รีวิว ADATA XPG SUMMONER เกมมิ่งคีย์บอร์ด 5 โปรไฟล์ Cherry MX Speed Silver กดไวจัดจ้าน! ค่าตัว 2,690 บาท

ADATA XPG SUMMONER เกมมิ่งคีย์บอร์ดจากแบรนด์ผู้ผลิตพาร์ทคอมคุณภาพดี!

ชื่อของ ADATA นอกจากชิ้นส่วนในคอมพิวเตอร์ เช่น SSD, RAM แล้วก็ยังมีเกมมิ่งเกียร์อย่าง ADATA XPG SUMMONER เกมมิ่งคีย์บอร์ดขนาด Full-size ซึ่งให้ฟีเจอร์มาครบเครื่องเทียบชั้นกับเกมมิ่งคีย์บอร์ดจากแบรนด์ชั้นนำหลายๆ เจ้าเลย ไม่ว่าจะทำบอดี้อลูมิเนียมยิงทราย, ใช้สวิตช์คุณภาพจากทาง Cherry MX มีตัวเลือกทั้งสวิตช์ Blue หรือชอบ Linear ก็เลือก Red หรือ Speed Silver ก็ได้ คุณภาพจัดว่าไว้ใจได้ แข็งแรงทนทานตอบสนองดี มีไฟ RGB ปรับโหมดแสงไฟได้ 7 แบบ พร้อมฟีเจอร์สำคัญอย่าง 100% Anti-Ghosting Keys ให้ใช้เล่นเกมได้โดยไม่เกิดอาการปุ่มหลอนหรือกดแล้วไม่ตอบสนองอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีโปรแกรม XPG Prime ใช้ตั้งค่าโปรไฟล์, ไฟ RGB, ปุ่มมาโคร รวมทั้งเซ็ตตั้งค่าเกมมิ่งเกียร์ของ ADATA ชิ้นอื่นได้สะดวกสบายไม่ต้องทำความเข้าใจเยอะอีกด้วย จัดเป็นเกมมิ่งเกียร์จากแบรนด์ผู้ผลิตอุปกรณ์พีซีที่น่าสนใจไม่แพ้เจ้าตลาดหลายๆ เจ้าเลย ซึ่งถ้าใครเริ่มอยากหาแบรนด์รองแต่คุณภาพไม่แพ้แบรนด์หลัก ก็อยากแนะนำให้เริ่มจากคีย์บอร์ดรุ่นนี้ก็ดี เพราะราคาค่าตัวก็ไม่แพงมากแค่ 2,690 บาทก็หาซื้อมาเล่นเกมและทำงานได้แล้วด

NBS Verdict

ADATA XPG Summoner ถือเป็นเกมมิ่งคีย์บอร์ดจากแบรนด์ผู้ผลิตชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ที่น่าสนใจไม่แพ้แบรนด์เจ้าตลาดและอาจจะดีกว่าหลายๆ แบรนด์ เนื่องจากทางบริษัทเองก็เลือกใช้ของดีไม่ว่าจะบอดี้คีย์บอร์ดอลูมิเนียมยิงทรายหรือแม้แต่สวิตช์ Cherry MX ซึ่งแข็งแรงทนทาน ไม่ใช่สวิตช์เกรดรองลงมาเหมือนบางแบรนด์ให้เน้นประหยัดและคุมต้นทุนอย่างเดียว รองรับการตั้งค่าการทำงาน, เซ็ตโปรไฟล์และไฟ RGB ของคีย์บอร์ดได้ง่ายๆ และยังบันทึกมาโครสำหรับทำงานหรือเล่นเกมเอาไว้ใช้งานได้ด้วย

ด้านฟีเจอร์อื่นๆ ของคีย์บอร์ดก็มีให้ใช้งานค่อนข้างครบทีเดียว ไม่ว่าจะ Multimedia Key ทั้งตรง F10~F12 หรือจะวงล้อสำหรับหมุนปรับ Volume และปุ่ม Mute แยกเฉพาะอีกคีย์หนึ่งและยังมี USB Passthrough เผื่อให้ผู้ใช้ที่ยังใช้เมาส์สายหรืออยากต่อแฟลชไดรฟ์โอนไฟล์เข้าออกคอมพิวเตอร์ก็เสียบเข้าช่องนี้แล้วใช้งานได้ทันที ให้สะดวกรวดเร็วไม่ต้องเอื้อมไปถึงพีซีที่อยู่ห่างออกไปก็ได้หรือจะใช้ต่อเมาส์ให้ทำงานสะดวกขึ้นก็จัดว่าไม่เลวเช่นกัน

