไปบนแป้นทัชแพดเล็กน้อย แต่ก็ไม่ค่อยพบปัญหาทัชแพดลั่นนัก หรือถ้าไม่ต้องการให้แป้นรวนก็กด F10 เพื่อล็อคการทำงานทัชแพดแล้วเปลี่ยนไปใช้เมาส์แทนก็ได้
Connector / Thin & Weight
พอร์ตและการเชื่อมต่อของ Acer Aspire Vero Intel Gen 12 จะติดตั้งเอาไว้สองฝั่งของตัวเครื่อง โดยมีพอร์ตและการเชื่อมต่อไร้สายดังนี้
- ฝั่งซ้ายจากซ้ายมือ – ช่องต่ออแดปเตอร์, Thunderbolt 4, HDMI 2.1, USB-A 3.2, Audio combo
- ฝั่งขวาจากซ้ายมือ – USB-A 3.2 และ Kensington Lock
- การเชื่อมต่อไร้สาย – Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2
จะเห็นว่าพอร์ตของ Acer Aspire Vero Intel Gen 12 นั้นมีมาให้ครบถ้วน แต่ผู้เขียนก็ข้องใจว่าทำไมทางบริษัทยังให้ช่องต่ออแดปเตอร์แบบเก่ามาคู่กับพอร์ต Thunderbolt 4 ทั้งที่อแดปเตอร์ในกล่องเป็นหัวแบบ USB-C แล้ว หรือเพราะทางบริษัทเผื่อพอร์ตนี้เอาไว้ให้ต่ออแดปเตอร์ของโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นภายในค่ายก็เป็นไปได้ แต่อันที่จริง ผู้เขียนคิดว่าเมื่อเป็นเช่นนี้ก็น่าจะเปลี่ยนช่องอแดปเตอร์แบบเข็มเป็นพอร์ต Thunderbolt 4 อีกช่องไปเลย จะได้เอาไว้ต่ออุปกรณ์เสริมอื่นๆ เพิ่มได้อีกช่องด้วย
น้ำหนักของตัวเครื่องจากหน้าสเปคของทาง Acer เคลมว่า Acer Aspire Vero Intel Gen 12 นี้มีน้ำหนัก 1.5 กิโลกรัม แต่พอชั่งจริงแล้วหนักเพียง 1.36 กิโลกรัมเท่านั้น พอรวมอแดปเตอร์เข้าไปอีก 313 กรัม จะหนักเพียง 1.67 กิโลกรัมเท่านั้น จัดว่าไม่หนักอย่างที่คิดและยังพกพาได้ง่ายด้วย ซึ่งถ้าใครจะพกโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้ไปไหนมาไหนก็พกได้ง่ายๆ ไม่ลำบากมาก
Inside & Upgrade
การเปิดฝาอัพเกรด Acer Aspire Vero นั้นทำได้ไม่ยาก เพียงแค่ขันน็อตหัวแฉกมาตรฐานทั้ง 11 ดอกออก แล้วเอาการ์ดแข็งไล่ตามกรอบตัวเครื่องก็สามารถเปิดฝาเครื่องได้แล้ว และไม่ต้องห่วงเรื่องตะเข็บตัวเครื่องจะเกี่ยวเครื่องแน่นเกินไปจนถอดได้ยาก แต่จะมีน็อตที่อยู่ใต้สติ๊กเกอร์ประกันอีก 1 ตัวซ่อนอยู่ ดังนั้นถ้าต้องการอัพเกรดแนะนำให้ทางร้านผู้จัดจำหน่ายดูแลตั้งแต่ซื้อเครื่องมาเลยดีกว่า
อย่างไรก็ตาม ภายในของ Acer Aspire Vero นั้นไม่ค่อยเอื้อการอัพเกรดมากนัก เนื่องจากแรมเป็นออนบอร์ดมาแล้ว จะมีเฉพาะ M.2 NVMe SSD อีกช่องหนึ่งเท่านั้นที่ถอดเปลี่ยนได้ ซึ่งรุ่นนี้จะเป็นโมเดลจากต่างประเทศ คาดว่าเมื่อจำหน่ายในประเทศไทยจะมีช่อง SO-DIMM ให้เพิ่มแรมได้อีก 1 ช่อง เหมือนรุ่นที่เป็น Intel 11th Gen
Performance & Software
