หากคุณเป็นเกมเมอร์ที่ต้องการคีย์บอร์ดบางเบา แต่ยังมาพร้อมฟังค์ชั่น ฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์เกมเมอร์ และความสวยงามในหนึ่งเดียวขอแนะนำ RAZER DEATHSTALKER V2 PRO คีย์บอร์ดบางเบา เพื่อการพกพาและการใช้งานในแบบเกมเมอร์ทุกที่ทุกเวลา พร้อมสวิตซ์แบบใหม่ที่ไฮเทคโนโลยีขั้นสุด
RAZER DEATHSTALKER V2 PRO เป็นเกมมิ่งคีย์บอร์ดรุ่นใหม่ที่อัพเกรดขึ้นมาจากรุ่นก่อนไปเยอะ ด้วยรูปแบบคีย์บอร์ดที่บางและเบาเพียง 750 กรัม ทำให้สามารถพกพาได้อย่างสะดวก แต่ก็ยังมาพร้อมฟังค์ชั่นที่พร้อมตอบสนองเกมเมอร์ด้วยสวิตซ์ที่ RAZER พัฒนาขึ้นมาเองในรูปแบบลำแสงอินฟราเรดในการตรวจจับระดับการเคาะแป้น ซึ่งหมายความว่าโอกาสเกิดความหน่วงระหว่างการเคาะแต่ละครั้งจะเท่ากับศูนย์ ทำให้ลดปัญหาสวิตซ์พังหรือตอบสนองช้า โดยมีให้เลือกทั้ง Linear Low-profile Optical Switch ที่ให้ความรู้สึกนิ่ม/เงียบกว่า และ Clicky Low-profile Optical Switch ที่จัให้ความรู้สึกแข็งกว่ารวมไปถึงเสียงคลิกแบบชัดเจนเช่นคีย์บอร์ด mechanical ไซท์ใหญ่ พร้อมการเชื่อมต่อแบบไร้สายที่มีทั้งแบบตัวส่งสัญญาณจิ๋ว 2.4 GHz และแบบ Bluetooth 5.0 ให้เลือกเชื่อมต่อ
RAZER DEATHSTALKER V2 PRO
- Razer™ Low-profile Optical Switches
- 70-million keystroke lifespan
- Razer™ HyperSpeed Wireless Technology
- Razer™ HyperSpeed Multi-device Support
- Connect via Razer™ HyperSpeed Wireless (2.4 GHz), Bluetooth, or Type C
- Multi-functional media button and media roller
- Ultra-durable coated ABS keycaps
- Razer Chroma™ RGB customizable backlighting with 16.8 million color options
- 40-hour Battery Life
- Razer™ Synapse enabled
- Hybrid On-Board Memory and Cloud Storage – up to 5 profiles
- Fully programmable key with on-the-fly- macro recording
- N-key roll over
- Gaming mode option
- Detachable braided fiber Type C cable
- 5052 Aluminum Alloy Top Case
กล่องของ RAZER DEATHSTALKER V2 PRO โชว์หน้าตาสเปคชัดเจนพร้อมระบุสวิตซ์ที่ได้มาทดสอบจะเป็น Linear Low-profile Optical Switch กล่องเขาเป็นเอกลักษณ์จริงๆ โชว์ไฟ RGB สดใสสวยงาม