ด้านจุดสังเกตเล็กน้อยๆ คือส่วนของการออกแบบและการทำรายละเอียดของคีย์บอร์ด นั่นคือตัวสาย USB ของ ADATA XPG Summoner ไม่สามารถถอดสายแยกกับตัวคีย์บอร์ดได้รวมทั้งไม่ได้เว้นโครงด้านใต้คีย์บอร์ดให้จัดทางออกสายไฟไว้อีกด้วย ดังนั้นตอนเซ็ตโต๊ะเกมมิ่งพีซีอาจจะต้องดูทิศทางสายให้ดีสักหน่อย และยังถอดคีย์บอร์ดอย่างเดียวไปต่อกับพีซีเครื่องอื่นไม่ได้ด้วย แต่ทว่าในยุคนี้ที่เราสามารถเล่นเกมผ่านระบบออนไลน์ได้ไม่ต้องยกอุปกรณ์ส่วนตัวไปไหนแล้ว ก็อยากให้ทาง ADATA เว้นโครงใต้คีย์บอร์ดเพิ่มเติมอีกสักนิดให้จัดสายได้สะดวกยิ่งขึ้นด้วย

ข้อดีของ ADATA XPG SUMMONER

1. ดีไซน์คีย์บอร์ดแบบ Full-size ใช้งานได้หลากหลายทั้งทำงานและเล่นเกม
2. เลือกสวิตช์ Cherry MX 3 แบบ ทั้ง Red, Blue หรือ Speed Silver กดได้เกิน 100 ล้านครั้ง
3. บอดี้คีย์บอร์ดเป็นเฟรมอลูมิเนียมยิงทรายและติดสวิตช์ลงบนเฟรม ทำความสะอาดง่ายและแข็งแรง
4. มี Multimedia Key ทั้งเล่น, หยุด, เลื่อนเพลงให้ใช้ เลือกเปลี่ยนเพลงได้ง่าย
5. มีวงล้อหมุนปรับ Volume ไว้หมุนเพิ่มลดเสียงและปุ่ม Mute เสียงแยกเฉพาะอีกปุ่ม
6. มี USB-A Passthroughใช้ต่อเมาส์หรือแฟลชไดรฟ์สำหรับโอนไฟล์เข้าออกเครื่องได้
7. มีไฟ RGB ปรับเอฟเฟคไฟได้หลากหลายด้วยคีย์ลัดหรือปรับในโปรแกรม XPG Prime
8. โปรแกรม XPG Prime ปรับโปรไฟล์ไฟ RGB ได้ตามต้องการ ใช้ง่ายไม่ซับซ้อนเกินไป
9. เซฟมาโครใช้งานได้สูงสุด 5 โปรไฟล์ บันทึกได้แบบออนบอร์ดได้ทันทีหรือทำหน้าโปรแกรม XPG Prime ก็ได้
10. มี Gaming Mode ให้ใช้ แค่กด Fn+F6 ก็ใช้งานได้แล้วและตั้งค่าได้ด้วย
11. แถมคีย์แคปสีแดงมาให้เปลี่ยนปุ่มลูกศรและ WASD และปุ่มพิเศษได้อีกหนึ่งปุ่ม
12. แถมที่วางข้อมือแบบดูดติดด้วยแม่เหล็กมาให้ 1 อัน ช่วยรองข้อมือตอนใช้งานได้ดี

ข้อสังเกตของ ADATA XPG SUMMONER

1. สาย USB ถอดไม่ได้ ต้องระวังตอนจัดโต๊ะคอมและถอดคีย์บอร์ดไปใช้ที่อื่นไม่ได้
2. ใต้คีย์บอร์ดไม่ได้เว้นพื้นที่โครงเอาไว้ให้จัดสายไฟของคีย์บอร์ด

รีวิว ADATA XPG SUMMONER

• Unboxing
• Specification
• Design&Keyboard Type
• Keycap Profile&Switch
• Software
• User Experience
• Summary

Unboxing

ตัวกล่องของ ADATA XPG Summoner หากเทียบกับกล่องเกมมิ่งคีย์บอร์ดหลายๆ รุ่นในปัจจุบันถือว่ามีขนาดหนาและใหญ่ทีเดียว เพราะภายในกล่องมีโฟมสำหรับกันคีย์บอร์ดกระแทกพร้อมใส่แท่นวางข้อมือแบบดูดติดตัวคีย์บอร์ดด้วยแม่เหล็กมาให้ และต้องดีไซน์ให้กล่องใหญ่ขึ้นเพื่อให้ใส่สายไฟแบบสายถักไว้ในกล่องได้ด้วย

ที่ตัวกล่องจะโชว์ดีไซน์ของคีย์บอร์ดกับไฟ RGB แบบครบเครื่อง ส่วนมุมบนซ้ายมือสกรีนฟีเจอร์เด่น 5 อย่างของคีย์บอร์ดนี้เอาไว้ครบครัน ไม่ว่าจะรองรับไฟ RGB, มีที่วางข้อมือแบบดูดติดด้วยแม่เหล็ก, ฟังก์ชั่น Multimedia Controls หรือปุ่มเล่น, หยุด, เลื่อนเพลง, ปุ่ม Mute และวงล้อปรับเพิ่มลดความดังของ Volume บนคีย์บอร์ด, USB Passthrough ซึ่งเป็นพอร์ต USB แบบติดตั้งไว้บนตัวคีย์บอร์ดเลย ใช้โอนไฟล์เข้าออก External SSD/HDD หรือแฟลชไดรฟ์ก็ได้ ต่อเมาส์แยกก็ได้เช่นกัน รวมทั้งมีคีย์แคปแถมมาให้ 9 ปุ่มสำหรับเปลี่ยนใช้งานได้ตามชอบด้วย