สเปคของ Acer Aspire Vero Intel Gen 12 จะติดตั้งซีพียู Intel Core i7-1255U แบบ 10 คอร์ 12 เธรด (2P+8E) ความเร็ว 3.5-4.7GHz มาให้ รองรับชุดคำสั่งพื้นฐานสำหรับใช้งานครบถ้วน และยังจัดการพลังงานได้เป็นอย่างดี ส่วนเมนบอร์ดรองรับ M.2 NVMe SSD อินเตอร์เฟส PCIe 4.0 x4 ด้วย ดังนั้นถ้าใครอยากอัพเกรด SSD ให้มีความเร็วสูงขึ้นก็ถอดเปลี่ยนได้เลย
การ์ดจอในเครื่องเป็นแบบออนบอร์ด รุ่น Intel Iris Xe Graphics ซึ่งติดมากับซีพียู รองรับชุดคำสั่งประมวลผลค่อนข้างครบถ้วน ได้แก่ OpenCL, OpenGL 4.6, DirectCompute, DirectML, Vulkan ซึ่งเพียงพอต่อการทำงานตัดต่อแต่งภาพอย่างแน่นอน
ด้านชิ้นส่วนในเครื่องเมื่อเช็คด้วย Device Manager แล้ว จะเห็นว่า Acer Aspire Vero Intel Gen 12 ตัวนี้ติดตั้งทั้งเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือของ ELAN มาให้ มีชิป TPM 2.0 และการ์ด Wi-Fi PCIe รุ่น Intel AX211 รองรับ Wi-Fi 6E มีแบนด์วิธคลื่นกว้าง 160MHz อีกด้วย ดังนั้นมันจึงต่ออินเตอร์เน็ตทำงานได้เสถียรอย่างแน่นอน
M.2 NVMe SSD จากโรงงานเป็นรุ่นยอดนิยมของโน๊ตบุ๊คทำงานหลายรุ่นอย่าง Micron 2450 เป็นอินเตอร์เฟส PCIe 4.0 x4 มีความเร็ว Sequential Read 3,500 MB/s และ Sequential Write 3,000 MB/s รองรับการอ่านเขียนไฟล์ได้มากสุด 300 TBW และมีระบบเข้ารหัส AES-256 ในตัวให้ข้อมูลมีความปลอดภัยยิ่งขึ้น
เมื่อทดสอบด้วย CrystalDiskMark 8 จะได้ความเร็ว Sequential Read 3,619.15 MB/s และ Sequential Write 3,457.79 MB/s ซึ่งจัดว่าเร็วพอสำหรับใช้โหลดไฟล์งานและเปิดโปรแกรมในเครื่องอย่างแน่นอน ซึ่งส่วนตัวผู้เขียนคิดว่าไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนไปตัวที่มีความเร็วสูงกว่านี้ก็ได้ ซึ่งผู้เขียนแนะนำว่าเอาเงินที่จะอัพเกรด SSD ไปลงกับ RAM และซื้อ External HDD ไว้เซฟงานเพิ่มเติมแทนจะดีกว่า
เมื่อทดสอบการเรนเดอร์กราฟิคด้วยโปรแกรม CINEBENCH R15 แล้ว จะเห็นว่า Acer Aspire Vero Intel Gen 12 จะทำคะแนน OpenGL ได้ 80.37 fps และคะแนนซีพียูได้ 1,129 cb ส่วนของ CINEBENCH R20 ที่เน้นทดสอบซีพียูเป็นหลักจะได้คะแนน CPU 2,925 pts ซึ่งคะแนนและผลการทดสอบนี้ถือว่าสูงพอใช้เรนเดอร์โมเดล 3D ต่างๆ ได้สบายๆ และยังนำไป Preview ตัวอย่างงานกราฟิคให้ลูกค้าดูได้อย่างแน่นอน