อุปกรณ์ภายในกล่องจะมีตัวคีย์บอร์ด สายชาร์ต สติกเกอร์ พร้อมคู่มือแนะนำการใช้งาน
สายที่แถมจะเป็นแบบสายถักแข็งแรงดี เป็นแบบ USB-A to USB-C
นอกจากนั้นยังมีหัวแปลง USB-A to USB-C ให้มาเพิ่มอีกด้วยเผื่อค้องการต่อสาย หรือแปลงสายเพิ่มเติม
RAZER DEATHSTALKER V2 PRO ดูเผินๆจะเหมือนคีย์บอร์ด Full Size ทั่วไป มี NumPad พร้อมปุ่มต่างๆแยกมาให้ ใช้งานง่าย พร้อมปุ่ม Scroll ด้านขวาบน แต่ที่โดดเด่นอย่างเห็นได้ชัดเลยคือน้ำหนักที่เบามาก และตัวคีย์บอรืดก้มีความบางเป็นพิเศษ โดยที่ Keycap ยังมีขนาดปรกติ ทำให้พิมพ์สัมผัส ไปจนถึงเล่นเกม สั่งงานได้โดยง่าย
โดยนอกจากขนาด Full Size แล้วยังมีขนาดกะทัดรัดแบบ TKL ให้เลือกซื้ออีกด้วย
ทางด้านขวาเหนือปุ่มลุกศรจะเป็นไฟแสดงสถานะ และบอกรูปแบบของการเชื่อมต่อ รวมถึงโพรไฟล์อุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ และขวาบนจะเป็นปุ่ม Scroll สำหรับเพิ่มลดเสียง และปุ่ม เล่นหยุดเพลงอยู่ข้างๆ ซึ่งสามารถปรับแต่งได้ตามต้องการว่าจะให้สั่งงานอะไร
เมื่อมองด้านข้างจะเห็นได้ชัดว่าคีย์บอร์ดมีความบางขนาดไหน ซึ่งมีความบางสุดตั้งแต่ของด้านล่าง ถึงด้านบนปุ่ม Key cap จะอยู่ที่ 21 มิลลิเมตร ส่วนจุดที่หนาสุดจะอยู่ที่ 26.6 มิลลิเมตร แม้จะบางแต่ยังเหลือระยัให้กดสวิตซ์อีกราว 1.2 – 2.8 มิลลิเมตร โดยสวิตซ์การันตีกดใช้งานได้ถึง 70 ล้านครั้ง
ขอบด้านล่างมีสกรีนโลโก้ RAZER โดยเฟรมของตัวคีย์บอร์ดจะเป็นอลูมิเนียมผสมกับพลาสติกบริเวณด้านล่างของตัวคีย์บอร์ด
ระบบ Low-Profile Optical Switches มีด้วยกัน 2 แบบ ทั้งแบบ Linear และแบบ Clicky โดย Linear Low-Profile Optical Switch มีจุดรับแรงกด (Actuation Point) 1.2 มม. โดยมีระยะความลึกของปุ่มรวม 2.8 มม. และรับแรงกดที่ 45 กรัม ส่วนแบบ Clicky มีจุดรับแรงกด (Actuation Point) 1.5 มม. มีแรงต้านการกดระดับเดียวกัน ระยะความลึกของปุ่มรวม 2.8 มม. และรับแรงกดที่ 50 กรัม
ด้วยการใช้จุดสัมผัสที่น้
ทั้งรุ่น DeathStalker V2 Pro และ DeathStalker V2 Pro Tenkeyless มาพร้อม Razer HyperSpeed Wireless เทคโนโลยีการเชื่อต่อแบบไร้
นอกจากนี้ รุ่น DeathStalker V2 Pro และ DeathStalker V2 Pro Tenkeyless ยังมีระบบเชื่อมต่อ Bluetooth 5.0 เพิ่มความยืดหยุ่นให้ผู้ใช้