ส่วนอื่นของกล่องคีย์บอร์ดมีสติกเกอร์บอกสวิตช์ของคีย์บอร์ด โดย XPG Summoner จะมีสวิตช์ Cherry MX Blue Switch และรุ่นสวิตช์พิเศษอย่าง Cherry MX Speed Silver ซึ่งปัจจุบันนี้มีเกมมิ่งคีย์บอร์ดในตลาดไม่กี่รุ่นเท่านั้นที่ใช้สวิตช์ตัวนี้ ส่วนด้านหลังของคีย์บอร์ดจะสกรีนติดภาพฟีเจอร์เด่นของคีย์บอร์ดเอาไว้ให้พิจารณาก่อนตัดสินใจซื้อ

พอประกอบอุปกรณ์เสริมในกล่องของ ADATA XPG Summoner จะได้คีย์แคปกลุ่ม WASD และลูกศรเป็นแคปสีแดงแบบไฟลอดตัวอักษร มีปุ่มขนาด 1.25U หรือปุ่มไซซ์เท่ากับปุ่ม Fn แถมมาให้เปลี่ยนปุ่มพิเศษ (Modifier) บนคีย์บอร์ดได้ด้วย สามารถถอดเปลี่ยนกับปุ่มบรรทัดเดียวกับ Spacebar ได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นปุ่ม Windows, Ctrl, Alt หรือ Fn ก็ได้ และใช้ตัวดึงคีย์แคป (Keycap Puller) ซึ่งเป็นวงแหวนพร้อมขาสองข้างแทงลงช่องว่างระหว่างปุ่มบนคีย์บอร์ดแล้วดึงคีย์แคปที่ต้องการเปลี่ยนออกมาแล้วใส่ปุ่มใหม่เข้าไปได้เลย

Specification

สำหรับสเปคของ ADATA XPG Summoner จะเป็นดังนี้

สเปคของ ADATA XPG Summoner	รายละเอียด
ประเภท	Mechanical Keyboard แบบ Full-size ขนาด 449x135x44 มิลลิเมตร (ยาวxกว้างxสูง) มี 104/105/109 ปุ่ม แยกตามประเทศที่จัดจำหน่าย (ประเทศไทยเป็น 104 ปุ่ม) ถอดเปลี่ยนสวิตช์ไม่ได้
สวิตช์	Cherry MX Speed Silver Cherry MX Red Cherry MX Blue การันตีกดได้เกิน 100 ล้านครั้ง
Key caps Profile	OEM
ไฟ RGB	มี เลือกเอฟเฟคได้ 7 แบบ เปลี่ยนไฟได้ด้วยคีย์ลัดหรือโปรแกรม XPG Prime
พอร์ตเชื่อมต่อ	USB 2.0 x 2 ช่อง USB-A Passthrough x 1 ช่อง
ปริมาณปุ่มมาโคร	5 ชุด ตามปุ่ม F1~F5 (PF1~PF5) เซฟการกดได้ 40 ครั้ง หรือนาน 20 วินาที
Anti-ghosting	มี พร้อม Gaming Mode เลือกได้ 2 แบบ เป็น 6-Key Rollover หรือ N-Key Rollover
ระบบปฏิบัติการที่รองรับ	Windows 7 หรือใหม่กว่า เพื่อใช้โปรแกรม XPG Prime
ของแถมในกล่อง	ชุดคีย์แคปสีแดงพร้อมที่ดึงคีย์แคป
ขนาดและน้ำหนักของคีย์บอร์ด	982 กรัม (เฉพาะคีย์บอร์ดและสาย USB) 1.17 กิโลกรัม (รวมที่วางข้อมือ)
ราคา	1,989~2,989 บาท (ขึ้นอยู่กับร้านค้า)

Design&Keyboard Type

ADATA XPG Summoner เป็นคีย์บอร์ด Full-size ขนาด 449x135x44 มิลลิเมตร (ยาวxกว้างxสูง) บอดี้เป็นอลูมิเนียมยิงทราย ติดโลโก้ XPG สีเงินเอาไว้เหนือชุดปุ่มลูกศร มีชุด Numpad พร้อม Multimedia Key แยกเป็นวงล้อปรับเพิ่มลด Volume ลำโพงและปุ่ม Mute เหนือชุด Numpad ส่วนจำนวนปุ่มแยกตามประเทศที่จัดจำหน่ายได้ 3 แบบ ได้แก่ 104, 105, 109 ปุ่ม ซึ่งประเทศไทยเป็นเลย์เอ้าท์แบบ 104 ปุ่ม ซึ่งมีปุ่มใช้งานหลักๆ ติดตั้งมาให้ครบถ้วน มีไฟแสดงสถานะของคีย์บอร์ด 3 ดวง ส่วนการเชื่อมต่อเป็นสาย USB 2.0 x 2 ช่อง แยกหัวเป็นสาย USB เส้นหลักกับเส้นเพื่อใช้ USB Passthrough ด้านหลังของคีย์บอร์ด ที่น่าเสียดายเล็กน้อยคือสาย USB ไม่สามารถถอดแยกส่วนกับคีย์บอร์ดได้ หากใครอยากถอดแยกติดไปไหนมาไหนอาจจะไม่สะดวกอย่างที่คิด