ด้านการเล่นเกม เมื่อทดสอบด้วย 3DMark Time Spy แล้ว จะได้คะแนนเฉลี่ย 1,807 คะแนน แยกเป็น CPU score 6,190 คะแนน และ Graphics score 1,607 คะแนน ช่วยยืนยันได้ว่าซีพียู Intel Core i7-1255U ในเครื่องมีประสิทธิภาพสูงแต่ด้วยกราฟิคการ์ดออนบอร์ดเช่นนี้ก็ไม่เหมาะจะใช้เล่นเกมฟอร์มยักษ์ในปัจจุบันอย่างแน่นอน ยกเว้นเกมอินดี้ที่ไม่กินทรัพยากรมากก็ยังเล่นได้ระดับหนึ่ง
แต่ในแง่การทำงาน เมื่อทดสอบด้วย PCMark 10 จะได้คะแนนเฉลี่ย 5,089 คะแนน ซึ่งจุดเด่นของ Acer Aspire Vero Intel Gen 12 จะเป็นการเปิดโปรแกรม, ประชุมออนไลน์และทำงานผ่านเบราเซอร์เป็นหลัก ถัดมาเป็นการใช้งานโปรแกรมออฟฟิศอย่าง Microsoft Word, Excel ส่วนการตัดต่อแต่งภาพนั้นถือว่าใช้งานได้แต่อาจจะไม่โดดเด่นเท่าโน๊ตบุ๊ครุ่นที่มีการ์ดจอแยกในตัวนั่นเอง แต่ถ้าใช้แต่งภาพทั่วไปไม่มีปัญหาแน่นอน
โปรแกรมภายในเครื่องนอกจากโปรแกรม Acer Care Center ซึ่งเป็นโปรแกรมพื้นฐานสำหรับอัพเดทและปรับแต่งตัวเครื่องแล้ว โน๊ตบุ๊ค Acer Aspire Vero จะมีโปรแกรมเฉพาะของตัวเองอย่าง VeroSense ซึ่งเป็นโปรแกรมสำหรับตั้งค่าจัดการพลังงานของตัวเครื่องโดยเฉพาะติดตั้งมาให้ใช้งานด้วย โดยผู้ใช้สามารถปรับโหมดการทำงานได้ว่าจะเน้นประหยัดพลังงานสูงสุดในโหมด Eco+ หรือจะเร่งประสิทธิภาพให้ทำงานเต็มที่ใน Performance Mode ก็ได้และยังตั้งค่าการชาร์จแบตเตอรี่ให้เครื่องได้ด้วย
Battery & Heat & Noise
แบตเตอรี่ของ Acer Aspire Vero Intel Gen 12 เป็นแบบลิเธียมโพลีเมอร์ ความจุแบบ Typical Capacity อยู่ที่ 3,634mAh (55.9Wh) ส่วน Rated Capacity อยู่ที่ 3,545mAh (54.5Wh) ซึ่งเป็นความจุมาตรฐานของโน๊ตบุ๊คสายทำงานหลายๆ รุ่น ในปัจจุบันนี้
ระยะเวลาใช้งานเมื่อทดสอบตามมาตรฐานของทางเว็บไซต์โดยปิดไฟ LED Backlit ของคีย์บอร์ด, ปรับโหมดตัวเครื่องเป็นโหมดประหยัดพลังงาน, ลดความสว่างหน้าจอต่ำสุดและเปิดเสียงลำโพงดังเพียง 10% แล้วใช้ Microsoft Edge ดูคลิป YouTube นาน 30 นาที จะเห็นว่าระบบจัดการพลังงานของ Acer Aspire Vero Intel Gen 12 นั้นทำงานได้ยอดเยี่ยมมาก เพราะใช้งานต่อเนื่องได้นานร่วม 12 ชั่วโมงเลยทีเดียว ดังนั้นถ้าใครจะพกโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้ไปทำงานก็ไม่ต้องกังวลว่าแบตเตอรี่จะหมดกลางคันอย่างแน่นอน อย่างมากอาจจะเตรียมพาวเวอร์แบงค์ที่มีกำลังชาร์จ 65 วัตต์ติดกระเป๋าไว้สักอันก็เพียงพอแล้ว
ระบบระบายความร้อนของ Acer Aspire Vero จะเป็นชุดซิ้งค์พาดซีพียูและเม็ดแรมบนเมนบอร์ดแล้วส่งถ่ายความร้อนผ่านทางฮีตไปป์สองเส้นตรงไปยังครีบระบายความร้อนหน้าพัดลมโบลวเวอร์แล้วระบายความร้อนตรงออกจากเครื่องไป ซึ่งเสียงตอนใช้งานตามปกติจะเบาจนแทบไม่ได้ยิน ส่วนตอนเปิดโปรแกรมตัดต่อภาพหรือวิดีโอจะเป็นเสียงหวีดดังขึ้นมานิดหน่อย แต่ไม่รบกวนเพื่อนร่วมงานอย่างแน่นอน