ล่างล่างของคีย์บอร์ดจะมียางรอง 4 จุด พร้อมขาตั้งที่สามารถกางได้ 2 ระดับ
โดยจะมีที่เก็บตัวส่งสัญญาณอยู่ตรงจุดนี้ด้วย รองรับการเชื่อมต่อไร้สาย 2.4 GHz และยังเชื่อมต่อกับเมาส์คีย์บอร์ด หรือหูฟังรุ่นอื่นของ Razer ได้ด้วย ผ่านตัวส่งสัญญาณอันเดียว
เมื่อกาขาตั้งทั้ง 2 ขา 3 ระดับ
คีย์บอร์ด RAZER DEATHSTALKER V2 PRO แม้จะเป็น Full Size แต่ก็มีน้ำหนักที่เบามากเพียง 0.757 กิโลกรัมเท่านั้น
DeathStalker V2 ทุกรุ่น ยังรอบรับการใช้งานร่วมกับเครื่
โดยไฟ RGB จะลอดตามตัวอักษร สว่างกำลังดี อีกทั้งยังเพิ่มลดความสว่างได้ตามต้องการ รวมไปถึงโพรไฟล์สี โดยตัวที่ทีมงานได้มาทดสอบจะยังมีแต่ตัวอักษรภาษาอังกฤษไม่มีภาษาไทย
ในส่วนของการใช้งานทั่วไป สามารถพิมพ์ได้สะดวก ปุ่มใช้งานแยกเป็นส่วน ไม่ติดกันเกินไป ปุ่ม Fn ต่างๆครบครัน อันเป็นผลมาจากคีย์บอรืดแบบ Full Size ทำให้ใช้งานได้สะดวก อีกทั้งคีย์บอร์ดยังมีน้ำหนักที่เบามาก ทำให้พกพาได้อย่างสะดวก จะติดก็แค่ขนาดที่ค่อนข้างใหญ่เท่านั้นเอง
ในส่วนของสวิตซ์ที่ได้มาทดสอบเป็นแบบ Razer™ Linear Low-profile Optical Switch ให้สัมผัสที่นุ่มมาก เสียงไม่ดังความรู้สึกเผินๆ จะเหมือนคีย์บอร์ดโน้ตบุ๊คคุณภาพสูงเช่น ThinkPad แต่จะให้ความลึกในการกดที่มากกว่า ทำให้รู้สึกได้ถึงการพิมพ์หรือกดอย่างชัดเจน การตอบสนองจัดว่าเร็วมาก จะไม่ได้เป็นจังหวะเหมือน mechanical คีย์บอร์ดทั่วไป คิดว่าน่าจะมาจากระบบแสงเลเซอร์ที่ช่วยให้ตอบสนองได้เร็วแม้เพียงแค่แตะในระยะเล้กน้อย
ทำให้สวิตซ์ Linear น่าจะเหมาะกับผู้ใช้ทั่วไปที่ชอบคีย์บอร์ดเสียงเงียบ ตอบสนองดี พิมพ์สนุก รองรับการเล่นเกมไปจนถึงการพิมพ์ข้อความจำนวนมาก แต่ถ้าเน้นเล่นเกม และอยากได้ฟิลล์คีย์บอร์ดแบบ mechanical แนะนำ Razer™ Clicky Low-profile Optical Switch น่าจะเหมาะกว่า
ในส่วนของฟังค์ชั่นอื่นๆ ตั้งแต่คีย์ลัดด้านขวาบน หลักๆจะใช้งานเพื่อมัลติมีเดีย เล่นหยุดเพลง เพิ่มลดเสียง ใช้งานสะดวกดี หรืออยากจะปรับเป็นปุ่มมาโครในเกม หรือกับโปรแกรมเฉพาะทางก็ย่อมได้
การเชื่อมต่อจะเน้นการเชื่อมต่อไร้สาย ทั้งแบบตัวส่งจิ๋ว 2.4 GHz ที่ให้สัญญาณนิ่งไม่มีดีเล เหมือนต่อคีย์บอร์ดด้วยสายเลย ระยะใช้งานเท่าที่ลองทดสอบราว 10 เมตร ยังเสถียรและนิ่งดี ส่วน Bluetooth 5.0 ก็จัดว่านิ่งและไว แทบไม่ต่างจากแบบ 2.4 GHz แต่ระยะใช้งานจริงจะไม่เกิน 5 เมตร จริงๆถ้าห่างเกิน 4 เมตร ก็เริ่มมีการการหลุดแล้ว