ช่อง USB-A Passthrough จะติดตั้งอยู่ขอบด้านบนหลังคีย์บอร์ด เสริมความสะดวกเวลาโอนไฟล์เข้าออกคอมพิวเตอร์ ไม่ต้องเอื้อมหรือลุกจากเก้าอี้เพื่อต่ออุปกรณ์ หรือใครจะต่อเมาส์แทนก็สะดวกไม่แพ้กัน เนื่องจากสายไฟทั้งหมดจะวางอยู่บนโต๊ะพอดี อย่างมากอาจจะหาที่รัดสายไฟมามัดสายส่วนที่ยาวเกินจำเป็นเก็บให้เป็นระเบียบก็ดี จัดว่ามีประโยชน์มาก

ด้านปุ่ม Multimedia Key นอกจากปุ่ม Mute และวงล้อปรับ Volume เหนือชุด Numpad จะมีคำสั่งเล่นหรือหยุดเพลง, เลื่อนไปเพลงหรือคลิปก่อนหน้าและเลื่อนไปเพลงหรือคลิปถัดไปอยู่ที่ปุ่ม F10~F12 ซึ่งใช้งานได้สะดวก เวลาต้องการใช้งานให้กด Fn ค้างเอาไว้ก่อนแล้วกดฟังก์ชั่นที่ต้องการได้เลย นอกจากนี้ตัวคีย์บอร์ดยังมีคีย์ลัดกดร่วมกับปุ่ม Fn อีกหลายคำสั่งด้วยกัน ได้แก่

• Fn+ลูกศรขึ้น/ลง – ปรับความสว่างไฟ RGB ให้สว่างขึ้นหรือมืดลง
• Fn+ลูกศรซ้าย/ขวา – เปลี่ยนเอฟเฟคไฟ RGB ทั้งหมด 7 แบบ
• Fn+F1~F5 – เลือกสีของไฟ RGB แบบ Static (เปิดค้าง) ได้ 5 สี ได้แก่ น้ำเงิน, กรมท่า, ขาว, เขียว, เหลือง พร้อมเปลี่ยนโปรไฟล์การใช้งานของคีย์บอร์ดตามที่ตั้งค่าไว้ด้วย
• Fn+F6 – เปิด Gaming Mode
• Fn+Ins – เปิดฟังก์ชั่น 6-Key Rollover
• Fn+Del – เปิดฟังก์ชั่น N-Key Rollover
• Fn+Esc – รีเซ็ตการตั้งค่าคีย์บอร์ดทั้งหมด

นอกจากนี้ ADATA XPG Summoner ยังบันทึกคำสั่งมาโครได้ 2 วิธี โดยวิธีแรกคือใช้โปรแกรม XPG Prime เซ็ตตั้งค่าได้เลย หรือจะบันทึกสดด้วยคีย์ลัดของคีย์บอร์ดก็ได้เช่นกัน โดยมีวิธีการดังนี้

1. กด Fn+F1~F5 เพื่อเลือกโปรไฟล์ที่ต้องการบันทึก
2. กด Fn+Alt ฝั่งขวามือ เพื่อเริ่มการบันทึกมาโคร 
3. กดปุ่มบนคีย์บอร์ดที่ต้องการบันทึกมาโครได้ตามต้องการจนเสร็จ สามารถบันทึกได้ยาวสุด 20 วินาที หรือกดปุ่มได้ไม่เกิน 40 ครั้ง (Key stroke)
4. กด Fn+Alt ฝั่งขวามืออีกครั้งเพื่อจบการบันทึกมาโคร เมื่อบันทึกเสร็จแล้วไฟตรงปุ่ม F6 รูปจอยเกมจะกระพริบถี่ 2 ครั้ง/วินาที เพื่อบอกว่าคีย์บอร์ดรอให้ผู้ใช้เลือกปุ่มที่ต้องการบันทึกมาโคร
5. กดเลือกปุ่มที่ต้องการบันทึกมาโครภายใน 20 วินาที ไม่อย่างนั้นมาโครจะถูกลบทิ้งไปแล้วต้องเริ่มบันทึกใหม่อีกครั้ง และปุ่มมาโครจะเซฟเอาไว้กับปุ่ม Windows, Fn ไม่ได้