อุณหภูมิของตัวเครื่องเมื่อเปิดโปรแกรม Benchmark ให้รันงานเต็มที่แล้ววัดด้วยโปรแกรม CPUID HWMonitor แล้ว จะเห็นว่าอุณหภูมิทั้ง Package ของซีพียูนั้นไม่ได้สูงมาก เฉลี่ยที่ 42 องศา และอุณหภูมิอยู่ในช่วง 39~93 องศาเซลเซียส ซึ่งแม้จะสูงสักหน่อยก็ตามแต่ก็ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ และตอนใช้งานจริงตัวเครื่องก็เย็นตลอดเวลา ไม่ร้อนมากจนรบกวนผู้ใ้ช
User Experience
Acer Aspire Vero Intel Gen 12 แม้จะเน้นขายเรื่องดีไซน์ตัวเครื่องรีไซเคิลและรักษาธรรมชาติก็ตาม แต่ในแง่ประสิทธิภาพและการใช้งานก็ไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะได้รับการรับรองเป็นโน๊ตบุ๊ค Intel Evo ที่ทำงานและเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้อย่างรวดเร็ว ประหยัดพลังงานไม่ต้องกังวลว่าแบตเตอรี่จะหมดระหว่างวัน และยังมีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือติดตั้งมาให้ช่วนรักษาความปลอดภัยและยังมีพอร์ต Thunderbolt 4 อีกด้วย นอกจากนี้ทาง Acer ยังติดตั้ง Microsoft Office Home & Student 2021 มาในเครื่อง ดังนั้นเมื่อเปิดเครื่องก็พร้อมทำงานทันที ไม่ต้องเสียเงินเพิ่มแม้แต่น้อยก็ได้
ด้านการดีไซน์ตัวกล่องให้นำไปรีไซเคิลใช้งานอย่างอื่นได้ก็เป็นคอนเซปท์ที่ดีเช่นกัน เพราะผู้ใช้ไม่ต้องเสียเงินซื้ออุปกรณ์เสริมให้เสียเงินเลย เพราะทางบริษัทออกแบบให้นำบรรจุภัณฑ์ในกล่องมาใช้งานได้สะดวก อย่างพับกล่องใส่เครื่องเป็นแท่นวางโน๊ตบุ๊ค, ซองห่ออแดปเตอร์ตัวเครื่องก็ใช้เป็นแท่นวางพกพา หรือแม้แต่ซองใส่โน๊ตบุ๊คจากโรงงานที่เป็นผ้าโพลีเอสเตอร์ 100% ก็เอามาใส่เครื่องตอนพกไปไหนมาไหนได้อีกด้วย เรียกว่าลดปริมาณการก่อขยะลงไปได้มาก
ส่วนการพกพาเครื่องไปไหนมาไหน ผู้เขียนยอมรับว่า Acer Aspire Vero Intel Gen 12 นั้น นอกจากจะมีขนาดกำลังดี พกพาง่ายแล้ว งานประกอบยังแข็งแรงและโครงบอดี้พลาสติกทาง Acer ยังฉีดมาแข็งแรงจนไม่ต้องกังวลเลยว่ามันจะกระทบเสียหาย แม้แต่ริ้วรอยตัวเครื่องยังเกิดยากด้วยซ้ำ และน้ำหนักเครื่องที่ชั่งแล้วอยู่ราว 1.36 กิโลกรัมนั้น ถือว่าเบาไม่ลำบากไหล่อย่างแน่นอน ถ้าเทียบกับตระกูลยอดนิยมของ Acer อย่าง Swift 3 นั้น ถือว่าหนักกว่ากันเพียงไม่กี่กรัมเท่านั้น และเมื่อมีพอร์ต Thunderbolt 4 ด้วย ก็ไม่ต้องพกอแดปเตอร์ติดตัวไปเสมอๆ ก็ได้ ซึ่งผู้เขียนเลือกเอาอแดปเตอร์ GaN กำลังชาร์จ 65 วัตต์ชาร์จร่วมกับสมาร์ทโฟนไปเลย ก็สะดวกสุดๆ และลดน้ำหนักของข้าวของเครื่องใช้อื่นๆ ในกระเป๋าไปได้มาก