DeathStalker V2 Pro มาพร้อมแบตเตอรี่ที่มีอายุใช้
ซอฟแวร์ Razer Synapse ศูนย์รวมของอุปกรณ์ Razer ที่สามารถปรับแต่ได้หลากหลายโดยเฉพาะไฟ RGB
จุดที่สำคัญและคนที่ใช้เกมมิ่งเกียร์จาก Razer ไม่ควรพลาดเลยก็คือ การใช้งานร่วมกับซอฟต์แวร์ Razer Synapse ซึ่งจะช่วยให้คุณดึงศักยภาพด้วยการปรับแต่งเกมมิ่งเกียร์ได้ดีทีเดียว ซึ่งหากติดตั้งและระบบตรวจพบแล้ว ก็จะเห็นเป็นรูปคีย์บอร์ดขึ้นมาให้ใช้งานได้เลย โดยในหน้าหลักจะเป็นการเปิด Gaming Mode ตั้งมาโคร ต่างๆ
ในหน้าของ Lighting จะมีให้ปรับแสงไฟ RGB ได้หลากหลายรูปแบบ พร้อมกับการตั้งความสว่างของแสง และสร้างโพรไฟล์ เพื่อการใช้งานได้ง่ายขึ้น เพราะบันทึกลงหน่วยความจำของคีย์บอร์ดได้โดยตรง
ในส่วนของ Effect แสงไฟ เลือกได้ 10 รูปแบบที่เป็นพื้นฐาน หรือจะ Customize เองก็ได้ผ่านทาง Advanced Effect ในการเลือกแสงสีให้ลึกลงไปในรายละเอียดได้ตามต้องการอีกด้วย
หรืออยากปรับแต่ RGB โดยละเอียดแบบแยกทีละปุ่มก็สามารถกดเข้ามาที่ Advanced Effect
สุดท้ายจะเป็นการจัดการพลังงานเช่นตั้งเวลาลดแสงไฟปุ่ม หรือถ้าไม่ได้ใช้นานเท่าไรคีย์บอร์ดจะปิดตัวเอง
RAZER DEATHSTALKER V2 PRO เป็นคีย์บอร์ดแบบ Full Size ที่เหมาะกับท่านที่ต้องการคีย์บอร์ดที่เน้นการพกพา น้ำหนักเบา แต่ก็ยังต้องการสวิตซ์ที่ตอบสนองการพิมพ์ การกดได้อย่างเที่ยงตรง ให้ความรู้สึกที่ใกล้เคียงคีย์บอร์ดแบบ mechanical มากที่สุด ในขนาดที่กะทัดรัด บางเบามากที่สุด
จะว่าไป RAZER DEATHSTALKER V2 PRO ดูเหมาะกับผู้ใช้ทั่วไปที่ต้องการคีย์บอรืดดีๆ มากกว่าเกมเมอร์เสียอีก เพราะด้วยฟิลล์สัมผัสและการพกพาที่ดีกว่า แต่เมื่อต้องการเล่นเกม หรือแสงสีไฟ RGB ก็สามารถตอบสนองได้ดีไม่แพ้กัน
RAZER DEATHSTALKER V2 PRO มาในราคา $249 หรือประมาณ 9,100 บาท แรงสักหน่อย แต่วัสดุ ฟังค์ชั่นดีครบ จบจริง
จุดเด่น
- บางเบามาก
- ไฟ RGB สวยงามจัดเต็ม
- สวิตซ์นุ่ม เสียงไม่ดัง สัมผัสลึกกำลังดี
- สวิตซ์ตอบสนองได้เร็ว แม่นยำ
- รองรับการเชื่อมต่อทั้ง 2.5 GHz และ Bluetooth 5.0
ข้อสังเกต
- ไม่รองรับการเชื่อมต่อแบบมีสาย (ต่อสายแค่ชาร์ต)
- ราคาสูง