ด้านใต้ของ ADATA XPG Summoner จะมีสติกเกอร์แสดงข้อมูลทั่วไปของคีย์บอร์ดเอาไว้ตรงกลางตัว ขอบบนฝั่งซ้ายขวามีขาตั้งแบบพับได้ 1 ระดับติดเอาไว้ 2 ชิ้นและรองด้วยแผ่นยางกันลื่นขนาดเล็กอีก 4 ชิ้นทั้ง 4 มุม ช่วยเสริมความมั่นคงเวลาพิมพ์งานหรือเล่นเกมแล้วคีย์บอร์ดจะได้ไม่ไถลไปไหน เมื่อกางขาตั้งออกแล้วจะทำให้คีย์บอร์ดยกตัวขึ้นราว 3~6 องศา ช่วยให้ผู้ใช้ที่รู้สึกว่าคีย์บอร์ดเป็นแนวระนาบมากเกินไปใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้น

ด้านตัวเฟรมคีย์บอร์ดเมื่อมองจากด้านข้างจะเห็นว่าทาง ADATA ออกแบบให้สวิตช์ติดบนเฟรมของตัวคีย์บอร์ดไปเลย ไม่มีกรอบคีย์บอร์ดหรือทำระยะห่างระหว่างคีย์บอร์ดและ PCB ให้ห่างแบบชัดเจน ข้อดีคือทำความสะอาดได้ง่าย เอาแปรงขนอ่อนรูดตามช่องว่างของคีย์บอร์ดได้ทั้งที่ตั้งบนโต๊ะตามปกติได้เลย ไม่ต้องตะแคงคีย์บอร์ดให้ฝุ่นตกลงมาจากกรอบที่กั้นบอดี้คีย์บอร์ดก็ได้ แต่จุดที่ต้องระวังคือช่องว่างใต้ปุ่ม Spacebar จะมีช่องว่างราว 0.5~1 เซนติเมตร แนะนำให้ระวังฝุ่นเล็ดรอดเข้าไปตอนทำความสะอาดด้วย

น้ำหนักของคีย์บอร์ดเมื่อชั่งด้วยตาชั่งดิจิตอลแล้ว เฉพาะคีย์บอร์ดและสายไฟอยู่ที่ 982 กรัม พอรวมที่วางข้อมือแล้วจะหนัก 1.17 กิโลกรัม เทียบเท่ากับโน๊ตบุ๊คบางเบาหลายๆ รุ่นในปัจจุบัน แต่นั่นเพราะบอดี้อลูมิเนียมยิงทรายจึงหนักระดับนี้ และอันที่จริงคีย์บอร์ดที่หนักระดับนี้มีส่วนช่วยให้ตอนพิมพ์งานและเล่นเกมแล้วมีน้ำหนักลงพื้นมากขึ้น ไม่ขยับเลื่อนง่ายๆ เหมือนคีย์บอร์ดแบบโครงพลาสติก ABS หลายรุ่นในท้องตลาด ณ ตอนนี้

Keycap Profile&Switch

สวิตช์ของ ADATA XPG Summoner เลือกสวิตช์ของ Cherry MX แบรนด์ผู้ผลิตจากเยอรมันที่น่าเชื่อถือ ได้ความแข็งแรงทนทานและทางบริษัทเคลมเอาไว้ว่าสวิตช์รุ่นใหม่นี้สามารถกดได้เกิน 100 ล้านครั้ง โดย XPG Summoner มีสวิตช์มาตรฐานของเกมเมอร์ทั้ง Cherry MX Blue เป็นสวิตช์ Clicky ตอบสนอง 2 จังหวะ ได้เสียงกระเดื่องอันเป็นเอกลักษณ์ของ Mechanical Keyboard หรือคนชอบเสียงเบาตอบสนองไวแบบ Linear กดจังหวะเดียวอย่าง Cherry MX Red ก็มีให้เลือก และยังมีสวิตช์พิเศษอย่าง Cherry MX Speed Silver หรือสวิตช์สีเงินพร้อมก้านสวิตช์ (Stem) สีเทานมให้เลือกด้วย ซึ่งสวิตช์นี้ไม่ค่อยพบเห็นในเกมมิ่งคีย์บอร์ดในปัจจุบันนี้นัก ซึ่งพื้นฐานของ Speed Silver จะเป็น Linear เหมือน Red แต่การตอบสนองและระยะ Trigger ปุ่มจะสั้นกว่าอย่างรู้สึกได้ ทำให้เกมเมอร์ผู้ชื่นชอบการเล่นเกม FPS หรือคนพิมพ์งานเร็วๆ แทบจะพิมพ์แบบแตะสัมผัสได้เลย

ตัวสวิตช์ Cherry MX Speed Silver กับ Cherry MX Red จะได้เสียงตอนกดเหมือนกัน เป็นเสียงจังหวะเดียว ใช้แรงกดเพื่อตอบสนอง (Operating force) 45 cN เท่ากันแต่จุดแตกต่างคือ Speed Silver มีระยะว่างก่อนกด (Key Pre Travel) เพียง 1.2 มม. และระยะกดปุ่ม (Key Travel) ยาว 3.4 มม. ส่วน Cherry MX Red มีระยะว่างก่อนกด (Key Pre Travel) ยาว 2 มม. และระยะกดปุ่ม (Key Travel) ยาว 4 มม. เทียบแล้วจะเห็นว่าระยะการทำงานของ Speed Silver สั้นกว่าเกือบครึ่งหนึ่งเลย สรุปสเปคได้ดังนี้

สวิตช์และสเปค	Cherry MX Speed Silver	Cherry MX Red	Cherry MX Blue
แรงกดเพื่อตอบสนอง (Operating force)	45 cN		60 cN
ระยะว่างก่อนกด (Key Pre Travel)	1.2 มม.	2 มม.	2.2 มม.
ระยะกดปุ่ม (Key Travel)	3.4 มม.	4 มม.	4 มม.