พลังการประมวลผลของ Acer Aspire Vero Intel Gen 12 นั้น จัดว่าเหลือเฟือสำหรับโปรแกรมต่างๆ ในปัจจุบันนี้แล้ว ไม่ว่าจะเปิดโปรแกรมเอกสารหรือรันเบราเซอร์หลายๆ แท็บพร้อมกันก็ไม่มีปัญหา แรมที่มีให้ 16GB DDR4 ในเครื่องและรันด้วยซีพียู Intel Core i7-1255U มันก็ใช้ทำงานออฟฟิศทุกแบบได้สบายๆ หรือแม้แต่ตัดต่อแต่งภาพก็ไม่มีปัญหา ส่วนเรื่องระยะเวลาใช้งานด้วยแบตเตอรี่ก็ไม่ต้องกังวลเลย เพราะจากที่ผู้เขียนทดลองใช้งานมาแล้ว แบตเตอรี่ก็อยู่ได้ทั้งวันสบายๆ ยิ่งถ้าใครพกคอมพิวเตอร์ไปนั่งทำงานตามร้านกาแฟ, นั่งประชุมงานหรือนั่งเรียนทั้งวันก็ไม่มีปัญหา
Conclusion & Award
ผู้ใช้หลายๆ คนรวมถึงผู้เขียนด้วย ก็จะได้ยินคำโฆษณาว่าโน๊ตบุ๊ครุ่นนี้มีฟีเจอร์เด่นอย่างนั้นอย่างนี้ ทำงานได้เร็วแสดงผลได้ไว แต่มีไม่กี่รุ่นที่ชูจุดเด่นว่า “ฉันใช้วัสดุรีไซเคิล ฉันรักษ์สิ่งแวดล้อม” เหมือนกับ Acer Aspire Vero Intel Gen 12 เครื่องนี้เลย และแม้จะเน้นว่ารักษาธรรมชาติอย่างไร แต่สเปคและฟีเจอร์ที่อัดเข้ามาในเครื่องแล้วการันตีว่าผ่านมาตรฐานเป็นโน๊ตบุ๊ค Intel Evo แล้ว ก็เชื่อมือได้เลยว่าผู้ใช้ที่ซื้อ Aspire Vero เครื่องนี้ไปจะใช้ทำงานได้อย่างไหลลื่นและปลอดภัยอย่างแน่นอน
หลังจากได้ใช้โน๊ตบุ๊คเครื่องนี้ทำงานมาสัปดาห์กว่า ก็พูดได้อย่างเต็มปากว่าโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้ทั้งดีทั้งครบเครื่อง แล้วเมื่อรุ่นราคาสูงสุดตั้งราคามาเพียง 30,990 บาท ก็กล่าวได้ว่านี่คือโน๊ตบุ๊ค Intel Evo ที่ครบเครื่องทั้งซอฟท์แวร์และฮาร์ดแวร์ ราคาไม่แพงเกินไปหาซื้อได้ง่ายด้วย ก็เป็นรุ่นที่ผู้เขียนอยากแนะนำให้หยิบมาพิจารณาเมื่อจะซื้อโน๊ตบุ๊คเครื่องใหม่ด้วย จะได้โน๊ตบุ๊คที่คุณภาพดีและยังรักษาสิ่งแวดล้อมไปในตัว
award
best battery life
ระยะเวลาทำงานโดยใช้แบตเตอรี่อย่างเดียวของ Aspire Vero Intel Gen 12 นั้นนานร่วม 12 ชั่วโมง และอาจจะเกินไปถึง 13 ชั่วโมงด้วยซ้ำ ซึ่งถ้าใครเน้นระยะเวลาใช้งานเป็นประเด็นหลัก เชื่อว่า Aspire Vero เครื่องนี้น่าจะชนะใจผู้อ่านท่านนั้นได้ง่ายๆ
best mobility
ขนาดตัวเครื่อง 14~15.6 นิ้ว และน้ำหนักตัวเครื่องก็อยู่ช่วง 1 กิโลกรัมต้นๆ และยังมีพอร์ต Thunderbolt 4 ติดตั้งมาให้อย่างนี้ ผู้เขียนเชื่อว่ามันเหมาะกับผู้ใช้ที่หาโน๊ตบุ๊คน้ำหนักเบาไว้พกติดตัวไปไหนมาไหนอย่างแน่นอน