ด้านสวิตช์ของ Cherry MX เองก็ถูกแยกออกเป็นสองแบบใหญ่ๆ ได้แก่ โครงสวิตช์ (Switch Hosing) แบบ MX มาตรฐานซึ่งเป็นโครงสีดำทึบ ไฟจะลอดขึ้นช่องว่างของสวิตช์ทางเดียว ส่วน MX RGB จะเป็นโครงสวิตช์แบบใสทำให้ไฟลอดออกโครงครึ่งบน (Upper Housing) ซึ่งสว่างและเห็นเอฟเฟคไฟ RGB ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยทางบริษัทได้ติดตั้งสวิตช์ Cherry MX Speed Silver บน ADATA XPG Summoner แบบ North Facing หรือติดตั้งแบบเอาช่องสวิตช์และไฟ LED หันขึ้นด้านบน เมื่อเปิดไฟ RGB คีย์บอร์ดแล้วไฟจะสว่างทั่วสวิตช์อีกด้วย ทำให้ปรับเอฟเฟคไฟ 7 แบบแล้วมองเห็นได้ชัดเจน

เมื่อแกะสวิตช์ดูแล้ว จะเห็นว่าโครงสวิตช์ส่วนบน (Upper Housing) แบบใสนั้น ทำให้แสงสว่างเรืองไปทั่วสวิตช์และเมื่อเป็นดีไซน์แบบเอาสวิตช์ประกอบลงกับเฟรมคีย์บอร์ดตรงๆ เวลาเปิดเอฟเฟคไฟ RGB บนคีย์บอร์ดแล้วแสงจะเรืองรอบคีย์แคปอีกด้วย สวยงามถูกใจเกมเมอร์อย่างแน่นอน

เมื่อมองจากด้านข้าง จะเห็นว่าคีย์แคปของ ADATA XPG Summoner เป็นทรงโปรไฟล์แบบ OEM ซึ่งเป็นทรงมาตรฐานของเมคานิคอลเกมมิ่งคีย์บอร์ดในปัจจุบัน เนื่องจากทรงของปุ่มเป็นมาตรฐานใช้งานได้ง่ายวางนิ้วสะดวกและปุ่มไม่สูงเกินไป แต่จากที่วางใช้งานจริงแบบไม่กางขาตั้งคีย์บอร์ดออกมาแล้วตัวปุ่มจะค่อนข้างเตี้ยและเกือบเป็นระนาบเดียวกัน ถ้าใครถนัดใช้งานคีย์บอร์ดโน๊ตบุ๊คมาก่อนหน้านี้น่าจะใช้งานได้ถนัดพอดีมือ แต่ถ้าเล่นเกมหรือมักต่อคีย์บอร์ดแยกอยู่แล้ว แนะนำให้กางขาตั้งขึ้นมาจะกะระยะความสูงของคีย์บอร์ดได้ง่ายกว่า

ด้าน Stabilizer จะเป็นแบบ Plate Mount หรือแบบคลิปล็อคเข้ากับตัวบอดี้อลูมิเนียมยิงทรายของ ADATA XPG Summoner ตามปกติ ไม่ใช่ Costar Stabilizer ที่ตัวก้าน Stabilizer จะยื่นขึ้นมาเป็นตะขอเกี่ยวเข้ากรอบรับก้าน Stabilizer ของ Spacebar ทำให้ตอนผู้ใช้ต้องการเปลี่ยนคีย์แคปเป็นแบบอื่นสามารถซื้อมาเปลี่ยนสไตล์คีย์บอร์ดได้สะดวกยิ่งขึ้น ทำให้เกมเมอร์สามารถเปลี่ยนคีย์แคปเป็นสไตล์อื่นๆ ไม่ต้องเป็นสีดำอย่างเดียวก็ได้

 

คีย์แคปของ ADATA XPG Summoner เมื่อวัดด้วยไม้บรรทัดแล้วจะเห็นว่าคีย์แคปหนาราว 1 มิลลิเมตร ถือว่าหนาใช้ได้ คาดว่าทางบริษัทก็ฉีดเนื้อพลาสติกมาแน่นพอสมควรและเมื่อใช้กับสวิตช์ Cherry MX Speed Silver แล้วได้สัมผัสตอนใช้งานดี ก้านสวิตช์ (Stem) ถูกออกแบบมาพอดีช่องไม่เกิดอาการโยกคลอน (Rattle) เวลากดปุ่ม พอทดลองใช้คีมหนีบปากจิ้งจกหนีบแล้วโยกข้างก้านสวิตช์ก็แทบไม่เกิดอาการโยกให้เห็น แต่จุดสังเกตมีเพียงเล็กน้อยตรง Spacebar ซึ่งคาดว่าทำบาลานซ์ของตัวก้านโลหะ Stabilizer มาได้แค่เกือบพอดี ทำให้ตอนกด Spacebar เวลาพิมพ์งานบางครั้งจะได้ยินเสียงของก้านโลหะตีกับตัวพลาสติกของ Stabilizer แทรกเข้ามาบ้างเล็กน้อย

Software

ซอฟท์แวร์ XPG Prime นอกจากใช้ตั้งค่า ADATA XPG Summoner ได้แล้ว ยังใช้กับเกมมิ่งเกียร์ชิ้นอื่นๆ ของทางบริษัทได้ด้วย หน้าแรกจะแสดงเกมมิ่งเกียร์แต่ละชิ้นที่เชื่อมต่อกับพีซีอยู่และบอกโปรไฟล์ของอุปกรณ์ชิ้นนั้นๆ ด้วย เวลาต้องการตั้งค่าให้คลิกเลือกเกมมิ่งเกียร์ชิ้นที่ต้องการแล้วเริ่มตั้งค่าได้เลย

ด้านของคำสั่ง CANVAS จะเป็นหน้าต่างเซ็ตค่าไฟ RGB ของคีย์บอร์ด เลือกได้ทั้งสี, เอฟเฟคและตั้งค่า Gaming Mode ได้อีกเล็กน้อยและผูกเข้ากับโปรไฟล์ต่างๆ ได้ด้วย ส่วนการเซ็ตเอฟเฟคไฟของคีย์บอร์ดนอกจากกดที่การตั้งค่าโดยรวมเพื่อตั้งค่าไฟทั้งคีย์บอร์ดแล้ว ยังใช้เมาส์ลากคลุมบางโซนบนคีย์บอร์ดเพื่อเซ็ตเอฟเฟคไฟที่ต้องการแล้วเลือกเอฟเฟคไฟเฉพาะพื้นที่นั้นๆ ก็ได้ ทำให้เอฟเฟคไฟบนคีย์บอร์ดโดดเด่นถูกใจเกมเมอร์ยิ่งขึ้น

ถัดมาในหน้าต่าง Key จะเซ็ตตั้งค่าปุ่มต่างๆ ได้ว่าต้องการเซ็ตให้ปุ่มไหนบนคีย์บอร์ดทำหน้าที่อะไรนอกเหนือจากคำสั่งพื้นฐาจากโรงงาน และเลื่อนลงมาจะเห็นคำสั่ง Macro ที่เปิดให้เซ็ตในหน้าโปรแกรม XPG Prime เมื่อกดเข้ามาจะสั่งบันทึกการทำงานปุ่มมาโครและเซ็ตเอาไว้กับปุ่มใดปุ่มหนึ่งบนคีย์บอร์ดได้ด้วย ทำให้เกมเมอร์สาย RPG, RTS สามารถเซ็ตคำสั่งใช้งานบ่อยได้สะดวกหรือจะเอาไปปรับใช้กับการทำงานก็ได้เช่นกัน ซึ่ง ADATA XPG Summoner นั้นสามารถเซ็ตคำสั่งของแต่ละปุ่มบนคีย์บอร์ดได้แบบแยกเจาะจงทีละปุ่มได้เลย (Per Key) ซึ่งฟีเจอร์นี้ผู้เขียนมั่นใจว่าเกมเมอร์หลายๆ คนได้ใช้งานอย่างแน่นอน และยังเอาไปปรับใช้กับการทำงานได้เพราะมีหมวดคำสั่งใช้งานของ Windows ให้เลือก

ส่วนของ Gaming Mode จะผูกกับคำสั่ง Fn+F6 ของคีย์บอร์ด ว่าถ้าเปิด Gaming Mode แล้วจะให้บล็อคคำสั่งอะไรบ้าง ในหน้านี้จะมีคำสั่งบล็อคการทำงานของปุ่ม Windows, Alt+Tab, Alt+F4 ให้เลือกเปิด ซึ่งเป็นคำสั่งหลักๆ ที่เกมเมอร์อาจจะกดผิดแล้วทำให้เล่นเกมพลาดได้ ซึ่งในส่วนนี้จัดว่าทาง ADATA เซ็ตคำสั่งมาได้ค่อนข้างครอบคลุมระดับหนึ่งทีเดียว

User Experience

ในฐานะที่ผู้เขียนเองก็ประกอบ Custom Keyboard ไว้ใช้งานเป็นส่วนตัวอยู่แล้ว ได้เลือกซื้อ ADATA XPG Summoner เอาไว้ใช้ทำงานในออฟฟิศ ทว่าจากที่ได้ลองนำมาใช้ทั้งทำงานและลองนำกลับมาเล่นเกมดูต้องถือว่าเป็นเกมมิ่งคีย์บอร์ดที่ตอบโจทย์ทั้งสองด้านได้เป็นอย่างดี นั่นเพราะว่าเลย์เอ้าท์คีย์บอร์ดเป็น Full-size ที่ได้ปุ่มใช้งานมาครบเครื่อง มี Numpad ให้ใช้กดตัวเลขที่ต้องการได้ง่ายๆ ไม่ต้องเลื่อนมือขึ้นไปกดบรรทัดด้านบนอีกด้วย และยังมีวงล้อปรับ Volume เอาไว้ปรับความดังของลำโพงพีซีของเราได้ทันทีอีกด้วย

สัมผัสตอนพิมพ์งานต้องถือว่าน่าประทับใจ เนื่องจากสวิตช์ Cherry MX Speed Silver ของคีย์บอร์ดได้ความแข็งแรงและแน่น เมื่อรวมกับคีย์แคปของ ADATA ทำให้กดปุ่มแล้วได้ความมั่นคงไม่เกิดอาการปุ่มขโยกเลย ซึ่งชาว Custom Keyboard รู้กันว่าเป็นอาการไม่พึงประสงค์ที่เรียกว่า Rattle ซึ่งอาการดังกล่าวมักเจอเป็นระยะๆ ซึ่ง ADATA XPG Summoner ไม่มีปัญหาดังกล่าวเลย และเสียงตอนพิมพ์งานถือว่าดังพอได้ยินแต่ไม่ถึงกับหนวกหูรบกวนเพื่อนร่วมงานนัก ดังนั้นถ้าใครติดสัมผัสการพิมพ์ของ Mechanical Keyboard แล้วอยากซื้อมาใช้ในออฟฟิศล่ะก็ ADATA XPG Summoner ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ

ในด้านการเล่นเกม ต้องถือว่า ADATA XPG Summoner เป็นเกมมิ่งคีย์บอร์ดที่ตอบสนองเร็ว โดยเฉพาะเกมเมอร์สาย FPS น่าจะถูกใจ เพราะ Cherry MX Speed Silver ตอบสนองได้เร็วมากเพราะระยะกดปุ่มสั้น ทำให้กดคุมท่าทางของตัวละครได้อย่างว่องไวทันใจและเมื่อเปิด Gaming Mode ขึ้นมาใช้งานแล้วก็ป้องกันไม่ให้กดปุ่มผิดแล้วสลับแท็บ, กดปุ่ม Windows ขึ้นมาใช้งานหรือแม้แต่ปิดเกมทิ้งโดยกดคีย์ลัดได้อีกด้วยและยังรองรับการเซ็ตมาโครได้อีกด้วย ถ้าเกมเมอร์คนไหนต้องใช้ฟังก์ชั่นนี้เป็นประจำก็เซ็ตด้วยคีย์ลัดหรือจะทำใน XPG Prime เลยก็ได้

Summary

ถ้าใครคิดจะหาเกมมิ่งคีย์บอร์ดดีๆ สักตัวเอาไว้ใช้และไม่อยากใช้เกมมิ่งเกียร์แบรนด์หลักในท้องตลาดด้วยหลายๆ เหตุผลแล้ว ADATA XPG Summoner ถือเป็นเกมมิ่งคีย์บอร์ดที่น่าสนใจ ได้ฟีเจอร์มาครบเครื่องพร้อมใช้งาน ไม่ว่าจะเซ็ตตั้งค่าไฟ RGB หรือจะบันทึกเซ็ตปุ่ม Macro ได้แล้ว ยังมี Gaming Mode ให้ใช้งานด้วย ตอบโจทย์เกมเมอร์สาย RPG, RTS อย่างแน่นอน

ยิ่งไปกว่านั้น ทาง ADATA ยังเลือกใช้สวิตช์ของ Cherry MX ซึ่งเป็นแบรนด์ผู้ผลิตชั้นนำจากเยอรมันซึ่งสวิตช์ได้ความแข็งแรงทนทาน ไว้ใจได้ สามารถกดได้เกิน 100 ล้านครั้งอีกด้วย เรียกว่าเลือกใช้แต่ของดีมาประกอบเป็นเกมมิ่งคีย์บอร์ดตัวนี้ให้เกมเมอร์ได้เลือกซื้อไปใช้งานกัน ซึ่งนอกจาก Cherry MX Blue, Cherry MX Red แล้ว ยังมีสวิตช์พิเศษอย่าง Cherry MX Speed Silver ซึ่งแบรนด์ผู้ผลิตเกมมิ่งเกียร์ไม่ค่อยได้เลือกมาประกอบให้เกมมิ่งคีย์บอร์ดให้เลือกซื้อได้ ซึ่งมันตอบสนองการทำงานและเล่นเกมได้ดียิ่งกว่า Cherry MX Red ที่เกมเมอร์หลายๆ คนคุ้นเคยอีกด้วย ดังนั้นถ้าใครอยากได้เกมมิ่งคีย์บอร์ดดีๆ แต่ราคาค่าตัวไม่สูงเกินไปล่ะก็ น่าจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจทีเดียว